บทที่1. ที่ทำงานแห่งใหม่ 2/2
2/2
บ้านเช่ากลางเมืองใหญ่...
กระท่อมน้อยที่พิชญ์สินีเช่าไว้ราคาไม่แพงนัก หญิงสาวจัดบ้านเสียหน้าอยู่ ทำความสะอาดบ้านจนดูน่าพักผ่อน ผู้หญิงตัวคนเดียวบนโลกใหญ่ไร้ญาติขาดมิตร มีเพียงพี่น้องร่วมโลกที่เติบโตมาพร้อมกันในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า ทุกวันหยุดว่างๆ พิชญ์สินีจะไปขลุกอยู่ที่สถานเลี้ยงเด็ก ช่วยผ่อนแรงอาจารย์ผู้ดูแล ช่วยสอนหนังสือน้องๆ จนเป็นที่รักใคร่เอ็นดูของทุกคน
“เย้ๆ พี่หนูแหวนมา มีขนมเต็มเลย...” เสียงเจื้อยแจ้วของเด็กน้อย ตอนที่เห็นเธอผ่านหน้าต่างห้องพัก
“ลงไปรับพี่หนูแหวนกันเถอะนะ ครูคะ...หนูไปช่วยพี่หนูแหวนถือของนะคะ” เสียงขออนุญาตกับแววตาตื่นเต้น คนดูแลเด็กจึงอนุญาตโดยดี เด็กๆ จึงวิ่งกรูลงไปรับพิชญ์สินีด้านล่างอย่างกระตือรือร้น เสียงวิ่งตึงตังโครมครามดังจนรุ้งแก้วส่ายหน้าด้วยความอ่อนใจ
“พี่หนูแหวนคะ พวกหนูมาช่วยค่ะ” เสียงหัวเราะร่ากับการแย่งชิงสิ่งของในมือพิชญ์สินี เพื่อช่วยพี่สาวคนสวยถือถุงขนม ทำให้เกิดการจลาจลย่อมๆ พิชญ์สินีจึงกระซิบดุเสียงอ่อนๆ
“เบาๆ จ้ะ เกรงใจคนอื่นที่กำลังทำงานอยู่ เขาอาจจะเสียสมาธิเพราะเสียงดังๆ ของพวกเรา”
“ค่ะๆ ครับๆ” หลายเสียงรับคำแล้วจึงรีบหุบปากเงียบ ต่างกุลีกุจอช่วยหญิงสาวถือถุงใส่ของคนละมือละไม้ เดินนำหน้าพิชญ์สินีไปยังห้องทำงานของรุ้งแก้วอย่างรู้หน้าที่ สิ่งของที่มีคนใจบุญนำมาให้จะต้องถูกจัดสรรปั่นส่วนให้ทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน เพื่อความเสมอภาคกับทุกๆ คน แม้จะอยากได้ใจแทบขาดก็ต้องอดทนรอ เมื่อทุกๆ คนล้วนแล้วแต่ขาดและต้องการอยากได้อยากมีเหมือนๆ กัน
“สวัสดีค่ะครู” หญิงสาวประนมมือไหว้ทำความเคารพรุ้งแก้วด้วยความเคารพนับถือ
“คราวนี้อะไรอีกล่ะหนูแหวน ดูสิขนซื้อมาเสียมากมาย อดข้าวจนผอมแทบจะปลิวลมอยู่แล้ว ไม่ต้องเป็นห่วงเด็กๆ พวกนี้หรอก อยู่ที่นี่ยังไงก็มีข้าวกิน” รุ้งแก้วมองถุงใส่ของที่เด็กทะโมนทั้งหลายนำมากองวางไว้ตรงด้านหน้าด้วยสายตาอ่อนโยน
“นิดหน่อยเองค่ะครู หนูแหวนกลัวน้องๆ จะไม่มีใช้ คราวที่แล้วระบายสีลงสมุด ดินสอสีก็สั้นกุดจนแทบจะไม่สีเหลืออยู่พอให้ระบายได้ พอดีกับที่ห้างสรรพสินค้าลดราคาลงมามากอยู่นะคะ หนูแหวนกับเพื่อนๆ จึงรวบรวมหามาให้ จะได้มีใช้ไม่ต้องแย่งกัน”
“ใจดีกับพวกทะโมนตามเคย หาอะไรดีๆ กินบ้างเถอะนะหนูแหวน ครูเป็นห่วง ไม่ต้องอดเพื่อให้พวกนี้มีกินมีใช้หรอกนะ ที่นี่ยังมีผู้คนใจบุญแวะเวียนเข้ามาบริจาคอยู่เรื่อยๆ”
“น้องๆ หนูแหวนทั้งนั้นนะคะ หนูแหวนไม่มีใครก็มีแต่พวกน้องๆ เท่านั้น ไม่ต้องเป็นห่วงหนูแหวนหรอกค่ะครู หนูแหวนได้งานใหม่แล้ว เงินเดือนแพงมากๆ คงสามารถปันมาให้ครูเพิ่มขึ้น น้องๆ จะได้มีความเป็นอยู่ดีขึ้นกว่าเดิมค่ะ”
“อ้าวเหรอ! ที่ไหนล่ะหนูแหวน งานหนักมากหรือเปล่า”
“บริษัทไทยรามานเอ็นเตอร์ไพรส์ค่ะ งานไม่หนักอะไรค่ะมันเป็นบริษัทของชาวต่างชาติรู้สึกเจ้าของจะเป็นคนรัสเซีย แค่จ่ายยาในห้องพยาบาลและทำแผลเล็กๆ น้อยๆ”
“อืม เคยได้ยินชื่ออยู่นะ เปิดตัวอลังการมากตอนที่รัสเซียได้สัมปทานน้ำมันในเมืองไทย เข้าที่นี่ได้หนูแหวนจะได้ทำตามความฝันเสียทีสินะ”
“ยังอีกไกลค่ะครู หนูแหวนอยากเก็บเงินได้เยอะๆ จะได้ไม่ต้องผ่อนบ้านนานๆ”
“ครูเอาใจช่วยก็แล้วกัน สักวันหนูแหวนจะได้มีบ้านเป็นของตัวเองอย่างที่ฝันเอาไว้”
“ขอบคุณค่ะครู”
“เอาล่ะมาดูสิว่าคราวนี้หนูแหวนซื้ออะไรมาแจกพวกทะโมนบ้าง มาจัดการแบ่งเลยดีกว่า ป่านนี้ตัวแสบพวกนั้นคงกำลังตั้งตารอ” รุ้งแก้วกล่าวเสียงกลั้วหัวเราะ เมื่อมีศีรษะเล็กๆ ผลุบๆ โผล่ๆ อยู่หน้าประตูห้อง ในเมื่อทุกคนตื่นเต้นเสมอตอนที่มีคนนำสิ่งของมาให้
“หลายอย่างเลยค่ะ เพื่อนๆ ที่โรงพยาบาลช่วยบริจาคมาเยอะแยะเลย อาจจะไม่ใช่ของใหม่ทั้งหมด แต่หนูแหวนคิดว่าน้องๆ คงอยากได้” พิชญ์สินีพูดยิ้มๆ เธอจัดการรื้อค้นถุงของวางให้รุ้งแก้วดูก่อนที่จะจัดการแบ่งปันให้เด็กๆ ทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน