เนี่ยซูซินชายาสองภพ

113.0K · จบแล้ว
หยกขาว ปิ่นหยก
49
บท
38.0K
ยอดวิว
8.0
การให้คะแนน

บทย่อ

เรื่องราวสตรีนางหนึ่งที่เกิดมาพร้อมปานบนใบหน้าข้างหนึ่งซึ่งใครพบเห็นต่างก็หวาดกลัว นางเกิดมาอัปลักษณ์แล้วอย่างไร? ความดีต่างหากที่ตายแล้วเอาไปด้วย หาใช่ความงดงามไม่ นางผู้อัปลักษณ์อยู่ๆ ก็มีราชโองการให้แต่งงานกับรุ่ยอ๋องบุรุษที่หล่อเหลาที่สุดในใต้หล้า บุรุษผู้นี้จำใจแต่งกับนางเพราะราชโองการหาได้รักนาง กระนั้นนางผู้อัปลักษณ์จำต้องทำความดีเพื่อให้เขาหันมามองนางบ้างเอาใจช่วยนางนะคะว่าจะเอาชนะใจรุ่ยอ๋องได้หรือไม่

นิยายรักโรแมนติกนิยายเทพเซียนคนต่ำต้อยฮ่องเต้ท่านอ๋องข้ามมิติเกิดใหม่แก้แค้นจีนโบราณ

บทที่ 1

เรือนร่างอรชรของดรุณน้อยนางหนึ่ง นางกำลังปลูกแปลงผักกาดอย่างขยันหลังสู้ฟ้าหน้าสู้ดิน สายตาของนางมองแปลงผักแล้วค่อยๆหยอดเมล็ดผักลงหลุมไป

“เจียงซูซู เจ้าทำงานเสร็จรึยัง” น้ำเสียงนี้เป็นของ อวี้จื่อบุตรสาวของหัวหน้าหมู่บ้าน เจียงซูซูพลันเงยหน้ามองสตรีเรือนร่างบางอย่างอวี้จื่อที่สวมชุดผ้าต่วนอย่างงดงาม ทั้งที่เป็นแค่บุตรสาวของหัวหน้าหมู่บ้าน แต่ดันขโมยชุดของเจียงซูซูไปใส่

“ยัง” เจียงซูซูตอบสั้นๆ

อวี้จื่อพลันเบะปาก นางหมั่นไส้คุณหนูตกอับอย่างเจียงซูซูเต็มที มาอยู่หมู่บ้านบนหุบเขาตั้งสามปีแล้ว เจียงซูซูยังทำอะไรก็เชื่องช้าราวกับเต่าคลาน

“ถ้าทำไม่เสร็จ วันนี้งดข้าว” กล่าวจบอวี้จื่อสะบัดแขนเสื้อสาวเท้าออกไป

“คุณหนูดูนางสิเจ้าคะ กล้าทำเยี่ยงนี้กับท่านได้อย่างไร” อาเจียสาวใช้ที่นั่งหยอดเมล็ดพันธุ์ผักลงหลุมเอ่ยขึ้นอย่างหมั่นไส้

“เจ้ายังไม่ชินอีกรึ สามปีมานี้ ข้าชินเสียแล้ว” น้ำเสียงเศร้าเอ่ยขึ้น อาเจียได้แต่มองหน้าแล้วสงสารคุณหนูของตัวเอง

เรื่องราวมีอยู่ว่า เมื่อสามปีก่อนมารดาของนางเป็นฮูหยินใหญ่แห่งจวนสกุลเจียง บิดาของนางเป็นอัครเสนาบดีฝ่ายซ้าย นามว่าเจียงชิง มารดาของนางถึงแม้จะเป็นฮูหยินใหญ่แต่ทว่าก็ไม่เป็นที่รักของสามี เพราะบิดาของนางเทใจไปทางฮูหยินรองเสียมากกว่า มารดาของนางป่วยหนัก ฮูหยินรองกล่าวว่าร้ายเป็นเพราะปานบนใบหน้าด้านซ้ายของนาง นำพาซึ่งหายนะสู่จวนตระกูลเจียง นับแต่นั้นมาเจียงซูซูก็ถูกส่งตัวมาที่หมู่บ้านในหุบเขาพร้อมสาวใช้อย่างอาเจีย

เจียงซูซูนับว่าเป็นคุณหนูใหญ่สกุลเจียง สามปีมานี้ นางมาอยู่ที่หมู่บ้านแห่งนี้ นับว่ามีความลำบากเป็นอย่างมาก ทั้งยังต้องปลูกผัก เก็บฟืน สองมือที่เคยงดงามบัดนี้มีแต่ความด้านชาเป็นอย่างมาก นางยังหวังว่าวันหนึ่ง บิดาจะมารับตัวนางกลับไปที่จวนสกุลเจียงอีกครั้ง

“คุณหนูกลับเรือนกับเถอะเจ้าค่ะ” อาเจียเอ่ยขึ้นในที่สุดนางก็หว่านเมล็ดพันธุ์เสร็จเสียที สองนายบ่าวเร่งเดินกลับเรือน

เรือนพำนักของพวกนาง เป็นเรือนไม้เก่าๆ จะพังเเหล่ไม่พังเเหล่ เจียงซูซูเคยขอให้หัวหน้าหมู่บ้านอย่างอวี้หัวมาเปลี่ยนหลังคาให้นาง แต่ทว่าเขากลับบอกว่า ไม่มีเงินทั้งที่หมู่บ้านแห่งนี้บิดาของนางอัครเสนาบดีเจียงเป็นคนตั้งขึ้น พวกเขากลั่นแกล้งนางเกินไปแล้ว

เมื่อฝนห่าใหญ่ได้ตกลงมาสองนายบ่าวได้แต่เพียงหากะลามัง นับสิบใบวางไว้ตามจุดที่น้ำจะรั่วลงมา

“คุณหนู ทำไมพวกเขาถึงได้ใจร้ายกับพวกเราเพียงนี้” อาเจียเอ่ยอย่างทรมานใจ นับตั้งแต่มาอยู่นี้ ข้าวก็กินไม่อิ่ม นอนก็ไม่หลับ

ด้านเจียงซูซูเองก็พลันเหนื่อยล้า หากชาติหน้ามีจริง นางก็ให้ได้เกิดมางดงาม อย่าได้อัปลักษณ์เหมือนอย่างชาตินี้

“อาเจีย พวกเราหนีไปดีหรือไม่ ข้าไม่อยากจะทนอีกต่อไปแล้ว สามปีมานี้ข้าทรมานเหลือเกิน ข้าโดนพวกเขารังแก ข้าจะกลับไปหาท่านตาที่แคว้นฉี”

“คุณหนู” อาเจียดวงตาทอประกายแห่งความดีใจขึ้นมา เจียงซูซูเพิ่งนึกได้ว่า ญาติฝั่งสกุลมารดาของนาง คือสกุลเซี่ย เป็นสกุลใหญ่ในแคว้นฉี เมืองหลวงหนานอัน ท่านแม่เคยเล่าให้นางฟังว่าท่านตาได้ทำการค้าพาณิชย์ที่ใหญ่คือการขายเกลือทั่วแว่นแคว้น มารดาของนางมีแซ่ว่า เซี่ยหนิง เป็นบุตรสาวคนที่สามของสกุลเซี่ย นางพบรักกับเจียงชิงจากนั้นเจียงชิงก็สู่ขอนางจากสกุลเซี่ย ท่านผู้เฒ่าเซี่ยไม่ค่อยชอบบุตรเขยต่างแคว้นนัก แต่ทว่าก็ต้องจำใจ เมื่อบุตรสาวอันเป็นที่รักหลงใหลในตัวบุรุษแซ่เจียงผู้นี้ เมื่อสามปีก่อนนายท่านเซี่ยได้ทราบว่าบุตรสาวอันเป็นที่รักเป็นบ้าเสียสติไป จึงมาที่สกุลเจียงเพื่อขอตัวเซี่ยหนิงไปรักษา แต่ทว่าอัครเสนาบดีเจียงไม่ยอม จึงทำให้นายท่านเซี่ยโกรธมาก ที่เขากลับไปมือเปล่าไม่ได้บุตรสาวกลับไปด้วย นับแต่นั้นมาเจียงชิงก็บอกว่าจะไม่ต้อนรับคนสกุลเซี่ย

“ข้าตัดสินใจแล้ว ในเวลานี้ คงมีแต่ท่านตาที่จะช่วยข้าได้” เจียงซูซูพลันตรองดีแล้ว นางอยากจะมีชีวิตใหม่ขืนรอบิดามารับออกไปจากที่แห่งนี้ คงจะเป็นชาติหน้าเป็นแน่แท้

“ว่าแต่คุณหนูจะไปตอนไหนเจ้าคะ”

“คืนปีใหม่ ทุกคนในหมู่บ้านต้องฉลองกัน ในตอนนั้นเจ้าว่า คนในหมู่บ้านจะสนในพวกเรารึ” ถึงตอนนั้นพวกเขาคงเมามิได้สติ จะมาสนอะไรกับคุณหนูผู้ตกยากอย่างนางกันเล่า เจียงซูซูพลันยกยิ้มขึ้นมาเล็กน้อย

สายลมพัดมายามเย็นวันนี้คือวันขึ้นปีใหม่คนในหมู่บ้านต่างจัดงงานอย่างครื้นเครงอวี้ฮูหยินได้จ้างโรงงิ้วในเมืองไห่ชิงแคว้นแคว้นตงมาแสดงให้คนในหมู่บ้านได้ดูกัน

ทางด้านสองนายบ่าวอย่างเจียงซูซูกับอาเจีย กำลังเตรียมสัมภาระที่จะหนีออกไปจากหมู่บ้านในคืนนี้ พวกนางทั้งสองค่อยๆ ย่องออกไปทางด้านหลังแต่ทว่า ต้องถูกจับได้เสียก่อน เพราะเสี่ยวจิ้งบ่าวรับใช้ของหัวหน้าหมู่บ้านกำลังตรวจตราอยู่นั้น บังเอิญเจอพวกนางทั้งสองกำลังลอดโพรงหญ้าออกไปจากหมู่บ้าน กระนั้นสองนายบ่าวถูกจับตัวมาที่ลานหมู่บ้าน

ทุกคนในหมู่บ้านต่างสงสารชะตากรรมของคุณหนูใหญ่สกุลเจียง หัวหน้าหมู่บ้านปรายตามองพวกนางทั้งสองคนที่นั่งอยู่ลานเรือน

“เหตุใดเจ้าจึงคิดหนีคุณหนูใหญ่” หัวหน้าหมู่บ้านพลันเอ่ยขึ้น

เจียงซูซูพลันจ้องตาหัวหน้าหมู่บ้านอย่างไม่เกรงกลัวแม้แต่น้อย

“ข้าไม่ต้องการอยู่ที่แห่งนี้”

“คุณหนูใหญ่ เจ้าคิดหนี เป็นความคิดที่โง่เขลาโดยแท้ อีกไม่กี่วันเจ้าก็จะได้เป็นเจ้าสาวแล้ว” คำพูดประโยคนี้ อวี้ฮูหยินเป็นคนเอ่ยขึ้น

เจียงซูซูกับอาเจียพลันสบตากัน

“หมายความว่าอย่างไร”

“หมายความว่า ฮูหยินรองส่งจดหมายมาให้เจ้าออกเรือนไปได้ไงเล่า” อวี้จื่อเอ่ยขึ้นอย่างสาแก่ใจ เมื่อสามวันก่อนคนสกุลอวี้ได้รับจดหมายจากฮูหยินรองสกุลเจียงให้เจียงซูซูพลันแต่งออกเรือนไปได้

“ข้าไม่แต่ง”

“หญิงอัปลักษณ์อย่างเจ้า สามารถปฏิเสธได้ด้วยรึ” อวี้จื่อเอ่ยขึ้นอย่างไม่ยี่หระ อับปลักษณ์ปานหน้าดำครึ่งซีกซ้าย ดีแค่ไหนแล้วยังอุตส่าห์มีคนแต่งงานด้วย แต่ละคนต่างมองเจียงซูซูอย่างสงสาร

เจียงซูซูไม่คิดเลยว่าแค่ใบหน้าด้านซ้ายของนางมีปานใหญ่ จะทำให้นางเป็นตัวตลกขบขัน ทำไมสวรรค์ถึงได้ให้นางเกิดเป็นสตรีมีใบหน้าเยี่ยงนี้

“เจ้ากล้าว่าคุณหนูของข้า อย่างนั้นรึ ดีร้ายอย่างไร นางก็เป็นเจ้านายของพวกเจ้านะ”อาเจียเอ่ยขึ้นด้วยความเกรี้ยวกราด ในฐานะบ่าวนางไม่ยอมให้คนพวกนี้ดูถูกคุณหนูของนางเป็นอันขาด

กระนั้นเมื่ออาเจียเอ่ยกล่าวจบ เสียงขบขันก็ดังขึ้น ราวกับพวกเขาดูละครงิ้วฉากเด็ดกันอยู่ หัวหน้าหมู่บ้านอยากจะขำให้ฟันร่วง

เจ้านายอย่างนั้นรึ เจ้านายอะไรจะตกอับถึงเพียงนี้

“เอาตัวไปขังในห้องเก็บฟืน เมื่อถึงวันแต่งค่อยนำตัวนางออกมา” สิ้นเสียงหัวหน้าหมู่บ้าน สองนายบ่าวถูกลากตัวไปห้องเก็บฟืนทันที

ห้องเก็บฟื้นที่อับชื้นกลิ่นเหม็นราวกับหนูตายนับสิบตัวอยู่ในนั้นทำให้พวกนางทั้งสองแทบอ้วกพุ่ง เจียงซูซูในตอนนี้สมองขบคิดแต่เรื่องออกเรือน นี้ฮูหยินรองจะใจร้ายเกินไปแล้วนะ ให้นางแต่งออกเรือนเรื่องนี้ไม่รู้ว่าบิดาของนางเห็นดีเห็นงามด้วยหรือไม่

“คุณหนู บ่าวกลัวเจ้าค่ะ หนูๆ” อาเจียเอ่ยขึ้นอย่างหวาดกลัว สาวใช้นั่งเขย่าแขนเจียงซูซู

“อาเจีย อยู่เงียบๆ ข้ากำลังใช้ความคิดอยู่” เจียงซูซูขบคิดนางจะออกไปจากโชคชะตาอันโหดร้ายเยี่ยงนี้ไปได้อย่างไร คืนนั้นทั้งคืนสองนายบ่าวนอนไม่หลับเพราะเสียงหนูร้องดังอี๊ดๆ