ตอนที่ 4 เด็กของพี่อัคเต็มตัว
ประตูปิดสนิท ในห้องสวีทชั้นบนสุด ชายหนุ่มหญิงสาวอยู่กันตามลำพังสองต่อสอง พชิราพลันหน้าร้อนผ่าวหัวใจเต้นรัว หลังยืนทึมทื่ออยู่ปลายเตียงเนิ่นนาน ก็เข้าใจแล้วว่าอิทธิพลต้องการให้เธอทำอะไร
“เรากับพี่อัค…ทำเรื่องนั้นด้วยกันเหรอ มะ…มันจะเร็วไปไหม”
รอมาแปดปีแต่พอชายหนุ่มที่แอบชอบอยู่บนเตียงแค่นี้แล้ว พชิรากลับเอียงอายและลังเล แต่ใจหนึ่งกลับคิดว่าหากปล่อยไปคงหาโอกาสทองไม่ได้อีก หญิงสาวจึงทำตามเสียงเรียกร้องของหัวใจ ค่อยๆ คลานขึ้นไปบนเตียง ยื่นนิ้วมือขาวผ่องลูบไล้ใบหน้าหล่อเหลาของเขา จากนั้นโน้มลงไปหอมแก้มขึ้นสีแดงระเรื่ออย่างขวยเขิน
“พี่อัคของหนู เป็นเด็กดีนะคะ คืนนี้ถ้าไม่ขัดขืน หนูสัญญาว่าพี่จะอยู่รอดปลอดภัย”
พชิราถอดหน้ากากออก ดวงตากลมหวานไล่มองโครงหน้าโดดเด่นของอัครภพอย่างชื่นชมหลงใหล เธอหอมแก้มข้างซ้ายและขวาของเขา สูดดมกลิ่นน้ำหอมเฉพาะของเจ้าตัวอย่างได้ใจ จากนั้นจดจ้องที่ริมฝีปากสีเข้ม ถ้าจูบลงไปก็จะนุ่มๆ อุ่นๆ รสชาติหวานฉ่ำเหมือนกับไวน์ใช่ไหมนะ คนที่มีแฟนหนุ่มมานับไม่ถ้วนหูแดงแจ๋ แค่จินตนาการก็ฟินจนมือไม้ปวกเปียกไปหมดแล้ว
ขณะยื่นหน้าเข้าไปใกล้หวังทำให้ฝันเป็นจริง อีกเพียงเส้นยาแดงผ่าแปดก็จะแอบจูบได้แล้ว พชิราพลันใจฝ่อไม่กล้าล่วงเกินชายหนุ่ม ในใจลึกๆ เธอเคารพและรักเขาอย่างไร้เดียงสา ให้เอาเปรียบตอนไม่มีสติแบบนี้เลยทำไม่ลง ใบหน้าสะสวยผละถอยห่าง
ทว่าทันใดนั้น! ฝ่ามือเย็นเฉียบพลันรั้งลำคอของพชิราไว้ คนที่หลับตาเงียบกริบมาตลอดใช้กำลังที่น่าทึ่งพลิกทีเดียวก็กดหญิงสาวไว้ใต้ร่างได้สำเร็จ
“ว้าย! พะ…พี่อัค”
เมื่อเห็นใบหน้าหล่อเหลาแดงก่ำ ไหนจะดวงตาหม่นแสงลึกล้ำราวกับหลุมที่มองไม่เห็นก้นนั่นอีก พชิราพลันตัวแข็งทื่อ ไม่กล้าแม้แต่จะส่งเสียง ทำไมเธอรู้สึกว่าอัครภพแปลกๆ หรือว่าเวลาเมาเขาก็เป็นแบบนี้อยู่แล้ว
“อ๊ะ! พี่..พี่อัค!” หญิงสาวตกใจสะดุ้งเฮือกรอบสอง ชุดเดรสเกาะอกตัวเก่งถูกชายหนุ่มดึงพรวดจากบนลงล่าง จนได้ยินเสียงเนื้อผ้าฉีกขาด จากนั้นฝ่ามือลุกร้อนตะปบหมับลงมา ฝากรอยแดงปื้นใหญ่ไว้บนเนื้อนวลอิ่มอย่างรุนแรง
พชิราไม่เคยเปลือยหน้าอกเด่นหราให้ใครเห็นมาก่อน แม้ปลายจุกจะมีแผ่นซิลิโคนแปะไว้ ทว่ายามอยู่ภายใต้สายตาลุกร้อนของอัครภพ จุดเล็กๆ นั้นแทบจะไม่ช่วยให้เธออายน้อยลงแม้แต่น้อย กลับยิ่งแดงก่ำตึงเครียดไปทั้งร่างเพราะถูกฝ่ามือของเขาขยุ้ม
“อ๊า! พี่อัค บะ…เบาๆ ค่ะ”
อัครภพเปลี่ยนไปบีบปลายคางเรียว แววตายิ่งไร้แสงสว่างกว่าเดิม ความต้องการภายใต้ฤทธิ์ยาลุกลามอยู่ในช่องท้องของเขา กระตุ้นให้สิ่งที่เดิมทีสงบนิ่งพลันแข็งนูนขึ้นมา โดยไม่รู้ว่าทำอะไรลงไป ยิ่งได้สัมผัสร่างกายอ่อนนุ่มของหญิงสาว ประกอบกับกลิ่นหอมละมุนละไมของเธอ เขายิ่งจนหนทางยับยั้งตัวเอง เวลานี้เพียงต้องการให้คนแยกขาออก รับเอาความใคร่ที่กำลังปะทุเข้าไปทั้งหมด
“พี่อัค…” พชิราที่ถูกมือของอัครภพหนีบปลายคางแน่นเรียกชื่อเขาเสียงแผ่ว ชายหนุ่มเหมือนกำลังอดทนอดกลั้น เขาดูทรมานอย่างยิ่ง หรือว่านี่จะไม่ใช่เพราะเหล้าอย่างเดียว ต้องมีใครบางคนเจตนาร้ายผสมสิ่งแปลกปลอมให้ดื่มแน่ๆ
แล้วมันตอนไหนกันล่ะ เธอนั่งอยู่กับเขาตลอดยังไม่เจอคนที่น่าสงสัยเลย แต่เดี๋ยวนะ…
เธอรู้สึกว่าอัครภพอาการแปลกไปหลังจากเปลี่ยนไปดื่มเหล้ากับอิทธิพล ไม่ใช่ว่าน้องชายของเขาวางยาหรอกใช่ไหม
“ไม่ต้องกลั้นแล้วนะคะ ความต้องการของผู้ชาย มีแต่ต้องปลดปล่อยเท่านั้นถึงจะดีขึ้น” พูดไปก็หน้าแดงไป แต่หากไม่ช่วยเขาผู้หญิงคนอื่นอาจจะมาช่วยแทน พชิราจึงตัดสินใจไม่หันหลังกลับ ยกมือกดลำคอแกร่งลงมา
“ให้พีมช่วยนะคะ”
ไม่ทราบว่าไปเอาความกล้ามาจากไหน หรือเพราะตัวเองเป็นคนไม่กลัวอะไรอยู่แล้วจึงเสนอไปแบบนั้น หญิงสาวคิด ต่อให้พรุ่งนี้อัครภพโกรธ เธอก็ไม่สน ยังริเริ่มจะเป็นฝ่ายจูบเขาก่อนด้วย อัครภพที่ฝืนมาได้ระยะหนึ่งหลุบตาต่ำ คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันก่อนจะปล่อยให้บรรยากาศพาไป เขาไม่เต็มใจแต่ก็ช่วยไม่ได้ มาถึงขั้นนี้แล้วมีแต่ต้องระบายออกไปเท่านั้น
ทั้งสองประกบจูบกัน ลิ้นเปียกชุ่มและริมฝีปากร้อนฉ่ำบดขยี้เคล้าเคลียนัวเนีย ในห้องกว้างเงียบสงบเวลานี้พลันมีเสียงดูดดึงคลอจังหวะหอบหายใจเป็นระลอก ความใคร่ที่กำลังก่อตัว กระตุ้นให้ต่างฝ่ายต่างเร้าอารมณ์ ต่างก็เรียกร้องและต้องการสัมผัสที่มากกว่าเดิม ชายหนุ่มหญิงสาวกอดเกี่ยว แนบชิดสนิทสนมจนกลายเป็นความปรารถนาที่น่าพรั่นพรึง
อัครภพจูบเก่งเหลือเกิน แทบจะสูบพละกำลังเธอไปหมดแล้ว เขาเคยทำแบบนี้กับใครมาก่อนหรือเปล่า เท่าที่ได้ติดตามชีวิตเขาตลอดแปดปี ไม่เคยได้ยินว่าคบหาผู้หญิงคนไหนเลยนี่ แต่ทำไมนะ ทำไมเรื่องบนเตียงถึงร้ายกาจขนาดนี้
ลมหายใจของพชิราสับสน สติเริ่มเลือนรางขึ้นเรื่อยๆ กว่าอัครภพจะปล่อยให้เธอเป็นอิสระ มือไม้สองข้างของหญิงสาวก็อ่อนเปลี้ยตกลงข้างลำตัว เกือบจะขาดออกซิเจนตายแล้ว
“อื้อ! เดี๋ยวก่อนค่ะ พี่อัค พี่ยังไม่ได้…”
หลังการจูบจนมีเลือดคลุ้งไปทั้งโพรงปาก ชายหนุ่มร่างกายสูงโปร่งไม่มัวเสียเวลาอีกแล้ว เขาแทรกตัวเขาไปกลางหว่างขาของพชิรา กระตุกแพนตี้ตัวบางของเธอจนขาดวิ่น จากนั้นรูดซิบกางเกงตัวเองลง โดยไม่รั้งรอให้คนหน้าหวานพูดจบประโยค ก็เสือกสะโพกแทงพรวดเข้าไปรวดเดียว
“อ๊า! ยังไม่ได้ใส่ถุงเลย อื้อ!”
มีบางอย่างฉีกขาดแต่อัครภพไม่สน เขาสัมผัสได้เพียงการบีบรัดอันอุ่นนุ่มคับแคบ ซึ่งโอบล้อมความครัดเคร่งเอาไว้ทั้งยังสามารถช่วยให้หายจากอาการทรมานได้ ใบหน้าหล่อเหลาเชิดขึ้น เอวสอบดุนดันเริ่มจังหวะผสานอย่างหยาบโลน
พชิราที่ร่างกายตึงเครียดไปหมดพลันอ่อนยวบ แม้มีแฟนมาแล้วมากมาย แต่ไม่เคยปลงใจให้ผู้ชายคนไหนรุกล้ำเช่นนี้มาก่อน สีหน้าแดงก่ำพลันเหยเก จุดที่รองรับความใคร่อันดุดันเจ็บสะท้านจนน้ำตาคลอ ยิ่งเขายัดเยียดความใหญ่มหึมานั่นเข้ามาลึก เธอยิ่งทรมานเหมือนจะตายให้ได้
สองขาเรียวหนึบชา มือไม้อ่อนปวกเปียกไร้ซึ่งเรี่ยวแรง ความรู้สึกหมดสิ้นกำลังอันแปลกใหม่นี้พชิราไม่เคยสัมผัสมาก่อน ทว่าภายใต้ความเจ็บปวด กลับมีอีกความรู้สึกหนึ่งปะปน ทำให้คนตัวเล็กเริ่มส่งเสียงครางอย่างไม่อาย
“อือ อ๊าๆ” พชิราครางเสียงกระเส่า เฝ้ามองชายหนุ่มรุ่นพี่ที่แอบรักมานานอย่างยินยอมและอดทน ทั้งที่น้ำตาไหลเป็นสาย แต่ก็ไม่ได้ช่วยให้เขาสงสารเห็นใจกันสักนิด เรือนร่างและเรี่ยวแรงอันดิบเถื่อนยังคงกระแทกกระทั้นเข้ามา เปี่ยมกำลังวังชา ดุเดือด ชวนให้สั่นสะท้านจนแทบลืมหายใจ
ร้อนแรงอะไรขนาดนี้…เคยได้ยินจากเพื่อนที่ชอบไปนัดเดต บอกเอาไว้ว่านักศึกษาแพทย์เอาเก่งเอาดุสุดๆ เธอฟังแล้วรู้สึกไม่ค่อยอยากเชื่อ เพราะคนที่เรียนหนักขนาดนั้นจะมีเวลามาคิดเรื่องเพศได้ยังไง วันนี้เจอกับตัว ได้ลิ้มรสการร่วมรักที่ถึงตายได้ พชิราก็ตระหนักแล้วว่าพวกคุณหมอเขาแอบหื่นเงียบๆ แถมอารมณ์ยังรุนแรงมาก
“อ๊า! พี่อัค เบา…เบาค่ะ” จะพังหมดแล้ว ดุขนาดนี้
“อ๊า!”
แรงบีบจากเบื้องล่างทำให้อัครภพกัดฟันเชิดใบหน้าหล่อเหลาขึ้น ยิ่งขยับโยกยิ่งเมามันอย่างไม่เคยเป็น แต่ทำเช่นนี้ไปนานเข้าเขาเองก็ชักจะทนไม่ไหว ลูกกระเดือกพลันขยับขึ้นลง ชายหนุ่มประคองเอวคอดบอบบางไว้ ส่งแรงกระแทกหนักหน่วงเร่งเข้าไปมากกว่าเดิม การข่มกลั้นอย่างยิ่งยวดสุดท้ายพลันปะทุทะลักทะล้นพ่นออกมา
“อา!” เสียงต่ำแหบทุ้มครางอยู่ในลำคอ ของเหลวข้นหนืดพุ่งพรวดเข้าไปในกายสาวทุกหยาดหยด
พชิราเองก็พลอยกระตุกเสร็จสมไล่เลี่ยกัน ใบหน้าอ่อนหวานพริ้มปรือเคลิบเคลิ้ม ลิ้มรสความรู้สึกที่ไม่คุ้นเคยนี้อย่างหลงใหล ต่างคนต่างถอนหายใจ แต่ผ่านไปไม่ถึงนาที คนตัวใหญ่ด้านบนก็พลิกร่างของพชิราให้หันหลัง
“พี่อัค…อื้อ! เบาๆ ค่ะ นี่ครั้งแรกของพีมนะ อ๊ะ!”
อัครภพราวกับไม่สนหรือจะพูดให้ถูกคือเขาจับใจความคำพูดพวกนั้นไม่ได้เลย หลังปลดปล่อยรอบแรกไป ความต้องการระลอกใหม่ก็ตีตื้นขึ้นมา ทำให้เขาแทบไม่ต่างจากสัตว์ป่าฤดูผสมพันธุ์ มีแต่จะใช้กำลังสยบความกระสันซ่านในตัวเท่านั้น ท่อนลำแข็งหนึบราวกับหินร้อนยังไม่ได้ถอนออก พอเคลื่อนไหวอัดกระแทกเข้าไป ของเหลวที่ถูกอุดไว้ก่อนหน้าก็ไหลริน ส่วนหนึ่งไหลตามแนวเรียวขาของหญิงสาว อีกส่วนหยดแหมะลงเปื้อนที่นอน ทั้งเลือดทั้งน้ำรักผสมกันจนคาวคลุ้ง
พชิราสะอื้นตัวโยน สองมือกำผ้าปูที่นอนแน่น พลางร้องไห้เจ็บปวดเจียนจะขาดใจ “เจ็บ อื้อ! หนูเจ็บ”
ไม่ได้เตรียมใจแต่แรกว่าจะมาเจออะไรแบบนี้ มีเวลาให้ตั้งสติก็ตอนนอนอยู่ใต้ร่างของเขาแล้ว อัครภพยามนี้ราวกับไม่ใช่คนๆ เดียวกันกับเมื่อหลายปีก่อน เขาไม่ตรงปกสักอย่าง ทั้งที่ยังเงียบขรึมดูสุภาพ ใจดีอ่อนโยน แต่ทำไมพออยู่บนเตียงป่าเถื่อนดิบโหดนักล่ะ
ไม่ไหวแล้ว ต่อให้เธอรักเขาก็ทนไม่ไหว ให้หนีไปตอนนี้ก็ไม่ทัน คืนนั้นทั้งคืนพชิราจึงยอมรับชะตากรรมจนหมดสติ
คุณหมอหนุ่มผู้สุภาพอ่อนโยนในความทรงจำตายไปแล้ว ที่มาแทนที่คือปีศาจพรากความบริสุทธิ์ของหญิงสาว
คนที่ทำได้ทั้งคืนแบบไม่หยุดพัก ผู้ชายที่เพียงแค่รูดซิบกางเกงลงก็บดขยี้นางร้ายหน้าใสจนร้องครางไม่เป็นภาษา
เสื้อผ้าชิ้นอื่นบนตัวเขาอยู่ในสภาพเดิม แต่พชิราเหลือแต่ร่างกายเปลือยเปล่าล่อนจ้อน
สภาพสุดท้ายใครปลดปล่อยจนเบาสบาย ใครเหมือนตายทั้งเป็น ไม่ต้องบอกก็น่าจะรู้