เปลวเพลิงจอมมาร

102.0K · จบแล้ว
ณิการ์
46
บท
2.0K
ยอดวิว
8.0
การให้คะแนน

บทย่อ

เชอะ! คิดจะลักหลับฉันมันไม่ง่ายหรอกพี่แดเนียล ฝันไปเถอะ ศิริยาได้ยินทุกคำพูดของแดเนียล แต่ก็แกล้งนอนหลับตาต่อไป เพื่อคอยดูว่าเขาจะทำยังไงต่อ “เอาวะ แค่ถอดชุดเสร็จเราก็จะได้เห็นสวรรค์รำไรแล้วเว้ย!" พูดก่อนจะขึ้นมาทาบทับศิริยาและปลดเปลื้องเสื้อผ้าของเธออีกครั้ง และเหตุการณ์ก็ซ้ำรอยอีกครั้ง ตุ้บ! “โอ๊ย! เอาอีกแล้ว กว่าฉันจะถึงสวรรค์มิตกเตียงตายก่อนเหรอวะ เอ๊ะ หรือว่าน้องศิไม่ได้นอนหลับจริง ๆ อย่างที่เราคิดวะ ต้องใช่แน่ ๆ เธอต้องแกล้งหลับหนีเราแน่เลย” แดเนียลถามเองตอบเอง เมื่อรู้แจ่มแจ้งแล้วว่าตัวเองโดนหญิงสาวตบตา หึหึ ให้มันรู้ไปว่าคนอย่างแดเนียลจะยอมแพ้อะไรง่าย ๆ หึหึ ครั้งนี้เขาบ่นในใจก่อนจะขึ้นไปทาบทับศิริยาบนเตียงอีกครั้งและมันก็เป็นอย่างที่เขาคิดจริง ๆ เมื่อเธอจะยกเท้าถีบอีก มือหนาก็คว้าหมับไว้ทันทีด้วยความรู้ทัน “ไม่ได้กินพี่อีกครั้งหรอกน้องศิจ๋า...” เมื่อได้ยินแดเนียลพูดออกมาแบบนี้ ศิริยาก็ลืมตาขึ้นมาทันทีด้วยความเสียศูนย์ เมื่อรู้แล้วว่าเขารู้ทันเธอ “ไม่ได้กินเหรอคะ ถ้างั้นเอานี่ไป” เอ่ยขึ้นพร้อมกับยกเท้าอีกข้างที่ว่างเพื่อหวังจะถีบแดเนียลอีกครั้ง แต่ก็ไม่เป็นอย่างตัวเองหวังเมื่อโดนรู้ทัน “อย่า ๆ อย่าทำแบบนี้เลยเมียจ๋า อยากโดนผัวทำโทษนักก็ไม่เห็นต้องลงทุนทำแบบนี้ บอกผัว ผัวก็ยอมทำให้ถึงใจทั้งคืนทั้งวันแล้ว หึหึ” แดเนียลพูดกำกวมอีกครั้งให้ศิริยารู้สึกเกรงกลัวในตัวเขาบ้าง “อย่ามาพูดบ้า ๆ แบบนี้กับศินะพี่แดเนียล” หญิงสาวเอ่ยกล้า ๆ กลัว ๆ “หึหึ ไม่เอาน่า...น้องศิเป็นเมียพี่แล้วนะ อย่ามาเล่นตัวหน่อยเลยคนดี พี่รักน้องศินะถึงได้ทำแบบนี้” แดเนียลพยายามพูดหว่านล้อมให้หญิงสาวคล้อยตาม แต่พูดยังไง ศิริยาก็ไม่ยอมอ่อนให้เขา “แต่ศิไม่ได้ระ...อุ๊บ!" คำว่ารักของศิริยากลืนหายเข้าไปในลำคอ เมื่อโดนปากหนาของแดเนียลประกบปากอย่างรวดเร็ว “อื้อ!" หญิงสาวได้แต่ครวญครางเมื่อโดนแดเนียลฉวยโอกาสแบบนี้ เธอทั้งดิ้นทั้งทุบตีชายหนุ่มแต่ก็ไม่เป็นผล ยิ่งทุบตีมากเท่าไร เขาก็ยิ่งบดจูบรุนแรงมากขึ้น “อย่าดิ้นสิน้องศิ อีกไม่นานเราก็จะมีความสุขแล้วคนดีของพี่” เขาผละออกมาเอ่ยกับหญิงสาวแป๊บเดียวก็ก้มกลับลงไปบดจูบหญิงสาวอีกครั้งด้วยความรัญจวนใจ ส่วนมือหนาก็ไม่ปล่อยให้อยู่เฉย ๆ รีบใช้มือที่ว่างอยู่ของตัวเองปลดเปลื้องเสื้อผ้าของหญิงสาวออก เมื่อเห็นว่าตอนนี้ศิริยามัวแต่ทุบตีเขาจนลืมสนใจจุดนี้ไป จึงถือโอกาสนี้ปลดพันธนาการพวกนี้ออกให้พ้นทางเสียที เพื่อจะได้สัมผัสเนื้อนวลได้อย่างถนัดถนี่ “อย่านะ...” เมื่อปากของตัวเองเป็นอิสระ ศิริยาก็ร้องท้วงออกมาได้นิดเดียวก็โดนปากหนาของแดเนียลประกบลงมาอีกครั้ง ตอนนี้ร่างบางปราศจากเสื้อผ้าแล้ว เหลือแต่ชุดชั้นในลายโดเรมอนเท่านั้นที่เขายังไม่ได้ปลดออก “อื้อ! น้องศิจ๋า...ยอม ๆ พี่เถอะ ไหน ๆ ก็เป็นเมียพี่แล้ว จะยอมพี่อีกหลาย ๆ ครั้งจะเป็นไรไป” แดเนียลผละออกมาเอ่ยกับศิริยาด้วยเสียงแหบพร่า “ไม่! ยังไงศิก็ไม่ยอม ศิจะสู้จนกว่าจะหมดแรง..." เผียะ! พอเอ่ยเสร็จศิริยาก็ยกมือของเธอฟาดที่หน้าสากอย่างจัง จนหน้าของชายหนุ่มชาไปชั่วขณะ “ชอบความรุนแรงก็ไม่บอก” เมื่อโดนหญิงสาวตบมาแบบนี้ก็ไม่คิดที่จะทะนุถนอมศิริยาแล้ว ไหน ๆ ก็ไม่ยอมดี ๆ แล้วใช้กำลังขืนใจให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย คนเขารัก คนเขาอยากได้ยังจะมาเล่นตัวอีก แถมยังมาตบหน้ากันแบบนี้อีก เขายอมไม่ได้ “อย่านะ อย่าทำศิเลยพี่แดเนียล ศิขอโทษที่ตบพี่เมื่อกี้นี้ ศิขอโทษจริง ๆ” ศิริยาร้องขอโทษด้วยความสำนึกผิด เมื่อตอนนี้แดเนียลกระชากชุดชั้นในของเธอออกจนเหลือแต่เนื้อตัวเปลือยเปล่าเหมือนกันทั้งสองฝ่าย “หึหึ มาร้องขอโทษตอนนี้มันก็สายไปแล้วน้องศิ ตอนพี่ขอดี ๆ ทำเป็นสะดีดสะดิ้ง พอพี่ทำแบบนี้ทำมาเป็นร้องขอความเห็นใจ ฝันไปเถอะ หึหึ” “ไหนพี่บอกว่ารักศิไง ทำไมพี่ทำแบบนี้” ศิริยาร้องท้วงอย่างมีหวัง “ใช่! พี่รักศิมากถึงต้องทำแบบนี้ไง แต่ศิต่างหากเคยคิดเห็นใจพี่บ้างไหม เคยมีใจให้พี่สักเล็กน้อยไหม นั่นไง เงียบแบบนี้แสดงว่าไม่มีใจให้พี่ ถ้างั้นก็ยอมเป็นของพี่อีกครั้งเถอะนะคนดีของพี่” แดเนียลถามเองตอบเอง

นิยายรักโรแมนติกนิยายรักนิยายปัจจุบันประธานเลขานางเอกเก่งมาเฟียพระเอกเก่งผู้ชายอบอุ่น25+

ตอนที่1 แรกพบก็ว่าใช่

แดเนียล คอปเลอร์ ชายหนุ่มวัย 35 ปีลูกครึ่งไทยอเมริกันทายาทเพียงคนเดียวของตระกูลคอปเลอร์มีธุรกิจโรงพยาบาลเอกชนที่มีชื่อเสียงดังไปทั่วทวีปใคร ๆ ต่างรู้จักโรงพยาบาลคอปเลอร์เป็นอย่างดีในเรื่องชื่อเสียง ซึ่งวันนี้แดเนียลเขาได้เดินทางมากรุงเทพฯ ตามคำสั่งของบิดาให้มาประจำโรงพยาบาลสาขาเปิดใหม่ที่ประเทศไทย ชายหนุ่มมีนัยน์ตาสีฟ้าช่างฝัน ใบหน้ารูปไข่จมูกโด่งเป็นสันตามแบบฉบับลูกครึ่งทำให้สาวน้อยสาวใหญ่ในโรงพยาบาลมองตาเป็นมัน แค่ได้เดินผ่านสาวน้อยสาวใหญ่ในโรงพยาบาลพร้อมกับส่งยิ้มเจ้าเล่ห์พราวเสน่ห์ให้กับสาว ๆ ทุกคนที่มองมาทางเขา เหล่าหญิงสาวก็แทบละลายเป็นขี้ผึ้งลนไฟ

“อุ๊ย! ขอโทษค่ะ ดิฉันไม่ได้ตั้งใจ” ศิริยา เทพไทย หรือ ศิ พยาบาลสาววัย 25 ปี รูปร่างบางหุ่นเพรียวน่าสัมผัสผิวขาวอมชมพู ไม่ว่าใครเห็นเป็นต้องหลงเสน่ห์นัยน์ตาสีน้ำตาลของหญิงสาว

และมันก็เป็นอย่างนั้นจริง ๆ เมื่อแดเนียลได้สบตากับเธอที่เดินชนกันนั้นเป็นต้องเก็บคำพูดที่กะจะด่าว่าลงทันที เพราะตอนนี้มีแต่ความหลงใหลอยากสัมผัสสาวเจ้าคนนี้เท่านั้น ใบหน้ารูปหัวใจ จมูกเชิดรั้นนิด ๆ มันช่างบ่งบอก8ความเป็นตัวเองของหญิงสาวได้ดีนักว่าเป็นคนดื้อรั้นอยู่เอาการ

“ไม่เป็นไรครับ ผมไม่ได้เป็นอะไร”

แดเนียลเอ่ยตอบเป็นภาษาไทยได้ชัดแจ๋วจนทำให้ศิริยาอึ้งไปในทีที่ผู้ชายต่างชาติคนนี้พูดไทยได้ชัดแจ๋วเหมือนกับเจ้าของภาษาอย่างเธอ

“ค่ะ ขอบคุณนะคะที่ไม่เอาเรื่องดิฉัน ถ้าไม่มีอะไรแล้วดิฉันขอตัวก่อนนะคะ” ตอนแรกหญิงสาวเอ่ยขอโทษเขาเป็นภาษาไทยนั่น เพราะไม่ทันดู เลยกะว่าจะเอ่ยคำขอโทษใหม่เป็นภาษาสากล แต่พอเขาฟังออกพูดชัดเธอก็เลยเอ่ยขอตัวไปทำงานทันที

“ว่าแต่คุณจะไม่บอกชื่อผมหน่อยเหรอครับ?” ตอนนี้เขาสังเกตแล้วว่าสาวเจ้าใส่ชุดพยาบาลของโรงพยาบาลเขา

“ฉันชื่อศิริยาค่ะ ถ้าไม่มีอะไรแล้วฉันไปนะคะ” พอพูดเสร็จก็รีบวิ่งไปแผนกฉุกเฉินทันที

“คุณแดเนียลครับ ทุกคนรอคุณประชุมอยู่นะครับ” แซม โคเลส ผู้ช่วยของแดเนียลเอ่ยเตือนสติของผู้เป็นนายที่กำลังใจลอยไปกับพยาบาลสาวคนเมื่อกี้ให้รู้สึกตัว

“ก็ไปสิแซม นายอย่าลืมให้คนเอาประวัติของศิริยามาไว้ให้ฉันที่ห้องทำงานด้วย ประชุมเสร็จฉันจะอ่านดูประวัติแม่พยาบาลสาวคนนั้นให้ละเอียดว่าเธอมีแฟนรึยัง” แดเนียลเอ่ยสั่งงานกับแซมผู้ช่วยก่อนจะเดินมาถึงห้องประชุม เขาต้องไปแสดงตัวให้ทุกคนได้รู้ว่าเขาเป็นผู้อำนวยการคนปัจจุบันของโรงพยาบาลคอปเลอร์สาขาใหม่นี้

“ครับคุณแดเนียล”

ถึงจะงง ๆ อยู่บ้างแต่แซมก็ตอบรับคำสั่งของเจ้านายก่อนจะเดินไปที่ฝ่ายประชาสัมพันธ์เพื่อจะสอบถามว่าจะไปเอาประวัติของพยาบาลของโรงพยาบาลได้ที่ไหน เพราะเขาเองก็เพิ่งมาโรงพยาบาลสาขานี้เป็นครั้งแรก

“ศิ ทำไมแกมาช้าจัง รู้ไหมว่าพี่หมอกำลังถามหาแกอยู่เลยตอนนี้ ไป รีบ ๆ เข้าไปหาพี่หมอในห้องเลยศิ” สุภาเอ่ยถามศิริยาทันทีเมื่อเห็นเพื่อนมาถึงแผนก

“จ้าภา ศิก็รีบแล้วนะ ว่าแต่พี่หมอถามหาศิทำไม?” ศิริยาเอ่ยถามสุภาเพื่อนสนิทตั้งแต่สมัยเรียน

“ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่ภาว่าศิรีบ ๆ เข้าไปเถอะนะ”

“จ้ะภา งั้นศิเข้าไปหาพี่หมอธนาก่อนนะ”

ศิริยากับธนาเป็นรุ่นพี่รุ่นน้องกันตั้งแต่สมัยเรียน ม.ปลายด้วยกันจึงสนิทกันเป็นพิเศษกว่าใคร

“จ้ะศิ” เมื่อคุยกันเสร็จสุภาก็เดินไปทำงานของตัวเองทันที

“มาแล้วเหรอศิ ทำไมมาช้าจัง นี่ใกล้เที่ยงแล้วนะ พี่รอศิไปทานข้าวด้วยกันอยู่ ว่าแต่ศิทำงานเสร็จหรือยังเห็นภาบอกว่าศิไปดูแลคนป่วยที่ห้อง 303 ภาบอกว่าคนป่วยห้องนี้ไม่ยอมทานข้าว เลยต้องพึ่งศิไปกล่อมให้ทานข้าวนี่?” ธนาเอ่ยถามด้วยความอยากรู้

“ตอนนี้ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงแล้วพี่หมอ คุณตาเขาแค่เหงาค่ะ เลยไม่อยากทานข้าวค่ะ แต่ตอนนี้ทานข้าวทานยาหลับพักผ่อนแล้วค่ะ” ศิริยารู้ว่าธนาเป็นห่วงเธอมากกว่าคำว่าพี่ชายที่เธอให้ แต่จะให้บอกธนาไปตรง ๆ ก็กลัวว่าจะมองหน้ากันไม่ติดก็เลยปล่อยให้เลยตามเลยมาจนถึงทุกวันนี้

“ถ้างั้นแสดงว่าว่างแล้วใช่ไหม?”

“ค่ะพี่หมอ ตอนนี้ศิว่างค่ะ แต่ตอนบ่ายศิจะต้องกลับมาดูแลคนป่วยที่ถูกส่งมาเมื่อเช้านี้ค่ะ”

“จ้ะ ถ้างั้นเรารีบไปทานข้าวกันเถอะ ตอนนี้ก็ห้าโมงครึ่งแล้ว ถ้าเราไม่ไปตอนนี้ พี่กลัวว่าจะพาศิกลับมาทำงานไม่ทันเอา” ธนาเอ่ยชวนศิริยาอีกครั้ง

“ค่ะพี่หมอ งั้นพี่หมอไปเอารถมารอศิหน้าโรงพยาบาลนะคะ ศิขอไปเอากระเป๋าก่อนค่ะ”

หญิงสาวรู้ดีว่าต่อให้ปฏิเสธยังไง ธนาก็จะบังคับให้ไปด้วยอยู่ดี หญิงสาวจึงตกลงไปทานข้าวกับเขาทุกครั้งเวลาพักเที่ยง

“ครับผม พี่ไปก่อนนะศิ” แล้วเขาก็เดินออกจากห้องไปทำตามที่อีกฝ่ายพูด ส่วนศิริยาที่เหลือตัวคนเดียวนั้นเธอก็เดินออกจากห้องไปเอากระเป๋าของตัวเองเพื่อจะไปรอธนาอย่างที่ได้เอ่ยไว้เช่นกัน