บทที่ 4 ย่อมมีคนมาจัดการพวกเขา
ฉากนี้ทำให้จอมมารหญิงประหลาดใจมากจนแทบจะอ้าปากค้าง!
โอ้พระเจ้า!
ผู้หญิงคนนี้เป็นใครกันแน่ ยั่วยุท่านเทพฮาเดส นอกจากจะไม่โดนสังหารแล้ว กลับสามารถทำให้ท่านเทพฮาเดสก้มหัวขอโทษได้!
ในความคิดของจอมมารหญิง ช่วงเวลานี้น่าจะเป็นจุดสูงสุดของชีวิตของหลินซีแล้ว หากเรื่องนี้แพร่สะพัดออกไป หลินซีก็จะกลายเป็นคนดังที่น่าจับตามองที่สุดในโลกในชั่วพริบตา...
“แค่พูดขอโทษก็จบแล้วเหรอ?”
นั่นเป็นครั้งแรกของหลินซี เธอก็มอบมันให้กับชายแปลกหน้าด้วยความสับสนมึนงง แค่ขอโทษประโยคเดียวก็ไม่อาจจะทำให้เรื่องนั้นผ่านพ้นไปได้หรอก
จอมมารหญิงเดือดดาล ผู้หญิงคนนี้ได้คืบจะเอาศอกเกินไปแล้วนะ ให้ท่านเทพฮาเดสก้มหัวขอโทษก็ยังรังเกียจว่าไม่พอ หาเรื่องตายชัด ๆ !
“แล้วเธอจะเอายังไง” เย่ฮวนขมวดคิ้ว
หลินซีจมอยู่ในความคิด จู่ ๆ ก็เกิดความคิดขึ้นมาอย่างเฉียบไว
“นายจะต้องแต่งงานกับฉัน!”
เย่ฮวนสีหน้าเต็มไปด้วยความสับสนงุนงง
ผู้หญิงคนนี้สมองมีปัญหาหรือเปล่าเนี่ย
กลุ่มคนที่มามุงดูก็ตกตะลึงจนตาค้าง ไม่มีใครคิดว่าหลินซีจะร้องขอเช่นนี้
นี่คือการลงโทษเหรอ?
นี่มันเป็นรางวัลชัดๆ!
“พรวด!”
“ดูแล้วครั้งนั้นผมทำให้เธอฟินสินะ ถึงได้ทำให้เธอไม่เคยลืมเรื่องนี้ตลอดห้าปี!”
เย่ฮวนเดาะลิ้นแล้วพูด ท่าทางรู้สึกถึงความสำเร็จอย่างไรอย่างนั้น
ดวงตาของจอมมารหญิงทอประกาย เทพฮาเดสร้ายกาจขนาดนั้นเลยเหรอ
“ไอ้คนชั้นต่ำอย่างนายกำลังคิดอะไรอยู่”
ประโยคของเย่ฮวนทำเอาหลินซีโกรธจนเธอฮอร์โมนในร่างกายเกือบจะทำงานผิดปกติ เธอหายใจเข้าลึก ๆ แล้วอธิบาย
“ต่อให้ฉันแต่งงานกับหมู ก็ไม่มีทางแต่งให้กับคนชั่วช้า เฮงซวย หื่นกามอย่างนายหรอก ฉันหมายถึงแต่งงานตามข้อตกลงต่างหากล่ะ”
“การแต่งงานตามข้อตกลงคืออะไร?”
“ตามฉันมา ฉันจะอธิบายให้ฟังระหว่างทาง!”
หลินซีหันหลังกลับและเดินไปที่รถของตัวเองอย่างรวดเร็ว
เย่ฮวนรีบเดินตามติด
จอมมารหญิงร้อนใจขึ้นมา หากเทพฮาเดสแต่งงานกับผู้หญิงคนนี้ เธอก็คงจะโดนละเลยสินะ
เธอรีบตามติดทันที แต่เย่ฮวนกลับใช้สายตาหยุดเธอเอาไว้เสียก่อน!
แสงเย็นยะเยือกปรากฏขึ้นในดวงตาของจอมมารหญิงแวบหนึ่ง ในใจคิดสังหารอีกฝ่าย กล้ามาแย่งผู้ชายกับเธอจะต้องตาย!
ทว่า ตอนนั้นเอง จอมมารหญิงก็เห็นเย่ฮวนและหลินซีขึ้นรถไป หลังจากที่รถสตาร์ทและเคลื่อนตัวออกไป รถสี่คันที่อยู่รอบด้านก็สตาร์ทรถพร้อมกันและติดตามรถของหลินซีในทันที
“ดูท่าว่าคนที่อยากจะเอาชีวิตผู้หญิงคนนั้นก็มีไม่น้อยแฮะ!”
จอมมารหญิงยกยิ้มตรงมุมปากอย่างเย็นชา
ในความคิดของเธอ บอดี้การ์ดของหลินซีกำลังนอนกุมเป้าบนพื้น และส่งเสียงร้องด้วยความเจ็บปวด รถสี่คันนั้นที่ตามหลังรถของหลินซี ไม่ใช่บอดี้การ์ดของหลินซีอย่างแน่นอน
บนรถ!
เย่ฮวนเหลือบมองหน้าอกของหลินซีที่กำลังนั่งที่นั่งข้างคนขับ... คิดในใจว่า ต่อไปลูกของตนไม่มีทางหิวอย่างแน่นอน หากกินไม่ได้ คนที่เป็นพ่ออย่างเขาก็พอจะช่วยได้
เมื่อนึกถึงเรื่องนี้ เย่ฮวนก็เลียริมฝีปากแล้วเอ่ยถาม
“ตอนนี้บอกได้ไหมว่าการแต่งงานตามข้อตกลง คืออะไร”
หลินซีเหลือบมองเย่ฮวนด้วยความรังเกียจและพูดว่า
“การแต่งงานตามข้อตกลงคือการแต่งงานปลอม ๆ เราสองคนจะต้องลงนามในสัญญาก่อนสมรสร่วมกัน หลังจากแต่งงาน เราก็ทำตัวเป็นสามีภรรยาที่รักกันต่อหน้าคนนอก แต่ในความจริง พวกเราต่างฝ่ายต่างใช้ชีวิตของใครของมัน ไม่เข้าไปแทรกแซงชีวิตของอีกฝ่าย”
เย่ฮวนได้ยินดังนั้นก็รู้สึกผิดหวังมาก เขาคิดว่าหลินซีคิดถึงความฮึกเหิมของเขาเสียอีก ที่แท้ก็ไม่ใช่!
แต่การแต่งงานตามข้อตกลงนี้กลับน่าสนใจมาก!
เพื่อตอบแทนบุญคุณ เขาจึงยอมรับปากหลินไท่แต่งเข้าตระกูลหลิน รับหลินซีเป็นภรรยา เขายังคิดว่าเขาจะต้องติดอยู่ในกรงการแต่งงานที่ไร้ความรู้สึกตลอดครึ่งชีวิตหลัง
ไม่คิดว่าหลินซีจะให้ข้อเสนอแนะที่ดีขนาดนี้!
“นายเห็นด้วยไหม” หลินซีถาม
“เห็นด้วย!” เย่ฮวนรีบตกปากรับคำอย่างรวดเร็ว
หลินซียกมุมปากขึ้นเล็กน้อย เผยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ที่แผนร้ายประสบผลสำเร็จ เธอชี้ทางให้เย่ฮวนไปพลาง และใช้มือถือร่างสัญญาก่อนสมรสไปพลาง
จังหวะนั้นเอง เย่ฮวนมองกระจกมองหลังแล้วถาม
“รถสี่คันที่อยู่ข้างหลังคือบอดี้การ์ดของเธอใช่ไหม”
“บอดี้การ์ดเหรอ บอดี้การ์ดของฉันถูกนายจัดการจนล้มไปแล้วนี่นา!”
หลินซีมองกระจกมองหลังด้วยความสงสัย แล้วก็เห็นรถสี่คันตามหลังมาในระยะไม่ใกล้ไม่ไกลเกินไปจริง ๆ สีหน้าของเธอจึงเปลี่ยนไปทันที ก่อนจะเอ่ยเร่ง
“เร็วเข้า เพิ่มความเร็ว อย่าให้พวกมันตามทัน!”
ทันทีที่พูดจบ รถสามคันในสี่คันที่ตามหลังมาก็เร่งความเร็วขึ้นกะทันหัน คันหนึ่งวิ่งไปหน้ารถของหลินซี สองคันแยกไปทางซ้ายและขวาของรถของหลินซี ส่วนรถคันที่สี่ยังคงอยู่ข้างหลัง!
เช่นนี้ รถของหลินซีจึงถูกรายล้อมด้วยรถสี่คัน!
“ตอนนี้ผมอยากจะเพิ่มความเร็วก็ทำไม่ได้แล้ว!”
เย่ฮวนยักไหล่ ในขณะเดียวกัน เขาก็เข้าใจแล้วว่า จู่ ๆ ที่หลินไท่ให้เขารักษาสัญญาด้วยการแต่งเข้าตระกูลหลิน และรับหลินซีเป็นภรรยาของเขานั้น มีความหมายที่ลึกซึ้งแอบแฝงอยู่!
หลินซีโกรธจัด “ทั้งหมดเป็นเพราะนาย หากนายไม่จัดการล้มบอดี้การ์ดของฉัน พวกมันก็ไม่กล้าจะลงมือกับฉันด้วยซ้ำ”
“พวกเขาเป็นใคร” เย่ฮวนถาม
หลินซีไม่ตอบ เธอรีบเปิดสมุดโทรศัพท์อย่างใจเย็น คิดจะโทรศัพท์ขอความช่วยเหลือ
ทว่า ก่อนที่เธอจะกดโทรออกไป รถคันข้างหน้าก็เบรกกะทันหัน บังคับให้เย่ฮวนได้แต่เบรกรถหยุด
แล้วรถสามคันทั้งซ้าย ขวา และด้านหลังก็หยุด!
มีสิบสองคนลงมาจากรถ มือทุกคนถือมีดปังตอ
“ลงจากรถ!”
ชายทั้งสองถือมีดปังตอมาแตะกระจก แล้วตะโกนเรียก
“อย่าลงจากรถ!”
หลินซีสั่งอย่างใจเย็นมาก
ทันใดนั้น เย่ฮวนก็พบว่า หลินซีที่มีนิสัยเสียราวกับมนุษย์ป้า กลับเผชิญหน้ากับอันตรายอย่างนิ่งสงบมาก
ดูทว่าว่าผู้หญิงคนนี้จะไม่ธรรมดา!
“เธอรออยู่ในรถ ฉันจะจัดการกับพวกเขา!” เย่ฮวนพูด
“ไม่อนุญาตให้ลงจากรถ!”
หลินซีเอ่ยสั่งโดยไม่อนุญาตให้สงสัย
“วรยุทธ์แมวสามของนักเลงอย่างนาย พอจะรับมือบอดี้การ์ดที่มือเปล่าได้ แต่คนเหล่านี้มีมีดทั้งนั้น และพวกเขาล้วนเป็นแก๊งอันธพาลที่เหี้ยมโหด ต่อให้นายชนะพวกนาย นายก็จะโดนฟันจนเกือบตาย!”
ถึงเธอจะเกลียดเย่ฮวน และอยากให้เย่ฮวนไปตายเสียด้วยซ้ำ
แต่เธออนุญาตให้เย่ฮวนตายในน้ำมือของเธอเท่านั้น
และอีกอย่าง หากเย่ฮวนตายหรือได้รับบาดเจ็บจากเงื้อมมือของแก๊งอันธพาล 'แผนการแต่งงานตามข้อตกลง' ของเธอก็จะไม่สามารถดำเนินการได้!
“สวะเหล่านั้นทำอะไรผมไม่ได้หรอก!”
เย่ฮวนยิ้มอย่างเหยียดหยาม เปิดประตูแล้วลงจากรถ
"นาย……"
เมื่อเห็นว่าเย่ฮวนลงจากรถจริง ๆ หลินซีก็โกรธจัดจนแอบด่าว่าเขาเป็นผู้ชายไร้สมอง แต่เธอก็ไม่ได้ลงจากรถไปด้วย
เธอรู้ดีว่า เธอลงจากรถไปนอกจากจะช่วยเย่ฮวนอะไรไม่ได้แล้ว กลับทำให้เย่ฮวนเดือดร้อนไปด้วย ไม่สู้อยู่บนรถจะดีกว่า
เธอหันกลับมาหยิบมือถือ แล้วกดเบอร์ 110
“ผมไม่สนใจว่าพวกนายเป็นใคร หรือใครส่งมา รีบถอยไปซะ ไม่งั้นอย่าได้หาว่าผมไม่เกรงใจล่ะ!”
หลังจากที่เย่ฮวนลงจากรถ เขาก็มองหนึ่งในนั้นที่มีรอยแผลเป็นบนหน้าแล้วพูด
เขาไม่สนใจที่จะจัดการกับขยะเหล่านี้ ดังนั้นหากไม่ลงไม้ลงมือได้ก็จะดีกว่า
เมื่อหลินซีได้ยินคำพูดของเย่ฮวน เธอก็กลอกตามองบน ในใจคิดว่าเจ้าหมอนี่เห็นได้ชัดว่ารู้จักแต่ใช้วิธีสกปรกต่ำช้าที่พวกนักเลงใช้กัน จู่ ๆ ก็ทำเป็นอวดเก่ง รนหาที่ตายชัด ๆ
“ไอ้หนู คนที่พวกเราตามหาคือหลินซี ไม่เกี่ยวอะไรกับเอ็ง แนะนำว่าอย่าได้ยุ่งเรื่องของชาวบ้านหาเรื่องเดือดร้อนใส่ตัวจะดีกว่า ”
คนที่หน้ามีรอยแผลเป็นคนนั้นเอียงศีรษะ พาดมีดปังตอบนไหล่ พูดอย่างเกียจคร้าน
“แต่ก็ต้องขอบคุณเอ็ง หากเอ็งไม่ล้มบอดี้การ์ดสิบห้าคนของหลินซี พวกเราก็คงจะต้องเสียเวลาในการจับเธอมากกว่านี้”
“ในเมื่อพวกนายเห็นผมล้มบอดี้การ์ดทั้งสิบห้าคนนั่นแล้ว ก็น่าจะรู้ว่าพวกนายไม่ใช่คู่ต่อสู้ของผม รีบถอยทางไปซะ!” เย่ฮวนพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา
ชายหน้ารอยแผลเป็นขมวดคิ้ว "เอ็งหมายความว่า จะมายุ่งกับเรื่องนี้รึไงกัน?"
ทันทีที่ประโยคนี้หลุดออกมา เด็กหนุ่มอีกสิบเอ็ดคนที่ถือมีดปังตอก็รีบเข้ามาโอบล้อมเขาอย่างรวดเร็ว สีหน้าดุร้าย สายตาเฉียบคมจ้องมองเย่ฮวน ตั้งท่าเหมือนกับว่าหากเย่ฮวนขัดขวางไม่ให้พวกเขาจับหลินซี พวกเขาก็จะฟันเย่ฮวน
พวกเขาได้เห็นการชกต่อยระหว่างเย่ฮวนกับบอดี้การ์ดสิบห้าคน จึงรู้ว่าเย่ฮวนมีวรยุทธ์ติดตัว แม้พวกเขาจะไม่ได้มืออาชีพเท่าบอดี้การ์ดในการต่อสู้แต่ พวกเขามีมีด และวิธีการต่อสู้ของพวกเขาดุร้ายกว่าเย่ฮวน!
“ไอ้เจ้าสุนัขรนหาที่ตาย!”
เย่ฮวนคร้านเกินกว่าจะพูดไร้สาระอีก ทันได้นั้นเขาก็เตะไอ้หน้ารอยแผลเป็นคนนั้นกระเด็นออกไป ก่อนจะเข้าจู่โจมใส่เด็กหนุ่มที่ถือมีดอีกสิบเอ็ดคนที่เหลือ
เด็กหนุ่มที่ถือมีดทั้งสิบเอ็ดคนพากันตกตะลึงเพราะเย่ฮวนเตะชายหน้ารอยแผลเป็นลอยไปไกลมากกว่าห้าเมตร โดนเย่ฮวนจัดการโดยไม่ทันได้ระวังตัว
รอกระทั่งพวกเขารู้สึกตัว ก็ล้มลงกองบนพื้นไปแล้ว
“ไอ้นี่มันร้ายกาจขนาดนี้เลยเหรอ?”
หลินซีที่เพิ่งโทรแจ้งตำรวจอยู่ในรถ มองเย่ฮวนที่อยู่นอกรถอย่างตกตะลึง ถึงจะตระหนักว่าในความเป็นจริงเย่ฮวนเป็นยอดฝีมือ ก่อนหน้าที่ชกต่อยกับบอดี้การ์ดก็แค่เป็นการล้อเล่นเท่านั้น
"ขอบคุณ!"
เห็นเย่ฮวนขยับรถที่ขวางหน้าออกไป เมื่อขึ้นรถ หลินซีก็เอ่ยขอบคุณ
ถ้าไม่ใช่เย่ฮวน วันนี้เธอคงจะโดนอีกฝ่ายจับตัวไปแล้วอย่างแน่นอน
แม้ก่อนหน้านี้เธอจะเคยบ่นว่าเย่ฮวนทำให้เธอตกอยู่ในอันตราย แต่ในความเป็นจริง เธอรู้ดีว่า ถึงบอดี้การ์ดทั้งสิบห้าคนจะอยู่ด้วย แต่พวกเขาก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของแก๊งอันธพาลที่ถือมีดทั้งสิบสองคน เพราะคนเหล่านั้นเป็นเพียงเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของบริษัทเท่านั้น!
“อย่าเพิ่งขับรถไป ฉันเพิ่งโทรแจ้งตำรวจ รอตำรวจมาถึงก่อนแล้วค่อยไป ถือโอกาสให้ตำรวจจัดการเก็บกวาดนักเลงพวกนี้ไปในตัวด้วย”
พอหลินซีเห็นเย่ฮวนกำลังจะขับรถออกไป ก็รีบหยุดเขาไว้
“ถึงพวกเราจะไปแล้ว ก็จะมีคนมาจัดการพวกเขาแน่นอน!”