ตอนที่ 2 มธุรส (น้ำผึ้ง)
ตอนที่ 2 มธุรส (น้ำผึ้ง)
มธุรสหรือน้ำผึ้ง เธอเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยว เมื่อหกปีก่อน ณ ประเทศญี่ปุ่น เธอไปเรียนและได้พบรักกับผู้ชายที่ประเทศนั้น จนได้ตั้งท้อง วันนั้นเธอเดินไปบอกเขาด้วยความดีใจ เพราะคิดว่าเขาน่าจะดีใจเหมือนเธอแต่เปล่าเลย เขาบอกให้เธอไปเอาเด็กในท้องออก วันนั้นมือลั่นเผลอตบหน้าผู้ชายคนนั้นสุดแรง ตบเสร็จเธอก็หันหลังกลับประเทศไทยและไม่คิดที่จะหันกลับไปเหยียบที่นั่นอีกเลย
"ก๊อกๆๆ" เสียงเคาะประตูทำให้น้ำผึ้งที่กำลังนั่งคิดอะไรอยู่เพลินๆ ออกจากภวังค์ความคิดของตัวเอง
"ก๊อกๆๆ ยัยผึ้งฉันเองเปิดประตูให้หน่อย"
"มาแล้วๆ" น้ำผึ้งรีบลุกขึ้นจากเก้าอี้แล้วเดินไปเปิดประตู ซึ่งเสียงที่ได้ยินก็คือผักหวานเพื่อนรักของเธอเอง
"อ้าวยัยหวาน เข้ามาก่อนสิ ฉันกำลังจะกินข้าวอยู่พอดี กินด้วยกันมั้ย"
ผักหวานเพื่อนรักของน้ำผึ้ง ทำงานอยู่ที่เดียวกันแต่อยู่คนละแผนก ทั้งสองมีตำแหน่งเป็นถึงผู้จัดการ เงินเดือนค่อนข้างดี
ห้องที่น้ำผึ้งอาศัยอยู่เป็นคอนโด เธอตัดสินใจซื้อและเพิ่งจะผ่อนหมดไปเมื่อไม่นานมานี้เอง น้ำผึ้งอยู่กับลูกชายสองคน ลูกชายของเธอชื่อน้องอาชิวัยห้าขวบ เป็นเด็กดีเลี้ยงง่าย เกิดและโตที่ประเทศไทย
"เอาสิ ฉันก็ว่าจะมาหาเพื่อนกินข้าวอยู่พอดี" ผักหวานส่งยิ้มให้เพื่อนแล้วจึงรีบก้าวเท้าเดินเข้ามาด้านในห้อง
ผักหวานเองก็ยังโสดแต่ไม่คอยสนิทเท่าไหร่ รักๆเลิกๆเป็นสาวขี้เหงา ชอบการมีใครอยู่ด้วยข้างๆสักคนแต่ไม่อยากแต่งงาน ไม่อยากมีครอบครัว ผู้ชายคนไหนที่ขอเธอแต่งงานเธอบอกเลิกหมดทุกคน สาเหตุเป็นเพราะเธอยังไม่พร้อมที่จะดูแลใคร ไม่พร้อมที่จะต้องมานั่งเป็นแม่บ้านเลี้ยงลูกให้สามี เธอไม่ชอบชีวิตแบบนั้น เห็นแล้วเหนื่อย...
"นั่งสิ ถืออะไรมาเหรอ"
"ไก่ย่างข้าวเหนียวน่ะ ซื้อมาฝากหลานฉัน อาชิครับ"
"ครับน้า"
"น้าซื้อไก่ย่างเจ้าประจำมาฝากครับ"
"ขอบคุณครับ น้าหวานนี่ทั้งสวยทั้งใจดี ขอให้น้ามีแฟนหล่อๆนะครับ"
"ปากหวานจังเจ้าเด็กคนนี้ แต่น้าชอบ...เดี๋ยววันหลังน้าจะซื้อมาฝากอีกนะครับ" น้ำผึ้งยิ้มหวานมองเพื่อนกับลูกชายคุยกัน ก่อนที่จะเดินไปหยิบจานมาใส่ไก่ย่างเจ้าประจำที่เพื่อนซื้อติดมือมาฝาก
ถ้าถามว่าตลอดเวลาที่น้ำผึ้งอุ้มท้องกลับมาไทย จนถึงตอนนี้น้องอาชิมีอายุห้าขวบแล้ว น้ำผึ้งใช้ชีวิตมาแบบไหน คำตอบก็คือลำบากมากแต่เธอมีเพื่อนดี ใครว่างก็ช่วยกันเลี้ยง ช่วงที่น้องอาชิเข้าโรงเรียนได้ เธอก็เอาไปฝากคุณครูช่วยเลี้ยงให้ ส่วนพ่อกับแม่ของเธออยู่ต่างจังหวัดรับราชการครู ซึ่งพวกท่านทั้งสองก็ยังทำงานอยู่ ไม่สามารถเลี้ยงน้องอาชิให้ได้ แต่ก็ไม่ได้ทอดทิ้งกัน
ในช่วงแรกๆมีแค่เพียงคุณพ่อที่ไม่พอใจเธออยู่มากพอสมควร แต่เมื่อเวลาผ่านไป พอได้เห็นหน้าหลาน ใจแข็งๆก็เปลี่ยนไปตามกาลเวลา
"มายัยหวานกินข้าวกัน" น้ำผึ้งเอาไก่ย่างที่เพื่อนซื้อมาฝากจัดใส่จานเสร็จ ก็ส่งจานข้าวที่มีข้าวสวยร้อนๆส่งให้เพื่อน จากนั้นทั้งสามคนก็เริ่มลงมือทานข้าวพร้อมกัน
"นี่ยัยผึ้งแกรู้หรือยังว่าพรุ่งนี้จะมีผู้จัดการทั่วไปคนใหม่มาประจำตำแหน่งแล้วนะ" ผู้จัดการทั่วไปหรือผู้จัดการฝ่าย จะมีตำแหน่งสูงกว่าพวกเธอหนึ่งตำแหน่ง หรือจะเรียกง่ายๆว่ามาควบคุมการทำงานของพวกเธออีกทีนั่นเอง
"รู้แล้ว มีอะไรให้ตื่นเต้น" สำหรับน้ำผึ้งเขาก็แค่มนุษย์เงินเดือนเหมือนกับเธอ แค่ตำแหน่งใหญ่กว่านิดหน่อยเอง
"ได้ข่าวมาว่าบริษัทแม่ที่อังกฤษส่งมาเลยนะ" ท่าทางและน้ำเสียงของผักหวานดูตื่นเต้นอยู่ไม่น้อย ซึ่งเป็นปกติของเธอ
"ดูแกจะตื่นเต้นกับผู้ชายหน้าใหม่ทุกคนเลยนะ"
"แกไม่รู้สึกอะไรเลยเหรอ เขากำลังจะมาเป็นบอสเรานะ"
"ฉันเฉยๆว่ะ"
"ได้ข่าวมาว่าอายุสามสิบสอง โสดด้วยนะ เงินเดือนตำแหน่งนี้น่าจะมากกว่าเราเป็นเท่าตัวเลยนะ...แกสนใจป่ะ" ข้อมูลแน่นจริงจริ๊ง!
"ทุกวันนี้ฉันก็ไม่ได้ลำบากอะไร" ฐานะการเงินของเธอตอนนี้ผ่อนบ้านหมดแล้ว ถึงจะยังไม่มีเงินเก็บแต่ก็สามารถเลี้ยงตัวเองและลูกชายได้สบาย...เธอไม่ง้อผู้ชาย!
"จ้าแม่คนเก่ง เมื่อไหร่ฉันจะยุคนอย่างแกขึ้นสักทีนะ" สำหรับผักหวานเธอเองก็ไม่ง้อผู้ชาย แต่เธอก็ไม่ปฏิเสธว่ายังต้องการ...ก็คนมันเหงา!
"พูดมาก...กินๆเข้าไป"
"ถามอาชิดีกว่า อาชิครับ"
"ครับน้า" น้องอาชิกำลังตั้งหน้าตั้งตากินข้าว แต่หูก็แอบฟังแม่กับน้าผักหวานคุยกันอยู่ตลอด
"ถ้าแม่น้ำผึ้งอยากจะหาพ่อให้อาชิ อาชิจะโอเคมั้ยครับ"
"โอเคครับหาเลย อาชิจะได้มีพ่อเหมือนเด็กคนอื่นๆเขาสักที"
"คิกคิก ได้ยินมั้ย หลานฉันอยากมีพ่อ"
"ไม่ได้ยิน...แล้วแกล่ะ มาหาฉันเวลานี้ไม่ได้อกหักมาอีกหรอกใช่มั้ย" รู้ทัน! ปกตินอกจากเวลางานแล้วก็ไม่ค่อยได้เจอหน้ากันสักเท่าไหร่ นอกซะจาก...
"สมกับที่เป็นเพื่อนรักของฉันจริงๆ" ผักหวานตอบยิ้มๆ อยากจะลุกขึ้นไปกอดเพื่อนรักแน่นๆสักที
"ห๊า...เพิ่งจะคบกันได้สองอาทิตย์เองนะ เลิกกันแล้วเหรอ" ถามเพื่อนในแบบไม่อยากจะเชื่อหูตัวเองเลย
"ก็ฉันไม่ชอบนี่ ขี้เกียจไปต่อ แต่ก็ยอมรับว่ารู้สึกเสียใจนิดหน่อย ก็เลยมาหาแก" ดูๆแล้วก็ไม่ได้เศร้าเท่าไหร่
"เดี๋ยวนะ ไหนตอนแรกใครนะที่บอกว่าสเปค"
"เอาน่าอย่าแซวฉันนักเลย เลิกได้ก็หาใหม่ได้ ถ้าแกสนใจเดี๋ยวฉันจะหาเผื่อแกสักคน" น้ำผึ้งส่ายหน้าให้เป็นคำตอบพร้อมกับอมยิ้มส่งไปให้เพื่อน
"ไม่เอา...ผู้หญิงอย่างฉันถ้าคิดจะคบใครสักคน ไม่ชอบคบๆเลิกๆแบบแกหรอก" มันเสียเวลา ซึ่งตอนนี้เธอก็ยังไม่พร้อมที่จะมีใครด้วย เนื่องจากว่าเธอมีลูกเล็กที่จะต้องดูแล คงไม่สามารถแบ่งเวลาอันน้อยนิดของเธอไปให้กับใครได้ในตอนนี้
"แล้วเมื่อไหร่ล่ะ หลานฉันต้องการพ่อ เมื่อกี้แกก็ได้ยินนี่ จริงมั้ยครับหลานรัก"
"ครับน้า"
"รออาชิโตอีกหน่อยแล้วกัน"
"ฉันดีใจที่แกเปิดใจ ไม่ปิดกั้นตัวเอง ว่าแต่แกชอบผู้ชายแบบไหนเหรอ เผื่อว่าฉันจะได้คัดมาให้"
"ผู้ชายที่จะเข้ามาในใจฉันได้ จะต้องรักฉัน รักอาชิ รักลูกชายของฉันด้วย" น้ำผึ้งเป็นผู้หญิงมีตำหนิ เธอมีลูกติด ผู้ชายสมัยนี้ถ้าจะหวังให้เขามารักลูกของเธอด้วย ก็ดูเหมือนว่าจะหวังลมๆแล้งๆ ซึ่งเธอก็คงยอมไม่ได้ถ้าจะต้องทิ้งลูกเพื่อที่จะต้องไปดูแลใครคนนั้น
"ยัยผึ้ง...คิดอะไรอยู่"
"เปล่า...มีอะไร"
"แกว่าพรุ่งนี้เราสองคนต้องสวยหน่อยมั้ย" จะมีผู้ชายมาใหม่ทั้งที
"ไม่จำเป็น"
"เถอะน่า...ให้ฉันเลือกชุดที่จะใส่ไปทำงานวันพรุ่งนี้ให้นะ" อยากจะปฏิเสธแต่เพื่อนก็ช่างยุเหลือเกิน
"เบื่อปากหอยปากปู เฮ่อ...ฉันเกิดมาสวยเกินไป" ประโยคนี้ของน้ำผึ้งไม่ได้พูดเกินจริงเลยแม้แต่น้อย เป็นเพราะใบหน้าสวยหวานของเธอ จนทำให้ผู้ชายร้อยละเก้าสิบต้องเหลียวหลังหันมามอง และแล้วความขี้อิจฉาของคนในองค์กรก็บังเกิด ชอบหาว่าที่เธอได้ขึ้นไปอยู่ในตำแหน่งผู้จัดการได้เป็นเพราะใช้เต้าไต่ขึ้นไป
เนื่องจากมีผู้บริหารระดับสูงกว่าชอบน้ำผึ้งอยู่หลายคน แต่เธอก็ไม่เคยสนใจ ที่ได้ตำแหน่งนี้มาเป็นเพราะความสามารถของเธอเองล้วนๆ เธอเรียนมาตรงสาขา พูดได้สามภาษา ไทย อังกฤษ ญี่ปุ่น
"ไหนแกบอกว่าไม่แคร์คนพวกนั้นไง" พวกขี้อิจฉา วันๆอยากจะรู้แต่เรื่องของชาวบ้าน งานการไม่อยากจะทำ
"ใช่ฉันไม่แคร์ ฉันก็แค่รำคาญ" พูดด้วยสีหน้าจริงจัง ในบางครั้งถ้าหากมีล้ำเส้นกันมากเกินไปเธอก็ต้องขอเอาคืนบ้าง
"ฉันเลือกชุดให้นะ ช่วยไม่ได้ใครใช้ให้แกเกิดมาสวยล่ะ" และแล้วผักหวานก็เป็นคนเลือกชุดใส่ไปทำงานในวันพรุ่งนี้ให้น้ำผึ้ง เป็นชุดกระโปรงสั้นสีขาวเหมาะกับผิวขาวสวยสุขภาพดีของเธอ