บทที่ 3
“แกบ้าจี้ ตามมันมาทำไมน่ะ ยัยซัน”
กิ่งพะยอมถอนใจเฮือก แล้วหันมาซุบซิบกับสุนิษา เมื่อเหยียบย่างเข้าสู่หมู่เกาะพะงัน เกาะที่เลื่องชื่อของเมืองไทย เป็นที่รู้จักทั้งด้านทะเลที่สวยงาม ดำน้ำดูปะการัง แล้วที่เป็นเชิดหน้าชูตาที่สุด ก็หนีไม่พ้นเรื่องงานฟูลมูนปาร์ตี้
สามสาวลางานมา และมาพักที่เกาะนี้เป็นเวลาหนึ่งอาทิตย์ จริงๆ แล้วกิ่งพะยอมเกือบไม่ได้มา แต่อภิญาดาก็ไปกล่อมป๊าของเธอเสียจนได้มา เอาข้ออ้างเรื่องการต้องมาสะเดาะเคราะห์นั่นล่ะ กล่อมป๊ากับม้าของเธอ ท่านเชื่อกันสนิท ขณะที่กิ่งพะยอมได้แต่อ้าปากค้างทำตาปริบๆ ฟังเพื่อนรักตอแหลให้ป๊ากับม้าฟังเป็นฉากๆ
จะไม่มาเพื่อนก็โกรธ จะไม่ตามมาก็กลัวว่าอภิญาดาจะไปขาดๆ เกินๆ จนเกิดเหตุ เธอดูข้อมูลงานปาร์ตี้อะไรนี่แล้วก็ลงความเห็นว่าน่ากลัว ผิดศีลกันเหลือเกิน มีทั้งเหล้าทั้งยา จับกลุ่มมั่วกันไม่อายฟ้าอายดิน ยัยแตงโมดันอยากจะมา ห้ามไม่ได้แน่ล่ะ ก็มาด้วยละกันจะได้มาช่วยดูช่วยดึงได้บ้าง เธอจึงช่วยหา ช่วยเลือกปาร์ตี้ที่ดูน่าจะปลอดภัยที่สุดไปนำเสนอเพื่อนของเธอ ที่รู้ก็เพราะสหายธรมท่านหนึ่งแนะนำมา (หืม?) ว่าเป็นปาร์ตี้ปลอดภัย ไร้ยาเสพติด การ์ดแน่นหนา ตรวจสอบแขกได้ทุกคน เธอตกใจนิดๆ ที่คุณหญิงรู้ดีขนาดนี้ ท่านอ้อมๆ แอ้มๆ ตอบเธอมาเขินๆ ว่าท่านไปได้สามีใหม่ก็จากปาร์ตี้นี่นั่นล่ะ
เฮ้อ...
ยัยแตงโมก็จริงจังเหลือเกินแหะ ไอ้เรื่องมีผัวนี่ เธอเองหมอดูบอก ก็ยังรู้สึกแปลกๆ เอาตรงๆ ไม่ค่อยอยากจะมีด้วยซ้ำ เธอรักชีวิตอิสระแบบนี้ อาจจะเพราะหลังๆ ไปศึกษาธรรมะมาก เลยเริ่มปลงกับหลายสิ่งก็เป็นได้
อยู่คนเดียวดีจะตายไม่มีห่วง มีภาระ มีทุกข์
นี่คือความคิดของกิ่งพะยอม สาวผู้ที่หมอดูทำนายว่าจะได้เนื้อคู่ก่อนคนอื่น แถมด้วยอภิญาดาก็เหมือนหนุนส่ง เพราะพาเธอมายังแหล่งที่เต็มไปด้วยบุรุษในคำทำนายเสียด้วย ก็ที่นี่มีแต่ชาวต่างชาตินักท่องเที่ยวเสียเป็นส่วนมาก มากกว่าคนไทยเสียด้วยซ้ำ
ส่วนสุนิษานั้น ก็คิดเหมือนกันกับกิ่งพะยอมคือมาดูแลเพื่อน แล้วอีกอย่างหนึ่งพักร้อนก็เหลืออย่างที่บอก ต้องใช้ให้คุ้มเพราะที่บริษัทไม่มีพักร้อนสะสม เธออยากเที่ยวผ่อนคลายบ้าง แล้วก็...แอบลุ้นกับคำทำนายของแม่หมอล่ะ ที่บอกว่าเธอน่ะ ก็จะได้เนื้อคู่ใกล้ๆ กันกับกิ่งพะยอม อิอิ
ที่นี่ละลานตาด้วยผู้ชายสายฝอ สายที่เธอปรารถนา สเปคเธอและอภิญาดาเสียด้วย จะพลาดได้ยังไงเล่า
เธอก็อยากจะสัมผัสกับคำว่าเสร็จเหมือนอภิญาดาเหมือนกัน
วุ้ย! ชักจะทะลึ่งอะเรา คิดอะไรบ้าบอเหมือนยัยเพี้ยนประจำกลุ่มไปเสียได้
ก็เครียดมากไปนั่นล่ะ
เฮ้อ...
ผู้ชายมันก็ละลานตานะ ไอ้งานที่ว่านี่ ปาร์ตี้ฟูลมูนอะไรนั่น ปล่อยยัยแตงโมมาคนเดียวไม่ดีหรอก เธอควรมาด้วยนั่นล่ะ ดีที่สุด
“แหม...ก็...ถ้าปล่อยมันมาคนเดียว มันก็ได้คนเดียวน่ะสิ เรื่องอะไรฉันจะปล่อยให้ยัยแตงโมมาได้สามีคนเดียวล่ะยะ ฉันก็อยากได้มั่งอะ ฉันไม่เคยมางานแบบนี้ด้วย ท่าทางจะสนุก วันพักร้อนเหลือด้วย”
“แล้วทำไมจะต้องพาฉันมาด้วย”
กิ่งพะยอมยังคงค้อน ทริปธรรมะของหล่อนก็อดตามเคยเพราะเพื่อนตัวป่วนทั้งสองนี่ล่ะ คนจะไปสงบจิตสงบใจ ดันพาเธอมาทำอะไรที่แบบ...น่ะ ยิ่งก่อกิเลสแถมด้วยตัณหาพ่วงด้วยเต็มๆ ล่ะหนนี้
“เราเป็นเพื่อนกัน อะไรที่ควรจะได้ เราต้องได้พร้อมๆ กันเว้ย...ยัยกิ่ง”
“โอ๊ย แกนี่ พุทโธ ธัมโม...”
“ธัมมะชัยโย...”
สุนิษาเอ่ยแทรกหน้านิ่ง ขณะที่เพื่อนเธอกำลังยกมือไหว้ท่วมหัว พนมมือสวดสงบสติไปด้วย
“ธัมมะ...”
เหมือนจะรู้ตัวว่าเกือบจะเผลอพูดอะไรออกไป ก็ถลึงตาใส่เพื่อนซี้ ที่กำลังกลั้นยิ้มจนแก้มตุ่ย
“ยัยบ้า บาปนะ คนกำลังสวดมนต์ใครให้มาขัดกัน”
“ทุกวันนี้ก็บาปนิดๆ ล่ะ บาปอีกหน่อยไม่เป็นไรหรอก”
“ยัยซัน!”
“นี่ฉันจองงานไว้แล้วสามที่ ไปเย็นนี้เลย”
อภิญาดาเดินออกมาจากห้องน้ำพร้อมกับสีหน้าเบิกบาน เอ่ยตะโกนแบบเสียงมาก่อนตัว ขัดจังหวะสองเพื่อนสาวที่กำลังหยอกแหย่กัน กิ่งพะยอมหน้างอ ส่วนสุนิษากอดอก พร้อมกับแสร้งทำหน้าขรึม
“จนได้นะยะ อะไรน่ะ ใจคอจะไม่พักสักนิดเหรอแก”
“ไม่อะ ทำไมจะต้องพัก เค้ามีจัดกันตั้งหลายที่ด้วย เราจะไปกันให้ทั่วเกาะเลย ไม่ได้ผัวไม่กลับ”
“โอ๊ย ถ้าขนาดนั้นฉันกลับก่อนนะ ปาร์ตี้ทุกวันไม่ไหว ไม่อยากผิดศีลทุกวันอ่า”
เพื่อนผู้สะอาดสะอ้านด้านศีลธรรมเคร่งครัดที่สุดในกลุ่มเอ่ย แต่สองสาวพากันสั่นหน้า แล้วหิ้วปีกกิ่งพะยอมให้เดินไปด้วยกันตรงไปยังรถเช่าที่จอดรอพวกเธออยู่แล้ว พร้อมกับเอ่ยพร้อมๆ กันว่า
“ไม่ได้! เพื่อนกันห้ามทิ้งกัน ไปไหนไปด้วยกันย่ะ”