บทที่ 2 ข้าคือมารดาของเหล่าตัวร้าย
"หนิงหนิง เจ้าเป็นฝ่ายเริ่มก่อน เจ้าต้องโดนลงโทษ"
"ม่ายยย ท่านแม่ช่วยข้าด้วยเจ้าค่ะ ท่านพ่อจะตีข้า" เด็กน้อยส่ายหน้าระรัว กอดคนเป็นแม่ไว้แน่น
"ท่านพี่จะตีหนิงหนิงได้อย่างไรกัน ต้องตีหนานหนานสิเจ้าคะ เป็นพี่แท้ๆแต่เหตุใดถึงไม่ยอมน้องเล่า" เอ่ยพลางกอดบุตรสาวคนเล็กเอาไว้แน่น
"ท่านแม่ก็ดีแต่เข้าข้างน้อง ข้าเกลียดท่านแม่ เกลียดที่สุด!" ซ่งอี้หนานส่งสายตามองมารดาด้วยความผิดหวัง เขามักจะเป็นคนผิดในสายตาของนางเสมอ
"หนานหนาน" คนเป็นพ่อมองตามบุตรชายที่วิ่งจากไปด้วยความสงสาร แต่คนผิดก็ต้องว่าไปตามผิด เขาจึงเดินเข้าไปดึงมือเล็กของซ่งลี่หนิงออกมาและตีไปหนึ่งหน แค่เพียงเท่านั้นก็ทำให้เด็กน้อยร้องไห้จ้าแล้ว
"ท่านพี่!"
"ท่านแม่ ข้าเจ็บเจ้าค่ะ ฮืออ"
"หนิงหนิง พ่อไม่อยากตีเจ้า แต่ที่พ่อตีเจ้าก็เพราะเจ้าทำผิด เจ้าทั้งสองคนเป็นพี่น้องกัน ต้องรักใคร่ดูแลกันสิลูก" กล่าวจบเขาก็หมุนตัวหันหลังไปในทิศทางเดียวกับที่ซ่งอี้หนานวิ่งจากไป
"หนิงหนิงอย่าร้องไห้นะลูก" จูลี่จินปลอบประโลมบุตรสาว แต่ทำอย่างไรนางก็ไม่ยอมหยุดร้องไห้เสียที นางไม่รู้จะทำเช่นไรจึงหันไปถามหาพี่เลี้ยงของเด็กน้อยแทน
"ต่งเจว๋ไปไหนแล้ว เหตุใดถึงไม่มาดูแลหนิงหนิง"
"นางขอลาออกไปเมื่อตอนเช้าเจ้าค่ะฮูหยิน" บ่าวรับใช้คนหนึ่งตอบอย่างกล้าๆกลัวๆ
จูลี่จินถอนหายใจด้วยความหงุดหงิด ในยามปกติพี่เลี้ยงจะเป็นคนคอยรับมือกับบุตรสาวให้ทุกครั้ง แต่เป็นเช่นนี้แล้วนางต้องทำอย่างไรกัน หลังจากหย่านมแม่ ก็ได้เลี้ยงลูกแค่บางครั้งบางคราว ไม่รู้วิธีรับมือเลยสักนิด พลันก็เกิดความคิดบางอย่างขึ้นมาได้
"เอาอย่างนี้ดีหรือไม่ หากเจ้าหยุดร้อง แม่จะพาไปเดินเล่นที่ตลาด"
เมื่อได้ยินคนเป็นแม่เอ่ยเช่นนั้น คนที่กำลังแผดเสียงร้องไห้จ้าก็หยุดลงทันควัน อันที่จริงนางไม่ได้รู้สึกเจ็บอะไรมากหรอกแค่โกรธที่โดนท่านพ่อตีก็เท่านั้นเอง
"ไปเจ้าค่ะ ท่านแม่ซื้อขนมให้ข้ากินด้วยนะเจ้าคะ"
"ได้สิลูก" จูลี่จินส่งยิ้มให้นางพลางลอบถอนหายใจออกมาเบาๆ ด้วยความโล่งอก ก่อนจะหันไปสั่งให้บ่าวเตรียมรถม้า และกลับไปเปลี่ยนอาภรณ์เพื่อพาเจ้าตัวเล็กออกไปข้างนอกตามที่ตกลงไว้
รถม้าคันใหญ่ประจำตระกูลซ่งแล่นเข้ามาจอดในตลาด จูลี่จินจับจูงมือเล็กของบุตรสาวก้าวลงจากรถม้า มองบรรยากาศครึกครื้นของตลาดที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองหลวง มีร้านรวงต่างๆอยู่มากมาย อีกทั้งยังมีแผงขายสินค้าเล็กๆตั้งขนาบอยู่ตามสองข้างของทางเดิน
ทันทีที่เท้าเล็กที่สวมด้วยรองเท้าผ้าไหมเนื้อดีแตะลงไปที่พื้น ซ่งลี่หนิงก็ดึงมือออกจากการเกาะกุมของมารดาวิ่งตรงไปยังจุดหมายปลายทางของนางทันที
"หนิงหนิงอย่าวิ่งสิลูก" หญิงสาวร้องเรียกเจ้าตัวเล็กเสียงหลง และรีบสาวเท้าวิ่งตามไป ก่อนที่คนเป็นแม่จะใจหายวาบ เมื่อเห็นนางวิ่งชนเข้ากับใครคนหนึ่ง
ตุ้บ!
"โอ๊ย!" ร่างเล็กล้มลงไปกองกับพื้นทันที พลางเบะปากคล้ายทำท่าจะร้องไห้ด้วยความเจ็บ
"แม่หนู เป็นอะไรหรือไม่ ให้ตาช่วยนะ" เสียงแหบๆดังขึ้นจากชายชรา ก่อนที่เขาจะช่วยจับเด็กน้อยให้ลุกขึ้นยืน
"หนิงหนิง เป็นอะไรหรือเปล่าลูก" ทันทีที่วิ่งมาถึง จูลี่จินก็รีบดึงร่างเล็กออกห่างทันที พลางส่งสายมองชายชราที่แต่งกายมอมแมมตรงหน้าด้วยความไม่ไว้ใจ
"ข้าผิดเองที่เดินไม่ดูตาม้าตาเรือ ข้าขอโทษนะแม่หนู"
"ไม่เป็นไรเจ้าค่ะ ข้าไม่โกรธคนแก่หรอก" เสียงเจื้อยแจ้วตอบกลับ ยกมือเล็กๆโบกไปมา ชายชราได้ยินเช่นนั้นจึงส่งยิ้มให้นางบางๆ
"เจ้าเป็นเด็กดีจริงๆ รับนี่ไปเถิดแทนคำขอโทษจากข้า" เขาหยิบหนังสือเล่มหนึ่งออกมาจากย่ามสีหม่นยื่นส่งให้นาง จูลี่จินเหลือบตามองเห็นหน้าปกเขียนไว้ว่า ทวงคืนรักองค์รัชทายาท ปากบางเบ้เข้าหากันเล็กน้อย มันคงจะเป็นนิยายปรำปราไร้สาระกระมัง
ซ่งลี่หนิงยื่นมือเข้าไปหมายจะรับของ แต่กลับโดนคนเป็นแม่ขัดขึ้นมาเสียก่อน
"ท่านตาเก็บของท่านไว้เถอะ ไปกันเถอะลูก" กล่าวจบก็ดึงมือเล็กของบุตรสาวให้เดินตามไปทันที เมื่อเป็นเช่นนี้ ชายชราก็ไม่เซ้าซี้ เขาส่งสายตามองตามพลางส่งเสียงหัวเราะหึๆในลำคอ ก่อนจะเดินจากไปอีกทาง
*************************
จูลี่จินพาเจ้าก้อนแป้งซื้อขนมกินเล่นจนเต็มไม้เต็มมือ จนกระทั่งนางพอใจจึงได้พากลับจวน เมื่อส่งซ่งลี่หนิงเข้าหอนอนเรียบร้อยแล้ว นางก็เดินกลับมาที่หอนอนของตน เดิมทีห้องนี้เคยเป็นห้องหอของซ่งเหวยหนานและนาง แต่หลังจากที่นางคลอดบุตรสาวคนเล็ก เขาก็ไม่เคยย่างกรายมาหานางอีกเลย
"เฮ้ออ" หญิงสาวถอนหายใจออกมาเบาๆ ก่อนจะเดินตรงไปที่โต๊ะหนังสือ และได้เห็นว่าโต๊ะที่เคยสะอาดตาบัดนี้กลับมีหนังสือเล่มหนึ่งวางอยู่
'ทวงคืนรักองค์รัชทายาท....'
"นี่มันอะไรกัน" พึมพำเสียงเบาด้วยความประหลาดใจ นางจำได้ว่านี่คือหนังสือที่ชายชราผู้นั้นจะมอบให้ซ่งลี่หนิงไม่ใช่หรือ แต่นางปฏิเสธไปแล้วนี่ เหตุใดถึงมาวางอยู่ตรงนี้ได้ คิดด้วยความฉงนแต่กระนั้นก็หยิบหนังสือขึ้นมาเปิดออกอ่าน
แต่แล้วหลังจากอ่านไปได้สักพัก หัวคิ้วงามก็ได้ย่นเข้าหากัน เมื่อเห็นว่าทั้งชื่อของตัวละครและเรื่องราวในนิยายตรงกับชีวิตของนางและคนรอบกายอย่างไม่ผิดเพี้ยน
ตุ้บ!
มือบางโยนหนังสือออกห่างกายราวกับโดนของร้อน ดวงตาคู่งามกะพริบถี่ด้วยความสับสน แต่ความอยากรู้มีมากกว่าความหวาดกลัวจึงกลั้นใจหยิบมันขึ้นมาเปิดอ่านต่อ กระทั่งถึงหน้าที่เป็นเหตุการณ์เดียวกับที่ตนฝันเมื่อคืน
หยดน้ำตาไหลรินออกจากดวงตากลมอย่างไม่ขาดสาย ตอนจบของนิยายเรื่องนี้ทั้งซ่งเหวยหนานและจูป่ายซวี่ท่านพ่อของนางต่างพากันตรอมใจตาย เพราะเสียครอบครัวไป
แท้จริงแล้ว นางคือมารดาของตัวร้าย ทั้งบุตรสาวและบุตรชายต่างมีชะตาเป็นตัวร้ายในนิยาย และสุดท้ายก็ต้องพบจุดจบอย่างอเนจอนาจ
"นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน" มือบางยกขึ้นลูบใบหน้าของตนไปมา พลางคิดตามเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นในนิยาย ก่อนจะเบิกตากว้างเมื่อพบว่าฤดูสารทปีหน้านางจะต้องตายด้วยโทษฐานคบชู้!
มือบางกำเข้าหากันแน่น หลังจากที่นางตายจากไป ถังซือซือฮองเฮาก็จะขอซ่งอี้หนานไปเลี้ยงดูเป็นสหายขององค์รัชทายาท เหตุเพราะหมาวซ่าวกวงฮ่องเต้ไม่รับสนมนางใด ยกเว้นก็เพียงแต่จูจิ้งซู บุตรสาวของอดีตเสนาบดีสกุลจู สหายสนิทของฮ่องเต้องค์ก่อน ที่เขาต้องยอมรับนางเป็นสนมก็เป็นเพราะความต้องการของผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายที่ต้องการให้สองตระกูลเกี่ยวดองเป็นทองแผ่นเดียวกัน หากแต่หมาวซ่าวกวงฮ่องเต้นั้นยึดมั่นในรักกับถังฮองเฮาเพียงคนเดียวจึงไม่มีโอรสหรือธิดาองค์อื่นนอกจากองค์รัชทายาทเพียงองค์เดียว ในนิยายกล่าวว่า ซ่งเหวยหนานยินยอมแต่โดยดี เหตุเพราะความสัมพันธ์อันดีในอดีตของคนทั้งคู่ และเขาก็ยังไม่ลืมความรักที่มีให้นาง แต่ผู้ใดจะไปรู้ว่าหลังจากเข้าวังหลวงจะทำให้ซ่งอี้หนานได้พบกับจูกุ้ยเฟย หรือจูจิ้งซู น้องสาวต่างมารดาของนาง หรือมีศักดิ์เป็นน้าของเขา
หลังจากซ่งอี้หนานเติบโตขึ้นก็ได้ร่วมมือกับจูจิ้งซูวางแผนกำจัดองค์รัชทายาทเพื่อแย่งชิงบัลลังก์มังกร แต่ผู้ใดจะไปรู้ว่าจูจิ้งซูที่ร่วมมือกับเฉิงอ๋องจะถูกเขาหักหลัง โยนความผิดทั้งหมดมาให้นาง และหันไปคว้าซ่งลี่หนิงมาเป็นพวก วางแผนตลบหลังพี่ชายของนางอีกหน ในขณะที่ซ่งอี้หนานก็ไม่ไว้ใจน้องสาว เพราะเกรงว่าจะถูกเปิดโปงความชั่วช้าจึงได้สั่งให้คนมาสังหารปลิดชีพของซ่งลี่หนิงเช่นกัน แต่คนชั่วก็ไม่อาจหนีรอดไปได้ ในที่สุดองค์รัชทายาทที่เป็นพระเอกในนิยายก็ได้หลักฐานมัดตัวผู้ที่กระทำผิดและตัดสินโทษประหารชีวิต
จูลี่จินทรุดกายลงนั่งอย่างหมดแรง ลูกๆของนางมีจุดจบที่น่าอนาจก็ว่าน่าสงสารแล้ว แต่การที่นางได้อ่านนิยายเรื่องนี้ทำให้นางได้รู้และเข้าใจถึงความรู้สึกข้างในใจของเจ้าก้อนแป้งมากขึ้น โดยเฉพาะซ่งอี้หนาน เขาทั้งน้อยใจ เสียใจและที่สำคัญเขาเกลียดนาง เกลียดที่คิดว่านางรักน้องสาวมากกว่า และเกลียดที่นางคบชู้จนโดนลงโทษจนตายจากเขาไป
"แม่ขอโทษลูก แม่ขอโทษ" ดวงตากวางบัดนี้คลอหน่วยไปด้วยหยาดน้ำตาสุดเศร้าหมอง สองข้างแก้มอาบไปด้วยรอยหยดน้ำใส ไม่นึกเลยว่าตนเองจะละเลยบุตรชายมากถึงเพียงนี้เชียวหรือ
ไม่อาจปฏิเสธได้ว่าการที่ลูกๆทั้งสองเติบโตขึ้นและมีนิสัยร้ายกาจนั้นเกิดจากการเลี้ยงดูลูกแบบผิดๆของนาง
เสียงสะอื้นหลายต่อหลายครั้งที่ดังแว่วมาจากในห้องทำให้คนที่กำลังจะผลักประตูเปิดออกหยุดชะงักไป หัวคิ้วดาบขมวดเข้าหากันด้วยความฉงน ครุ่นคิดด้วยความสงสัยว่านางร้องไห้เพราะเหตุใดกัน ซ่งเหวยหนานถอนลมหายใจออกมาเล็กน้อย มองหนังสือหย่าในมือแวบหนึ่ง ก่อนจะตัดสินใจหมุนกายหันหลังเดินจากไป