บทย่อ
เรื่อง...เผลอรักยัยแม่หม้าย คำโปรย ความสวยของเธอทำให้เขาถูกใจ แต่ความเก่งและเข้มแข็งของเธอต่างหากที่โดนใจเขายิ่งกว่า แนะนำตัวละคร ภาคิน (คุณคิน) อายุ 32 ปี ทายาทนักธุรกิจหมื่นล้าน เขาหล่อ รวย ใจดี ซึ่งมีเพียงแค่ไม่กี่คนเท่านั้นที่รู้ว่าเขาเป็นใคร เนื่องจากคุณปู่ขอร้องให้ปิดบังตัวตน ท่านอยากให้หลานชายหาภรรยาที่รักด้วยใจจริงๆไม่ใช่รักที่เงิน มธุรส (น้ำผึ้ง) อายุ 28 ปี พนักงานบริษัทตำแหน่งสูง เธอสวย มีความรู้ เก่ง ฉลาด ทันคน คืนนั้นของเรา ทำให้เธอยอมเปิดใจให้เขาก้าวเข้ามาในชีวิตของเธอเพื่อเรียนรู้กัน น้องอาชิ อายุ 5 ขวบ ลูกชายของแม่น้ำผึ้ง เก่ง ฉลาด ได้แม่ อยากมีพ่อเป็นของตัวเองแต่ต้องรอแม่อนุญาตก่อน ????? ชี้แจงก่อนอ่านค่ะ^^ นิยายเรื่องนี้ นอ.เป็นแม่หม้ายจริงๆค่ะ ซึ่งไรท์ก็ยังคงขอเขียนแนวฟีลกู๊ดเหมือนเดิม ไม่มีดราม่าอะไรทั้งนั้น ตัวละครในเรื่องทุกคนล้วนจิตใจดี
ตอนที่ 1 ภาคิน
เรื่อง...เผลอรักยัยแม่หม้าย
คำโปรย
ความสวยของเธอทำให้เขาถูกใจ แต่ความเก่งและเข้มแข็งของเธอต่างหากที่โดนใจเขายิ่งกว่า
แนะนำตัวละคร
ภาคิน (คุณคิน) อายุ 32 ปี
ทายาทนักธุรกิจหมื่นล้าน เขาหล่อ รวย ใจดี ซึ่งมีเพียงแค่ไม่กี่คนเท่านั้นที่รู้ว่าเขาเป็นใคร เนื่องจากคุณปู่ขอร้องให้ปิดบังตัวตน ท่านอยากให้หลานชายหาภรรยาที่รักด้วยใจจริงๆไม่ใช่รักที่เงิน
มธุรส (น้ำผึ้ง) อายุ 28 ปี
พนักงานบริษัทตำแหน่งสูง เธอสวย มีความรู้ เก่ง ฉลาด ทันคน คืนนั้นของเรา ทำให้เธอยอมเปิดใจให้เขาก้าวเข้ามาในชีวิตของเธอเพื่อเรียนรู้กัน
น้องอาชิ อายุ 5 ขวบ
ลูกชายของแม่น้ำผึ้ง เก่ง ฉลาด ได้แม่ อยากมีพ่อเป็นของตัวเองแต่ต้องรอแม่อนุญาตก่อน
?????
ชี้แจงก่อนอ่านค่ะ^^
นิยายเรื่องนี้ นอ.เป็นแม่หม้ายจริงๆค่ะ ซึ่งไรท์ก็ยังคงขอเขียนแนวฟีลกู๊ดเหมือนเดิม ไม่มีดราม่าอะไรทั้งนั้น ตัวละครในเรื่องทุกคนล้วนจิตใจดี
ตอนที่ 1 ภาคิน
@สนามบิน
ภาคิน ทายาทคนโตของบริษัท ทีทีจี กรุ๊ป เป็นบริษัทผลิตเครื่องดื่มรายใหญ่ติดอันดับต้นๆของประเทศ กำลังเดินลงจากเครื่องบิน ซึ่งปกติแล้วเขาใช้ชีวิตอยู่ที่ประเทศอังกฤษ
"คุณภาคิน สวัสดีครับเชิญทางนี้ครับ" ลงจากเครื่องได้ก็มีคนของคุณปู่มารอรับกลับบ้าน พร้อมกับช่วยถือกระเป๋าเดินทางให้
คฤหาสน์หลังใหญ่เป็นที่อยู่อาศัยของเจ้าของบริษัททีทีจีกรุ๊ป คฤหาสน์หลังใหญ่หลังนี้มีพื้นที่กว้างขวางสุดลูกหูลูกตา สวยงามตั้งอยู่ใจกลางเมือง แต่ไม่น่าอยู่เพราะมันเงียบเหงามานานมากแล้ว แต่ถ้าได้มีเด็กเล็กมาวิ่งเล่นสักคนสองคนก็คงจะดีไม่น้อย
"คุณปู่สวัสดีครับ" ภาคินก้าวขาเดินเข้าบ้านด้วยท่าทางสง่าผ่าเผย เขาคือหลานชายคนโตของทีทีจีกรุ๊ป หล่อ รวย มากความสามารถ
"เออ...สวัสดี นี่ถ้าปู่ไม่เรียกตัวแกกลับมา แกก็คงไม่คิดจะกลับมาหาปู่เลยใช่มั้ย" น้ำเสียงของคนแก่ฟังดูเหมือนจะน้อยใจหลานชายอยู่ไม่น้อย
"ไม่เอาน่าคุณปู่ อย่ามาดราม่าใส่ผม ขี้น้อยใจทำเป็นคนแก่ไปได้" แก่แล้วจริงๆนั่นแหละ แต่ท่าทางขี้เล่นของภาคินหลานชายคนโปรด ทำให้คุณปู่ค่อยๆคลี่ยิ้มบางๆออกมา
"ไม่ต้องมาย้ำ นั่งลงๆ" คุณคณินหรือที่ทุกคนชอบเรียกท่านว่า...ท่านประธาน ท่านเป็น CEO ของบริษัททีทีจีกรุ๊ป ซึ่งตอนนี้ท่านก็แก่มากแล้ว อยากให้หลานชายมาช่วยบริหารงานแทน แต่ก่อนอื่นท่านอยากให้หลานหาเมียก่อน เนื่องจากท่านมีความเชื่อที่ว่า ผู้นำทุกคนจะต้องมีภรรยาคอยเคียงข้างถึงจะประสบความสำเร็จได้
"ขอบคุณครับ" ภาคินทิ้งตัวนั่งลงไปที่โซฟาหนังอย่างดีตัวใหญ่ เขากวาดสายตามองไปรอบๆคฤหาสน์หลังนี้ นานมากแล้วที่เขาไม่ได้กลับมาที่นี่
"พ่อกับแม่บอกอะไรหลานก่อนมามั้ย" คุณปู่เริ่มพูดเข้าเรื่องทันที ในจังหวะนี้เองก็มีสาวใช้ถือถาดเอาน้ำกับของว่างมาเสิร์ฟให้ เมื่อเสิร์ฟเสร็จสาวใช้จึงรีบออกไป
"บอกครับ บอกว่าคุณปู่กำลังจะบังคับให้ผมหาเมีย อยากให้ผมแต่งงานมีครอบครัว แต่ผมขอบอกไว้ก่อนเลยนะครับ คุณปู่ไม่มีทางบังคับผมได้หรอก" เขาไม่เอาซะอย่างใครจะทำอะไรได้ ผู้หญิงสวยๆคือของหวานสำหรับเขา แต่พวกเธอก็น่าเบื่อมากเช่นกัน
"งั้นแกก็ไม่ต้องเอาสมบัติของปู่" คุณปู่ต้องการทายาท ตอนนี้ยังไม่มีหลานคนไหนยอมมีเมียเลยสักคน...คนแก่กลุ้ม!
"ตายไปก็เอาไปไม่ได้"
"แช่งปู่เหรอ วะไอ้นี่!"
"แช่งเช่งอะไรกันก็คุณปู่แก่แล้ว แล้วนี่น้ำอะไรครับ หมอสั่งห้ามทานของหวานไม่ใช่เหรอ" ขวดเครื่องดื่มตรงหน้าที่วางอยู่บนโต๊ะถูกหยิบขึ้นมาดู
"นี่คือผลิตภัณฑ์ใหม่ของบริษัทเรา" ที่ฉลากบอกว่ามีน้ำตาลสามสิบเปอร์เซ็นต์
"มีโรคประจำตัว ถ้าอยากอยู่นานๆก็ต้องเชื่อหมอนะครับ มาผมชิมให้เอง" คุณปู่ยังไม่ได้อ้าปากบอกให้เลย ไอ้หลานชายตัวแสบก็รีบเปิดฝาแล้วรีบกระดกลงคอทันที
"อื้อ...ก็อร่อยดีนะครับ" ภาคินทราบมาว่าคุณปู่มีโรคประจำตัวตามประสาคนแก่ นั่นก็คือเบาหวานกับความดันแค่นี้เท่านั้น แต่คุณหมอเพิ่งจะตรวจเจอโรคหัวใจอีกหนึ่งโรคซึ่งตอนนี้ยังไม่มีใครรู้
"ปู่พูดตอนไหนว่าจะให้แกชิมให้ หน้าตาก็ไม่ดียังจะนิสัยเสียอีก" ขอมาลองชิมแค่ขวดเดียวไม่คิดว่าจะมีมารคอหอยมาช่วยชิมให้
"ไหนคุณปู่บอกว่าผมหล่อเหมือนคุณปู่ตอนหนุ่มๆเปี๊ยบเลยไงครับ" เย้าคุณปู่เล่นแถมยังทำท่าเอร็ดอร่อยราวกับว่าเครื่องดื่มที่กำลังดื่มอยู่รสชาติหวานหอมซะเหลือเกิน
"แกจะไม่เถียงปู่สักคำมันจะตายมั้ย อายุปู่จะสั้นก็เพราะต้องมานั่งเถียงกับแกนี่แหละ" ต่างคนต่างไม่มีใครยอมใคร แต่ก็รักกันมาก
"อ่ะๆ เข้าเรื่องเลยดีกว่า คุณปู่เรียกผมกลับมาจากอังกฤษต้องการอะไรครับ" สายตาของคุณปู่มองไปที่ขวดเครื่องดื่มที่หลานชายแย่งเอาไปดื่ม กว่าจะขอมาได้สักขวดไม่ใช่เรื่องง่าย เนื่องจากทุกคนพยายามช่วยท่านควบคุมอาหาร
"ปู่อยากให้แกหาหลานสะใภ้แล้วก็มีเหลนตัวเล็กๆให้ปู่สักคน" เรื่องเดิม! ฝันไปเถอะเขาไม่มีทางให้ความร่วมมือเด็ดขาด
"เรื่องนี้เลิกคุย ผมไม่รีบ" ตอบปัดๆแล้วเอนหลังพิงพนักโซฟาด้วยท่าทางสบายๆ
"แต่ปู่รีบ"
"ถ้าคุณปู่รีบ คุณปู่ก็...ยังดูแข็งแรงอยู่นี่ครับ หาย่าน้อยสักคนมาทำอาให้ผมเลี้ยงสักคนสองคนดีมั้ยครับ"
"พูดบ้าๆ จะตายวันตายพรุ่งก็ยังไม่รู้เลย แค่กๆ" คนแก่เริ่มเหนื่อยใจกับไอ้หลานหัวรั้น เสียงไอของคุณปู่ทำให้ภาคินเบนสายตาไปมองท่าน
"ไม่เอาน่า อย่ามาแสดงละครต่อหน้าผม คุณปู่แข็งแรงจะตาย" ทันทีที่ภาคินพูดเย้าคุณปู่เล่นจบ เสียงของพ่อบ้านก็เอ่ยขึ้นมาจากทางประตูด้านหน้า
"คุณท่านครับ คุณหมอมาแล้วครับ"
"คุณหมอ...คุณปู่เป็นอะไรครับ"
"โรคคนแก่น่ะ...ไปเชิญคุณหมอเข้ามา" ประโยคหลังท่านหันไปบอกพ่อบ้านแล้วหันกลับมาพูดกับหลานชายต่อ
หลังจากที่คุณหมอเดินเข้ามา คุณหมอก็เริ่มลงมือทำการตรวจและจ่ายยาให้
"หัวใจโตเหรอครับ!"
"แกจะเสียงดังทำไม ปู่ยังไม่รีบตายตอนนี้หรอกน่า ว่าจะอยู่รอดูหน้าเหลนก่อน" เสียงเรื่อยๆของคนแก่ทำให้ภาคินเริ่มคิดหนัก จากที่ไม่คิดจะมีใคร สงสัยคงต้องรีบคิดซะแล้ว
"พูดเรื่องนี้อีกแล้ว พอจะมีเรื่องอื่นที่เราสองคนปู่กับหลานจะคุยกันรู้เรื่องมั้ยครับ" ตราบใดที่เขายังไม่เจอคนที่ถูกใจ เขาจะไม่มีทางยอมแต่งงานมั่วๆเด็ดขาด
"ที่ปู่เรียกตัวแกกลับมาครั้งนี้เป็นเพราะสุขภาพไม่ดีอย่างที่แกเห็น ปู่จะให้แกไปทำงานแทนปู่ที่บริษัทของเรา" ตอนนี้มีคุณปู่เป็นประธานบริษัท (CEO) ซึ่งท่านก็แก่มากแล้วแถมตอนนี้ยังมาเจอโรคหัวใจเพิ่มอีก คงถึงเวลาแล้วที่จะต้องส่งต่อภารกิจอันใหญ่หลวงนี้ให้ลูกหลานไปช่วยจัดการบริหารสักที
"แล้วบริษัทแม่ที่อังกฤษล่ะครับ"
"ก็ให้คนอื่นดูไปก่อน" ภาคิน ยังมีพ่อมีน้องชายที่อยู่ทางโน้น ส่วนทางนี้มีแค่คุณปู่คนเดียว ซึ่งตอนนี้ท่านก็สมควรที่จะต้องพักผ่อนได้แล้ว
"เอายังไงก็เอา แล้วทำไมไม่บอกล่วงหน้าล่ะครับ ผมจะได้เตรียมตัวให้มากกว่านี้"
"ขืนบอกก็คงเกี่ยงกันมา" ก็จริง รู้ทันอีก เถียงไม่ออกเลย
"ปู่ขอถามแกอีกครั้ง ขอให้แกตอบปู่ตามความจริง แกยังไม่ได้มีคนรักอยู่ที่โน่นใช่มั้ย เพราะถ้ามีปู่คงไม่กล้ารั้งแกเอาไว้" น้ำเสียงของคุณปู่ประโยคนี้ค่อนข้างจริงจัง บ่งบอกว่าท่านไม่ได้พูดเล่น อยากให้หลานมีทายาทก็จริงแต่ท่านก็ไม่ได้คิดจะทำบาปกับใคร ความรักจะมั่นคงและยืนยาวได้อยู่ที่คนสองคนรักและเข้าใจกัน
"ไม่มีครับ ผมโสด" ตอบคุณปู่ไปตามความจริง เขาเป็นหลานคนโตคงถึงเวลาต้องกลับมาช่วยคุณปู่ทำงานสักที
"ดี...ถ้าอย่างนั้นเริ่มทำงานวันจันทร์หน้านี้เลย"
"ครับ" เรื่องงานเขาไม่เกี่ยง ไม่ทำวันนี้วันหน้าก็ต้องทำอยู่ดี
"แต่ปู่มีข้อแม้"
"......" อะไรอีกล่ะ คนแก่นี่เรื่องมากซะจริง
"ปู่อยากให้คินเข้าไปทำงานในบริษัทในฐานะมนุษย์เงินเดือนคนนึงไม่ใช่หลานปู่" ห๊า...
"เพราะอะไรครับ คุณปู่จะแกล้งอะไรผมอีกล่ะ"
"ปู่อยากให้แกเข้าไปในนั้น ไปหาผู้หญิงที่คู่ควรมาเป็นหลานสะใภ้ของปู่สักคน ส่วนคุณสมบัติปู่ให้แกเป็นคนตัดสินใจ แกรักใครปู่ก็รักด้วย" คุณคณินต้องการแค่ทายาท ส่วนเรื่องอื่นเขาให้ภาคินเป็นคนตัดสินใจเอง
"แล้วทำไมไม่ให้ผมเข้าไปในบริษัทในฐานะหลานคุณปู่ล่ะครับ รับรองมีสาวเข้ามาให้เลือกไม่ซ้ำหน้าแน่นอน"
"เพราะปู่อยากได้หลานสะใภ้ที่รักแกจริงๆไม่ใช่รักแกเพราะเงินยังไงล่ะ" ประโยคนี้ของคุณปู่ทำให้ภาคินนิ่งไป
"จะมีผู้หญิงแบบที่คุณปู่ต้องการเหรอครับ" ถ้ามีก็คงหายากมากๆ คิดว่าเหนื่อยและเสียเวลาเปล่าๆ แต่ก็ดีเพราะเขาก็ยังไม่ได้อยากมีเมียตอนนี้
"ไม่ใช่ๆ แกต่างหากที่ต้องการไม่ใช่ปู่ ส่วนมีหรือไม่มีเดี๋ยวก็รู้" ในสมัยนี้คู่รักเลิกรากันง่ายกว่าสมัยก่อนมาก ท่านไม่ต้องการให้เกิดปัญหาภายในครอบครัว การเลือกคู่ครองเองจึงเป็นเรื่องที่สมควร
"คุณปู่จะให้ตำแหน่งงานอะไรผมครับ ขอดีๆหน่อยนะ สมัยนี้กัดก้อนเกลือกินมันไม่มีแล้ว ผมหวังว่าคุณปู่จะไม่โลกสวยเกินไป"
"ปู่ให้แกเข้าไปบริหารงาน ก็ต้องเป็นตำแหน่งผู้บริหารอยู่แล้ว ส่วนรถให้ใช้ได้แค่เจ็ดที่นั่งพอ" ราคาเบาๆไม่ถึงสองล้าน มีเกลื่อนกลาดตามท้องถนนทั่วไป
"แล้วเลขาผมล่ะมีมั้ย"
"เดี๋ยวให้ณดลมาช่วย" ณดลเป็นเลขาของคุณปู่ อายุน้อยกว่าภาคิณนิดหน่อยแต่ณดลทำงานดีมาก
"คุณปู่ แล้ว..."
"ไม่ต้องถามมากเอาตามนี้ก่อน งานสำเร็จหาสะใภ้ให้ปู่ได้เมื่อไหร่ อยากได้อะไรก็เอาไปเลย" ตกลงให้มาช่วยทำงานแต่ก็ไม่พ้นหาเมียอีกอยู่ดี...เฮ่อ!