3
เชิดมีสีหน้าหงุดหงิดใจที่ไม่ได้จัดการแสนให้เลือดกบปาก
“พี่แสนอยากจะเหมาไปทำบุญเราก็ร่วมอนุโมทนากับเขาด้วยดีกว่าจ้ะ” เธอเอ่ยออกไปด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลเพราะไม่อยากให้เชิดมีปัญหากับแสน ครั้งก่อนก็มีปัญหามาครั้งหนึ่งแล้ว
“น้องหยีขอเอาไว้เหรอกนะ ไม่อย่างนั้นฉันไม่ปล่อยให้แกปากดีแบบนี้แน่ ๆ” เชิดชี้หน้าแสนอย่างเอาเรื่อง
เชิดค่อนข้างเป็นนักเลงอันธพาน แต่ก็ไม่ได้ทำอะไรยาหยีเพราะตามจีบหล่อนอยู่ แต่แสนก็ไม่ไว้ใจเพราะว่าเชิดไม่น่าไว้วางใจตั้งแต่ต้น
อาชีพที่เชิดทำก็ไม่ค่อยสุจริต มันอาจจะรักยาหยีจริง ซื้อของซื้อโน่นซื้อนี่มาให้ แต่ก็เป็นเงินสกปรกที่มันทำผิดกฎหมาย แต่ถ้าวันไหนมันเกิดไม่พอใจขึ้นมา เขากลัวยาหยีจะมีอันตราย
เชิดรอดคุกรอดตารางมาได้เพราะมีคนหนุนหลังและเอาตัวรอดเก่ง แต่คิดว่าไม่นานกรรมจะต้องตามสนองคนชั่ว ๆ แบบเชิดแน่นอน
ยาหยีรีบจัดการนำเผือกมันที่เธอวางขายใส่ถุงให้กับแสน แสนจึงเอ่ยขึ้นเพราะเหมือนนึกอะไรขึ้นมาได้
“พอดีว่าพี่อยากได้มะพร้าวน้ำหอมที่หยีปลูกเอาไว้สักหน่อย จะนำไปทำขนม หยีพาพี่ไปเอาที่สวนได้ไหมครับ” เชิดได้ยินแบบนั้นก็หูผึ่งในทันที
“อะไรวะ ซื้อเผือกซื้อมัน ยังจะใช้ให้น้องหยีไปเอามะพร้าวน้ำหอมให้มึงอีกเเหรอ” เชิดเริ่มโมโหมากกว่าเดิม
“ก็ยาหยีขายมะพร้าวน้ำหอม ฉันจะซื้อมันผิดตรงไหน” แสนเอ่ยถาม
“กูไม่ให้ไป มึงจะมาใช้หยีไม่ได้ ผู้หญิงคนนี้กูจองแล้ว หมาตัวไหนก็ห้ามยุ่ง กูไม่ยอมเด็ดขาด” เชิดพูดอย่างหวงก้างถลกแขนเสื้อขึ้นด้วยท่าทีหัวหมอไม่น้อย
“ไม่ยอมแล้วแกจะทำอะไรฉันอย่างนั้นเหรอ” แสนเอยถาม เขาก็ไม่ใช่จะให้ใครมาทำอะไรได้ง่ายๆ เหมือนกัน
แสนคิดว่าตัวเองเข้าตามตอกออกตามประตู ไม่เคยทำเรื่องอะไรเสียหาย จะซื้อมะพร้าวน้ำหอมของยาหยีก็พูดออกไปตรงๆ เพราะเธอปลูกมะพร้าวน้ำหอมเอาไว้ขายอยู่แล้ว
“สวนของมึงก็มีมะพร้าวน้ำหอมเยอะแยะ ทำไมมึงไม่ไปตัดในสวนของมึงวะ” เชิดเอ่ยถามอย่างไม่สบอารมณ์เป็นอันมาก
“ที่สวนของฉันจะมีหรือไม่มี จะออกลูกไม่ออกลูก ฉันจะซื้อหรือไม่ซื้อ มันหนักหัวกบาลใครไม่ทราบ” แสนเอ่ยถาม เขาไม่จำเป็นต้องกลัวอันธพานอย่างเชิด
“อย่างนั้นเหรอ” เชิดพูดได้แค่นั้น ก่อนจะตรงเข้าต่อยแสนเต็มแรง แต่แสนหลบทัน เขาสวนหมัดออกไป และไม่นานก็เกิดเหตุตะลุมบอนขึ้นมาไอ้เข้มถูกอัดและกระทืบจนจมดิน วันนี้แสนไม่ได้พาลูกน้องมาเยอะ จึงดูเหมือนจะถูกรุม เข้มเห็นกำนันสิงห์ จึงรีบวิ่งเข้าไปหาในทันที
“เกิดอะไรขึ้น พวกเอ็งทะเลาะกันทำไม” กำนันสิงห์ตวาดลั่นเมื่อเข้ม ลูกน้องคนสนิทของลูกชายวิ่งหน้าตาตื่นมาแจ้งว่าตอนนี้แสนกำลังมีเรื่องกับเชิดอยู่
“ลูกชายของกำนันน่ะสิมาหาเรื่องพวกเราก่อน” เชิดโกหกคำโต
“ไม่จริงนะครับพ่อกำนัน ผมเป็นพยานได้ ไอ้เชิดมันต่อยคุณแสนก่อน คุณแสนเลยสวนหมัดกลับไป เพื่อปกป้องตัวเท่านั้น”
“มึงเป็นลูกน้องของมัน มึงก็ต้องเข้าข้างมันน่ะสิวะ” เชิดหันไปตวาดเข้มเสียงดัง
“ทุกคนเป็นพยานได้ ว่าฉันไม่ได้เข้าข้างคุณแสน ไม่เชื่อก็ถามยาหยีดูสิ” เข้มหันไปหายาหยี
ยาหยีจึงบอกความจริงกับกำนันไป นั่นทำให้เชิดเจ็บใจเป็นอันมาก
“ฝากไว้ก่อนเถอะมึง มึงถือว่ามึงเป็นลูกกำนันอวดร่ำอวดรวย มีปัญหาอะไรกับใคร พ่อมึงก็เข้าข้าง แต่กูไม่ยอมแพ้แค่นี้เหรอกว่ะ” เชิดพูดอย่างอาฆาตแค้น ไม่สำนึกว่าตัวเองว่าใครเป็นคนเริ่มก่อน
“พี่แสนเป็นยังไงบ้างจ๊ะ” ยาหยีเอ่ยถาม รู้สึกไม่สบายใจที่เห็นว่าเขามีร่องรอยบาดเจ็บเต็มไปหมด ในขณะที่เชิดเดินถอยไปแล้ว
“พี่ไม่เป็นอะไรหรอก แต่หยีระวังตัวเอาไว้นะ” แสนเอ่ยเตือนหญิงสาวตรงหน้า เมื่อกี้เขาเห็นสายตาที่ไม่น่าไว้วางใจของเชิด นั่นทำให้เขาเป็นกังวลและเป็นห่วงเธอเหลือเกิน
“พี่เชิดไม่ทำอะไรหยีหรอกจ้ะ” เธอมั่นใจว่าเชิดไม่ทำอะไรเธออย่างแน่นอน เพราะสายตาที่เขามองเธอนั้นมันเต็มไปด้วยความจริงใจ แม้ว่าเขาจะทำตัวเป็นนักเลงหัวไม้กับคนอื่นก็ตามที แต่กระนั้นเธอก็ไม่ได้คิดอะไรกับเชิดจนเกินเลยกว่าคำว่าคนรู้จักทั่วไปเท่านั้น และเธอก็ไม่เคยให้ความหวังเชิดด้วย
“แต่ยังไงก็ต้องระวังตัวเอาไว้นะ พี่เป็นห่วงหยีมากนะ” เขาสำทับ
“หยีขอบใจพี่มากจ้ะ ที่พี่เป็นห่วงหยีเสมอมา ให้หยีทำแผลให้พี่นะจ๊ะ” เธอรีบอาสา
แสนไม่ได้ปฏิเสธหญิงสาวเขาให้เธอทำแผลให้ตามขอ ซึ่งเขาก็ชวนเธอไปที่กระท่อมในสวนแทน ถ้าเธอพาเขากลับไปที่บ้าน มารดาของเธอก็คงไม่ชอบใจนัก แต่ถ้าเขาจะพาเธอไปที่บ้านก็มีคนเยอะ อึกทึกครึกโครมไปหมด จึงไม่ค่อยเป็นส่วนตัวนัก
หญิงสาวทำแผลให้แสนอย่างอ่อนโยน เขาจับมือมองของเธอเอาไว้ มองเธอตาหวาน
“อย่าจ้ะพี่แสน”
“หยีก็รู้ว่า พี่คิดยังไงกับหยี” แสนจับมือของเธอมาจุมพิตเบาๆ มองเธอด้วยสายตาลึกซึ้ง
“หยีรู้จ้ะ แต่พี่ก็รู้ว่าครอบครัวของหยีเป็นยังไง แม่ของหยีเป็นยังไง”
“พี่เองก็ต้องการพิสูจน์ตัวเองให้แม่ของหยีรู้ว่าพี่จริงใจกับหยีจริงๆ”
“หยีก็อยากให้พี่เอาชนะใจแม่ให้ได้จ้ะ”