บท
ตั้งค่า

บทที่ 5

อีกครึ่งชั่วโมงต่อมา ฮันน่าก็รู้สึกถึงสัมผัสกันกระชับแน่นของฝ่ามือ เมื่อร้อยเอกคัทเตอร์ได้ช่วยพยุงร่างเธอขึ้นบนรถ รออยู่จนเมื่อเธอจัดกระโปรงเข้าที่เรียบร้อย และนั่งลงเคียงข้างมิสซิสเบทเทนดอร์ฟ กับมิสซิสสโลนแล้ว เขาจึงได้เดินอ้อมไปยังด้านหลัง ปลดม้าที่ผูกไว้ออก เธอจับตามองยามที่เขาเหวี่ยงร่างขึ้นนั่งบนอาน และด้วยแวบหนึ่งของความปรารถนาที่จะได้ขี่ม้าของตนท่องเที่ยวไปในดินแดนแถบนี้ อีกประการหนึ่ง รถของค่ายซึ่งมีลักษณะเป็นเกวียนมีประทุนนี้ ก็มิได้ทำให้การเดินทางสาบยขึ้นแต่อย่างใด

“คุณขี่ม้าเป็นไหมคะ คุณนายสโลน” เธอถามเพื่อนสาวอย่างใคร่รู้

“พอเป็นค่ะ” สาวน้อยภรรยาของนายทหารตอบ

“ปกติ ฉันออกไปขี่มาเที่ยวทุกวันเลยค่ะ มันมีเส้นทางเล็ก ๆ อยู่ใกล้ๆ กับค่าย คุณขอให้สามีช่วยหาม้าเชื่อง ๆ ให้สักตัวสิคะ เราจะได้ออกเที่ยวกันในตอนเช้า” ฮันน่าชวน

“คุณนายเวดน่ะเป็นคนที่ขี่ม้าเก่งคนหนึ่งทีเดียว” มิสซิสเบทเทนดอร์อฟเอ่ยขึ้นบ้าง แสดงความชื่นชมในความสามารถของฮันน่า เพราะเธอเองนั้นต้องเลิกหาความสนุกจากการขี่ม้ามานานแล้ว ด้วยวัยที่ผ่านเลยไป “แต่ผู้พันน่ะไม่ยอมให้ภรรยาขี่ม้าออกจากค่าย โดยไม่มีคนอารักขาหรอกค่ะ เพื่อความปลอดภัยของตัวเธอเอง”

“แต่แค่นั้นน่ะจะมาห้ามฉันไม่ให้ขี่ม้าไม่ได้หรอก" ฮันน่าตอบอย่างอิสระ “ถึงแม้ว่าสเตเฟนจะต้องออกไปทํางาน ก็มีทหารคอยติดตามไปกับฉันด้วยเสมอ เขาจัดเตรียมไว้ให้ตลอดเวลาเลยค่ะ”

“ฉันจะลองคุยเรื่องนี้กับริคกี้...เอ้อ...ริชาร์ดดูค่ะ” มิสซิสสโลนรีบกล่าวแก้ชื่อของสามีที่เธอใช้เรียกเล่นอยู่

ฮันน่าต้องจับขอบที่นั่งไว้แน่น ขณะที่ล่อที่เทียมรถเริ่มออกเดิน เสียงล้อบดลงบนพื้นดินที่ขรุขระด้วยก้อนหินและเหวี่ยงรถอยู่ไปมา

เส้นทางสายนั้นตัดอ้อมทะเลทรายไปตามแนวโค้งของภูเขา มุ่งหน้าไปทางทิศเหนืออันเป็นที่ตั้งของค่าย ซึ่งอยู่ตรงเชิงเขา พิโนส อัลโทส เมาเท่น พลทหารสองคนต่างทำหน้าที่รักษาการณ์ คนหนึ่งขี่ม้านำหน้ารถ ส่วนอีกคนขี่ม้าตามหลังมา ส่วนทางด้านขวามือซึ่งอยู่เหนือลม ร้อยเอกคัทเตอร์นั่งอยู่บนหลังม้าสีน้ำตาล

ฮันน่าอดที่จะให้ความสนใจกับเขามิได้ จับสังเกตท่านั่งคล่อมที่พึ่งผายบนหลังม้า อันเป็นท่านั่งของทหารโดยแท้ ซึ่งเธอได้เรียนรู้มาจากสเตเฟน สําหรับเธอนั้นจะต้องใช้อานแบบผู้หญิง ซึ่งเป็นอานที่นั่งเอียงด้านข้าง แต่ก็มั่นคงปลอดภัยดี เมื่อฤดูหนาวปีที่ผ่านมานี้ สเตเฟนพอใจมากกับความก้าวหน้าในเรื่องการขี่ม้าของเธอ และเริ่มให้เธอกระโดดข้ามสิ่งกีดขวางที่ใช้ฝึกกันอยู่ในกองพัน และแอ่งน้ำต่าง ๆ บ้างแล้ว เขายอมรับว่าฝีมือของเธอดีขึ้นมาก

เธอพิจารณาเรือนร่างที่สูงโปร่ง ซึ่งมองเห็นแค่เพียงด้านข้าง เป็นเรือนกายของชายชาตรีที่เต็มไปด้วยพละกําลัง สง่าผึ่งผายยิ่งนัก เขาไม่ใคร่พาตัวเข้ามายุ่งเกี่ยวกับบรรดาสุภาพสตรีทั้งหลายที่เป็นภรรยาของนายทหารเท่าไรนัก ไม่เหมือนกับหนุ่มโสดทั้งหลายที่ชอบทํากัน ส่วนมากแล้วถ้าเขาจะต้องใกล้ชิดกับผู้หญิง ก็เป็นแต่เฉพาะเรื่องงานในหน้าที่มากกว่า เช่นหน้าที่ในการให้อารักขาเป็นต้น อันเป็นงานที่เขาได้รับมอบหมายมาจากผู้บังคับบัญชาโดยตรง แม้ว่าจะมีอาสาสมัครที่จะทํางานนี้อยู่หลายคนก็ตาม

ขณะเดียวกัน เธอก็ตระหนักถึงอาการตื่นตัวของเขาที่แสดงออกด้วยสายตาที่สอดส่ายไปตามสองข้างเส้นทางที่รถผ่านไป และฮันน่าก็พบว่าตัวเองก็สอดส่ายมองลึกเข้าไปในแมกไม้ เพราะเป็นไปได้ที่พวกอปาเช่จะซุ่มรอโจมตีอยู่ แม้ว่าฤดูหนาวจะเป็นฤดูที่ค่อนข้างเงียบสงบ แต่นายทหารหลายคนรวมทั้งสามีของเธอ ก็เชื่อว่าสงครามกองโจรแบบที่พวกอปาเช่ชอบใช้จะต้องเกิดขึ้น เมื่อฤดูใบไม้ผลิเริ่มเยี่ยมเยือน

ค่ายเบยาร์ดในดินแดนนิวเม็กซิโกนี้ตั้งอยู่ตรงปลายเส้นทางที่คลุ้งไปด้วยฝุ่น การตั้งค่ายแห่งนี้ขึ้น เป็นไปตามจุดยุทธศาสตร์ โดยตั้งขึ้นตรงที่ทะเลทรายกับเทือกเขามาบรรจบกัน ทางตอนใต้พื้นแผ่นดินเต็มไปด้วยต้นกระบองเพชร และพุ่มไม้ที่มีหนามแหลมคม และเป็นเช่นนี้ไปตลอดทั้งแนวจนถึงริโอ กรังเดอ และเม็กซิโก และทางตอนเหนือก็คือหน้าผาอันสูงชัน ซึ่งอยู่เหนือลําน้ำที่มีชื่อว่ากิล่า ริเวอร์

นอกอาณาของตัวค่ายมีแค้มป์เล็ก ๆ ที่กองสอดแนมของอินเดียนแดงเผ่าอปาเช่อาศัยอยู่กับครอบครัว หัวหน้ากองสอดแนมมีชื่อว่าอมอส ฮิลล์ อยู่กับภรรยาที่เป็นอปาเช่ของเขา ขณะที่รถประจําค่ายผ่านไป ฮันน่ามองเห็นบางคนที่กําลังทํางานอยู่ในเพิ่งที่เรียกว่า ‘จาคอล’ ใบหน้าขาวด้วยละอองแป้ง

รถแล่นผ่านป้อมยามเข้าไปในบริเวณค่าย ไม่มีกําแพงด้านนอกที่สร้างขึ้นป้องกันอาการในกองทหารที่ปลูกรายเรียงอยู่เป็นแถวไว้อีกชั้น ไม่มีป้อมค่ายอะไรทางเบื้องหลังที่พวกทหารจะใช้กำบังตนได้ ดังนั้นสิ่งที่จะใช้ป้องกันตนก็มีเพียงความระมัดระวังกับปืนในมือเท่านั้น ภายในบริเวณค่ายแห่งนี้ก็คล้ายกับเมืองเล็ก ๆ เมืองหนึ่ง ซึ่งประกอบด้วยโรงทหาร, คอกม้า, ร้านค้าเล็ก ๆ และร้านที่ขายเสบียงกรังต่าง ๆ นายทหารชั้นสัญญาบัตรจะอยู่ในนอาคารที่เรียกว่า ‘อาคารนายทหาร’ ส่วนพวกทหารในระดับต่ำลงมาจะอยู่ในเรือนแถวที่เรียกว่า ‘โรงซักผ้า’ ที่ได้ชื่อเช่นนี้ก็เพราะบรรดาภรรยาของทหารในระดับนี้ จะรับจ้างซักผ้าเพื่อหารายได้ช่วยสามีอีกแรงหนึ่ง

รถคันนั้น แล่นไปจอดลงเบื้องหน้าอาคารนายทหาร ซึ่งถูกสร้างขึ้นเป็นอาคารหยาบ ๆ ก่อด้วยอิฐที่มิได้เผาไฟ ปล่องไฟที่ก่อขึ้นด้วยอิฐดิบชนิดเดียวกัน โผล่ขึ้นมาจากหลังคาที่มุงด้วยใบไม้ ส่วนเพิงที่เรียกว่า ‘รามาด้า’ ซึ่งให้ร่มเงา และเป็นระเบียงด้านหน้านั้นจะหันออกมาสู่ถนนที่ตัดขึ้นภายในค่าย เมื่อรถหยุดลงเบื้องหน้าอาคารหลังหนึ่ง ร้อยเอกคัทเตอร์ก็เหวี่ยงร่างลงจากหลังม้า เพื่อช่วยสุภาพสตรีเหล่านั้นลงจากรถ ในขณะที่สิบเอกฮุคเกอร์รวบรวมข้าวของที่ซื้อกันมา

“เราดีใจมาก ที่มีคุณไปกับเราด้วยวันนี้นะผู้กอง” ภรรยาผู้บังคับการพูดเป็นเชิงขอบใจเขา

“ด้วยความยินดีครับ คุณนายเบทเทนดอร์ฟ” แต่คําตอบนั้น เป็นคํากล่าวที่มิได้จงใจหรือตั้งใจจะเสแสร้งแต่อย่างใด คล้ายกับเป็นคําพูดต่อปากของเขามากกว่า

“ผู้กองคะ คือผู้พันกับฉันจะจัดงานสังสรรค์เล็ก ๆ ขึ้นค่ำวันนี้ เพื่อต้อนรับร้อยโทสโลนกับภรรยาที่มาอยู่ค่ายเบยาร์ดร่วมกับเรา ฉันอยากให้คุณมาร่วมด้วยค่ะ” ฮันน่าเชื้อเชิญและมองเห็นแววสุภาพ แต่ปฏิเสธอย่างสิ้นเชิงปรากฏอยู่ในสีหน้าของเขา

“อ๋อ...เขาต้องมาแน่ ใช่ไหมคะ ผู้กอง” มิสซิสเบทเทนดอร์ฟพูดด้วยความมั่นใจ

“ผมจะปฏิเสธได้อย่างไรล่ะครับ” เขาโค้งรับด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า

ขณะที่รถกับทหารอารักขากลับไปยังคอกม้านั้น คัทเตอร์ก็กล่าวคําอําลาภรรยานายทหารทั้งสาม กลับขึ้นบนหลังม้าสีน้ำตาลอีกครั้ง แทนที่เขาจะบังคับม้าให้วิ่งกลับไปยังคอกม้า กลับชักม้าให้ตรงไปยังบริเวณเรือนแถวที่เป็นโรงซักผ้า ทั้งนี้เพราะคัทเตอร์รู้ดีว่า งานปาร์ตี้ที่จัดขึ้นในคืนนี้หมายถึงการแต่งเครื่องแบบเต็มยศ เขาจึงจําเป็นจะต้องไปเอาเสื้อผ้าที่ส่งซักไว้

พื้นที่ภายในบริเวณค่ายแห่งนี้ เป็นรูปสี่เหลี่ยมจตุรัส ซึ่งสิ่งปลูกสร้างทุกชนิดจะหันหน้าออกสู่ถนนภายใน ถ้าจะเปรียบด้านที่เป็นที่อยู่อาศัยของนายทหารชั้นสัญญาบัตรนั้น ต้องเรียกว่าเป็นด้านแห่งความถูก และด้านโรงเรือนของชั้นรองลงมาคือด้านแห่งความมืด พื้นที่และถนนที่คั่นกลางอยู่นั้นเหมือนจะแบ่งแยกระดับชั้นของนายทหาร และพลทหารไว้ให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ และที่ยิ่งไปกว่านั้นก็คือจะไม่มีการสมาคมระหว่างทหารชั้นสัญญาบัตรกับพลทหารเกณฑ์โดยสิ้นเชิง แม้ว่าพลทหารจะมิใช่ผิวดําก็ตาม และแทบจะไม่มีการติดต่อเกี่ยวข้องใด ๆ ทั้งสิ้น นอกเสียจากการให้บริการด้านซักเสื้อผ้า หรือเมื่อภรรยานายทหารต้องการสาวใช้มาช่วยงานเป็นครั้งคราว

ม้าสีน้ำตาลตัวนั้นนําคนขี่มายังแถวที่อยู่ของนายทหารระดับรอง ซึ่งอยู่ด้านหลังของโรงฝึกทหาร เด็กนิโกรที่กําลังเล่นกันอยู่เกรียวกราวสงบเสียงลงทันที เมื่อเห็นว่ามีนายทหารผิวขาวเข้ามาในบริเวณนั้น

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel