"ลวงเด็กหลงทาง(2)" 5
ดาวเรืองเห็นนุสบาเก็บจานข้าวของอัครเดช จึงเดินเข้าไปยืนฝั่งตรงข้ามที่สิงขรนั่ง แต่เมื่อได้สบตาสีเข้มแล้วยิ้มจนเห็นฟันก็ต้องหุบลงเมื่อสิ่งที่สัมผัสได้คือความเย็นชา หัวใจเริ่มสั่นคลอนเหมือนมือของเธอที่ยื่นไปจับจานข้าวของเขา
“ดาวพาน้องไปอาบน้ำไป ดูสิ คนพี่เดินตามต้อยๆ ส่วนคนน้องก็นั่งมองตาละห้อย” นุสบาเก็บของใส่ถาด แล้วบอกให้ดาวเรืองมองลูกๆ ของเธอ
“ว่าไงครับหนุ่มน้อย มาให้พี่หอมชื่นใจหน่อยสิคะ” รอยยิ้มของเด็กชายตัวอ้วนทำให้เธอรีบเดินเข้าไปหา แล้วอุ้มภูวดลให้ขนาบเอว เมื่อเด็กน้อยเงยหน้ายิ้มจนเห็นฟันน้ำนมเต็มปาก พี่ดาวจึงก้มหอมแก้มของแก
“คักกก” เด็กน้อยภูวดลหัวเราะชอบอกชอบใจเมื่อพี่ดาวหยอกล้อ
“พี่ดาวขา ให้หนึ่งหอมน้องด้วยค่ะ”
หนึ่งหทัยกระโดดเหยงๆ อยากเล่นกับน้องและพี่ดาว
“ดาวเอาน้องมาให้พี่มา”
ภาพของลูกๆ ที่ผลัดกันหอมแก้มพี่สาวต่างพ่อแม่นั้นทำให้อัครเดชยิ้ม เขาดีใจที่เลือกคนไม่ผิดมาเป็นพี่เลี้ยงคอยช่วยเมียรักเลี้ยงลูกๆ
“ค่ะ” ดาวเรืองขานรับแล้วเอาตาภูวดลให้อัครเดช
“พรุ่งนี้ไปโรงเรียนใช่ไหม” อัครเดชอุ้มลูกชายให้นั่งบนขา
“ค่ะ”
“ดึกแล้ว ดาวพาน้องไปอาบน้ำพักผ่อนไป” เจ้าบ้านบอก
“งั้นดาวขอตัวนะคะ”
ดาวเรืองยกมือไหว้อัครเดชแล้วหันไปมองหนึ่งหทัย เธอไม่กล้าเข้าไปหาน้องสาวที่นั่งอยู่บนตักของลุงสิงห์
“หนึ่งไปอาบน้ำกัน” ทำเพียงแค่กวักมือเรียกน้องแล้วมองอย่างสงสัย อยากรู้จริงๆ ว่าลุงสิงห์คุยอะไรกับหนึ่งหทัย ทำไมเด็กน้อยเอาแต่พยักหน้าหัวเราะคิกๆ คักๆ
“เข้าใจค่ะ” หนึ่งหทัยยิ้มยิงฟันชิดแก้มสาก บอกว่าจะทำตามที่ลุงสิงห์บอก
“ฝันดีนะครับสุดสวย” สิงขรอุ้มหนูหนึ่งหทัยให้ยืนตรงหน้า เขาโน้มหน้าเข้าหาจูบกระหม่อมของแก แต่แววตาเจ้าเล่ห์แฝงไปด้วยเลศนัยเหลือบมองเหยื่อเนื้อหวานที่ยืนเป็นเป้าไม่ยอมขยับไปไหน
‘คืนนี้ ฉันจะลงโทษให้สาสมกับความดื้อดึงของเธอ ยัยเด็กแรด’
สิงขรกล่าวโทษเด็กใจแตกในใจ เรียวปากหยักก็กระตุกยิ้มเมื่อได้ทำให้เด็กสาวหวาดกลัว
“พี่ไปรอหนึ่งที่ห้องนะ” ใบหน้าร้อนผ่าวเมื่อได้สบตาแดงก่ำ เธอรีบก้มหน้าหลบตาแล้วเดินหนีออกจากห้อง ไม่ฟังแม้แต่เสียงเรียกของหนูหนึ่งหทัย
“พี่ดาวรอหนึ่งด้วยสิคะ” เมื่อเห็นพี่ดาวไปแล้ว หนูหนึ่งหทัยก็รีบวิ่งตาม
“หนึ่งอย่าลืมเรื่องที่ลุงบอกนะ” สิงขรตะโกนบอกหลานสาว
“ไม่ลืมค่ะ” หนูหนึ่งหทัยหันหลังมอง ชูนิ้วโอเคให้ลุงสิงห์ดู
“นายพูดอะไรกับยัยหนึ่งวะ?” สีหน้ามีความสุขของสิงขรทำให้อัครเดชมองหน้าเมียแล้วหันไปมองหน้าลูกน้องอย่างสงสัย
“นี่ก็ดึกมากแล้ว ผมกลับดีกว่าครับ” สิงขรขอตัวกลับห้อง แต่ไม่ยอมลุกขึ้น
“ขับรถกลับห้องไหวเหรอวะ” อัครเดชมองลูกน้องเริ่มทำตัวแปลกๆ
‘เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย โอ๊ย! กูจะประสาทแดก’ อัครเดชบ่นให้ลูกน้องในใจ
“นอนนี่ก็ได้นะพี่สิงห์ ห้องพี่สิงห์ นุชให้ดาวเข้าไปทำความสะอาดไว้แล้วด้วย” นุสบาอุ้มตาหนูพาดบ่า เดินกล่อมลูกวนเวียนไปมา
“เอ้านี่ กุญแจห้องนอนนาย อยากนอนที่นี่ก็นอนได้นะโว้ย” อัครเดชทำตามเมียรักไปเอากุญแจจากลิ้นชักตู้โชว์มาให้ลูกน้อง
“ขอบคุณครับ” สิงขรยิ้มเจ้าเล่ห์มองกุญแจห้องนอนในมือ
“นุชขอตัวพาตาหนูขึ้นไปนอนก่อนนะคะ...”
“ฮ้าวว!! ฉันก็ห่วงเหมือนกันว่ะ นี่ถ้านายจะกลับหรือจะนอนนี่ก็ช่วยปิดประตูบ้านด้วยนะ”
อัครเดชมองเมียรักอุ้มลูกชายเดินผ่านหน้าขึ้นไปชั้นสอง ชายหนุ่มอยากเข้านอนพร้อมนุสบาและอยากทำการบ้านก่อนเธอหลับจึงรีบเดินต้อยๆ ตามตูดเมียขึ้นไปชั้นบน
“ครับผม” สิงขรขานรับเจ้านายเสียงยาว และทำหน้าที่แทนนายจ้าง
เขาปิดบ้านเรียบร้อยแล้วก็มานั่งเล่นในห้องรับแขก ในมือยังถือกระป๋องเบียร์ ยกจิบน้ำเมาอย่างมีความสุขเมื่อมองนาฬิกาบนข้อมือ ซึ่งมันบอกเวลา ‘อีกสิบนาทีจะสองทุ่มแล้ว’
“ฉันให้เวลาเธอได้อาบน้ำอาบท่านะสาวน้อย แล้วฉันจะเข้าไปเด็ดเธอดม” สิงขรกระดกน้ำเมาหมดกระป๋องทีเดียว
เขาทำเหมือนคนโรคจิต หัวเราะหึๆ แล้วแลบลิ้นออกมาเลียปากของตัวเอง จินตนาการว่าได้ดูดเลียชิมน้ำหวานจากช่อดอกไม้ของยัยเด็กร่านนั่นอย่างหื่นกระหาย
สิงขรคำรามซ่านจนขนลุกซู่ ดวงตาแดงก่ำเหมือนดวงตาสัตว์ร้ายก็จ้องมองประตูห้องนอนของยัยเด็กใจแตก……
