8.รีบเร่งจัดงาน
หลี่เจ๋อเชี่ยนก้มมองดวงหน้าที่งามล้ำในอ้อมแขน
"เหตุใดถึงต้องการร่วมเตียงกับข้ามากมายถึงขนาดนั้น ข้าได้บอกกล่าวเอาไว้แล้วว่าการร่วมเตียงของเรานั่นคือหน้าที่ มิได้มีความรักปะปนอยู่เลย..."
ไป๋หมิงหลันปรือตาขึ้นมามองหน้าของเขา รอยยิ้มพลันปรากฏขึ้นมาบนใบหน้าของนาง เรือนแก้มขึ้นเป็นสีชมพูระเรื่อด้วยฤทธิ์ของสุรา แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้นก็ยังคงน่ามองมากทีเดียว
"ในค่ำคืนหนึ่งที่ฝนตกโปรยปรายลงมา หมู่มวลดอกไม้ต่างผลิบานออกมารับลมฝน ข้าลงมาจากแดนสวรรค์เพื่อตามหาปราณเซียนและเพื่อมาเผชิญคราวเคราะห์ ทว่ากลับถูกปีศาจชั้นต่ำแย่งชิงปราณเซียนไป ตัวข้าในยามนั้นยังอยู่ในวัยเยาว์ ไร้ซึ่งพลังที่จะมาต่อสู้..."
ดวงตากลมโตของหมิงหลันช้อนสายตาขึ้นมองหน้าเขา สายตาของนางเต็มเปี่ยมไปด้วยความรัก จับจ้องที่ใบหน้าของหลี่เจ๋อเชี่ยนด้วยความหลงใหล
"วันนั้นข้าอาจจะตาย หากมิได้ท่านจอมมารยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ"
"เทพบุปผาไร้ซึ่งประสบการณ์เรื่องความรักถึงขนาดที่พบเห็นความเมตตาเพียงน้อยนิดของข้า ก็ทึกทักไปเองว่าข้านั้นสนใจนั้นตัวเจ้างั้นหรือ?"
"หามิได้ ข้ารู้ดีว่าท่านคือจอมมารปกครองเผ่ามารที่แสนจะยิ่งใหญ่ และข้าคือเทพบุปผาตัวน้อยๆ ความหวังของข้ามิใช่ความรักจากท่าน แต่เพียงข้าได้สัมผัส.."
ไป๋หมิงหลันยกมือขึ้นมากอบกุมใบหน้าของหลี่เจ๋อเชี่ยนเอาไว้ ดวงตาของนางพลันหรี่ลงมันเอ่อล้นด้วยหยาดน้ำตาแวววาวราวกับเม็ดไข่มุกเมื่อสะท้อนเข้ากับแสงเทียนในห้อง นางกะพริบตาถี่ๆเพื่อไม่ให้หยาดน้ำตารินไหลลงมา..
"เช่นนั้นยามที่แยกจากเมื่อภารกิจลุล่วง เจ้าจะมิเจ็บปวดงั้นหรือ?"
"ข้าคิดว่าข้าสามารถจัดการความรู้สึกตัวเองได้ดี มันอาจจะเจ็บปวดแต่ข้าจะไม่ร้องขอหรือเรียกร้องสิ่งใดจากท่านอีก ในวันที่ข้าต้องเดินทางกลับไปที่แดนบุปผา"
ความรักคือสิ่งที่เขาเกลียดที่สุด เพราะมันคือเปลวไฟที่จะแผดเผาเขาจนตาย ต่อให้นางงดงามมากเพียงใดหรือแม้แต่คำหวานที่กล่าวออกมาพวกนั้น ก็มิสามารถทำให้เขารักนางได้หรอก เห็นทีจะต้องเว้นช่องว่างระหว่างเขากับนางให้มากกว่านี้อีกหน่อย ให้นางตระหนักถึงหน้าที่ของตัวเอง มากกว่าการคาดหวังสิ่งใดที่ไร้สาระจากตัวเขา
......
หมิงหลันลุกขึ้นมาจากที่นอน เมื่อคืนจะเมาก็มิใช่ แต่จะว่าไม่เมาก็ไม่ถูก ดวงตาของนางเห็นใบหน้าที่เย็นชาของเขาได้อย่าชัดเจนและดวงตาสีนิลที่ว่างเปล่านั้นฝังลึกหยั่งรากลงไปบนจิตใจของนาง ถึงแม้ว่าท่านจอมมารจะมิกล่าวคำใดออกมาแต่แววตาที่เขามองมานั้นมันราวกับว่าเขากำลังย้ำเตือน
ให้นางรู้จักประมาณตน
ความรักที่ไร้หนทางสมหวังนี้จะดำเนินต่อไปทางไหนกันนะ ทั้งที่ทำใจเอาไว้แล้วว่ามันไม่มีหนทางที่จะสมหวังแต่พอมาเจอเข้าจริงๆ หัวใจก็หลีกเลี่ยงความเจ็บปวดมิได้ สายลมแห่งความปวดร้าวพัดผ่านร่างกายของหมิงหลันไปช้าๆราวกับจะหอบเอาความเศร้าโศกที่นางพึ่งจะประสบพานพบมาย้ำเตือนอีกรอบ
"นายท่านหลี่และฮูหยินหลี่เดินทางกลับมาแล้วเจ้าค่ะ ท่านเทพบุปผาควรจะออกไปแสดงความเคารพต่อผู้อาสุโสทั้งสองของเผ่ามาร..."
"ข้าทราบแล้ว"
สาวใช้ทั้งสองได้จัดการแต่งตัวให้หมิงหลันเสียใหม่ ใช้เสื้อคลุมสีม่วงเข้มปักด้วยลายดอกเหมยฮวาดูงดงามและอ่อนหวาน หมิงหลันเดินเข้ามาที่ห้องโถงรับรอง นางก้มหน้าลงเพื่อทำความเคารพแก่ผู้อาวุโสของเผ่ามารทั้งสอง มีคำกล่าวเล่าขานเกี่ยวกับโศกนาฏกรรมความรักในอดีต ท่านจอมมารคนก่อนเป็นผู้มักมากในกาม ฉุดฆ่าสตรีไปทั่ว และภรรยาของจอมมารคนก่อนก็คือเทพซื่อมิ่ง เทพผู้กุมดวงชะตา
สวรรค์วุ่นวายเป็นการใหญ่เมื่อเทพซื่อมิ่งถูกลักพาตัวลงมาอยู่ที่เผ่ามาร เพราะมิมีผู้กุมชะตาของชาวมนุษย์ ท่านเทพวั่งซูได้ตัดสินใจลงมาช่วยเหลือสหายรักแต่ทว่าก็สายเกินไปแล้ว เพราะท่านเทพซื่อมิ่งตั้งครรภ์
หมิงหลันช้อนสายตาขึ้นมองหน้าของอดีตเทพซื่อมิ่งที่กำลังมองมาที่เธอพร้อมกับส่งยิ้มอย่างใจดี ในใจพลันรู้สึกดีไม่น้อยกับรอยยิ้มนั้น
"ข้าได้ยินว่าเทพบุปผามีสองคนพี่น้อง คนพี่นั้นงดงามเย้ายวน เพียบพร้อม คนน้องน่ารักสดใสสะกดสายตา วันนี้ข้าได้พบเห็นแล้วก็คิดว่าคำกล่าวพวกนั้นมิเกินจริงเลย เจ้าคือไป๋เฉียนใช่หรือไม่?"
หมิงหลันทำได้เพียงส่งยิ้มแห้งๆให้ท่านเทพซื่อมิ่ง
"ข้าคือไป๋หมิงหลันเจ้าค่ะ ท่านพี่นั้นปักใจรักกับท่านเทพสงครามอันฉี ข้าก็เลยอาสามาที่นี่แทนพี่สาว"
เทพซื่อมิ่งเลิกคิ้วมองหมิงหลัน
"มีคำกล่าวว่าจอมมารนั้นมีหน้าอัปลักษณ์แถมยังน่ากลัว เจ้ามิหวาดกลัวว่าจะต้องร่วมหอกับคนเช่นนั้นหรืออย่างไร?"
หมิงหลันส่ายหน้า
"ข้ารู้ว่าข่าวลือนั้นเป็นเพียงคำโป้ปดเพราะว่าข้าเคยเห็นท่านจอมมารมาก่อนเจ้าค่ะ"
เทพซื่อมิ่งยกยิ้ม นางหันไปมองหน้าสามีพร้อมกับหัวเราะเบาๆ
หมิงหลันมองท่าทางท่านเทพซื่อมิ่งและท่านอดีตจอมมารด้วยความสงสัย เหตุใดทั้งสองคนถึงดูรักกันราวกับคู่สามีภรรยาทั่วไปกันนะ? ไม่มีแววตาที่โกรธเคืองของภรรยา และไม่มีวี่แววความโหดเหี้ยมจากท่านอดีตจอมมารเลย
"นี่แสดงว่าเจ้าอาสามาที่นี่ก็เพราะว่าเจ้าเคยเห็นหน้าเจ๋อเชี่ยนของข้ามาก่อนงั้นหรือ?"
หมิงหลันส่งยิ้มให้ท่านเทพซื่อมิ่งด้วยหัวใจที่เต้นแรง นางเหลือบมองท่านจอมมารหลี่เจ๋อเชี่ยนที่กำลังยกถ้วยน้ำชาขึ้นมาดื่ม
"เจ้าค่ะ ข้าตกหลุมรักท่านจอมมารตั้งแต่แรกเห็น อาจจะฟังดูน่าขบขัน..."
"แค่ก!! แค่ก!!"
หลี่เจ๋อเชี่ยนที่กำลังดื่มน้ำชาอยู่ถึงกับสำลัก ส่วนเทพซิ่งมิ่งหัวเราะร่า
"ให้ตายสิ ทุกคราที่มองหน้านาง เหตุใดราวกับข้ามองเห็นสามีข้าในอดีตก็ไม่รู้!!"
อดีตจอมมารยกมือขึ้นมาโอบกอดภรรยาของเขาเอาไว้ พร้อมกับส่งยิ้มที่แสนอ่อนโยนให้ไป๋หมิงหลัน
"ข้าคิดว่าควรจะจัดงานแต่งและกำหนดวันเข้าหอให้เร็วที่สุด!! เจ๋อเชี่ยน เจ้าควรจัดการเรื่องนี้ให้เรียบร้อย!"
"ท่านพ่อ ลูกคิดว่าลูกต้องคุยกับท่านก่อน เทพบุปผาลงมาที่นี่ก็เพื่อทำหน้าที่ของนาง"
"เชี่ยนเชี่ยน เจ้าคิดว่าเผ่ามารของเราน่าอยู่มากนักรึไง ลูกก็รู้ว่าแม่จะต้องออกไปพักที่ดินแดนมนุษย์ทุกๆ สามปี นั่นหมายความว่าเทพสวรรค์จะมิสามารถอยู่ที่นี่ได้ตลอดไป สุขภาพของพวกเราจะย่ำแย่ลงเพราะไอขุ่นมัวมากมายพวกนี้ นางรอนแรมเดินทางมาหาเจ้าตั้งไกล อีกทั้งยังใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ซึ่งมีแต่อันตราย เจ้าคิดว่าสตรีตัวเล็กๆ เช่นนางเดินเข้ามาที่นี่ด้วยความรู้สึกเช่นไร!!"
หลี่เจ๋อเชี่ยนหลับตาลงพร้อมกับถอนหายใจ เขาไม่อยากเถียงท่านแม่เลยให้ตายเถอะ!!