ตอนที่4
กว่าฉันจะขับถึงบ้านก็ปาไปเกือบสิบห้านาที ไม่ใช่ว่าบ้านไกลจากเซเว่นหรอก แค่ตอนนี้หนังตามันกำลังหนัก ร่างกายกำลังต้องการเตียงนุ่มๆต่างหาก จะให้ขับเร็วก็กลัวมีอุบัติเหตุ ขอขับช้าๆแต่ชัวร์ดีกว่า
และแล้วก็มาถึงห้องแถวบ้านติดกันห้าหลัง หลังสุดท้ายเป็นบ้านฉันเอง หน้าบ้านปิดไฟมืดสนิท แต่แสงไฟสลัวจากเสาไฟฟ้าพอจะทำให้เห็นถนนและเห็นรถกระบะสองตอนจอดอยู่ในที่ประจำของฉัน สงสัยจะเป็นของคนเช่าข้างบ้าน ฉันเลยต้องขับไปจอดหน้าบ้านเช่าอีกหลัง แล้วเดินกลับมาไขกุญแจเข้าบ้านตัวเอง เปิดประตูเข้าไปเท่านั้นแหละ ไฟจากหลังบ้านที่เปิดอยู่ มันสว่างมาถึงหน้าบ้าน พอให้เห็นร่างคนนอนคลุมโปงบนพื้นและนอนอยู่บนแคร่ไม้ของยาย เดาได้ไม่ยากว่ารถกระบะหน้าบ้านที่แท้ก็เป็นของบ้านฉันเอง ในตอนนั้นแม่ก็เดินออกมาจากห้องนอนพอดี
“มานี่สิพิม” แม่เอ่ยเสียงเบาที่สุด กวักมือเรียกฉันให้เดินเข้าไปในห้องนอน
“ใครมาแม่” ฉันขมวดคิ้วมุ่ย เพราะจู่ๆก็มีคนแปลกหน้ามานอนในบ้าน
“ไปกินเหล้ามาอีกแล้วเหรอ เหม็นเชียว” แม่หน้ามุ่ยถึงกับเอามือปิดจมูก ไม่ใช่แค่เพราะกลิ่นเหล้าหรอก มันยังมีกลิ่นสกปรกที่ฉันสำรอกออกมาด้วย
“แม่ตอบมาก่อน ว่าที่นอนอยู่นั่นเป็นใคร”
“ป้าปุ้ยไง แม่บอกไปแล้วนิว่าพวกเขาจะมาช่วงสงกรานต์”
ฉันลืมเรื่องนั้นไปเลย เพราะมัวแต่ยุ่งๆกับเรื่องรถรุ่นใหม่
“อ้าว แต่สงกรานต์อาทิตย์ไม่ใช่เหรอ ทำไมมาเร็วจัง”
“อืมๆ แม่ก็พึ่งรู้วันนี้เหมือนกัน ป้าปุ้ยมาเซอร์ไพรส์”
“ห้องพิมล่ะ? ยังไม่เอาข้าวของออกมาเลยนะ” ฉันชำเลืองมองประตูห้องนอนตัวเอง ตอนนี้ประตูปิดสนิท ถ้ารู้ว่าพวกเขาจะมาวันนี้ ฉันคงขนของจำเป็นออกมาให้หมดตั้งแต่เช้าแล้ว
“แม่เอาออกมาให้บ้างแล้ว รีบไปอาบน้ำเหอะ เหม็นจะตาย”
ไอ้สิ่งที่แม่บอกว่าเอามาให้ ก็แค่เสื้อยืดกับกางเกงขาสั้นอย่างละตัว ไม่มีผ้าขนหนูอาบน้ำ ไม่มีครีมไม่มีเครื่องสำอาง อย่าเรียกว่า ‘เอามาให้เลย’ เรียกว่าไม่หยิบอะไรออกมาให้จะดีกว่า
“เอาผ้าถุงแม่ไปใส่อาบน้ำก่อนไป พรุ่งนี้รอป้าปุ้ยตื่นค่อยเข้าไปเอาของ”
“นุ่งเป็นที่ไหนล่ะ” ถึงจะเป็นเด็กต่างจังหวัด ใช่ว่าฉันจะเคยนุ่งผ้าถุงมาก่อน ปกติอาบน้ำใช้ผ้าขนหนูพันรอบอกหรือไม่ก็จะใส่เสื้อคลุมอาบน้ำ
“นุ่งๆไปเหอะ ดีกว่าแก้ผ้าเดินไปอาบ”
ให้ตาย! ฉันจะไม่อาบก็ไม่ได้ ก็ในเมื่อพึ่งไปเที่ยวมา ผมก็เหม็นกลิ่นบุหรี่ ปากก็เลอะไปด้วยคราบอ้วก ไหนจะเหงื่อแตกมาทั้งวัน สกปรกขนาดนี้ถ้ายังไม่อาบอีก ขี้กลากขึ้นตัวแน่ ว่าแล้วก็ถอดเสื้อผ้าออก นุ่งผ้าถุงกระโจมอกแบบลวกๆ กำลังหันไปหาแม่เพื่อให้นุ่งให้ แต่คุณเธอเดินขึ้นไปนอนบนเตียงกับยายตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ แล้วดูเหมือนจะหลับไปแล้วด้วย ฉันเลยพยายามนุ่งเอง พระเจ้า! ไอ้ผ้าลื่นๆมัดเป็นปมไม่ได้สักที สอดมุมเข้าไปด้านใน ก็มีแต่ลื่นหลุด...ลื่นหลุด หายใจออกทีผ้าถุงก็ร่วงไปกองกับพื้น ฉันหมดความอดทนกับมันแล้ว จำใจรวบมุมผ้าถุงกำไว้แบบลวกๆ แล้วเดินไปห้องน้ำหลังบ้าน เออ! ประตูก็ปิดอยู่นะ สงสัยจะมีคนเข้าอยู่ แต่ข้างในมันเงียบมาก ไอ้เราก็ยืนรอมาเกือบจะห้านาทีแล้ว รอจนทนไม่ไหว กำลังยกมือจะเคาะประตูห้องน้ำ ทันใดนั้น!
แกร๊ก! ประตูเปิดออกช้าๆ เผยให้เห็นคนข้างในชัดเจน คนตัวสูงใส่เสื้อยืดสีขาว กางเกงบล็อกเซอร์สีเทา มือข้างนึงถือผ้าขนหนูสีดำ ผมเผ้าเปียกยุ่งเหยิงไม่เป็นทรงหลังจากถูกเช็ดให้แห้ง หน้าผากชื้นไปด้วยเม็ดน้ำ นัยน์ตาแบบนั้น...หน้าหล่อแบบนั้น ฉันคุ้นๆนะ!
“อ่ะ!!” ฉันเบิกตาโพลง เผลอใช้มือข้างที่กำผ้าถุงชี้หน้าเขา ส่วนอีกข้างกำมือไว้แน่นข้างลำตัว อ้าปากค้าง ก็เพราะคนตรงหน้าฉันคือ...คือไอ้ผู้ชายคนที่ฉันพึ่งอ้วกใส่เมื่อตะกี้ มัน...มันอยู่ในบ้านได้ไง? แถมตอนนี้ยังเบิกตาโพลงเหมือนกันด้วย แต่น่าแปลกที่สายตาของเขาหยุดค้างอยู่ที่หน้าอกฉัน ไอ้เราก็ก้มดูตาม แต่แล้ว!
“กรี๊ดดดดด” ฉันแผดเสียงร้องดังลั่นบ้าน พลางเอามือสองข้างปิดหน้าอกตัวเองอัตโนมัติ รีบก้มหยิบผ้าถุงที่กองอยู่บนพื้นขึ้นมาปิด ฮือๆT_T เขาเห็นร่างเปลือยของฉันแล้ว เห็นทุกส่วนแล้วด้วย ฮือๆ ฉันอายจนอยากจะหายตัวหนีไปซะเดี๋ยวนี้?
เสียงฝีเท้าและเสียงโวยวายดังมาแต่ไกล ทั้งบ้านวิ่งมาทางพวกเราด้วยความตกใจ รวมไปถึงข้างบ้านที่กำลังเคาะประตูดังลั่นด้วยความเป็นห่วง
“เกิดอะไรขึ้นพิม” แม่เป็นคนแรกที่ถาม พลางมองหน้าฉันสลับกับคนหล่อที่กำลังก้าวออกมาจากห้องน้ำ ใบหน้านิ่งไม่รู้สึกรู้สาอะไรที่พึ่งเห็นฉันโป๊เปลือยไปเมื่อครู่ ปกติผู้ชายร้อยทั้งร้อยแค่ได้เห็นฉันใส่ชุดรัดรูปก็จะมองกันเป็นตาเดียวด้วยสายตาหื่นกามแล้วนะ แต่ไอ้หน้านิ่งนี่ดันได้เห็นของดีใต้ร่มผ้า ถึงขั้นเปลือยเลยนะเว้ย? มันไม่ทำสายตาลามก แถมยังทำหน้าไร้อารมณ์อีก เจ็บใจชะมัด!! ฉันไม่ใช่คนไร้เสน่ห์สักหน่อย ออกจะเซ็กซี่ด้วยซ้ำ มันคงตาไม่ถึงสินะ ชิ๊!!
“ไม่มีอะไรครับน้าพร คงเห็นแมลงสาบมั้งถึงได้กรี๊ดขนาดนั้น” เสียงทุ้มต่ำตอบกลับแม่ฉัน รู้ชื่อแม่ด้วยนะ สายตายียวนชำเลืองมองมา ให้ตาย! ถ้าไม่ติดว่านุ่งผ้าถุงอยู่ ฉันต่อยหน้านายนั่นไปแล้วล่ะ
“ก็แค่แมลงสาบ ไม่เห็นต้องกรี๊ดให้คนอื่นเดือดร้อน”
“เดือดร้อนอะไรกันแม่ ก็แค่ทุกคนตื่น ข้างบ้านมาเรียกก็เท่านั้นเอง” ฉันเอ่ยในขณะที่เสียงค่อยๆหายกลับเข้าไปในลำคอ
“เฮ้อ~ถนัดสร้างเรื่องจริงๆ” แม่บ่นพร้อมกับส่ายหัวเอือมระอา เพราะไอ้หน้านิ่งคนเดียว ทำให้ฉันโดนแม่บ่น
“แม่!! สร้างเรื่องอะไร ไอ้นี่ต่างหาก ว่าแต่มันเป็นใคร ทำไมอยู่ในบ้านเรา!!” เป็นคำถามที่ฉันอยากรู้ที่สุด
“อะไรจำเอกไม่ได้เหรอ”
ฉันขมวดคิ้วมุ่ยเป็นนัยถามแม่ว่าเอกไหน
“เอกลูกป้าเอง” ป้าปุ้ยยืนอยู่ด้านหลังแม่เอ่ยแทรก ฉันหันไปมองเขาอีกครั้ง และคราวนี้มองตั้งแต่หัวจรดเท้าด้วย
พี่เอกเหรอ? พี่เอกไม่มีเค้าเดิมเลยสักนิด ในความจำของฉัน จำได้เพียงรอยยิ้มและเสียงหัวเราะของเขาก็เท่านั้น เขาต่างจากเดิมมาก ผิวขาวขึ้นไม่ดำเหมือนแต่ก่อน ยอมรับว่าตอนนี้เขาหล่อ แต่ก็ดูเย็นชาและยียวน ไม่รู้สิ! ฉันรู้สึกไม่ถูกชะตายังไงก็ไม่รู้
โอเค! เมื่อทุกอย่างเคลียร์เรียบร้อย รู้แล้วเขาเป็นใคร ฉันก็รีบเข้ามาในห้องน้ำแก้อาย...ไอ้ที่อายก็ทั้งเรื่องที่อ้วกใส่เขา เรื่องที่แก้ผ้าต่อหน้าเขา เออ! ถือว่าเจ๊ากันไปก็ได้ เขาโดนอ้วก ฉันให้เห็นของดีก็แฟร์ๆกันดีนะ ต่างฝ่ายจะได้ไม่ต้องพูดขอโทษให้กัน จบ!
อาบน้ำเสร็จ ฉันก็เดินมาห้องนอนยาย ล้มตัวลงนอนในขณะที่หัวเปียกๆนั่นแหละ หัวถึงหมอนปุ๊บก็หลับปั๊บ
