บท
ตั้งค่า

บทที่ 6

กึ่งทางระหว่างเรือนแถวนั้น คัทเตอร์มองเห็นผู้หญิงสาวสะพรั่งผิวดําคนหนึ่งกําลังยืนคนอะไรบางอย่างที่อยู่ในหม้อเหล็กใบใหญ่หน้าเต๊นท์ เขาจึงชะลอฝีท้าม้า ปล่อยให้มันเดินเรื่อย ๆ เข้ามาจนใกล้ตัวเรือนร่างที่ค่อนข้างใหญ่ของเธอบดบังเด็ก ๆ ไว้หมด มีเสื้อผ้ากําลังต้มอยู่ในหม้อใบนั้น ขณะที่เธอคนเสื้อผ้าด้วยไม้พายที่กลายเป็นสีขาวด้วยถูกผงซักฟอกกัด ตะโพกก็แกว่งไกวไปตามจังหวะ ความสวยงามของเธอเป็นเรื่องที่ไม่ต้องพูดถึง ริมฝีปากหนาและค่อนข้างกว้าง ดวงตาของเธอจะเปล่งประกายแห่งความรู้ทันอยู่เป็นนิจ ในยามที่มองตรงไปยังผู้ชาย และรู้ซึ่งถึงความปรารถนาของเขา

ความร้อนทําให้เหงื่อโชกชุ่มไปทั้งเรือนกาย และเหงื่อนั้นก็ทําให้เสื้อที่ตัดเย็บด้วยผ้าฝ้ายเนื้อบางแนบร่างเน้นสัดส่วน โดยเฉพาะเนินทรวงให้เด่นชัดต่อสายตา เห็นแม้กระทั่งยอดทรวงอกซึ่งเธอก็มิได้คิดจะปิดบัง คัทเตอร์ต้องตัดใจเมินมองเสีย ซิมมี่ ลู ฮุคเกอร์ มีเรือนร่างที่ยั่วกิเลสผู้ชายได้ตลอดเวลา โดยไม่จําเป็นจะต้องคํานึงถึงสีผิวของเธอ และกับความจริงที่ว่าเธอเป็นภรรยาของสิบเอกฮุคเกอร์ที่อยู่ใต้บังคับบัญชาของเขา

เธอถอยห่างจากเตาไฟ และเพื่อคลายความเมื่อยขบที่เกิดขึ้น เธอจึงใช้ฝ่ามือกระชับแผ่นหลังไว้ เอนหลังบิดกาย ซึ่งเท่ากับโชว์เนินทรวงให้เด่นขึ้น แต่แล้วเมื่อเหลือบมาเห็นเขาที่ยืนม้า และกําลังจ้องมองดูเธออยู่ อาการบิดกายนั้นก็เป็นไปในลักษณะที่ชวนเชิญมากขึ้น

“ยิ่งเห็นก็ยิ่งชอบใช่ไหมคะ ผู้กองคัทเตอร์” เธอเอื้อมไปหยิบด้ามพาย ลงมือคนเสื้อผ้าในหม้อต่อ ตะโพกแกว่งไกวยิ่งขึ้นกว่าเดิม

“เสื้อผ้าผมเสร็จหรือยังล่ะ คุณฮุคเกอร์” เสียงอานดังขึ้นเมื่อเขาขยับตัว

“ทําไมถึงต้องมารับเสื้อผ้าด้วยตนเองล่ะผู้กอง ทําไมไม่ส่งหนุ่มน้อยน่ารักคนที่อยู่กับคุณมาล่ะ” เธอยังคนผ้าในหม้อต้มต่อ ใบหน้าสีน้ำตาลเป็นมันย่องด้วยความเหนื่อย ความงามของเธอนั้นเสมือนความผิดบาปที่ทรงอํานาจ “คุณกลัวว่าฉันจะทําอะไรเขางั้นรึ”

“ไอ้ที่คุณจะทําน่ะผมไม่กลัวหรอก ผมกลัวที่จ่าจะทํามากกว่า” คัทเตอร์ตอบเสียงกระด้าง

“แหม...ฉันรู้หรอกค่ะว่าทํายังไงจอห์น ที. ถึงจะมีความสุข” ซิมมี่ ลู พูดเสียงเบา เปล่งเสียงหัวเราะออกมาเมื่อเห็นเขาเมินมองไปเสียทางอื่น เธอเอาพายวางพาดไว้กับหม้อต้ม เดินห่างออกมาจากเตา เอามือเช็ดกระโปรงไปพลาง “เพราะฉะนั้น คุณก็เลยเห็นว่ามาเอาเองดีที่สุด แล้วก็เลยมาถึงนี้ใช่ไหมล่ะ ผู้กอง”

“ใช่” เขามองตามร่างที่เดินเข้าไปในเต๊นท์หลังใหญ่ ซึ่งประตูด้านหน้าถูกตลบขึ้นไว้ ซิมมี่ ลู มีวิธีการเดินที่จะดึงดูดสายตาของผู้ชายให้มองตามตะโพกของเธอ ซึ่งก็เช่นเดียวกันกับเวลาที่เธอพูด ผู้ชายทุกคนจะต้องมองที่ปากหนา ๆ คู่นั้น

เธอเดินไปหยุดอยู่ตรงประตู หันกลับมามองเขา

“คุณจะไม่ลงจากหลังม้า แล้วเข้ามาในเต๊นท์ก่อนหรือผู้กอง”

“ผมรอข้างนอกได้” คัทเตอร์ปฏิเสธคําเชิญ ซึ่งเธอก็รู้อยู่ว่าเขาจะต้องทำเช่นนั้น แต่ซิมมี่ ลู สนุกกับการที่จะเล่นเกมนี้ เธอชอบยั่วเย้าพวกผู้ชายยิ่งนัก ซึ่งการแต่งงานก็ไม่อาจจะทําให้เธอเปลี่ยนแปลงนิสัยได้ เธอรู้ในสิ่งที่ตัวเองกระทําต่อพวกเขา แล้วก็ชอบที่จะทํา ขณะเดียวกัน คัทเตอร์ก็ไม่แน่ใจว่าเขารู้สึกอิจฉาในจอห์น ที. บ้างหรือไม่

“ทําไม คุณกลัวที่จะต้องเข้ามาอยู่ในเต๊นท์นี้กับฉันงั้นรึ ผู้กอง” ซิมมี่ ลู ทำเสียงเหน็บแหนม “หรือบางทีอาจจะเป็นเพราะรู้อยู่ว่าตัวเองมีความเป็นผู้ชายไม่พอ”

“มีผู้ชายคนไหนทําให้คุณอิ่มได้บ้างล่ะ” คัทเตอร์ว่าเอาตรง ๆ สีหน้าบึ้งตึง

แววขุ่นเคืองจุดประกายขึ้นในดวงตาของเธอกับคําพูดเป็นเชิงดูถูกนั้น ซิมมี่ ลู สะบัดหน้า เดินเข้าไปในเต๊นท์ทันที ม้าตัวที่คัทเตอร์ขี่อยู่กระทบขาไล่แมลงที่บินว่อนอยู่ เธอหายตัวเข้าไปในเต๊นท์นั้นเพียงแค่ครู่เดียว ก็กลับออกมาพร้อมด้วยเสื้อผ้าที่ซักรีดเรียบร้อยแล้ว เธอเดินตรงมายังเขา เชิดหน้าขึ้นมองอย่างทระนง คัทเตอร์เอื้อมไปรับเสื้อผ้าของตนมาถือไว้

“คุณคงจะไปงานที่มิซเวดจัดขึ้นคืนนี้สินะ ฉันก็ต้องไปทําผมให้เธอกับมิซเบทเทนดอร์ฟด้วย” น้ำเสียงที่บอกเล่าอยู่นั้นแสดงออกถึงความภาคภูมิใจ “แม่ฉันน่ะสอนงานบ้านงานเรือนให้ทุกอย่างแหละ แกเคยเป็นคนใช้ของมิซเดเวอร็อกซ์เชียวนะ แต่นั่นน่ะมันสมัยก่อนสงคราม” พูดจบซิมมี่ ลู ก็แบมือสีน้ำตาลผมชมพูขึ้นใส่เขา “ห้าเหรียญค่ะ ผู้กอง”

เขาล้วงหยิบเหรียญทองค่าห้าเหรียญส่งไป เมื่อรับมาแล้วซิมมี่ ลู ก็หย่อนลงไปในหว่างอกอันอวบเต็ม ดวงตาคู่สีดําสนิท จับจ้องมองตาม ยามที่เขาบังคับม้าให้หันกลับไป

เมื่ออาทิตย์เริ่มจะอัสดงเสียงแตรก็ดังขึ้น ธงถูกลดลงจากเสา หลังจากนั้นแถวของขบวนทหารม้าก็จะเคลื่อนกลับเข้าสู่คอกอย่างสง่างาม อันเป็นเครื่องหมายว่าวันได้หมดลงแล้ว และนายทหารผิวขาวทั้งหลายก็จะแยกย้ายกันกลับไปสู่ที่พักของตน

ภายในห้องนอนของพันตรีเวดและภรรยา ฮันน่าโน้มร่างเข้าไปใกล้กระจกเงาเพื่อจะใส่ต่างหู วันนี้เธออยู่ในชุดสีน้ำตาล ซึ่งส่วนแขนเสื้อท่อนบนเดินด้วยเส้นไหมสีทอง ซึ่งสะท้อนแสงไฟเป็นประกาย เส้นผมสีเข้มถูกรวบขมวดขึ้นเป็นมุ่นมวย ซึ่งเผยให้เห็นช่วงลําคองามระหงขาวผ่อง ควรค่าแก่การถนอมยิ่งนัก หลังจากที่ใส่ต่างหูเสร็จเรียบร้อยแล้ว เธอก็ยืดร่างขึ้นจากกระจกเงา ที่อยู่เหนือโต๊ะแต่งตัว

“เสื้อชุดนี้สวยจัง มิซเวด” ซิมมี่ ลู เอ่ยชม ดวงตาที่เปล่งแววปรารถนาพินิจพิจารณาภรรยานายทหารอยู่

“ขอบใจมาก ซิมมี่ ลู”

“ฮันน่า” มีเสียงเรียกชื่อดังขึ้นพร้อมกับเสียงเคาะประตู “แต่งตัวเสร็จหรือยัง”

“เห็นจะไม่มีอะไรอีกแล้วล่ะ ซิมมี่ ลู” ฮันน่าหันไปบอกสาวผิวดําที่มาช่วยแต่งตัวให้ ก่อนที่จะหันหน้าไปมองประตูที่ซิมมี่ ลู เปิดออก

สเตเฟน เวด ยืนอยู่ตรงห้องโถงทางเดินแคบ ๆ อยู่ในชุดเครื่องแบบเต็มยศ บนบ่าประดับเครื่องหมายบอกยศและเหล่าซึ่งทําด้วยวัตถุสีทอง เขาเป็นบุรุษที่มีเรือนร่างสง่า สูงเกือบหกฟุต ใบหน้าคมสัน ประกอบด้วยไรหนวดสีน้ำตาล เขาเดินเข้ามาในห้อง มิได้เหลือบแลมองผู้หญิงผิวดําซึ่งกับจ้องมองหน้าเขาอยู่ก่อนที่จะเดินผ่านประตูออกไปเลยแม้แต่น้อย

ดวงตาของเขานั้นเป็นสีม่วงเข้มแกมทอง และขณะนี้มันเปี่ยมไปด้วยประกายแห่งความชื่นชมยามที่กวาดตามองไปทั่วร่างภรรยา

“คุณสวยเหลือเกิน ฮันน่า” เขาพูดเสียงเข้มอย่างพยายามสะดดลั้นความรู้สึกไว้

“ก็เห็นคุณพูดอย่างนี้เสมอ” เธอยื่นมือออกไปหาเขา สเตเฟนรับมากุมไว้ พร้อมกับรั้งร่างเธอเข้ามาใกล้ จุมพิตลงตรงปลายนิ้วอย่างบูชา

“ก็เพราะว่ามันเป็นความจริงน่ะสิ” สเตเฟนยืนยัน “สีน้ำตาลนี่มันเหมาะกับคุณมาก ทั้ง ๆ ที่มันเป็นสีแห้ง ๆ แต่คุณก็ทําให้ดูมีชีวิตจิตใจขึ้นมาได้”

“คุณนี่ช่างยอเก่งจริงๆ นะคะ” แต่ฮันน่าก็ปราโมทย์นัก “คุณก็เหมือนกัน เหมือนปีศาจเสน่หายังไงยังงั้นเลย แล้วก็รู้ตัวเองด้วย”

มือทั้งสองของเขารวบลงข้างเอว และเธอก็ทาบฝ่ามือลงบนแผงอก ความภาคภูมิใจ ความมั่นใจ ฉายฉาบอยู่บนใบหน้ากร้าวแกร่งของเขา

“ใคร ๆ เขาก็พูดกันทั้งนั้นว่า เราเป็นคู่ที่เหมาะสมกันอย่างที่สุด” แววหวงแหนปรากฏขึ้นในดวงตาผสมอยู่ด้วยความรักความเสน่หา แต่ดูเหมือนอารมณ์หลังจะมากกว่า

“ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะว่าฉันรักคุณมากกว่าที่เคยรักมาก่อนที่เราจะแต่งงานกันเมื่อห้าปีที่แล้วน่ะสิคะ” ทันทีที่คำพูดประโยคนั้นถูกกล่าวมา ฮันน่าก็รู้สึกเสียใจ ไม่อยากให้ตัวเองต้องเน้นถึงเวลาที่ผ่านไปเลย

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel