บท
ตั้งค่า

บทที่ 4 สมัครเป็นสมาชิก

วันจันทร์

มหาวิทยาลัย T

หญิงสาวในชุดนักศึกษารัดรูปขับเน้นสัดส่วนโค้งเว้าให้ชายหนุ่มหลายคนน้ำลายหกเล่น เธอนอนคว่ำหน้าอยู่กับโต๊ะม้าหินตัวประจำใต้ร่มไม้อย่างหมดเรี่ยวแรงหลังจากคืนก่อนต้องทำงานที่บีทรีช คลับจนดึกดื่น เวลาต้องตื่นมาเรียนจึงยังไม่หายจากอาการง่วงงุน

กระโปรงทรงเอสั้นเหนือเข่าร่นขึ้นมาเล็กน้อยเมื่อเจ้าของร่างยกมันขึ้นไขว้ แต่แม้เหล่าผู้ชายหื่นทั้งหลายจะก้มคลานดูแทบตายก็ไม่มีทางเห็นอะไรมากไปกว่ากางเกงซับในสีดำแน่นอน

หมับ!

มือปริศนาตะครุบไหล่บางทำให้สาวที่เกือบจะหลับคาโต๊ะสะดุ้งเล็กน้อย พอเอี้ยวหน้าหันไปดูก็พบเพื่อนสาวหน้าหมวยในกลุ่มยืนส่งยิ้มมาให้ ข้างเธอนั้นมีชายหนุ่มท่าทางสุภาพอีกคนขมวดคิ้วมองเธอด้วยสายตาเป็นห่วงเป็นใยอย่างไม่คิดจะปิดบังความรู้สึก

"กว่าจะมา" ใยไหมบ่นไม่จริงจังหยัดตัวขึ้นนั่งเท้าคาง ปิดปากหาวหวอดเอ่ยทักคนมาใหม่ทั้งคู่

"มาเรียนแต่ละทีช่วยทำหน้าให้มันสดชื่นหน่อยได้ไหม" แตงโมส่ายหัวแซวพร้อมทิ้งตัวลงนั่งข้างเธอ

"สดใสแบบนี้พอไหม"

สาวสวยประชดกลับด้วยการยิงฟันขาวส่งให้เพื่อนรัก ฉีกยิ้มกว้างเกินกว่าจะเรียกว่าสวยไปมาก ซึ่งก็ได้รับเสียงหัวเราะจากอีกฝ่ายทันที

"ฮ่าๆๆๆ ยัยบ้า น่ากลัวฉิบแบบนี้ อย่างกับจะกินหัวฉันเลย"

"นอนไม่พอเหรอไหม" ธีร์เพื่อนผู้ชายอีกคนในกลุ่มนั่งลงฝั่งตรงข้าม เห็นท่าทางอ่อนล้าหมดแรงของเพื่อนก็อดเป็นห่วงไม่ได้

"อื้อ! เหมือนเดิม กว่าจะเลิกงานถึงห้องอาบน้ำนอนก็ปาไปตีสามแล้ว"

"แกนี่มันสู้ชีวิตจริงๆ ทำงานตั้งแต่ปีหนึ่งจนจะจบปีสี่อยู่แล้ว ฉันไม่แปลกใจเลยว่าทำไมแกถึงมีสภาพเหมือนคนพลังงานชีวิตต่ำแบบนี้"

มือบางของสาวหมวยลูบไหล่เพื่อนสนิท ความอบอุ่นอ่อนโยนช่วยขับไล่ปัญหามากมายในชีวิตเธอได้เป็นอย่างดี ริมฝีปากอิ่มคลี่ยิ้มจริงใจส่งให้เธอเป็นการขอบคุณ

ใยไหมสอบติดมหาลัยรัฐชั้นนำของประเทศ ซึ่งก็มีแต่นักศึกษาระดับหัวกะทิทั้งนั้น นั่นพอทำให้เด็กสาวต่างจังหวัดสามารถพอจะหาเงินมาจ่ายค่าเทอมไหว สิ่งที่หนักคงเป็นพวกค่าครองชีพประจำวันมากกว่า เธอเรียนอยู่คณะบริหารสาขาการจัดการ ชั้นปีสี่แล้ว เหลืออีกไม่กี่สัปดาห์ก็จะจบเทอมหนึ่ง และทุกคนก็ต้องเตรียมหาสถานที่ฝึกงานในเทอมสองที่กำลังใกล้เข้ามา

"ธีร์ว่าไหมเลิกไปทำงานพิเศษดีกว่า อีกเดี๋ยวก็ต้องฝึกงานแล้ว" หนุ่มหล่อใสท่าทางดูสุภาพเรียบร้อยเสนอความเห็นขึ้นมา

"แหม ถ้ามันเลิกทำงานจะเอาอะไรกินยะ แกจะเลี้ยงมันเหรอไง"

"ตามนั้นแหละ แต่ฉันก็มีคุยกับเจ้าของร้านไว้แล้วแหละ ว่าถ้าที่ฝึกงานมันหนัก ก็อาจจะไม่ได้เข้าไปทำทุกวัน"

"ที่จริงไหมเอาเงินเราไปใช้ก่อนก็ได้นะ เราไม่อยากเห็นไหมเหนื่อยแบบนี้เลย"

สองสาวหลุบสายตามองกันท่าทางอึดอัดเมื่อธีร์เปิดประเด็นเรื่องนี้ขึ้นมาอีกครั้ง ก่อนจะรีบหัวเราะกลบเกลื่อนปฏิเสธไปอ้อมๆ เพื่อไม่ให้เพื่อนสนิทในกลุ่มเสียหน้า

"บ้า ไม่เอาหรอก เงินธีร์ก็คือของธีร์จะมาให้คนอื่นยืมง่ายๆ ได้ไง ไม่ต้องห่วงน่า เราไหว ช่วงนี้ก็ไม่ได้เดือดร้อนขัดสนอะไรด้วย ชิลๆ"

"เออ แกก็สปอยล์มันเวอร์ ใยไหมสตรองจะตาย ไม่ต้องห่วงหรอก" แตงโมช่วยพูดอีกแรง

"หรือเอางี้ ไหมก็ยื่นฝึกงานบริษัทพ่อเรา ธีร์จะได้ช่วยดูงานให้ด้วย เพื่อไม่ให้หนักเกินไป เดี๋ยวธีร์ไปรับไปส่งให้ด้วย จะได้ไม่ต้องเปลืองค่ารถเวลาไปทำงาน"

ธีร์ก็ยังคงไม่รู้ตัวว่าคำพูดและการแสดงออกของเขาที่มีต่อเพื่อนสาวสุดสวย ทำให้อีกฝ่ายลำบากใจมากกว่าจะซาบซึ้ง แตงโมมองหน้าเพื่อนทั้งคู่เลิ่กลั่ก เมื่อริมฝีปากอวบอิ่มเผลอเม้มเข้าหากันราวกับครุ่นคิดหาคำมาปฏิเสธ

"โวะ! ไอ้นี่ อาจารย์เขาให้ฝึกงานเพื่อที่จะได้เรียนรู้งานจริงก่อนเรียนจบ ขืนใยไหมไปฝึกบริษัทแก คงได้นั่งๆ นอนๆ แล้วจะเอาความรู้ที่ไหนไปทำงานจริงวะ"

"แต่ว่า..." ธีร์ทำท่าเหมือนจะพูดอะไรต่อ แต่สาวสวยของกลุ่มก็รีบแทรกขึ้นมาก่อน

"นั่นแหละ เหมือนที่โมบอกดีแล้ว เราก็อยากเรียนรู้งานจริงด้วย ส่วนเรื่องงานพิเศษ ไม่ต้องห่วงหรอก ถ้าหนักไปเราก็ค่อยไปลาเจ้าของร้าน"

ใยไหมสรุปจบเสร็จสรรพทำให้ธีร์ไม่มีโอกาสแย้ง ชายหนุ่มกัดริมฝีปากมองสาวที่เขาหลงรักอย่างตัดพ้อเมื่อถูกปิดกั้นทุกทางไม่ให้เขาข้ามเส้นเกินกว่าคำว่าเพื่อน แตงโมที่เห็นท่าไม่ค่อยดีจึงร้องเรียกให้ทุกคนไปนั่งรอในห้องเรียนแทน แล้วเปลี่ยนไปคุยเรื่องไร้สาระทั่วไป

ความจริงทั้งแตงโมและใยไหมรับรู้มาตลอดว่าธีร์นั้นคิดกว่าเธอเกินเพื่อน เพราะชายหนุ่มแทบไม่เคยเก็บซ่อนความรู้สึกได้เลย และมักจะแสดงความห่วงใยหญิงสาวมากกว่าคนอื่นเสมอ เรื่องนี้ทำให้ใยไหมรู้สึกอึดอัดไม่น้อย หลังจากปรึกษากับแตงโมแล้ว ก็ได้รับคำแนะนำว่าให้ทำเป็นไม่รับไม่รู้ไปก่อน เพราะหากใยไหมปฏิเสธอีกฝ่ายไปตรงๆ คงเข้าหน้ากันไม่ติดแน่นอน

คืนนั้น

บีทรีช คลับ

แผ่นดิน ฟลุ๊ค และเมฆ เพื่อนอีกคนที่รู้จักสมัยเรียนที่ประเทศอเมริกานัดมาดื่มสังสรรค์ยังคลับหรูที่เมฆเป็นสมาชิก สายตาคมดุดันของชายหนุ่มรองประธานบริษัทผลิตเครื่องจักรกวาดมองไปทั่วร้านด้วยความสนใจ หญิงสาวหลายคนตาวาวเป็นประกายปรี่ตรงเข้ามาต้อนรับหนุ่มหล่อต่างสไตล์ทั้งสามด้วยความตื่นเต้น เพราะส่วนใหญ่ลูกค้าของร้านมักจะเป็นประธาน ผู้มีอิทธิพลสูงอายุแล้วทั้งนั้น

หนุ่มหน้าดุไม่ได้แสดงอาการอะไรนัก เพียงแค่ยืนล้วงกระเป๋าปล่อยให้เจ้าถิ่นเป็นฝ่ายจัดการ ส่วนฟลุ๊คก็ยิ้มกะลิ้มกะเหลี่ยถูกใจกับหน้าตาเด็กสาวในร้าน พร้อมโปรยยิ้มหวานให้สาวๆ บิดม้วนกันเป็นแถว

"มีโต๊ะหรือยังคะ มีสาวๆ คนไหนเล็งเอาไว้เป็นพิเศษหรือเปล่าเอ่ย"

"คุณเมฆขา หายหน้าไปนานเลย ยังจำดาด้าได้ไหมคะ" อดีตคู่ขารีบเบียดแทรกเพื่อนร่วมงานมาเกาะแขนกำยำของเมฆเอาไว้แสดงความเป็นเจ้าของ เมฆเองไม่ได้ว่าอะไร เพียงแค่แค่นหัวเราะในลำคอเมื่อกลุ่มของตนเองตกเป็นจุดสนใจของสาวๆ หน้าตาดีในร้าน

"หึๆ ใจเย็นก่อนครับสาวๆ วันนี้ผมพาเพื่อนมาเปิดหูเปิดตานิดหน่อย ขอเอาเป็นห้อง VIP ดีกว่า"

"ได้ค่ะ"

"ส่วนสาวๆ เดี๋ยวผมขอเลือกอีกทีแล้วกันนะ"

ดาด้ามุ่ยหน้าขัดใจเล็กน้อย รับรู้แล้วว่าอีกฝ่ายไม่ได้สนใจเธอแล้ว หลังจากตัดสินใจรับงานพิเศษกับเขาหลังร้านเลิกงานเมื่อหลายเดือนก่อน ทำให้สาวคนอื่นกระหยิ่มยิ้มย่องมีโอกาสดูแลหนุ่มฮอตทั้งสามคนแทน

ทั้งสามคนเดินตามสาวสวยอีกคนไปยังโซนรับรองที่เป็นห้องมิดชิด สำหรับไว้ใช้คุยเรื่องธุรกิจ ภายในห้องตกแต่งด้วยโทนสีดำเป็นหลัก แสงไฟสลัวมีแผงวงจรควบคุม สามารถปรับเปลี่ยนโทนสีแสงไฟในห้องได้ตามความต้องการ

ห้อง VIP จะเก็บเสียงทำให้ไม่ได้ยินดนตรีสดด้านนอกได้ แต่ก็จะมีชุดเครื่องเสียงสำหรับเปิดคลอเบาๆ เพื่อไม่ให้บรรยากาศห้องเงียบเหงาจนเกินไป

หญิงสาวในชุดเดรสสีขาวผายมือพาแขกทั้งสามเข้ามายังห้องรับรองส่วนตัว พวกเขาเดินผ่านสาวที่ทำหน้าที่เปิดประตูเข้ามาด้านใน แผ่นดินกวาดสายตาสำรวจทั่วห้องด้วยความพึงพอใจ เฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้นล้วนเป็นแบรนด์ชั้นดี การตกแต่งหรูหราและยังให้ความรู้สึกผ่อนคลายไม่เคร่งเครียดเกินไป เหมาะกับการพาคู่ค้ามาคุยธุรกิจอย่างที่เมฆเปรยไว้

ส่วนหนุ่มเจ้าเสน่ห์อย่างฟลุ๊คก็ส่งยิ้มให้สาวสวยท่าทางอารมณ์ดี สายตาเจ้าเล่ห์วิบวับเปลี่ยนหนุ่มสุภาพให้ดูซุกซนน่าค้นหา ทำพนักงานสาวอ่อนระทวยกับความหล่อเหลานั้น

"รับเครื่องดื่มอะไรดีคะ" พนักงานสาวโปรยยิ้มให้สามหนุ่มในห้องเมื่อทุกคนนั่งลงเรียบร้อย

"เอาเหล้าที่ดีที่สุดกับพวกมิกซ์เซอร์ แล้วก็กับแกล้มง่ายๆ แล้วกัน...อ้อ ช่วยตามคุณเปาให้ผมทีได้ไหม"

"ได้เลยค่ะ"

เธอโค้งทำความเคารพอ่อนช้อยและทิ้งสายตาเย้ายวนสะกดใจ ก่อนจะปิดประตูให้แขกได้พูดคุยกันเป็นส่วนตัว

"ร้านดีนี่หว่า เด็กๆ ในร้านก็น่ารักมาก" ฟลุ๊คชมออกมาทันทีเมื่อได้อยู่กันตามลำพัง

"เออ เห็นไอ้ดินมาปรึกษาว่าจะพาลูกค้ามาคุยงาน ร้านนี้โอเคไหมล่ะ" เมฆหันไปถามเพื่อนหน้าหล่อฝั่งตรงข้าม

"อื้ม ก็ดี ค่าสมาชิกเท่าไร"

เขาพยักหน้าตอบ วาดท่อนแขนพิงขอบพนักโซฟา ท่อนขากำยำใต้กางเกงสแล็กยกไขว้ เอนพิงโซฟานุ่มผ่อนคลายไปกับบรรยากาศและเพลงที่ถูกเปิดคลอเบาๆ ไม่ได้รบกวนบทสนทนา

"หนึ่งแสน"

"หื้ม แพงเอาเรื่องนะเนี่ย" ฟลุ๊คขมวดคิ้ว

"เมมเบอร์หนึ่งปี ส่วนที่จ่ายแสนหนึ่งแรกเข้าก็สามารถเอาไปหักกับค่าเครื่องดื่ม ค่าเรียกเด็กนั่งดริงก์ได้ จนกว่าจะครบตามจำนวน หลังจากนั้นก็จ่ายเองปกติ สามารถพาเพื่อนมาได้ด้วย"

"เฮ้ย ถ้าแบบนั้นก็น่าสนว่ะ มึงว่าไงไอ้ดิน"

"อืม ดี เอาด้วย คงได้พาลูกค้ามารับรองที่นี่บ่อยๆ" หนุ่มมาดขรึมตอบกลับนิ่งๆ ตามสไตล์

"ถ้ามึงสองคนเป็นสมาชิกแล้ว งั้นกูไม่ต้องสมัครก็ได้นี่หว่า เอาไว้เบื่อๆ ก็ลากพวกมึงมา" ฟลุ๊คหัวเราะร่าสบายใจ ส่งผลให้เพื่อนอีกสองคนส่ายหน้าระอา แต่ก็ไม่ได้ว่าอะไร

สักพักพนักงานสาวสวยคนใหม่ก็เดินเข้ามาเสิร์ฟเครื่องดื่ม หลังจากออกไปไม่นานเจ้าของร้านร่างกำยำก็เปิดประตูเข้ามาภายในห้อง

"สวัสดีครับคุณเปา" เมฆส่งยิ้มเป็นมิตรทักขึ้นเป็นคนแรก พลางผายมือให้รู้จักเพื่อนอีกสองคน "นี่เพื่อนผมครับ ชื่อฟลุ๊คกับแผ่นดิน"

"สวัสดีครับทุกคน ไม่ทราบคุณเมฆเรียกผมมีอะไรจะคุยหรือเปล่าเอ่ย"

หนุ่มใหญ่วัยสี่สิบห้าปี เอ่ยถามเสียงทุ้มหนักแน่น รักษาภาพลักษณ์เจ้าของคลับหรูเอาไว้อย่างดีเยี่ยม เขาสวมเสื้อเชิ้ตขาวเข้ารูปอวดเรือนร่างกำยำอัดแน่นด้วยมัดกล้าม จอนและหนวดเคราก็ถูกตกแต่งเล็มเป็นอย่างดี ไม่ได้ดูรกหรือรุงรังระคายตาแม้แต่น้อย

"นั่งก่อนครับคุณเปา พอดีเพื่อนผมเขาสนใจจะสมัครเมมเบอร์ที่นี่" เมฆขยับที่นั่งให้คนมาใหม่ด้วยความสุภาพ

เจ้าของร้านพยักหน้าแล้วนั่งลงข้างลูกค้าคนสำคัญ ก่อนจะเอ่ยคุยเรื่องการสมัครเป็นสมาชิกของคลับ กฎเล็กๆ น้อยๆ ซึ่งแผ่นดินก็พยักหน้ารับทราบโดยดี การเจรจาผ่านไปอย่างราบรื่น หนุ่มเจ้าของร้านก็กดเรียกพนักงานให้ไปหยิบเอกสารสัญญามาให้ลูกค้าใหม่ฐานะร่ำรวยเซ็นก็เป็นอันเสร็จ

"เดี๋ยวผมส่งบัตรสมาชิกร้านไปให้ทางที่อยู่ที่คุณแผ่นดินกรอกนะครับ"

"ครับ"

"วันนี้ไม่ทราบว่าอยากได้น้องๆ มานั่งคุย รินเหล้าให้ด้วยไหมครับ ผมจะได้เรียกเข้ามาดูแล" เจ้าของร้านเอ่ยถาม พยายามเชียร์ให้ลูกค้าใหม่เลือกพนักงาน เพราะเขาก็จะได้เงินจากส่วนนี้ด้วย

"ผมอยากเจอสาวอันดับหนึ่งของคลับบ้างจังครับ มาสองรอบแล้ว แต่มีคนจองตัวก่อนทุกที วันนี้อุตส่าห์มาเร็วหวังว่าจะยังไม่มีใครจองตัวเธอไปนะครับ"

"ต้องขอโทษคุณเมฆด้วยจริงๆ นะครับ พอดีวันนี้น้องใยไหมไม่ได้เข้าร้าน ถ้าครั้งหน้าคุณเมฆจะเข้ามาโทรแจ้งผมให้ช่วยล็อกคิวน้องล่วงหน้าก่อนดีกว่าจะได้ไม่เสียเที่ยว" เปามีสีหน้าลำบากใจเล็กน้อยที่ไม่สามารถเอาใจลูกค้าคนสำคัญได้

"ไม่เป็นไรครับ"

"ให้ผมช่วยเลือกน้องคนอื่นมาดูแลดีไหมครับ พนักงานที่นี่คัดคุณภาพมาแล้วทุกคน รับรองสวย เก่ง คุยสนุก ไม่แพ้น้องใยไหมแน่นอน"

"ได้เลยครับ งั้นช่วยเลือกมาสักสามคนก็แล้วกัน"

"ยินดีมากเลยครับ ขอให้ทุกคนสนุกนะครับ"

เจ้าของร้านหยัดกายขึ้นเต็มความสูงส่งยิ้มให้ลูกค้าทั้งสามท่าทางเป็นมิตร ก่อนจะขอตัวออกไปจัดการคัดเลือกเด็กสาวมาให้แขก

"สาวอันดับหนึ่งที่ว่านี่ ชื่อใยไหมเหรอ" ฟลุ๊คเอ่ยถามด้วยความสนใจ เพราะหลายวันก่อนก็มีสาวสวยชื่อนี้ถูกตาต้องใจเขาเช่นกัน

"อืมมั้ง กูยังไม่เคยเจอตัวเลย ได้ข่าวว่าฮอตมาก คิวแน่นแทบไม่เคยว่าง"

"เมื่อกี้ที่คุณเปาบอก คือร้านนี้ไม่มีขายบริการอื่น?" หนุ่มมาดขรึมเอ่ยถามขึ้นบ้างด้วยความสงสัย

"ไม่มีๆ ร้านแค่ขายเหล้า อาหาร แล้วก็มีสาวๆ มานั่งคุยด้วยเฉยๆ ราคาค่าตัวแต่ละคนก็ไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับทางร้านกำหนด ถ้ามีคนเรียกพนักงานในเวลาเดียวกัน จะจ่ายเงินค่าตัวเพิ่มก็ได้ สู้ราคากันไป" เมฆอธิบายเสียงเรียบด้วยท่าทางสบายๆ

"อ้าว แล้วที่มึงเคยเล่าว่าดีลสาวในร้านได้อะ" ฟลุ๊คยังไม่หายสงสัย

"ร้านไม่มีบริการ อันนี้ขึ้นอยู่ที่การตกลงกับเด็กเอง บางคนก็ไม่รับ แต่สองคนที่กูเคยคุยก็รับนะ"

"อ๋อ เออดีๆ นึกว่าวันนี้กูต้องกลับไปนอนเหงาคนเดียวที่บ้านอีกแล้ว หาสาวน่ารักสักคนไปกอดให้ชุ่มปอดหน่อยดีกว่า"

ไม่นานก็มีสาวสวยเข้ามาแนะนำตัวและนั่งประกบคู่ชายหนุ่มแต่ละคน ต้องยอมรับว่าร้านนี้คัดเลือกพนักงานได้ดีจริงๆ ทุกคนไม่ใช่เพียงหน้าตารูปร่างที่สวยระดับนางฟ้า แต่ยังมีจริตจะก้าน ลูกล่อลูกชน และไหวพริบที่ดีอีก หนุ่มมาดเข้มโอบเอวสาวร่างบางข้างกาย พร้อมโน้มใบหน้าหล่อเหลาดุดันลงไปกระซิบข้างใบหูเธอด้วยคำถามแสนวาบหวิว

มุมปากแสยะยิ้มเย้ยหยัน เมื่อพนักงานคนสวยพยักหน้าเอียงอายตอบรับข้อเสนอเขาโดยดี ตอกย้ำความเชื่อฝังลึกในแจ่มชัดขึ้นไปอีก

'ผู้หญิงประเภทนี้ก็เหมือนกันหมด แค่มีเงินมาล่อพวกเธอก็พร้อมจะประเคนเรือนร่างบนเตียงแล้ว'

นัยน์ตาดุดันคมกริบวาวระยับ บีบกำฝ่ามือเข้าหากันระบายความตื่นตัวแปลกๆ ที่เกิดขึ้นในใจ เขารอเจอสาวสวยอันดับหนึ่งของร้านแทบไม่ไหว ครั้งหน้าคงต้องขอจองตัวสาวสวยที่ใครต่อใครต่างพูดถึง อยากรู้นักว่าต้องเสียเท่าไรถึงคว้าเธอมาขึ้นเตียงได้

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel