บทที่ 9 สวนริเวอร์ไซด์
หวังชาวกลับไปที่โรงพยาบาล รอหลี่ฮ่วยหลานทานข้าวเช้าเสร็จแล้ว หวังชาวก็ทำการรักษาเธออีกครั้ง
อาการหลี่ฮ่วยหลานดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด อีกไม่กี่วันก็คงฟื้นฟูได้อย่างเต็มที่
อีกไม่นานก็สามารถออกจากโรงพยาบาลได้
หลังจากอยู่ในห้องคนไข้ได้ครึ่งชั่วโมง หวังชาวก็ถือกาต้มน้ำเดินออกจากห้องเตรียมไปเอาน้ำ
ด้วยความบังเอิญ บนทางเดิน เขาเห็นหมอคนก่อนหน้านี้ที่ด่าเขาว่าเป็นนักต้มตุ๋น
ซุนเหลียนฮวากระวนกระวายใจมาก เตรียมออกจากโรงพยาบาลไปตามหาหวังชาว แต่เพิ่งเดินออกมาจากห้องคนไข้อู๋เจิ้นสง ก็เห็นหวังชาวหิ้วกาต้มน้ำเดินมาทางเขาพอดี
สีหน้าเขาดีใจทันที รีบวิ่งมาหา
“นาย……นาย……ฉันเจอนายสักที!”
เขายืนต่อหน้าหวังชาวด้วยสีหน้าตื่นเต้น พูดจาสะเปะสะปะไปหมด
หวังชาวขมวดคิ้ว พูดขึ้นเสียงเข้ม “นายตามหาฉันทำไม?”
“ไม่มีเวลาอธิบายแล้ว นายรีบตามฉันไปที่ห้องคนไข้หน่อย”
ซุนเหลียนฮวาดึงเสื้อผ้าหวังชาว จะดึงเขาเดินไป
หวังชาวทำสีหน้าเย็นชา ผลักเขาออก แล้วพูดเสียงเย็นชา “นายจะทำอะไรกันแน่?”
“คนไข้ที่นายรักษาก่อนหน้านี้จะไม่ไหวแล้ว ชีวิตอยู่ในความเสี่ยง นายรีบไปดูหน่อย!”
ซุนเหลียนฮวาเหงื่อแตกพลั่ก ถ้าอู๋เจิ้นสงตาย เขาก็ต้องซวยไปด้วย
หวังชาวหัวเราะเยาะ “นายว่าฉันเป็นนักต้มตุ๋นไม่ใช่หรือไง? นักต้มตุ๋นจะรักษาได้ไง?”
“ฉันโทษนายด้วยความเข้าใจผิด ฉันมีตาหามีแววไม่ ฉันขอโทษนาย แต่คนไข้เป็นผู้บริสุทธิ์ นายจะเห็นคนตายโดยไม่ช่วยเหลือไม่ได้นะ”
ซุนเหลียนฮวาทำสีหน้าร้อนใจกว่าเดิม
“นายเป็นหมอ รักษาช่วยชีวิตคนไข้เป็นหน้าที่นาย เกี่ยวอะไรกับฉัน?”
หวังชาวขี้เกียจสนใจเขาแล้ว หันหลังจะเดินจากไป
พรึ่บ!
หวังชาวเพิ่งขยับฝีเท้า ซุนเหลียนฮวาก็คุกเข่าลงกับพื้นดังพรึ่บ
สีหน้าวิงวอนโศกเศร้า “ขอร้องได้โปรดยกโทษเถอะนะ คนไข้ใกล้ตายแล้วจริงๆ ถ้านายยอมช่วยเหลือคนไข้ ไม่ว่าเงื่อนไขอะไรฉันตอบตกลงนายหมดเลย!”
ซุนเหลียนฮวาคุกเข่าต่อหน้าหวังชาว เริ่มวิงวอนขึ้นมา
หวังชาวชะงักฝีเท้า เหลือบมองซุนเหลียนฮวา ลังเลสักพักหนึ่งแล้วพูดขึ้นทันที “พาฉันไปดูหน่อย ฉันไม่รับประกันนะว่าจะรักษาได้”
ซุนเหลียนฮวาทำหน้าดีใจมาก ยืนขึ้นมา พาหวังชาวเดินไปที่ห้องคนไข้
ภายในห้องคนไข้ สีหน้าอู๋เฟียหลินซีดเซียว เต็มไปด้วยความกังวล
ในใจเธอกล่าวโทษตัวเองไปหมด ถ้าตอนนั้นเธอเลือกเชื่อหวังชาว อาการป่วยพ่อเธอก็คงไม่แย่ลง
“คุณอู๋ ไม่ทันแล้ว เตรียมงานศพเถอะครับ”
หัวหน้าหวางถอนหายใจ พูดขึ้นด้วยความเสียใจ
อู๋เจิ้นสงบนเตียงคนไข้ขยับดิ้นรนได้น้อยลงเรื่อยๆ แต่สีหน้ากลับแย่ขึ้น ถึงแม้เป็นคนที่ไม่รู้เรื่องทางการแพทย์ก็มองออกได้ว่าอู๋เจิ้นสงไม่ไหวแล้ว
ฮือๆ!
อู๋เฟียหลินทิ้งตัวซบหน้าอกพ่อเธออย่างทุกข์ทรมาน
และในเวลานี้ ซุนเหลียนฮวาก็พาหวังชาวมาถึงในที่สุด
“หัวหน้าหวาง คุณอู๋ ผมเจอเขาแล้ว ตอนนี้ยังทัน!”
ซุนเหลียนฮวาตะโกนเสียงดัง
อู๋เฟียหลินเห็นหวังชาว ก็วิ่งมาหา น้ำตานองหน้าแล้วเอ่ยวิงวอน
“ขอร้องช่วยพ่อฉันด้วยนะคะ ถ้าคุณรักษาอาการป่วยพ่อฉันหายดีได้ เงินเท่าไรฉันให้คุณหมดเลย!”
หวังชาวพยักหน้า “คุณไม่ต้องห่วงนะ ผมจะพยายามเต็มที่”
หัวหน้าหวางเหลือบมองหวังชาว สีหน้ายับยู่ยี่อย่างช่วยไม่ได้
คนคนนี้ยังหนุ่ม เขาสามารถรักษาอาการป่วยอู๋เจิ้นสงให้หายได้เหรอ?
คงไม่ใช่นักต้มตุ๋นจริงๆ หรอกนะ
แต่ตอนนี้ทำได้แค่ต้องลองอีกสักตั้ง
หวังชาวมาข้างๆ เตียงอย่างรวดเร็ว
เหลือบมองไป สีหน้าก็หนักอึ้งทันใด “ใครเอาเข็มเงินออก?”
ภายในห้องคนไข้ ซุนเหลียนฮวาหน้าซีดเซียว ก้มหน้าไม่กล้าพูด
“คุณครับ ต้องโทษที่ผมมีตาหามีแววไม่ ผมขอถามหน่อย คุณอู๋ยังมีทางรอดไหม?”
ซุนเหลียนฮวาถามอย่างอ่อนแรงเป็นครั้งสุดท้าย
หวังชาวไม่สนใจเขา
เขาหยิบเข็มเงินออกมา แทงจึกๆๆ เข้าไปในแต่ละจุดฝังเข็มของอู๋เจิ้นสง
《เพลงแพทย์จิ่วเชี่ยว》เป็นหลักการสำคัญทางเวชศาสตร์ที่ลึกลับมาก
ในนั้นครอบคลุมไปด้วยกลั่นยาอายุวัฒนะ การตรวจโรควินิจฉัย การฝังเข็มและอื่นๆ ……
สิบนาทีต่อมา หวังชาวก็ถอนเข็มแต่ละอันออก
เขาปาดเหงื่อแตกพลั่กบนหน้าผากออก “เสร็จแล้วครับ”
“นี่เสร็จแล้วเหรอ?”
ซุนเหลียนฮวาตะลึง มีปาฏิหาริย์เช่นนี้ด้วย?
สายตาทุกคนมองไป สภาพอู๋เจิ้นสงดีขึ้นมากจริงๆ สีหน้าไม่ซีดเซียวอีกแล้ว ในขณะเดียวกันก็ลืมตาขึ้น
“พ่อ ในที่สุดพ่อก็ฟื้นแล้ว! พ่อทำให้ฉันตกใจแทบตาย!”
อู๋เฟียหลินร้องไห้พูดขึ้นด้วยความดีใจ
“มีปาฏิหาริย์ ปาฏิหาริย์เกินไปแล้ว นี่มันช่างน่าเหลือเชื่อ!”
“นี่มันหมอเทวดากลับมาเกิด!”
หัวหน้าหวางทำหน้าประหลาดใจ อุทานขึ้นรัวๆ
ซุนเหลียนฮวาก็งุนงงไม่รู้ว่าควรตอบสนองยังไงดี
หวังชาวคนนี้อายุพอๆ กับตน แต่ไม่คิดเลยว่าทักษะแพทย์จะสุดยอดขนาดนี้
หลังจากอู๋เจิ้นสงค่อยๆ ดีขึ้น สายตาเขาก็มองไปที่หวังชาว
สีหน้าเต็มไปด้วยอารมณ์ซาบซึ้งใจ “ขอบคุณมากนะครับที่ช่วยชีวิตฉันไว้ ถ้าไม่ใช่คุณ ฉันคงไม่มีชีวิตแล้ว!”
เมื่อครู่นี้ถึงแม้เขาจะอยู่ในสภาพทนทุกข์อันไม่มีสิ้นสุด แต่สติสัมปชัญญะครบถ้วน รู้ว่าเมื่อครู่นี้เกิดอะไรขึ้นบ้าง
หวังชาวส่ายหน้าแล้วพูดขึ้น “ไม่ต้องขอบคุณหรอกครับ แค่เรื่องเล็กน้อยเอง”
“ไม่ สำหรับคุณเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่สำหรับฉันเป็นพระคุณที่ช่วยชีวิต คุณคือผู้มีพระคุณยิ่งใหญ่ต่อฉันอู๋เจิ้นสง!”
“ในอนาคตถ้ามีอะไรที่อู๋เจิ้นสงเป็นประโยชน์ สั่งได้เสมอเลย ลุยน้ำลุยไฟ ทำได้ทุกอย่างที่คุณต้องการ”
อู๋เจิ้นสงยืนขึ้นมาด้วยความยากลำบาก แล้วจะคุกเข่าเคารพหวังชาว
หวังชาวรีบยื่นมือไปประคองเขาขึ้นมา
อู๋เจิ้นสงหันไปพูดกับหญิงสาวว่า “เฟียหลิน คุณเขาช่วยฉันไว้ อย่าลืมค่าตอบแทนที่ลูกสัญญาไว้ล่ะ”
“อ่า ได้ค่ะ”
อู๋เฟียหลินถึงได้ตอบสนอง เมื่อครู่นี้ตื่นเต้น ลืมให้ค่าตอบแทนคุณเขาเลย
“คุณคะ ในบัตรใบนี้มีเงินยี่สิบล้าน ขอบพระคุณมากที่คุณช่วยรักษาอาการป่วยพ่อฉันให้หายดี”
อู๋เฟียหลินหยิบบัตรธนาคารใบหนึ่งยื่นให้หวังชาว
ในใจหวังชาวตื่นตกใจไม่หยุดหย่อน ใจกว้างเกินไปแล้ว ให้ทียี่สิบล้านเลย
เขาโตมาจนป่านนี้ ยังไม่เคยเห็นเงินเยอะขนาดนี้มาก่อนเลย!
เขารีบโบกมือปฏิเสธ “ผมแค่ช่วยเล็กน้อยเอง คุณให้เยอะไปแล้ว ผมรับไว้ไม่ได้หรอก”
“เทียบกับชีวิตพ่อฉัน เงินแค่นี้ไม่เท่าไรเลย คุณคะ คุณรับไว้เถอะ”
อู๋เฟียหลินจะเอาเงินให้หวังชาว
หวังชาวรู้สึกมันมากเกินไป ส่ายหน้าพูดขึ้น “ยี่สิบล้านมันเยอะเกินไป ถ้าพวกคุณอยากให้จริงๆ แค่หาที่ให้ผมอยู่ก็พอครับ”
ตอนนี้เขาไม่มีที่อยู่อาศัย ถ้าคุณแม่ออกจากโรงพยาบาล จะให้นอนเบียดในห้องเดี่ยวกับเขาไม่ได้หรอก
ตอนนี้สิ่งที่เขารีบร้อนมากที่สุดคือต้องการหาที่อยู่ที่เหมาะสมสักแห่ง
“ได้ ฉันมีบ้านและที่ดินว่างไม่ได้ใช้ที่สวนริเวอร์ไซด์พอดี” อู๋เจิ้นสงยิ้มแล้วพูดขึ้น
หลังจากพูดจบ เขาก็พูดกับอู๋เฟียหลินว่า “ลูกพาคุณเขาไปดูหน่อย ถ้าไม่พอใจ ฉันจะเปลี่ยนเป็นอีกหลัง”
“ได้ค่ะ พ่อ”
อู๋เฟียหลินพยักหน้า
หวังชาวไม่รู้เรื่องบ้านและที่เดิน จึงไม่ได้เคยได้ยินชื่อสวนริเวอร์ไซด์มาก่อน นึกว่าเป็นเขตพื้นที่ธรรมดา จึงพยักหน้าตอบตกลง
แต่หลังจากหัวหน้าหวางและซุนเหลียนฮวาที่อยู่ข้างๆ ได้ยิน ก็ตกตะลึงจนหุบกรามไม่ลง
อู๋เจิ้นสงหรูหราฟุ่มเฟือยมากจริงๆ!
สวนริเวอร์ไซด์คือเขตคฤหาสน์ที่คุณภาพดีเลิศที่สุดในเมืองจงไห่ ราคาบ้านแพงทุกตารางนิ้ว!