บทที่ 3 ยายตัวแสบ 1.2
หัวใจแข็งแกร่งสั่นระทึกยามที่มองตามร่างอวบอั๋นหุ่นสะโอดสะอง ทุกย่างก้าวของเธอช่างกระตุ้นอารมณ์ปรารถนาได้อย่างเหลือเชื่อ แก้มก้นบิดไปตามจังหวะการก้าวเดิน ซ้ายทีขวาที น่าบีบขยำให้หายมันมือ ผิวกายเนียนละเอียดก็เช่นกัน น่าใช้ปากพรมจูบ ใช้ลิ้นลากไล้เสียสะบัด เขากำลังมองภาพนั้นเพลินๆ ด้วยอารมณ์ที่กระเจิดกระเจิงไปไหล อยู่ๆ ภาพของวราลีก็หายไปจากสายตา มีร่างของสตรีนางหนึ่งเข้ามาแทนที่
“เฮ้...ริโก้ที่รัก”
เสียงหวานของสาวนางหนึ่งที่สวมชุดว่ายน้ำแบบทูพีชสีดำมัน ทรวดทรงองเอวไม่ต่างกับวราลีมากนักจะมากกว่าเสียด้วยซ้ำ แต่ทำไมเรือนร่างของปารีสอดีตคู่ขาของเขาจึงไม่ทำให้เขาเกิดความรู้สึกใจสั่น อยากจะถอดชุดทูพีชนั้นออกจากเรือนร่าง แล้วจัดการฝังหน้าซุกไซ้ทรวงอกลูกโตนั้นเหมือนกับที่คิดกับวราลี
โอ้...ไม่ได้การณ์แล้ว ไม่ได้การณ์ เขาจะคิดอะไรเลยเถิดกับวราลีสาวน้อยจอมแก่นของเขาไม่ได้ ย้ำเตือนตัวเองว่าไม่ได้
“มาได้ไงปารีส เธอเป็นสมาชิกที่นี่เหรอ”
เฟอเดอริโกไม่ได้คิดดูถูกสาวตรงหน้า แต่ฐานะอย่างเธอคงไม่มีเงินมากพอมาจ่ายค่าสมาชิกแน่นอน หากเขาคาดเดาไม่ผิด ปารีสคงมาพร้อมกับขุมทรัพย์ขุมใหม่ที่เพิ่งขุดเจอ
“พอดีลิซมากับคาร์เตอร์ค่ะ” นั่นไงตรงกับความคิดของเขาเลย
“คาร์เตอร์ไหน อย่าบอกนะว่า คาร์เตอร์ ฟรองค์มัว”
เขาหมายถึงเจ้าพ่อค้ามนุษย์และธุรกิจเถื่อนรายใหญ่อันดับต้นๆ ของฝรั่งเศส แต่ดันมาทำมาหากินเปิดธุรกิจโรงแรมอยู่ที่อิตาลี ทำทีว่าหันมาทำธุรกิจสุจริตเพื่อปกปิดความชั่วของตัวเอง
“ใช่ คนนั้นแหละ”
“แล้วทำไมไม่อยู่กับคาร์เตอร์ล่ะ มานั่งทำไมตรงนี้”
“ก็ลิซคิดถึงคุณไงคะ ลิซก็เลยแวะมาทักทาย อีกอย่างคาร์เตอร์ดูท่าทางจะมีของเล่นชิ้นใหม่ด้วย ลิซก็คงจะตกกระป๋องเร็วๆ นี้”
ความสัมพันธ์ของชายทั้งหลายที่เธอยินยอมพร้อมใจทอดกายให้เชยชม ล้วนเป็นเรื่องของเงินตรา ความพึงพอใจทั้งสิ้น ไม่มีการผูกมัดหากใครเจอคนที่ถูกใจกว่าก็แยกทางกันได้ทุกเมื่อ ปารีสจึงต้องหาขุมทรัพย์ใหม่ไว้เสมอ และชายหนุ่มที่เธอกำลังควงคู่อยู่ขณะนี้ก็กำลังมีหญิงสาวต้องตาคนใหม่ เป็นสาวสวย หุ่นเฟิร์ม ผิวพรรณงามจับตา
“คิดถึงฉันเหรอ แต่ฉันไม่ยักกะคิดถึงเธอนะ ออกจะเบื่อด้วยซ้ำ”
มาเฟียชื่อก้องพูดไม่รักษาน้ำใจคนฟัง ที่หน้าตึงทันทีที่ได้ยินคำตัดไมตรี ทว่าความที่เป็นปารีส หญิงสาวที่ผ่านเรื่องราว ผ่านคำพูดเจ็บแสบมาเยอะ เธอจึงปรับสีหน้าและท่าทางให้เป็นปกติ ยิ้มให้ชายหนุ่มรูปงาม ใช้ปลายนิ้วกรีดกรายไปตามแผงอกกว้างที่มีไรขนสีน้ำตาลขึ้นเป็นหย่อม
“คุณไม่คิดถึงลิซก็ไม่เป็นไรคะ ลิซคิดถึงคุณคนเดียวก็พอ อยู่กับคาร์เตอร์ก็ไม่เหมือนอยู่คุณ คาร์เตอร์ผู้หญิงเยอะคะ ไม่ได้มีแค่ลิซคนเดียว” เธอยิ้มยั่ว
“คาร์เตอร์มันก็มั่วไม่เรื่อย เห็นผู้หญิงสวยๆ ไม่ได้มันก็ตะครุบไม่ดูว่าเป็นลูก เป็นเมียใคร ระวังเถอะจะถูกยิงกบาลเข้าสักวัน”
เขารู้กิตติศัพท์ของคาร์เตอร์ชายหนุ่มที่ไม่ถูกชะตาด้วยเป็นอย่างดีว่า คั่วผู้หญิงไม่เลือกหน้า ไม่สนใจว่าจะมีเจ้าของแล้วหรือไม่ ขอเพียงแค่คาร์เตอร์พอใจเท่านั้น และนั่นทำให้คาร์เตอร์มีศัตรูมากกว่าเดิม
“นั่นไงคะ ผู้หญิงที่คาร์เตอร์สนใจ เดินมาโน้นแล้ว”
ปารีสพยักพเยิดหน้าให้คู่สนทนาดูสาวคนใหม่ที่คาร์เตอร์หมายปอง เฟอเดอริโกมองตามไปอย่างเสียมิได้ แต่พอรู้ว่าหญิงสาวคนนั้นเป็นใคร ความร้อนแรงในแววตาก็ลุกพรึบพรับ ความไม่พอใจวิ่งฉิวเข้ามาในหัวใจ มองสองร่างที่เดินพูดคุยกันอย่างออกรสมายังจุดที่เขาและปารีสนั่งอยู่ด้วยความไม่ชอบใจ
“ขอบคุณคุณคาร์เตอร์มากนะคะที่เดินมาส่ง” วราลียิ้มหวานให้ชายหนุ่มสายเลือดอิตาเลียน-ฝรั่งเศส พร้อมกับเอ่ยขอบคุณ
“ยินดีครับ แล้วหวังว่าโอกาสหน้าผมจะได้เจอคุณเบลล์อีกนะครับ” คาร์เตอร์โต้กลับ ส่งยิ้มเบิกบานไปยังสาวน้อยหุ่นน่าฟัด ตาพราวระยับยามที่มองดวงหน้าของวราลี
“คงไม่เจอหรอก เพราะฉันไม่อยากให้เจอ”
เสียงห้าวใหญ่ของเฟอเดอริโกดังแทรกขึ้นอย่างอดรนทนไม่ไหว จะมาส่งสายตาหวานอะไรกันตรงนี้ ดีเท่าไหร่แล้วที่ไม่ใช้เท้าถีบให้กระเด็นตกลงไปในสระน้ำ ก่อนจะส่งสายตาดุให้กับน้องสาวของเพื่อนสนิทที่ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้กับท่าทางและคำพูดของเขา
“อ้าว!!...ริโก้เองเหรอ รู้จักเบลล์ด้วยหรือนี่”
คาร์เตอร์ยังแอบสงสัยว่าเหตุใดวราลีจึงหยุดเดินตรงเก้าอี้สนามตัวที่เฟอเดอริโกนั่งอยู่ หญิงสาวที่เขาหมายตาคงไม่ใช่ผู้หญิงของคนที่นั่งหน้าบึ้ง มองเขาอย่างไม่เป็นมิตร หากเป็นเช่นนั้นการแย่งชิงเธอมาเป็นของเขาก็คงยากกว่าที่คิด เพราะเฟอเดอริโกไม่ใช่คนที่ใครจะต่อรองได้ง่ายๆ เป็นประเภทที่ดีมาดีกลับ ร้ายมาร้ายกลับเป็นสิบเท่า
“รู้จักค่ะ พี่ริโก้เป็นเพื่อนสนิทของพี่ชายเบลล์เองค่ะ”
วราลีชิงตอบ ปรายตามองสาวผมทองที่นั่งข้างกายเฟอเดอริโกด้วยความไม่พอใจ แต่ก็ยังเก็บกักความรู้สึกนั้นไว้ภายใน ไม่แสดงออกให้ใครได้รับรู้
“เป็นอย่างนี้นี่เอง” คาร์เตอร์รับรู้เสียงสูง ก่อนจะหันไปมองหน้าเพื่อนของพี่ชายวราลีแล้วยิ้ม “ถ้าอย่างนั้นนายคงไม่ว่าอะไรใช่มั้ยริโก้ที่ฉันจะขออนุญาตพาเบลล์ไปทานอาหารค่ำพรุ่งนี้”
“ไม่มีปัญหาค่ะ พรุ่งนี้มารับเบลล์ได้ที่อพาร์ทเม้นท์นะคะ”
วราลีตอบรับกลับทันที คนที่เป็นเดือดเป็นร้อนถึงกับทนไม่ไหว ลุกขึ้นยืนเต็มความสูง 195 เซนติเมตร หันไปเผชิญหน้ากับคาร์เตอร์ตรงๆ
“ในฐานะที่ฉันเป็นคนดูแลเบลล์แทนปัณณ์ เพื่อนสนิทของฉัน ฉันไม่อนุญาตให้เบลล์ไปไหนมาไหนกับง่ายๆ พูดแค่นี้คงจะเข้าใจนะ”
หนุ่มอิตาเลี่ยนเต็มตัวพูดเสียงเข้ม จ้องมองคาร์เตอร์ตาไม่กระพริบ ทำสงครามสายตากันอย่างไม่มีใครยอมใคร
“นายก็แค่เป็นผู้ปกครองไม่ใช่เจ้าชีวิต เบลล์มีสิทธิ์ไปไหนมาไหนก็ได้” คาร์เตอร์สวนกลับ น้ำเสียงห้วนจัดไม่แพ้กัน
“ข้อนั้นฉันไม่เถียง แต่ฉันไม่ให้เบลล์ไปกับแกมีอะไรมั้ย” คนที่พูดเริ่มโมโห ทั้งน้ำเสียง และสีหน้าบอกถึงความไม่พอใจเต็มที่
“ก็อยากลองมีเหมือนกัน อยากรู้ว่าจะซักแค่ไหน” คาร์เตอร์กวนโทสะกลับ
“งั้นก็ลองดูซักตั้งเป็นไง เอาแบบไหนว่ามาได้เลย จะที่ลับที่แจ้ง ริโก้คนนี้ไม่มีเกี่ยงอยู่แล้ว”
มาเฟียเลือดร้อนผู้ไม่เคยยอมใครตอบรับคำท้า วราลีเห็นความตึงเครียด และความพยาบาททางสายตาของทั้งคู่แล้ว เธอจึงต้องแก้ไขสถานการณ์ที่ว่านี้ให้ลดระดับลง ก่อนที่จะเกิดศึกใหญ่
“ไม่ต้องเถียงกันนะคะว่า เบลล์จะไปดินเนอร์กับคุณคาร์เตอร์ได้หรือไม่ได้ เบลล์มีทางออกค่ะ”
เธอยิ้มรื่นกับแผนการที่ตนเองฉุกคิดได้เมื่อครู่