บทที่ 3
“โอ้โห!!...คุณหญิงสวยสุดๆ เลยค่ะ อิจฉาน้องจันทร์จังเลยที่ได้ ใส่สร้อยนี้”
ชันนี่พูดขึ้น คุณหญิงประภัสสรช่างเม้าท์หันซ้ายหันขวา จากนั้น ก็กระซิบข้างหูคู่สนทนา
“ฟังแล้วอย่าเอ็ดไปนะ สร้อยเพชรชุดนี้เจ้าของเขาเตรียมไว้ให้ คนรัก แต่คนรักกลับหนีตามผู้ชายอื่นไป เจ้าของเขาก็เลยเสียใจเอามา ประมูลซะเลย”
ดวงตาของชันนี่เบิกกว้างอีกรอบเมื่อได้ยินที่มาที่ไปของเครื่อง เพชรชุดนี้
“ผู้หญิงคนนั้นต้องโง่แน่ๆ เลยค่ะ ทิ้งชายหนุ่มผู้รํ่ารวยไปได้ยังไง ถ้าเป็นชันนี่นะชันนี่จะกระโดดเกาะไม่ปล่อยเลย ว่าแต่เจ้าของเครื่อง เพชรชุดนี้เป็นใครคะ?”
สาวประเภทสองช่างเม้าท์ถามสวน ความอยากรู้อยากเห็นขึ้น สมอง
“อย่ารู้เลย รู้มากไม่ดีหรอก รู้แค่นี้ก็พอ”
ประภัสสรตัดบทเอาดื้อๆ ทิ้งความสงสัยไว้ให้กับชันนี่เต็มๆ และ นั้นทำให้ความอยากรู้ของชันนี่มีเพิ่มมากขึ้น หากไม่รู้เรื่องในวันนี้ คาด ว่าคืนนี้จะนอนไม1หลับแน่ๆ
“โห...คุณหญิง หลอกให้อยากแล้วจากไปดื้อๆ เลยนะคะ บอก นิดนึงได้มั้ย อยากรู้ใจจะขาดแล้วนะคะ?”
ชันนี่ไม่ยอมแพ้ ทิ้งกลางคันอย่างนี้พาลท้องจะอืด นอนไม่หลับ เอาได้ ยิ่งอีกฝ่ายเล่นท่า ชันนี่ยิ่งอยากรู้
“ฉันไม่พูดกับแกแล้ว ฉันไปดูงานข้างนอกดีกว่า แกเตรียมงาน ให้ดีๆนะชันนี่ ถ้าทำดีถูกใจแล้วฉันจะบอกแก”
ประภัสสรพูดทิ้งท้ายก่อนจะเดินออกไปจากห้องแต่งตัว ทำมกลางความอยากรู้เต็มอกของชันนี่ และความสงสัยบางประการที่ แล่นเข้ามาในหัว
ทำไมเจ้าของสร้อยเพชรจึงเจาะจงให้บุหสันสวมใส่สร้อยเสันนี้ “โธ่!!...บอกนิดนึงก็ไม่ได้ทำให้เราท้องอืดซะงั้น”
ชันนี่บ่นไล่หลังคุณหญิงเจ้าของงานก่อนจะหันไปสนใจงานของ ตนเองให้ดีที่สุด เสร็จงานแล้วค่อยไปเอาความดีความชอบ ไปเอา คำตอบที่ตนเองต้องการรู้
นางแบบคนแรกเดินออกมาจากด้านหลังเวที เดินอวดความ สวยงามของเครื่องประคับที่ตนเองใส่ไปตามเวทีที่บัดนี้เนรมิตเป็น แคทวอสัคชั่วคราว ก่อนจะมาหยุดยืนตรงจุดที่กำหนดไว้ และเริ่มการ ประมูล
นางแบบคนต่อไป เดินออกมาบนเวที เพื่อทำหน้าที่ของตน หลังจากที่การประมูลเคริ่องประตับของคนก่อนหน้าเสร็จสิ้น ไล่ไปทีละ
คนจนกระทั่งถึงบุหลันที่สวมใส่เครื่องเพชรชุดหัวใจจาร์ฟาเป็นคน สุดท้าย
บุหลันมีอาการสั่นอย่างเห็นได้ชัด เมื่อเห็นบุรุษร่างงามคนหนึ่ง ทั่งอยู่บนโต๊ะวีไอพีด้านหน้าสุด ดวงตาสาวตื่นตระหนกและเบิกกว้าง พอประมาณ หัวใจเต้นถี่และรัวเร็ว อาการเย็นเฉียบรู้สึกได้บรีเวณมือ และปลาบเท้าทั่งสองข้าง
“ชีคจาร์ฟา.
บุหลันแสนสวยครางชื่อเขาอยู่ในใจ เขาคนนี้คือคนที่เธอไม่มีวัน ลืม เป็นคนที่อยู่ในหัวใจของเธอเสมอมาและตลอดไป ยิ่งเห็นดวงตาคม กรบจ้องมองมายังเธอด้วยสายตาร้อนแรงดุจเปลวเพลิงด้วยแล้ว บุหลัน แทบจะก้าวขาไม่ออก การเดินที่ซักซ้อมกันไว้ดิบดีดูจะรวนไปหมด นางแบบสาวจึงต้องตั้งสมาธิ ข่มความตกใจ ทำเป็นไม่สนใจ รึบทำ หน้าที่ของตนเองให้เสร็จสิ้นไวๆ เพื่อที่จะได้เดินลงไปจากเวทีแห่งนี้
...หลบหลีกนัยน์ตาสีนิลประกายวับที่ทำให้เธอละลายได้ทุกครั้ง ที่สบสายตา
จาร์ฟามองสตรีแสนโสภาบนเวทีเขม็ง ชุดราตรีสีนี้าเงินเข้มแบบ เกาะอกรัดรูป อวดสรีระสะโอดสะอง สีของชุดราตรียามที่ต้องแสงไฟบน เวทีช่วยขับผิวพรรณให้เปล่งปลั่ง น่าสัมผัสจนเขาจินตนาการไปว่า ตอนนี้ฝ่ามือของตนเองกำลังลูบไล้ผิวกายเนียนนุ่มอยู่ ก่อนจะค่อยๆ ปลดชุดราตรีสวยงามนั้นออกจากร่าง แล้วต่อจากนั้นอะไรจะเกิดขึ้นเขา แทบคิดไม่ออก เพราะสมองมันเต็มไปด้วยความปรารถนา ที่ลามเสียไป ทั่วร่างได้อย่างไม่ยากเย็น เพียงแค่เห็นสาวที่ทำให้เขาเจ็บปวดหัวใจ อย่างสุดแสน แล้วนำความแค้นมาให้เขาอย่างมากมาย
แต่แล้วดวงตาของเขาก็เปลี่ยนสีเมื่อเห็นชาญวิทย์โบกมือและ ยิ้มให้นางแบบสาวที่ส่งยิ้มบางๆ ตอบกลับมา มันเหมือนไฟโหมไหม้ใจ โหมความแค้นให้กระพือเดือดเต็มอก ต่อหน้าเขาบุหลันยังทำเช่นนี้ แล้ว ลับหลังเธอจะทำมากกว่านี้หรือไม่ เพียงแค่คิดเขาก็แทบทนไม่ไหวแล้ว
เขาจะเอาคืนคนที่ทำให้เขาเจ็บอย่างสาสม โดยเฉพาะเธอ... บุหลัน
“มาถึงชุดเครื่องประดับชิ้นสุดท้ายแล้วนะครับ เครื่องเพชรชุดนี้ เป็นของท่านชีคจาร์ฟาครับ ท่านได้นำเครื่องเพชรชุดหัวใจจาร์ฟา มาร่วมประมูลในครั้งนี้ด้วย เครื่องเพชรชุดนี้ประกอบด้วยสร้อยเพชร หนัก 30 กะรัต มีจี้ที่ทำจากพลอยแดงรูปหัวใจล้อมด้วยเพชรอีกหนึ่งร้อย ยี่สิบเม็ด ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 1 ล้านบาทครับ”
เสียงฮือฮาดังขึ้นอีกครั้งที่ได้ยินราคาเริ่มต้นของการประมูล เพราะราคาที่ว่านั้นถูกกว่าราคาเป็นจรืงมากนัก มากชนิดที่ว่าคนละเริ่อง เดียวกัน แน่นอนที่คุณหญิงคุณนายและบุคคลชั้นสูงในสังคมต่างแย่งขิง กันประมูลยกใหญ่ ราคาจึงพุ่งสูงถึง 15 ล้านบาท
“50 ล้านครับ”
เสียงของชาญวิทย์ดังขึ้น ทำให้คนเหล่านั้นที่ต้องการจะได้ เคริ่องเพชรชุดนี้ปล่อยเสียงฮือฮาขึ้นมาอีกรอบ บางคนก็ถอดใจ บางคน ก็ไม่ยอมแพ้'แข่งประมูลอีกครั้ง จากห้าสิบล้านกลายเป็นเจ็ดสิบล้านและ ดูเหมือนว่ามันจะเพิ่มมากขึ้นเรอยๆ
“90 ล้านครับ”
ชาญวิทย์เอ่ยจำนวนเงินที่ร่วมประมูลอีกครั้ง และครั้งดู เหมือนว่าคุณหญิงคุณนายและอีกหลายคนที่ต้องการครอบครองจะล่า ถอย
“90 ล้านครั้งที่ 1 90 ล้านครั้งที่ 2 90 ล้านครั้งที่...”
เสียงของพิธีกรที่ทำหน้าที่อยู่บนเวทีหยุดลง เมื่อมีเสียงของบุรุษ คนหนึ่งดังขึ้นมา
“200 ล้าน”
พอสิ้นเสียงของจาร์ฟา ทั่วทั้งห้องจัดเลี้ยงแตกฮือราวกับผึ้งแตก รัง บุคคลที่เข้ามาร่วมการประมูลเพื่อการกุศล อื้ออึ้งไปกับจำนวนเงินที่ หลุดออกมาจากปากของชีคหนุ่ม ตามมาด้วยความสงสัยว่า จาร์ฟาจะ ประมูลไปเพื่ออะไรในเมื่อเครื่องเพชรชุดนี้เป็นของเขาเอง
“200 ล้านครั้งที่ 1 200 ล้านครั้งที่ 2 200 ล้านครั้งที่...”
เสียงของพิธีกรหยุดลงอีกครั้ง เมื่อมีเสียงหนึ่งแทรกขึ้นมา พร้อม กับราคาการประมูลที่สูงขึ้น
“210 ล้านครับ”
ชาญวิทย์คือเจ้าของเสียงนั้น และนั้นทำให้ผึ้งแตกรังอีกครั้งหนึ่ง จาร์ฟาตวัดสายตามองคนที่ประมูลแข่งกับเขาเพียงนิด ก่อนจะตวัด สายตาไปมองสาวร่างสวยที่ยังคงยืนนึ่งบนเวที
เล่นกับใครไม่เล่นมาเล่นกับจาร์ฟา รู้จักจาร์ฟาคนนี้น้อยไปเสีย แล้ว
“500 ล้าน”
แน่นอนที่เสียงเซ็งแซ่จะดังขึ้นอีกครั้ง ราคาสูงขนาดนี้ไม่มีใคร กล้าประมูลแข่ง มีแต่ถอยทัพหลีกหนีกันเป็นทิวแถว ไม่เว้นแม้แต่ชาญ วิทย์ประภัสสรยิ้มน้อยยิ้มใหญ่หลังจากที่ได้ยินราคาการประมูลเครื่อง เพชรที่สูงถึงห้าร้อยล้านบาท ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงมาก
บุหลันที่ยืนแข้งขาสั่นบนเวทีตกใจไม่น้อยกับตัวเลขการประมูล ที่เปล่งออกมาจากปากของจาร์ฟา เธอกำลังสงสัยเหมือนกับอีกหลายๆ คนว่าเขาทำอย่างนี้ทำไม ในเมื่อชุดเครื่องเพชรก็เป็นของเขา บุหลันเห็น ความไม่ชอบมาพากลบางอย่าง
“500 ล้าน ครั้งที่ 1 500 ล้าน ครั้งที่ 2 500 ล้าน ครั้งที่ 3 ปิดการ ประมูลครับ ท่านชีคจาร์ฟาได้เครื่องเพชรชุดนี้ครับ”
เสียงปรบมือดังกระหึ่มหลังจากที่สิ้นเสียงพิธีกร เป็นการเสร็จสิ้น การประมูลอย่างสวยงาม เซ่นเดียวกับบุหลันที่เหมือนกับหลุดภาระอัน ยิ่งใหญ่ หมุนตัวเดินกลับเข้าไปหลังเวที
ทว่า...
“เดี๋ยวก่อน”
เสียงทรงพลังแฝงไว้ซึ่งอำนาจของจาร์ฟา ดังขึ้นขณะที่ปลายเท้า ของบุหลันกำลังจะก้าวเดินไป เธอจึงหันมาตามเสียงนั้นอย่างกรงเกรง
“มีอะไรเหรอคะท่านชีค?” ประภัสสรรีบเข้ามาสอบถามอย่าง เร่งด่วน สีหน้าตกใจ
“ฉันจะบอกความตั้งใจของฉันกับทุกคนก็เท่านั้นเอง”
ถ้อยคำของจาร์ฟาทำให้บุหลันรู้สึกถึงความเจ้าเล่ห์ที่ซ่อนเร้นอยู่ ในประโยคนั้น
“ความตั้งใจ” เจ้าของงานพูดทวนคล้ายกับเป็นคำถาม “ความ ตั้งใจอะไรคะ?”
“ฉันตั้งใจมอบเครื่องเพชรชุดนี้ให้กับภรรยาในอนาคต แต่ว่าเธอ กลับไม่รักดีหนีฉันไปอยู่กับชายอื่น ฉันก็เลยเอาเครื่องเพชรชุดนี้มา ประมูลเพื่อการกุศล ฉันให้เงินกับสมาคม แต่ไม่อยากได้เครื่องเพชร ฉัน เลยตั้งใจว่าจะให้เครื่องเพชรชุดนี้กับนางแบบที่สวมใส่แทน นั้น หมายความว่า เครื่องเพชรชุดนี้ฉันยกให้นางแบบคนนั้น”
งานในคํ่าคืนนี้จาร์ฟาทำให้หลายๆ คนประหลาดใจ จนเปล่ง เสียงฮือฮาขึ้นมาหลายครั้ง แล้วครั้งนี้ก็เซ่นกัน เสียงนั้นดังกึกถ้อง บาง คนยินดีกับบุหลันที่ได้สร้อยเพชรงามลํ้าด้วยคุณค่าและราคา บางคน อิจฉาที่เธอได้ของขวัญชิ้นพิเศษนี้ไป อีกทั้งยังชื่นชมจาร์ฟาที่กล้าพูด คน รักได้หนี.ตามชายอื่นไป หากเป็นคนอื่นคงไม่กล้าพูดแน่นอน
หากมีคนถามบุหลันว่าต้องการเครื่องเพชรชุดนี้หรือไม่ เธอตอบ ได้ทันทีทันใดเลยว่าไม่ต้องการ คำพูดที่ว่า ตั้งใจจะมอบให้กับคนรักที่ไม่ รักดีหนีตามชายอื่นไป มันเสียดทานความรู้สึกของเธอมากเหลือเกิน เธอ นั้นหรือหนีตามชายอื่นไป
ไม่เลย...มันไม่เคยอยู่ในความคิดเลยแม้แต่น้อย แต่ที่ต้องจาก เขามาโดยไม่กล่าวถึงเหตุผล เพราะเธอมีความจำเป็นบางอย่างต่างหาก ถ้อยคำของเขานั้นเหมือนกับประจานเธอไปในที หากทุกคนในที่นี้รู้ว่า เธอคือคนรักคนนั้น คงจะโดนถากถาง หยามเหยียด รวมทั้งสายตาที่ไม่ เป็นมิตรอีกด้วย
“คือว่า...”
เธอกำลังจะค้านว่าไม่สามารถรับเครื่องประดับชุดนี้ได้ แต่ทว่า พิธีกรที่รู้งานสามารถอ่านใจเธอออกว่าคิดอะไรจึงพูดแทรกเพื่อให้เสียง ของบุหลันนั้นจางหายไป
“น้องจันทร์ขอบพระคุณท่านชีคสิครับ”
บุหลันหันมามองคนที่พูดแทรก ก่อนจะหันไปมองหน้าเจ้าของ งานที่พยักหน้าให้เธอทำตาม ก่อนจะเลื่อนสายตาไปมองมัลลิกาที่พยัก หน้าและส่งยิ้มให้บุหลันประหนึ่งจะบอกว่าให้ทำตามที่พิธีกรบอก
“ขอบพระคุณท่านชีคมากค่ะ”
บุหลันจำใจยอม พนมมือไหว้และกล่าวขอบคุณจาร์ฟาด้วย กิริยาที่สวยงาม ด้วยเสียงอันไพเราะ
“ไม่เป็นไร ฉันเต็มใจให้ เธอก็ต้องเต็มใจรับมันก็ถูกแล้ว”
เขาเอ่ยด้วยนั้าเสียงแห่งชัยชนะ ซึ่งเป็นนี้าเสียงที่บุหลันไม่ชอบ ใจเอาเสียเลย แต่จะทำอะไรชีคผู้ยิ่งใหญ่คนนี้ได้ ตอนนี้หมดเวลาของ เธอแล้ว สมควรที่จะลงไปจากเวทีแห่งนี้เสียที คิดได้ดังนั้นเธอจึงหมุนตัว แล้วก้าวเดินไปยังหลังเวทีอย่างสง่างาม
ทุกท่วงท่าที่เยื้องกายของเธอเรียกความกำหนัดให้เกิดขึ้นมากับ กายของชีคหนุ่มมากเหลือเกิน ยามที่ก้าวเดินสะโพกกลมกลึงจะยักย้าย ส่ายไปมา เขาใคร่นึกถึงยามที่เธอโยกไหวบนร่างกายของเขา สะโพก งดงามจะขยับขึ้นลงไม่หยุด จนกว่าเธอจะเหยียบชั้นฟ้าที่สว่างไสว ใจ หนุ่มสั่นรัว เช่นเดียวกับร่างกายที่เรมมีอาการร้อนรุ่ม เนื่องจากตอนนี้ไฟ ปรารถนากำลังเผาไหม้ร่างกายของเขา
โอ้...เธอคือแม่มด แม่มดร้ายที่เขาอยากจะถอยห่างและ อยากจะเข้าใกล้ในเวลาเดียวก้น
อาการโล่งอกของบุหลันอยู่กับเธอได้ไม่นาน หญิงสาวแสนสวย ก็ต้องตกอยู่ในสภาวะอึดอัดอีกครั้งเมื่อเดินกลับมายังโต๊ะวีไอพี เพราะ เก้าอี้ที่จัดเรียงเป็นรูปครงวงกลมนั้นมีเหลืออยู่ที่เดียว และที่นั้นก็อยู่ตรง กลางระหว่างสองหนุ่ม
หัวใจของเธอมันเหมือนมีภูเขามากดทับเหลือเกิน อึดอัดและ หหักอึ้ง
“นั่งสิจันทร์”
ชาญวิทย์เอ่ยขึ้นเมื่อเห็นว่าที่เจ้าสาวยืนอยู่ด้านหลังเก้าอี้ตัวว่าง เปล่านิ่ง แล้วเสียงนั้นเองที่ทำให้บุหลันต้องเลื่อนเก้าอี้ออกมา แล้วทรุด กายลงนั่งวางกล่องเครื่องประดับชุดหัวใจจาร์ฟา
ลงบนโต๊ะ
“สร้อยเพชรเหมาะกับจันทร์มากๆ เลยนะ แต่น่าเสียดายที่คนจะ ให้จันทร์น่าจะเป็นพี่ พี่กะว่าจะประมูลสร้อยเล้นนี้เพื่อที่จะให้จันทร์ใส่ใน วันแต่งงานของเรา”
ชาญวิทย์เอ่ยบอกว่าที่เจ้าสาวเกี่ยวกับความตั้งใจของตน ไม่เช่นนั้นเขาคงไม่ล้แข่งกับชีคหนุ่ม ผลสุดท้ายเขาก็ต้องแพ้ราบคาบ เพราะเงินของเขาหนาไม่เท่าเจ้าของสร้อยเล้นนี้
“อย่าคิดมากนะคะคุณกาย ประเดี๋ยวจะพาลปวดหัว แค่คุณ กายคิดจะประมูลให้จันทร์จันทร์ก็ดีใจแล้วค่ะ”
เธอตอบกลับไปเสียงหวาน ชายหนุ่มสองคนที่ได้ยินคำพูดของ เธอมีอารมณ์ต่างกันอย่างสิ้นเชิง ชาญวิทย์ยิ้มอย่างเบิกบานใจ ชีคหนุ่ม นั้นเล่ากัดกรามแน่นจนคนที่นั้งข้างๆ ได้ยิน ทว่าเธอก็ทำนิ่งเฉยไม่สนใจ เขา เช่นเดียวกับที่แสดงออกให้ทุกคนเห็นว่า เธอกับจาร์ฟาไม่รู้จักกันมา ก่อน
“ขอบคุณท่านชีคมากนะครับที่ให้สร้อยเพชรจันทร์ ผมถือว่า สร้อยเล้นนี้เป็นของขวัญวันแต่งงานของผมกับจันทร์นะครับ”
ชาญวิทย์หันมาพูดกับจาร์ฟาที่พยายามอย่างยิ่งยวดที่จะทำสี หน้าให้เป็นปรกติ แม้ว่าในใจอยากจะนำปืนไปจ่อที่ศีรษะของอีกฝ่าย ยิง สมองให้กระจายดับชีวาเสียตรงนี้ เขามีวิธีจัดการกับอีกฝ่ายที่ดีกว่านี้ เจ็บกว่านี้และรอเวลานั้นอย่างใจเย็น
บุหลันหัวใจหล่นวูบเมื่อได้ยินคำพูดของชาญวิทย์ เธอรู้ดีว่า ถ้อยคำประโยคนี้กำลังสร้างเชื้อเพลิงกองใหญ่ขึ้นในใจของจาร์ฟา เธอ
กลัวเหลือเกินว่าพายุอารมณ์ของเขาจะถล่มงานเลี้ยงนี้ให้ราบคาบ ภาวนาขออย่าให้เป็นอย่างที่หวาดกลัวเลย
“ไม่เป็นไรครับ ผมเองก็ไม่อยากเก็บสร้อยเลันนี้ไว้เหมือนกันครับ เห็นสร้อยเลันนี้ทีไรเหมือนเห็นนางแม่มดทุกทีครับ ให้คนอื่นน่ะดีแล้วจะ ได้ไม่เจ็บปวดใจ จริงมั้ยครับคุณผู้หญิง?”
ประโยคคำพูดของชีคหนุ่มสร้างความเจ็บปวดใจให้เธอได้ไม่ มากเท่ากับคำถามที่เขาเอ่ยถาม เขากล่าวหาว่าเธอคือแม่มด แล้วยังมา ถามเธออีกว่าจริงหรือไม่ เขากำลังคิดจะทำอะไรอยู่ บุหลันอยากรู้ เหตุผลนี้จริงๆ
“ค่ะใช่ค่ะเก็บไว้ใกล้ตัวมันก็พาลจะเจ็บปวดใจเปล่าๆตัดใจ ดีกว่าค่ะจะได้ไม่ต้องเจ็บปวด”
บุหลันกำลังสื่อความหมายให้จาร์ฟารู้ว่า หากตัดใจได้ดังคำพูด คำว่าเจ็บปวดใจคงไม่เกิดขึ้นไม่ว่าจะเป็นเขาหรือเธอ
“แต่ผมเป็นคนแปลกอยู่อย่างหนึ่ง ถ้าใครทำให้เจ็บ จะไม่มีวัน ลืมจนวันตาย แล้วยิ่งไม่ได้ล้างแค้นก็ยิ่งนอนตายตาไม่หลับ”
จาร์ฟาพูดนิ่มๆ นี้าเสียงเรียบ บุหลันรู้ดีว่าคำพูดของเขานั้น กำลังจะบอกเธอว่า เขามาที่นึ่เพื่อแก้แค้นเธอ แล้วสร้อยเล้นนี้ที่เขา เจาะจงให้เธอใส่มันก็อยู่ในแผนของเขาด้วยเช่นกัน
“ท่านชีคพูดน่ากลัวจังนะครับ ถ้าเป็นผม ผมจะให้อภัยคนรักที่ ทำให้ผมเจ็บ จะไม่แก้แค้นคนที่ผมรักเด็ดขาด ผมจะยืนมองดูความสุข ของเธอด้วยความสุขเช่นกันครับ”
ชาญวิทย์ที่มีจิตใจดีคนหนึ่งเอ่ยออกไปด้วยนั้าเสียงอ่อนโยน แฝงไว้ซึ่งความเมตตา
“ผมไม่ใช่คนดีอย่างคุณนี่ครับ ไม่อย่างนั้นคนรักของผมคงไม่ทิ้ง ผมไปหาชายอื่นแบบนี้”
จาร์ฟาโต้กลับทันควัน นี้าเสียงเข้มขึ้น ดวงตาแข็งกระด้างจ้อง มองชาญวิทย์เขม็ง
“อาหารมาแล้วค่ะ ทานอาหารดีกว่านะคะ”
เธอรีบเปลี่ยนเรอง ก่อนที่ชาญวิทย์จะเติมเชื้อเพลิงใส่หัวใจของ ชีคแห่งผืนทะเลทรายมากขึ้นโดยไม่รู้ตัว
หลังจากเสร็จสิ้นการประมูลก็ถึงเวลาดินเนอรีด้วยอาหารเลิศรส ที่ถูกนำมาเลิรีฟให้กับบุคคลทั้งหลายที่เดินทางมาร่วมงาน อีกหลายๆ คนอาจจะมีความสุขกับรสชาติของอาหารแสนอร่อย มีความอิ่มใจที่ได้ เดินทางมาร่วมงานการกุศลในครั้งนี้
แต่สำหรับบุหลันแรกเริ่มเธอมีความสุขและความอิ่มเอิบใจที่มี ส่วนร่วมในการทำบุญ ทว่าเวลานี้ไม่ใช่ เธอกำลังเผชิญกับความอึดอัด อย่างมากมาย ร่างกายสาวเกร็งทุกครั้งที่ข้อศอกหรือไม่ก็สำแขนของ จาร์ฟาที่จงใจให้ถูกสำแขนเนียนสวย อีกทั้งยังรู้สึกร้อนๆ หนาวๆ กับพลัง ร้อนรุ่มของดวงตาคมกรีบของชีคหนุ่ม ยามที่เขาเหลือบมองเธอ
อึดอัดเหลือเกิน เมื่อไหร่จะกลับบ้านเสียที
“จันทร์ทานกุ้งสิ อร่อยนะ เดี๋ยวพี่ป้อนให้”
ชายวิทย์พูดขึ้น ก่อนจะจิ้มเนี้อกุ้งลอบสเตอร์นั้าจืดด้วยล้อม ก่อนจะจดจ่อตรงปากสาว บุหลันค่อยๆ เผยอปากอ้ารับเนี้อกุ้งที่อีกฝ่าย ป้อนให้ไม่เพียงเท่านั้นชาญวิทย์ทำบางอย่างที่เธอคาดไม่ถึง
“ดูสิ เนี้อกุ้งติดปากจันทร์เลย พี่เช็ดให้นะ”
ยังไม่ทันที่จะอ้าปากร้องห้าม ผ้าเช็ดปากที่อยู่ในมือของผู้พูดก็ มาขจัดเศษเนี้อกุ้งนั้นให้หลุดออกไป บุหลันไม่รู้ว่าจะห้ามอย่างไรจึง ปล่อยเลยตามเลย ถึงแม้ว่าหูของเธอจะได้ยินเสียงกัดกรามแน่นของ จาร์ฟาดังออกมาเป็นระยะๆ ก็ตาม
การรับประทานอาหารที่แสนอึดอัดดำเนินต่อไป จนกระทั่งถึงคิว ของอาหารหวานซึ่งเป็นอาหารจานสุดท้ายของการดินเนอร์ในคํ่าคืนนี้ และนั่นเป็นเวลาที่บุหลันรอคอยมาตลอด เพราะมันเป็นสัญญาณบอก เธอว่า เวลากลับบ้านได็ใกล้เข้ามาทุกขณะ และดูเหมือนว่าเหตุการณ์ไม่ คาดฝันกำลังจะเกิดขึ้น
“โอ๊ย!!...” เสียงของชาญวิทย์ดังขึ้นพร้อมกับมือใหญ่กุมขมับ ของตัวเองเอาไว้
“คุณกาย...คุณกายเป็นอะไรคะ?”