5.สัมผัสมากกว่านี้อีกหน่อย
หมิงหลันรู้สึกผิดอยู่ในใจ เพราะคำที่ท่านจอมมารกล่าวมานั้นเป็นความจริงทุกประการ ทว่านางก็มิได้คิดว่าจะให้เขามาเป็นสามีอยู่แล้วนี่!
เพียงแค่ได้รักเขาข้างเดียวเช่นนี้ก็พอ ในอนาคตเขาอาจจะมีสตรีที่เขาจะแต่งงานด้วย หากว่าถึงเวลานั้นจริงๆ นางจะเดินออกไปเอง
“ข้ามิได้ต้องการให้ท่านจอมมารมารักข้า ข้าเพียงอยากอยู่ใกล้ท่านอีกสักหน่อย เหตุใดถึงได้ปฏิเสธเช่นนั้น? ข้าเพียงอยากทำความคุ้นเคย ก่อนจะถึงวันที่เราต้องร่วมหอ..”
เป็นครั้งแรกที่หลี่เจ๋อเชี่ยนพบเจอสตรีที่ดื้อรั้นหน้ามึนเช่นนี้ แล้วใบหน้าที่ขึ้นเป็นสีแดงระเรื่อนั้นคืออะไร! รู้สึกเขินอายเป็นด้วยหรือ!
“ตามใจเจ้าเถิด หากว่าเจ้าอยู่ในที่ของเจ้า ไม่มารบกวนการทำงานของข้า เจ้าจะทำเช่นไรก็ตามใจ”
เขาถอดเสื้อด้านนอกออกวางไว้บนโต๊ะ โดยไม่สนสายตาของหมิงหลันเลย หลี่เจ๋อเชี่ยนพยายามควบคุมสีหน้าของตัวเองให้เป็นปกติ เพราะเขาพึ่งจะเคยถอดเสื้อออก ท่ามกลางสายตาอยากรู้อยากเห็นของสตรีเช่นนี้เป็นครั้งแรก
เขาจัดการดับเทียนแล้วเดินไปที่เตียง ก่อนจะล้มตัวนอนลงโดยมิได้สนใจหมิงหลัน
“เช่นนั้นข้าสามารถนอนร่วมเตียงกับท่านจอมมารได้ใช่ไหมเจ้าคะ?”
เจ๋อเชี่ยนมิได้กล่าวคำใดเขาหลับตาลงพร้อมกับนอนหันหลังให้นาง
ไม่ตอบเช่นนี้ แสดงว่าตกลงสินะ นี่เขายอมที่จะให้นางสัมผัสร่างกายเขาแล้วงั้นหรือ! การที่ท่านจอมมารหันหลังให้เช่นนี้ ในตำราปกขาวกล่าวเอาไว้ว่า
การร่วมเตียงครั้งแรกหากสามีหรือภรรยานอนหันหลัง นั่นหมายความว่าผู้นั้นกำลังรู้สึกเขินอาย จะต้องดับไฟทั้งหมดหรือรอให้เขาหลับก่อนค่อยเริ่มการสัมผัสที่หวานซึ้งได้
ที่แท้ท่านจอมมารก็กำลังเขินอายนี่เอง!
หมิงหลันล้มตัวนอนลงข้างเขา นางรักษาระยะห่างเอาไว้ให้พอดี ดวงตาคู่งามกำลังจ้องมองแผ่นหลังของเขาด้วยหัวใจที่เต้นแรง
ถึงแม้ว่านี่จะเป็นเพียงแค่ความทรงจำและความสุขของหมิงหลันคนเดียวแต่นางก็ยินยอม ต่อให้ต้องคลอดลูกให้เขาแล้วหมิงหลันจะต้องกลับไปสู่แดนบุปผานางก็จะกลับไปอย่างไม่เรียกร้องสิ่งใด
หน้าที่ของนางคือให้กำเนิดองค์รัชทายาทของเผ่ามาร หมิงหลันเพียงฉกฉวยเอาหน้าที่มาเติมเต็มความเพ้อฝันในใจก็เท่านั้น
ตอนนี้ด้านนอกเงียบสงัดเพราะเป็นเวลาดึกมากแล้ว เทียนในห้องก็ดับจนหมด จันทราในวันนี้ไร้ซึ่งแสงสว่างเพราะเป็นคืนเดือนมืด เสียงลมหายใจของท่านจอมมารสม่ำเสมอแล้ว นั่นแปลว่าเขาเข้าสู่ห้วงนิทราไปเรียบร้อย
หมิงหลันยกมือขึ้นมาร่ายมนตร์หลับใหลใส่ท่านจอมมาร หากเขาตื่นมาตอนที่นางกำลังสัมผัสเขา เขาคงจะด่าอย่างหนัก แล้วไล่นางออกไปจากห้องนี้แน่นอน
หมิงหลันลุกขึ้นมานั่งบนเตียง นางยกมือขึ้นมาสัมผัสใบหน้าที่ในใจทั้งหลงใหลและเฝ้าฝันถึงมาตลอดหลายร้อยปี
นี่ไม่ใช่ความฝันใช่ไหม ปลายนิ้วของนางสามารถสัมผัสเขาได้จริงๆ ใช่ไหม?
หมิงหลันก้มหน้ามาจรดริมฝีปากลงบนหน้าผาก เปลือกตา ไล่ลงไปจนถึงริมฝีปากของเขา นางขบเม้มที่ริมฝีปากของเขาเบาๆ หมิงหลันใช้ลิ้นลากไล้ไปตามไรฟันก่อนจะสอดปลายลิ้นเข้าไปด้านในปากของเขา นางใช้ลิ้นเรียวเล็กปลุกเร้าลิ้นของเขาอย่าเย้ายวน
น่าเสียดายที่ตอนนี้ท่านจอมมารไร้สติ หากว่าเขามีสติละก็ เขาอาจจะตอบรับจุมพิตที่แสนหวานของนางกลับมาบ้าง ทว่าเท่านี้ก็พอ เท่านี้ก็เพียงพอแล้วสำหรับหมิงหลัน แค่ได้สัมผัสเขาเพียงเท่านี้หัวใจของนางก็สุขล้นจนแทบเจียนจะเสียสติแล้ว!!
ในตอนแรกหมิงหลันก็คิดเอาไว้เช่นนั้น ทว่าเธอดันเหลือบไปเห็นบางอย่าง ที่มันตื่นขึ้นมาตรงหว่างขาของท่านจอมมาร นางกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก ไม่ต้องบอกเธอก็รู้ว่านั่นคือแท่งทวนขนาดใหญ่ของเขา
ไวกว่าความคิด หมิงหลันก็เอื้อมอืมมือไปสัมผัสอย่างแผ่วเบา นางยกมืออีกข้างมาปิดปากตัวเองเพื่อไม่ให้ส่งเสียงกรีดร้องออกมา
ขนาดสัมผัสผ่านกางเกง มันยังแข็งและร้อนขนาดนี้หากว่าได้สัมผัสโดยไร้สิ่งกีดขวางล่ะ จะรู้สึกเช่นไรกันนะ? ดวงตาคู่สวยปรายตามองที่ใบหน้าของท่านจอมมาร
พลังปราณของหมิงหลันยังไม่มีฤทธิ์มากพอที่จะใช้เป็นเวลานาน เพราะนางถือเป็นเทพบุปผาที่ยังมีอายุน้อยเพียงแค่ไม่กี่ร้อยปีเท่านั้น แต่เมื่อเห็นใบหน้าของท่านจอมมารยังคงหลับอยู่ แสดงว่าคาถาของนางนั้นยังใช้ได้ผล
เช่นนั้นสัมผัสมากกว่านี้อีกหน่อย คงจะไม่เป็นไรหรอกมั้ง