4.ใช้ได้ที่ไหนกัน
หมิงหลันปรายตามองหน้าของหลี่เจ๋อฮั่นเมื่อเขากล่าวจบ
ที่ท่านเจ๋อฮั่นกล่าวมา นั่นก็ไม่เกินความจริง เพราะว่าใบหน้าของท่านเจ๋อฮั่นเหมือนท่านจอมมารอยู่หลายส่วน
“ท่านเจ๋อฮั่นเก็บใบหน้าอันล้ำค่าของท่าน เอาไว้ให้สตรีที่ท่านรักสัมผัสเถอะเจ้าค่ะ ข้ามิควรจะแตะต้องใบหน้าที่หล่อเหลาของท่าน”
“ในเมื่อรู้ว่าหล่อเหลาแล้วเหตุใดถึงไม่หวั่นไหว ข้าดีไม่พองั้นหรือ?”
หมิงหลันยกยิ้ม นางยกมือขึ้นมาวาดในอากาศฝนดอกไม้พลันตกโปรยปรายลงมาเบาๆ หมิงหลันเก็บดอกไม้ที่ร่วงหล่นลงมาไปประดับในแจกันอย่างปราณีต
“ในหัวใจของข้ามิอาจปันไปให้ผู้ใดได้อีกแล้ว กว่าหลายร้อยปีที่ผ่านมาข้าหลงรักท่านเจ๋อเชี่ยนจนเต็มหัวใจ วันนี้ได้มีวาสนาเข้ามาอยู่ใกล้เขาถึงเพียงนี้ ก็ถือว่าข้ามีความสุขมากแล้ว..”
เป็นครั้งแรกที่เจ๋อฮั่นรู้สึกอิจฉาท่านพี่ หมิงหลันสารภาพรักท่านพี่ด้วยใบหน้าที่เปี่ยมล้นไปด้วยความสุข ยามที่นางกล่าวคำว่าจอมมารออกมาจากริมฝีปากบางนั้น ใบหน้าของนางจะมีความสุข
ที่นางบอกว่าหลงรักท่านพี่…เห็นทีจะเป็นเรื่องจริง
แต่คนเช่นเขาหาใช่คนที่จะยอมแพ้ง่ายๆ เวลาที่เก็บลูกท้อ เขาจะเก็บแต่ลูกที่อยู่บนสุดเท่านั้น เพราะการได้มากอย่างยากลำบาก มันถึงคู่ควรกับคนอย่างเขา
“จะว่าไปเจ้าสามารถไปที่ห้องของท่านพี่ได้นะ ในคืนนี้”
ใบหน้างดงามฉายแววดีใจ ดวงตาของหมิงหลันเป็นประกายขึ้นมาในทันที
“จริงหรือเจ้าคะ หากว่าข้าเข้าไปในนั้นมิใช่ว่าจะถูกท่านจอมมารไล่ออกมา..”
“หากว่าท่านพี่ไล่ ก็แค่เดินออกมา เขามิกล้าจะทำร้ายเจ้าหรอกน่า แต่หากว่าเขาไม่ไล่เจ้าออกมามันก็คุ้มค่าที่จะเสี่ยงไม่ใช่รึไง?”
ตามคำกล่าวของท่านเจ๋อฮั่น มันก็คุ้มค่าที่จะเสี่ยงจริงๆ เพียงแค่นางได้เข้าไปในห้องของท่านจอมมาร เท่านั้นก็คุ้มค่าแล้ว!!
“หากว่าเจ้าตกลง เช่นนั้นตอนหัวค่ำ ข้าจะมารับ”
หมิงหลันพยักหน้าเป็นสัญญาณว่าตกลง ในใจพลันเต้นแรงขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่ ความรู้สึกมากมายก่อเกิดเป็นความคาดหวังขึ้นมา เพียงแค่ได้พบหน้าเขา..แค่ให้ดวงตาสีนิลของเขาจับจ้องมาที่นางเท่านั้นก็เพียงพอแล้ว
ตอนเย็นท่านเจ๋อฮั่นมารับพร้อมกับชุดในมือ
“ใส่ชุดพวกนี้สิ ชุดธรรมดาเช่นนั้นจะดึงดูดใจของท่านพี่ได้อย่างไรกัน”
หมิงหลันก้มมองชุดที่สวมอยู่ นางอุตส่าห์เลือกชุดที่งดงามที่สุดตั้งครึ่งค่อนวัน แต่ถึงอย่างนั้นนางก็ยื่นมือไปรับชุดในมือของท่านเจ๋อฮั่นมาเปลี่ยน
ให้ตายเถอะ!! นี่มันชุดอันใดกัน? บางเช่นนี้จะเดินออกจากห้องไปได้อย่างไร!!
“หมิงหลันเจ้าลืมเสื้อคลุม!”
เจ๋อฮั่นพาดเสื้อคลุมเอาไว้ที่ฉากกั้น มือที่สั่นเทาด้วยความอับอายของหมิงหลันรีบคว้าเสื้อคลุมมาใส่ทันที
ค่อยยังชั่วที่เสื้อคลุมนี้สามารถคลุมร่างของนางได้มิด หมิงหลันเดินออกมาด้านนอกก็พบท่านเจ๋อฮั่นที่ยืนส่งยิ้มให้ ในมือของเขาถือโคมไฟกระดาษเอาไว้
“เราต้องรีบแล้ว พี่ใหญ่กำลังจะกลับ…”
เขาพานางเดินมาด้านหลังของตำหนักท่านจอมมาร พอเปิดประตูไม้เข้าไปก็พบห้องขนาดใหญ่ที่มีเตียงและโต๊ะทำงานพร้อมทั้งม้วนตำรามากมาย
หมิงหลันยืนอยู่หน้าเสื้อคลุมที่ท่านจอมมารแขวนเอาไว้ เธอยกมือขึ้นไปจับที่แขนเสื้อก่อนจะยกขึ้นมาแนบที่ใบหน้าอย่างรักใคร่ ห้องนี้เต็มไปด้วยกลิ่นของท่านจอมมาร เสื้อคลุมตัวนี้ท่านจอมมารก็ต้องใส่บ่อยแน่ๆ เลยเขาจึงมาแขวนเอาไว้เช่นนี้
หมิงหลันหลับตาลงพร้อมทั้งโอบกอดเสื้อคลุมอย่างมีความสุข
“นั่นเจ้ากำลังทำอะไร?”
“ขอเวลาให้ข้าสักพักนะเจ้าคะ ข้าเพียงอยากได้กลิ่นของท่านหลี่เจ๋อเชี่ยน…”
“นั่นเสื้อคลุมท่านพ่อข้า จะมีกลิ่นพี่ใหญ่มาจากไหน!!”
เจ๋อฮั่นยกมือขึ้นมาปิดปากก่อนที่เขาจะหัวเราะออกมาเสียงดัง
หมิงหลันปล่อยเสื้อคลุมตัวนั้นด้วยความตกใจ นางเม้มปากแน่นอย่างเขินอาย
“ฮะ..ฮ่า ดูเจ้าทำหน้าเข้า!! ข้าหลอกเล่น เป็นเสื้อคลุมของพี่ใหญ่จริงๆ นั่นแหละ ฮะฮ่า!”
หมิงหลันวิ่งเข้าไปหาเจ๋อฮั่นก่อนจะตีที่แขนของเขาอย่างแรง
“ท่าน!! กล้าหลอกข้า!”
“ฮะ..ฮ่า โอ๊ย!! เจ้ากล้าตีข้างั้นเรอะ!!”
เจ๋อฮั่นดึงหมิงหลันเข้ามาในอ้อมกอด เขาถือโอกาสนี้พาเธอล้มลงไปบนเตียง ตอนนี้กลายเป็นเขาคล่อมทับเหนือร่างของนางอยู่
อ่า..นี่มันออกจะน่าหงุดหงิดเกินไปสักหน่อย ตรงที่สายตาและใบหน้าของหมิงหลันไม่มีแววของความหวั่นไหวหรือหัวใจเต้นแรงกับการกระทำของเขาเลย ทั้งๆที่เราใกล้ชิดกันถึงเพียงนี้
บนใบหน้าที่งดงามของนาง..มีเพียงแววตาของความไม่พอใจเท่านั้น
ด้วยประสบการณ์เรื่องสตรีที่โชกโชนของเจ๋อฮั่น เขารู้ดีว่าควรจะล้ำเส้นแค่ไหน…เขาลุกขึ้นพร้อมกับส่งยิ้มให้หมิงหลัน
“ข้าขอโทษ พรุ่งนี้ข้าจะพาเจ้าไปชมดอกท้อดีไหม?”
ใบหน้าของหมิงหลันพลันอารมณ์ดีขึ้นมาทันที นางพยักหน้าและส่งยิ้มให้เขา
“เอาล่ะ ตอนนี้ข้าควรจะออกไปได้แล้ว ถอดเสื้อคลุมมาสิ”
แววตาของหมิงหลันมีความลังเล เพราะชุดด้านในมันบางมากๆ หากว่าเธอถอดเสื้อคลุมออก มันก็จะ…อีกทั้งหลี่เจ๋อฮั่นอาจจะเห็นส่วนที่ไม่สมควรให้เขามองเห็นอีกด้วย
“ซุกตัวลงไปในผ้าห่มแล้วถอดเสื้อคลุมออกมา พี่ใหญ่ไม่มีทางที่จะไล่เจ้าออกจากห้องในสภาพเช่นนี้หรอกน่า…”
หมิงหลันนั้นยังอ่อนประสบการณ์เรื่องเช่นนี้ นางจึงยอมถอดเสื้อคลุมออกส่งให้เจ๋อฮั่น เขายื่นมือมารับเสื้อด้วยรอยยิ้มที่ไม่น่าไว้ใจ ก่อนจะเดินจากไป
มือของหมิงหลันกำผ้าห่มเอาไว้แน่นด้วยความตื่นเต้น หัวใจของนางมันกำลังเต้นแรงอีกทั้งเตียงนี้ก็มีแต่กลิ่นของท่านจอมมารเต็มไปหมด..
เจ๋อเชี่ยนเดินเข้ามาในห้องนอน เขาพึ่งจัดการเรื่องเขตแดนของเผ่ามารและเมืองมนุษย์ที่มีปัญหากันเสร็จเรียบร้อย และวันนี้ดูเหมือนว่าร่างกายของเขามันจะเหนื่อยมากๆ แต่ทว่าท้าวที่กำลังก้าวเดินของหลี่เจ๋อเชี่ยนพลันหยุดลง เมื่อเขาสัมผัสได้ถึงกลิ่นดอกไม้ที่หอมหวานและคุ้นเคยอยู่พอสมควร พอเขาปรายตามองไปที่เตียง ก็เป็นเช่นที่เขาคิดเอาไว้
“ข้ามิคิดว่าเจ้าควรจะเข้ามาที่นี่…”
หมิงหลันยกยิ้ม ในตอนนี้เธอนั้นมิได้สวมชุดคลุมด้านนอก เธอสวมเพียงเสื้อด้านในตัวบางเท่านั้น
“ข้าลงมาจากสวรรค์ก็เพื่อให้กำเนิดลูกของท่าน…”
หลี่เจ๋อเชี่ยนเลิกคิ้วมองไปที่ใบหน้าของสตรีที่กล่าวเรื่องพวกนั้นออกมาโดยมิมีท่าทีกระดากอาย
“มิใช่วันนี้ เราจะร่วมหอกันในวันพระจันทร์เต็มดวงเท่านั้น ส่วนวันอื่นข้าจะไม่แตะต้องเจ้า”
หมิงหลันมองที่ใบหน้าของท่านจอมมารอย่างไม่พอใจ
“วันพระจันทร์เต็มดวงกว่าจะถึงก็อีกนานหลายเดือน แถมหนึ่งปีมีเพียงไม่กี่ครั้ง เรื่องพวกนี้หากมิทำบ่อยๆ แล้วเมื่อไหร่ข้าถึงจะให้กำเนิดลูกของท่านได้”
ไม่ว่าอย่างไร หมิงหลันก็จะลองเอาแต่ใจดูสักหน่อย เพราะท่านเจ๋อฮั่นบอกกล่าวเอาไว้แล้วว่าท่านจอมมารไม่มีทางทำร้ายนางอย่างเด็ดขาด
“ข้าจะมิพูดซ้ำ..กลับห้องของเจ้าไปเสีย”
หมิงหลันกำมือแน่น นางลุกขึ้นมาจากเตียงด้วยความโมโห
ดวงตาของหลี่เจ๋อเชี่ยนพลันเข้มขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัว หลังจากที่เขาเห็นชุดที่เทพบุปผาสวมมา ใบหน้าของเขาก็นิ่งอึ้งราวกับกำลังทำอะไรไม่ถูก
เป็นอย่างที่ท่านเจ๋อฮั่นบอกเอาไว้จริงๆ ด้วยสินะ…ว่าชุดนี้มันมีประโยชน์
ท่านจอมมารโยนเสื้อคลุมของเขาให้คลุมทับร่างของหมิงหลันเอาไว้
“นี่เจ้าเดินมาในสภาพที่สวมชุดเช่นนี้งั้นหรือ?”
หมิงหลันส่ายหน้า
“ตอนที่ข้าเดินมาท่านเจ๋อฮั่นมาส่งเจ้าค่ะ…”
ประตูถูกเปิดออกพร้อมกับใบหน้าระรื่นของท่านเจ๋อฮั่น
“ขออภัยท่านพี่ด้วย ข้าลืมของเอาไว้ที่นี่…”
“เจ้าควรจะทำตัวให้เหมาะสมกับเทพบุปผาไป๋หมิงหลันด้วย!!”
เขารู้ถึงนิสัยเรื่องสตรีของเจ๋อฮั่นดีว่าเจ้าน้องชายตัวดีคนนี้ขึ้นชื่อเรื่องสตรีมากแค่ไหน
“….หากจะนับกันจริงๆ นางยังมิได้เป็นภรรยาของท่านพี่ด้วยซ้ำ นางคือเทพบุปผาที่ลงมาเพื่อให้กำเนิดองค์รัชทายาทของเผ่าจอมาร ใครจะไปรู้นางอาจให้กำเนิดลูกของข้าก็ได้!!”
“เจ๋อฮั่น!!”
หลังจากนั้นท่านจอมมารก็ไล่ท่านเจ๋อฮั่นออกไป ตอนนี้ในห้องก็เลยเหลือเพียงเธอและเขา
“เจ๋อฮั่นมิใช่คนที่เจ้าควรยุ่งเกี่ยว หากว่าเด็กที่เจ้าให้กำเนิดคือลูกของเจ๋อฮั่นมันก็จะไร้ประโยชน์ เพราะข้าก็จะต้องไปพาตัวเทพบุปผาคนใหม่มาให้กำเนิดลูกของข้า….”
“เช่นนั้นแล้วท่านก็ควรจะร่วมหอกับข้าสิเจ้าคะ เหตุใดท่านถึงต้องรอเวลาวันพระจันทร์เต็มดวงที่เนิ่นนานเช่นนั้น….”
“เจ้า คือเทพบุปผาที่เดินทางมาให้กำเนิดลูกของข้า หน้าที่ของเจ้ามีเพียงเท่านั้น ข้ามิใช่สามีของเจ้า และเจ้าก็มิใช่ภรรยาของข้า!! การแอบเข้ามาให้ห้องของข้าเช่นนี้ใช้ได้ที่ไหนกัน!!”