ตอนที่5
วันรุ่งขึ้น...
ขอบคุณที่วันนี้เป็นวันอาทิตย์ เพราะฉันจะได้นอนยาวๆนอนนานหลังจากที่เมื่อคืนผ่านเรื่องยุ่งๆมามากมาย ซะที่ไหนล่ะ!! โน้นๆหน้าบ้านกำลังแหกปากคุยจ่อกันเหมือนผึ้งแตกรัง ทั้งหัวเราะ ทั้งแข่งกันพูด ให้ตายเหอะ!! ไม่มีใครเกรงใจคนที่พึ่งได้นอนไม่กี่ชั่วโมงอย่างฉันเลย
“พิมเอ้ย!! มากินกาแฟเร็ว” นั่นๆเสียงยายฉันเอง ร้องเรียกแบบนี้ทุกเช้า คงลืมไปแล้วมั้งว่าวันนี้เป็นวันอาทิตย์ คนสวยต้องการพักผ่อนมากกว่าจะลุกไปกินกาแฟซะอีก ว่าแล้วก็ดึงผ้าห่มขึ้นคลุมโปง ดึงหมอนที่หนุนอยู่มาปิดหูตัวเอง แล้วหลับต่อ...
กำลังจะเคลิ้มหลับไปอีกรอบ ทันใดนั้น! ป๊าบ! ตุบ! ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก ฉันมาได้สติอีกทีก็ตอนที่ก้นกระแทกพื้น โคตรเจ็บ! นั่งจ้ำเบ้าอยู่ข้างเตียง พลางเอามือลูบก้น “ไอ้เปรตไหนถีบกูวะ!!”
“ฮ่าฮ่าฮ่า ไม่อยากตื่นดีนัก ต้องโดนแบบนี้อีพิมดำ”
ฉันหันไปมองคนที่กำลังหัวเราะร่าสะใจ ในห้องมันมืดเห็นเพียงเงาผู้ชายกำลังยืนเท้าสะเอว แม่ง! ดูผ่านๆมืดๆคิดว่าเป็นผีมายืนอำปลายเตียง แต่พอมันเปิดไฟเท่านั้นแหละ ความสว่างทำให้เห็นชัดเจน ชายหนุ่มผิวสองสี ผมรองทรงต่ำ ยิ้มฟันขาว สักหน้าคอเป็นรูปสัตว์อะไรสักอย่างสีดำ ดูเถื่อนๆโหดๆ เจาะหางคิ้วใส่จิวหัวตุ่มเงิน ระเบิดหูวงใหญ่เท่าเหรียญบาททั้งสองข้าง ใส่เสื้อยืดแนวพังค์กับกางเกงยีนส์สีดำขาดๆที่เข้าชุดกัน ถึงจะดูแบดไปสักหน่อย แต่หน้าตายังมีเค้าเดิม แถมเรียกฉันว่าอีพิมดำ จะมีใครล่ะถ้าไม่ใช่ไอ้เอ็ม
“ไอ้เวงเอ็ม!! หนอย!!” ฉันยันตัวลุกขึ้นยืน ทว่า! มันไม่พูดอะไรต่อ กลับยืนอึ้งตาโตมองฉัน อ่าๆคงเห็นว่าฉันสวยขึ้นสินะ พอยืนเต็มความสูงก็สะบัดผมโปรยเสน่ห์ให้ที จิกปลายเท้าอีกนิด กำลังจะยกแขนเท้าสะเอว ไอ้เอ็มก็เดินรุดออกจากห้องไปเลย “สวยเตะตาจนพูดไม่ออกสินะ ชิ๊!”
ฉันเดินมาหน้ากระจกจัดทรงผมชี้ฟูด้วยมือให้เรียบร้อย ก่อนจะเดินออกมาจากห้อง ตรงไปยังกลุ่มคนที่นั่งอยู่หน้าบ้าน ยายนั่งอยู่บนแคร่เป็นคนแรกที่หันมาเห็นฉัน “มาแล้วๆ พิมมาไหว้ปุ้ยกับจอมก่อนสิ เมื่อคืนเจอกันแล้วใช่ไหม”
ในจังหวะที่ยายกำลังเอ่ย ทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นป้าปุ้ย ลุงจอม พี่เอก ไอ้เอ็ม และผู้หญิงวัยรุ่นแปลกหน้าอีกสองคนต่างพากันหันมามองฉัน ไม่ได้มองธรรมดา แต่ทุกคนกลับเบิกตาโพลงทำราวกับตกใจอะไรบางอย่าง ไอ้เราก็คิดว่ามีผีตามหลัง จึงหันกลับไปมอง
‘แต่ก็ไม่มีใครนิ’ แล้วฉันก็หันกลับมากวาดสายตามองทุกคน ในตอนนั้นแต่ละคนก็หันไปมองหน้าพี่เอกพร้อมกัน ส่วนเจ้าตัวเบือนหน้าไปทางอื่น ‘ท่าทางแบบนั้นต้องมีอะไรแน่ๆ’ ต่อมเผือกทำงานแล้วเว้ย แต่จะให้ถามคนที่พึ่งเจอกันในรอบสิบกว่าปีก็ยังไงอยู่ เก็บปากเงียบไปก่อนก็แล้วกัน
“เอ๊าะ!! เด็กคนนี้ยังยืนนิ่งอยู่อีก” ยายตะโกนทำให้ฉันได้สติ รีบยกมือไหว้ป้าปุ้ยกับลุงจอมที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ใกล้ๆยาย “สวัสดีค่ะ”
“ตะ...โตขึ้นแล้วสวยนะพิม” ลุงจอมส่งยิ้มเป็นมิตรให้ พอเอ่ยจบกับหันไปมองพี่เอกอีกครั้ง และในตอนนั้นหญิงสาววัยรุ่นแปลกหน้าคนหนึ่งลุกไปนั่งข้างพี่เอก “พี่เอกค่า ดูคลิปนี่สิตลกดี~” เสียงดัดจริตแหละ ฉันเหลือบมองบนเบ้ปากใส่เธอ ก่อนจะหันไปถามยายต่อ
“แม่ล่ะยาย แม่ไปไหน”
“พรไปซื้อของสดไว้ทำกับข้าวมื้อเที่ยง”
“อื้มๆ งั้นพิมไปนอนต่อนะยาย หวังว่าคงไม่มีใครมาปลุกอีก” พูดกับยายก็จริง แต่มองไอ้เอ็มด้วยหางตา เออ! ก็หมายถึงมันนั่นแหละ
ฉันไม่รอคำตอบ เดินกลับเข้าห้อง ล้มตัวลงบนนอนเตียงนุ่มๆ หัวถึงหมอนก็หลับไป ไม่รู้ว่านอนไปนานเท่าไรแล้ว แต่มารู้สึกตัวอีกทีก็ตอนที่มีใครบางคนดึงผ้าห่มมาปิดให้ คงเป็นแม่แน่ๆ แม่คงกลับมาจากตลาด “ขอบคุณค่ะแม่” แล้วฉันก็หลับต่อ
ตื่นมาอีกทีก็คว้านหามือถือ ดูเวลาถึงได้รู้ว่าตอนนี้เที่ยงกว่าแล้ว และสิ่งแรกที่ทำคือการเปิดกลุ่มไลน์ พระเจ้า! เหลือเชื่อมากที่กลุ่มทีมนัมเบอร์วัน หน้าแชทว่างเปล่า ไม่มีสักข้อความ ซึ่งปกติมีเป็นร้อยๆเพราะชอบคุยกันรัวๆกับเรื่องนินทาคนอื่น ใช่สิ๊! แต่ละคนคงยังนอนหลับแน่ๆ เพราะดื่มหนักกันสะขนาดนั้น ว่าแล้วฉันก็เป็นคนแรกของวันนี้พิมพ์ส่งข้อความไป 'ฮายทุกคน’ ยังไม่มีใครอ่าน ก็เลยเอามือถือใส่กระเป๋ากางเกง ลุกจากเตียง เพราะรู้สึกว่าบ้านเงียบพิกลๆสงสัยจะไม่มีใครอยู่ มิน่าฉันถึงได้หลับสบาย
ลุกยืนยังไม่ทันเต็มความสูง จู่ๆก็ปวดฉี่ขึ้นมา ปวดมากด้วย...มากซะจนจะฉี่แตกซะตรงนี้ จะรออะไรล่ะ? รีบวิ่งเข้าห้องน้ำสิ ทว่า! ฝารองนั่งชักโครกมันเปียกไปหมด ให้ตาย! ไอ้พวกแขกไม่คิดจะรักษาความสะอาดกันเลยหรือไง ‘ฮึม!’ ฉันยืนหนีบขา กัดฟันแน่น อั้นไว้ให้สุด สูดลมหายใจเข้าแล้ววิ่งออกไปหยิบทิชชู่มาเช็ดทำความสะอาดก่อน แล้วหย่อนก้นเนียนๆนั่งลงไป
‘อ่าห์~’ สิ่งที่อั้นไว้ก็ไหลออกมาเป็นทาง สบายท้องชะมัด~ แล้วตามด้วยเสียง “ปู้ดดดด” นั่นเป็นเสียงผายลมของฉันเอง ดังลั่น ดังชัด ดังสะจนคิดว่ามีกากออกมาด้วย ถ้ามีใครมาได้ยินเข้าคนสวยอย่างฉันคงอายแย่ โชคดีที่ตอนนี้ไม่มีใคร คิดแล้วก็ตลก
“อิอิ ตดขนาดนี้ขี้เหอะ” นั่งหัวเราะนั่งพูดกับตัวเอง
แต่แล้ว!
“แฮ่ม!!” เสียงกระแอมดังมาจากหน้าห้องน้ำ ‘เชี้ย! มีคนอยู่ด้วย! มะ...เมื่อกี้ได้ยินเสียงตดฉันใช่ไหม?’
“นั่น...ใครน่ะ!” ลองๆถามไปก่อน ในบ้านไม่มีใครไม่ใช่เหรอ? บางทีฉันอาจจะหูฝาดไปเองก็ได้
“....”
ไร้เสียงตอบรับ นอกจากเสียงหัวเราะคิกคักของผู้หญิงดังแว่วๆมาจากหน้าบ้าน ฉิบหาย!! นั่นหมายความว่ามีคนอยู่บ้านด้วย แล้วเมื่อกี้ใครวะ? ใครที่ได้ยินเสียงฉันตด กรี๊ดๆ โคตรอายเลยว่ะ!
ทำธุระเสร็จก็ออกจากห้องน้ำ จ้ำอ้าวไปยังต้นเสียงที่ดังมาจากหน้าบ้าน นั่นเป็นเสียงผู้หญิงวัยรุ่นคนหนึ่งที่กำลังนอนกอดไอ้เอ็มอยู่บนแคร่ ทั้งสองคนกำลังดูหน้าจอมือถือที่ไอ้เอ็มเป็นคนถือ ส่วนพี่เอกกับผู้หญิงอีกคนนั่งอยู่บนโซฟาตัวยาวหน้าทีวี ผู้หญิงพยายามคลอเคลียนะ แต่ดูท่าคนหน้านิ่งไม่ได้สนใจสักนิด
“นี่! พวกยายไปไหนกันหมด”
ฉันเอ่ยขึ้น คนหล่อละสายตาจากหน้าจอแหงนมามอง เรื่องเมื่อคืนผุดขึ้นมา มือฉันกำรวบคอเสื้อโดยไม่รู้ตัว
“หึ!” เสียงเล็ดลอดออกมาจากลำคออีกแล้ว เขาไม่มีคำพูดอื่นนอกจากเสียง หึ!หึ! ชวนน่ารำคาญ หน้าตาก็หล่ออยู่หรอกนะ แต่ไอ้อาการยียวนกวนประสาทนี่สิ ถ้าลดลงได้คงจะดีมาก
‘อย่าเก๊กให้มากนักไอ้บ้า!’ ฉันตะโกนด่าในใจให้ไอ้คนที่ก้มลงไปดูหน้าจอโทรศัพท์ในมือ ใครจะกล้าตะโกนออกไปโต้งๆล่ะ ตอนนี้ยิ่งไม่มีผู้ใหญ่อยู่ด้วย ดีไม่ดีไอ้บ้านั่นลุกขึ้นมาต่อยหน้าฉันจะทำไง ไม่ต้องศัลยกรรมจมูกใหม่กันเหรอ?
