บท
ตั้งค่า

บทที่ 2

วันนี้เป็นวันหยุดของสามสาว ที่พากันมาชุมนุมอยู่ที่ร้านของกิ่งพะยอม สาวหนึ่งเดียวที่ทำงานต่อจากที่บ้าน ที่เป็นร้านขายสังฆภัณฑ์ เธอเรียนมาทางการเงิน แต่ก็ไม่ได้ไปสมัครงานที่ไหนเพราะต้องรับกิจการต่อจากครอบครัวทันทีที่เรียนจบ เพราะญาติที่ช่วยทำอยู่ไปขยายกิจการต่อที่ต่างจังหวัด เธอจึงต้องมาช่วยงานบิดา ดูแลบัญชี ควบคุมคนงาน

สามสาวอยู่กันที่บริเวณชั้นสามของร้าน ที่เป็นพื้นที่พักผ่อนส่วนตัว วันนี้มีแขกคนสำคัญ ที่ถูกเชิญมา การมาของหล่อนเป็นที่ตื่นตะลึงของอภิญาดาและสุนิษา ส่วนกิ่งพะยอมนั้นถึงกับยกมือไหว้ท่วมหัว พร้อมกับท่องนะโมไปด้วย

หล่อนสวมชุดสีดำกรุยกรายยาวกรอมเท้า ดูลึกลับ เครื่องประดับเป็นหินสี มีตั้งแต่ศีรษะที่เป็นสร้อยคาดผมคาดผมยาวเกือบถึงสะโพกของหล่อนไว้ มันทำมาจากหินเป็นสีแดงเพลิง สร้อยคอระย้า ประดับแขนด้วยกำไล รวมถึงสร้อยข้อเท้า หล่อนเขียนขอบตาหนาสีดำเฉียงขึ้นเน้นให้นัยน์ตาคมกริบเหมือนตาแมว หล่อนแต่งหน้าสไตล์เดียวกับราชินีผู้ได้ชื่อว่าสวยงามและฉาวโฉ่ที่สุดในประวัติศาสตร์อย่างนางคลีโอพัตรา ซึ่งความสวยของและลึกลับของแขกพิเศษนี้ทำให้หล่อนดูขลังมาก

ยิ่งเข้มข้นความขลังเมื่อหล่อนล้วงเอาผ้าในย่ามของหล่อนออกมาปูที่พื้นพรม ไม่พูดพล่ามทำเพลงใดๆ ทรุดลงนั่งขัดสมาธิ หยิบเอาลูกแก้วลูกใหญ่ออกมา ก่อนจะหลับตาพริ้ม...

สามสาวมองตากัน

สิบนาทีผ่านไป...

เงียบ...

ยี่สิบนาทีผ่านไป กิ่งพะยอมก็สัปหงกเบาๆ...จนอภิญาดาต้องหยิกเพื่อน หล่อนยังคงมอง ‘หมอดู’ ของเพื่อนแบบไม่วางตา

“นี่หมอดูยิปซีของแก เค้าจะไม่ทักทายเราสักคำเหรอ”

อภิญาดาว่าเสียงกระซิบ ตอนนี้พวกหล่อนนั่งเบียดกันอยู่บนโซฟาตัวยาว มองจ้องไปยังหมอดูที่ยังคงนั่งสมาธิอยู่

“มันเป็นสไตล์ดูดวงที่ฉันไม่เคยเห็นมาก่อนเลยอะ” สุนิษาเสริม

“เอ่อ...”

“เอ้า...แม่หมอนั่งทำสมาธิเสริมบารมีจากพญานาคราชแล้วเรียบร้อย เชิญ...นั่งได้ อ้อ...แม่หนูชุดลายดอกน่ะ มาก่อนเลย เพราะออร่าบารมีดีมาก”

“พญานาคราช แล้วไหงแต่งตัวเป็นยิปซีหว่า”

สุนิษาซุบซิบ สาวชุดลายดอกที่แม่หมอกวักมือเรียกก่อน ก็คือกิ่งพะยอมนั่นเอง หล่อนค่อยๆ คลานแบบอ่อนน้อมเข้าไปไหว้แม่หมอ ซึ่งทางนั้นกระแอม เล่นเอาทั้งสามสาวสะดุ้ง

“ข้ารู้ ข้าเห็นนะ คิดอะไรจงให้เกียรติ อย่าคิดเชียวนะ”

“ชะอุ๋ย”

สองสาวอุทานพร้อมกัน เอามือปิดปาก แล้วทำตาโตมองหน้ากัน แม่หมอแสยะยิ้มนิดๆ ที่มุมปาก แล้วลืมตาขึ้น กิ่งพะยอมสะดุ้งเฮือก ทำตาปริบๆ มองแม่หมอตาแป๋ว

“หนูน่ะ เกิดวันอังคาร เดือนหก ปีฉลูใช่ไหม?”

“รู้ได้ยังไง อร๊าย! แม่นจริงๆ สุดยอด”

คนอุทานคืออภิญาดา สุนิษาเองก็ตื่นตะลึง กิ่งพะยอมหันมามองอาการของเพื่อน แล้วตอบเสียงเบา

“รู้สิ ก็ฉันบอกวันเดือนปีเกิดของพวกเราสามคนไปกับแม่หมออะ ไม่รู้ได้ไง”

“เอ๊า!”

สองสาวอุทานพร้อมกัน ขณะที่กิ่งพะยอมยิ้มแหยส่งให้

“อะแฮ่มๆ จะให้ทำนายต่อไหม?”

เสียงของแม่หมอดุแว้บขึ้นมา สามสาวเลยเงียบกริบ กิ่งพะยอมหันมายิ้มให้กับแม่หมอ

“ค่ะ”

“อยากรู้เรื่องอะไรเป็นพิเศษบอกได้ ถามได้ห้าคำถาม”

“เรื่องผัวค่ะ”

คนตอบไม่ใช่กิ่งพะยอม หากเป็นสองสาวที่ชิงตอบแทน แม่หมอพยายามกลั้นขำไว้ แสร้งทำหน้าเคร่ง แล้วตอบออกไปเสียงเย็น

“เรื่องคู่...อืม...อีกไม่นาน ไม่พ้นปีนี้ล่ะ จะมีคู่แท้เข้ามา คู่บุญบารมี ลักษณะเป็นชาวต่างชาติฐานะดี การงานดี”

“ต่างชาตินี้ จะมาชาตินี้ใช่ไหมคะ”

คนถามเป็นอภิญาดา แม่หมอคิ้วกระตุกเล็กน้อย พลางเหลือบแลมองหล่อนด้วยสายตาที่อ่านไม่ออก

“ลักษณะเด่นคือสูง ขาว”

“ไม่ดำใช่ไหมคะ”

อภิญาดาถามอีกรอบ ดูหน้าตาอยากรู้อยากเห็นสุดๆ แม่หมอกระแอม ก่อนจะพูดต่อ

“อายุมากกว่านิดหน่อย นั่นล่ะเนื้อคู่ของหนูล่ะ”

“โอ้ว”

เจ้าของดวงนั่งอ้าปากหวอ ไม่มีคำถามเพิ่มเติมใดๆ แม่หมอดูเรื่องงาน เรื่องสุขภาพ และการเงิน ซึ่งเป็นเรื่องทั่วๆ ไปที่หมอดูมักจะดูให้ ดูเสร็จแล้วก็ถามว่ากิ่งพะยอมจะถามอะไรไหม เธอสั่นหน้า แม่หมอจึงกวักสุนิษามาเป็นรายต่อไป

“มา...หนูคนนั้น”

“ขอหนูดูก่อนได้ไหมอะคะ อยากรู้มากกว่าน่ะค่ะ”

แม่จอมป่วนเอ่ยแทรกขึ้น แม่หมอยิ้มบางๆ แล้วก็พยักหน้า

“เอาสิ...จะถามเรื่องเนื้อคู่ใช่ไหม?”

“ใช่ค่ะ”

อภิญาดาตอบเสียงดัง ฟังชัด นัยน์ตาเปล่งประกายไปด้วยความหวัง แม่หมอหัวเราะหึๆ แล้วก็เริ่ม...ทำนาย

.........................................................................................................................................................

“คนล่ะสองพัน แต่ดูแล้วแบบ...เหมือนคำทำนายสองร้อยอะแก”

สุนิษาว่า ไม่ค่อยพอใจสักเท่าไหร่ เพราะแม่หมอบอกว่าเธอน่ะ ต้องไปบูชาพญานาค ซึ่งแน่นอนว่าจะต้องเป็นที่สำนักของแม่หมอ มาตั้งประดับไว้ แล้วจะเจริญหน้าที่ด้านการงานมากไปกว่านี้

“ยังไงหืมยัยซัน คำทำนายสองร้อย”

“แกเคยเดินๆ ล่ะโดนหมอดูข้างทางทักกวักให้ไปดูดวง สิบเก้าบาท อะไรที่ลงท้ายด้วยเก้าบาทมะ พอไปนั่ง ก็มาล่ะ ค่านั่นเพิ่มค่านี่เพิ่ม ลงท้ายก็ให้สะเดาะเคราะห์ บูชานี่ บูชานั่นอะแก”

“อืม...” กิ่งพะยอมทำท่าคิด

“แต่ที่เค้าดูให้ฉัน เค้าก็ไม่ได้คิดอะไรเพิ่มนี่นา แล้วก็ดูแม่นดีนะ อิอิ ฟังแล้วดวงดีอะ”

“แหม...ย่ะ ของหล่อนดีนี่ แต่กว่าจะดี หล่อนเสียค่าพญานาคไปมั่งหรือยังหึ ยัยกิ่ง”

“ก็...” กิ่งพะยอมคิ้วขมวด นึกๆ ดูแล้วก็ปรบมือเข้าหากัน

“เอ่อ...จริงสิ ตอนที่แม่หมอมาที่บ้านหนก่อน ป๊า ม้า ก็มาดูด้วย แม่หมอให้บูชาพญานาคแปดพัน แล้วกิจการจะดี สะเดาะเคราะห์ให้ป๊าที่มีโรคประจำตัว แต่แม่หมอก็แม่นน้า ยัยซัน กิจการดีขึ้นจริงๆ ป๊าจับคนโกงได้อะแล้วก็เลยไล่ออก คนที่โกงก็เป็นคนที่ลักษณะที่แม่หมอบอกเปี๊ยบเลยนะแก เค้าดูแม่นนะ ป๊ากับม้าอะ ให้ดูทุกปีเลย เป็นแนวทาง”

“แม่หมอของแกบอกว่าฉันอะถ้าบูชาพญานาคของนาง แล้วฉันจะขึ้นตำแหน่งอีก แบบ ฉันก็เลยมึนๆ งะ ว่าจะขึ้นตำแหน่งไปไหนได้อีก ก็ตอนนี้เป็นผู้จัดการแล้วนะ แกมันไม่มีตำแหน่งให้ขึ้นอีกแล้วปะวะ ตำแหน่งที่จะขึ้นไปได้อีก ณ จุดนี้ก็ท่านประธานอะค่ะ คงจะต้องออกมาเปิดบริษัทเองแล้วล่ะ ฉันก็เลย...แบบ...”

ว่าแล้วก็กลอกตา ยักไหล่ด้วยท่าประจำตัว ยามที่ไม่อยากจะพูดอะไรต่อ

“พวกแกอะ ดีๆ กันทั้งนั้น ฮือๆ ของฉันสิ ของฉันสิ ระทมหม่นเศร้ากว่าอะ”

เสียงโวยดังมาจากอภิญาดาที่นั่งอึ้ง นั่งเงียบเป็นนาน พูดไม่ออกสักแอะ

“อะไร้ แค่แม่หมอบอกว่าแกจะดวงบอดคู่เองนะยัยแตงโม” สุนิษาเลิกคิ้ว แล้วมองบน

“หมอดูคู่หมอเดา ฉันไม่เชื่อหรอก เอาแค่บอกว่าฉันเคยทำแท้ง ตอนนี้มีปัญหากะแฟน มันก็ไม่ใช่ล่ะ ฉันมีที่ไหนล่ะแฟนอะตอนนี้”

อยากจะเติมด้วยซ้ำว่า ยังเวอร์จิ้น ก็กลัวเสียหน้าเบาๆ เพราะในกลุ่ม เธอคือสาวที่ฮอทที่สุด แซบที่สุด และมีแฟนถี่ที่สุดเลยก็ว่าได้

“โฮ...ดวงไม่มีคู่เลยนะแก ไม่มีคู่ ไม่มีผัว ช่องทางการติดต่อของฉันจะดิสคอนเน็คโดยสิ้นเชิง ไม่มี้ ไม่มี ไม่มีใครมาเชื่อมต่อ หยากไย่เกาะ เสียใจ เสียใจมากอะ”

สาวป่วนประจำแก๊ง ถึงกับร้องโฮ เล่นเอาอีกสองเพื่อนซี้ต้องรีบมาปลอบ

“ใจเย็นสิยัยแตงโม อาจจะอย่างที่ยัยซันว่าก็ได้นะ หมอดูที่ฉันพาพวกแกดูดวงอะ อาจจะ...”

“โฮ ฉันจะไม่มีผัวอะ ไม่มีผัว ไม่ย้อมไม่ยอม”

“โอ๊ย! คร่ำครวญอะ”

เห็นเพื่อนคร่ำครวญมากๆ ด้วยแอคติ้งของอภิญาดา มันทำให้เธอขำ เพราะตอนนี้อภิญาดาไปนอนกลิ้งเกลือกกับพื้นพรมแล้วเรียบร้อย

“ไม่ยอมอะ พวกแกมีผัวนี่นา ยัยกิ่งอะตัวดี ได้ผัวก่อนเพื่อนเลย ได้สเปคฉันด้วยอะ อะไรกัน”

“บ้าเหรอ” กิ่งพะยอมหัวเราะคิกอย่างอดไม่ได้ พร้อมกับถอนใจเฮือก

“เฮ้อ แกอะมันเพี้ยนยัยแตงโม”

“เพี้ยนไง ก็เพี้ยนไง ถึงไม่มีผัวอะ ฮือๆ เกิดมาเสียชาติเกิดไม่ได้ใช้อะ ฉันยังเวอร์จิ้นนะ จะขึ้นคานตลอดกาลแบบเวอร์จิ้นอะแก ไม่ได้สัมผัสกับคำว่าจุดสุดยอด”

“ยัยเพี้ยนเอ๊ย ลุกขึ้นมาก่อน แกจะกลิ้งรอบห้องอยู่แล้วนะ ยัยแตงโม”

“จะกลิ้งไปยัยดาวอังคารเลยผัวก็ไม่มี”

ยิ่งว่าก็ยิ่งยุ อภิญาดาก็ยังกลิ้งไปกลิ้งมาตรงนั้น ถึงจะอายุไม่น้อยแล้ว ถึงจะทำงานในอาชีพที่เรียกได้ว่าต้องวางมาดมีบุคลิกที่ดี แต่ตอนนี้เมื่ออยู่กับเพื่อนซี้ไม่ต้องมีแล้วมาดอะไร อภิญาดาก็เป็นตัวเองเต็มที่ คือทำอะไรหลุดๆ เพี้ยนๆ ให้สองเพื่อนรักได้แต่มองตากัน ขำเธอ แล้วก็ด่าเธอเรียกสติ

“แทนที่จะมากลิ้งแบบนี้ แกมาคิดวิธีได้ผัวแบบเร่งด่วน เย้ยคำทายของแม่หมอนั่นไม่ดีกว่าเหรอยัยแตงโม”

สุนิษาว่าประชด แต่คนที่กลิ้งเกลือกอยู่กับพื้นหยุดกลิ้ง แล้วนิ่งคิด ก่อนจะผุดลุกขึ้นมานั่ง ก่อนจะเอ่ยเสียงใส

“เอ่อ จริงสิ! เราควรทำอย่างนั้น ที่ไหนล่ะที่มีว่าที่ผัวชุกชุม สายฝอ ผู้ชายกลัดมันเยอะๆ ผู้ชายที่จ้องจะไปหาเมียได้เสียกัน ฉันคิดได้แล้ว เราสามคนควรไปเที่ยวพงัน ไปฟูลมูนปาร์ตี้”

“หะ!”

กิ่งพะยอมกับสุนิษาอุทานออกมาพร้อมๆ กัน คนคิดแผนฉุกเฉินนี้ ยิ้มกว้าง แล้วขยิบตาให้กับสองสาว

“เห็นด้วยใช่มะ ปะ! โกทูพะงัน”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel