บท
ตั้งค่า

บทที่2 ตอน "ลวงเด็กหลงทาง" 1

ลวงเด็กหลงทาง

ตื้ดด!! ตื้ออ!!

เสียงไอโฟนดังสั่นเป็นคลื่นอยู่บนโต๊ะโคมไฟข้างเตียง ซึ่งทำให้ชายร่างโตที่นอนคว่ำ แขนกำยำพาดบนเอวคอดกิ่ว ดวงหน้าหล่อซบกระแซะหนุนหมอนใบเดียวกับเด็กน้อย ผงกหัวขึ้นมองคนข้างกายแล้วหันไปมองโทรศัพท์ที่ส่งเสียงดังขึ้นอีกครั้ง

สิงขรขยับตัวลุกขึ้นนั่งตรงขอบเตียง ก่อนที่จะหยิบโทรศัพท์และลงจากเตียงนั้นก็หันไปมองเด็กน้อยที่นอนซุกอยู่ใต้ผ้าห่ม รอยเขียวช้ำบนแผ่นหลังขาวเนียนทำให้ชายหนุ่มรีบดึงผ้าห่มมาคลุมไว้ ไม่อยากจะมองความเลวร้ายบนตัวเธอ เพราะมันได้ยอกย้ำว่านั่นเป็นฝีมือของเขาที่ทำให้เกิดขึ้น

“ว่าไง!” คำแรกดังขึ้นพร้อมกับก้าวเท้าลงจากเตียงไปยืนมองความมืดด้านนอก

มีเพียงแสงพระจันทร์ครึ่งเสี้ยวส่องให้แสงสว่างมองเห็นร่างหนาใหญ่เป็นเงาดำทมิฬอยู่ตรงประตูบานเลื่อน ดวงตาสีนิลดุจราชสีห์ไหวสะท้านมองแสงสว่างจากโคมไฟข้างถนน มือหนาสั่นสะท้านจับเครื่องสื่อสารแนบหูฟังเสียงของลูกน้อง

“นายว่าอะไรนะ?” หันไปมองเด็กน้อยดิ้นไปมาอยู่บนเตียง ไม่อยากให้เธอได้ยินเรื่องที่คุยกับลูกน้อง จึงตัดสินใจเดินออกจากห้องนอนไปคุยโทรศัพท์ที่ห้องรับแขก

“อื้อ”

สิงขรช็อกกับเรื่องเสียชีวิตของสองผัวเมีย ซึ่งวัลลภบอกว่าป้าสายและลุงจันทร์ทนพิษบาดแผลไม่ไหว หมอที่โรงพยาบาลต่างก็ช่วยกันยื้อชีวิตของสองผัวเมียไว้จนสุดความสามารถ แต่ก็ไม่อาจช่วยได้ สิงขรได้แต่ทำเสียงอือๆ ผ่านโทรศัพท์เมื่อลูกน้องถามว่าจะให้ทำอะไรต่อไป

“เดี๋ยวพรุ่งนี้ตอนเช้า ฉันจะเป็นคนไปรับศพของป้าสายกับลุงจันทร์เอง นี่ก็ดึกมากแล้ว นายกลับไปพักเถอะ”

สิงขรก้มตามองนาฬิกาบนข้อมือเป็นเวลาตีสี่ กำลังจะวางสายแต่วัลลภก็เล่าต่อเกี่ยวกับเสี่ยไพรัตน์

“ตำรวจให้ไอ้ไพรัตน์ประกันตัวได้เหรอ บ้าไปแล้ว มันฆ่าคนตายตั้งสองคน แล้วยังจะขืนใจเด็กอายุยังไม่ถึงยี่สิบปีอีกนะโว้ย!!”

สีหน้าเคร่งเครียด แววตาแดงโรจน์มองความมืดด้านนอกเห็นเงาต้นไม้เลือนรางเป็นไอ้เสี่ยหัวงู ซึ่งมันกำลังฉุดกระชากเสื้อผ้าของดาวเรืองและกำลังปลุกปล้ำหญิงสาวที่ไม่มีทางสู้ ถ้าตอนนั้น ลูกน้องไม่ห้ามไว้ ป่านนี้ เขาคงถูกตำรวจจับข้อหายิงกบาลไอ้ไพรัตน์ตายไปแล้ว

“ฮืออ” เสียงเอะอะแต่ฟังไม่ถนัด และท่าทางโกรธแค้นของสิงขรอยู่ในสายตาของคนที่นอนอยู่บนเตียง ซึ่งดาวเรืองรู้สึกตัวตื่นตั้งแต่ชายหนุ่มเดินออกจากห้องนานแล้ว

“ดะ ดาวเรือง”

เสียงสะอื้นไห้ดังอยู่ข้างหลังทำให้สิงขรหันขวับ เขารีบปิดเครื่องสื่อสารแล้วเดินเข้าไปหาเด็กน้อยที่ยืนตัวสั่นสะท้านอยู่ตรงทางเข้าห้องนอน

“ละ ลุงสิงห์” ดาวเรืองในตอนนี้ไม่งอแงและดื้อดึง ถึงจะถูกชายหนุ่มบังคับให้เรียกพี่ แต่เธอชินปากเรียกลุงสิงห์ตามเด็กน้อยหนึ่งหทัย

“ดาวเรือง ฟังฉันนะ” สิงขรใจคอไม่ดี ไม่รู้จะเริ่มต้นบอกเด็กน้อยอย่างไรจึงรีบคว้าเอวบางมากอดปลอบขวัญ อุ้มให้เธอยืนบนหลังเท้า

“ตากับยายเป็นอะไรคะ” ดาวเรืองไม่ขัดขืน ยืนเป็นเด็กดีอยู่ในอ้อมกอดของลุงสิงห์ ดวงหน้าเขลอะน้ำตาซบลงบนอกแกร่ง หัวใจของเธอเริ่มเต้นแรงผิดปกติเมื่อเอ่ยถามหาตากับยาย

“เข้มแข็งไว้นะดาวเรือง” สิงขรปล่อยคนตัวน้อยให้ยืนบนพื้น ความสูงของเธออยู่ระดับราวนมของเขา จึงต้องย่อตัวลงเพื่อให้ใบหน้าอยู่ในระดับเดียวกัน

“กรี๊ดด!!! ไม่จริงง!! หนูไม่เชื่อ คุณโกหกหนู”

เมื่อได้สบดวงตาสีนิลที่มีคำตอบอยู่แล้ว เด็กน้อยที่ยอมเชื่อฟังก็เกิดอาการคลุ้มคลั่ง ดิ้นพล่านๆ อยู่ในวงแขนกำยำ

“ชู่วว ฟังฉันนะดาวเรือง” ลุงสิงห์ไม่ทันตั้งตัวถูกเด็กน้อยที่มีแรงนิดเดียวผลักอกจนเซถอยหลังเล็กน้อย

“ฮืออ หนูไม่ฟัง หนูจะกลับบ้านไปหายายกับตา” ดาวเรืองมองร่างโตที่เซชนขอบประตู เป็นจังหวะทำให้เธอเดินเบี่ยงตัวออกจากห้องนอนไปยืนอยู่กลางห้องรับแขก

“ไว้พรุ่งนี้เช้า ฉันจะพาไป” สิงขรรีบคว้าแขนเล็กไว้ ฉุดเบาๆ ให้เด็กน้อยหันตัวมาเผชิญหน้ากัน วงแขนแข็งแกร่งอาจเป็นเกราะกำบังสร้างความปลอดภัยและทำให้เด็กน้องเชื่อฟัง เขาจึงโอบกอดร่างบางไว้เหมือนงูจงอางหวงไข่

“ปล่อย!! อย่ามาแตะต้องตัวหนู คุณเป็นคนทำให้ตากับยายตาย ฮืออ” ดาวเรืองขัดขืน ไม่ยอมอยู่ในโอวาทของเขา เธอร้องไห้ปนสะอื้นและทุบตีทำร้ายคนที่มีกำลังเยอะอย่างบ้าคลั่ง

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel