ตอนที่ 3 บริการคุณคนเดียว
นักแสดงที่ไปเข้าร่วมงานเลี้ยงหรูในครั้งนี้ จะต้องใส่หน้ากากแฟนซีอำพรางส่วนใบหน้า หลังจากสรรหาชุดเดรสสุดเซ็กซี่เย้ายวนจนชวนน้ำลายหกมาได้แล้ว พี่เหมียวผู้จัดการส่วนตัวก็ต่อสายโทรศัพท์หาใครบางคนให้พชิรา รอประมาณเกือบห้านาทีกว่าอีกฝ่ายจะกดรับ คล้ายต้องการชักช้าอืดอาดเพื่อยั่วโมโหอย่างไรอย่างนั้น
“ฮัลโหลจ้าน้องพีม โทรมาหาพี่มีธุระอะไรงั้นเหรอ” ปลายสายพูดด้วยน้ำเสียงยานคาง
“สวัสดีค่ะ” พชิราฝืนปรับเสียงให้เป็นมิตร ทั้งที่ในใจด่าไปแล้วแปดรอบ
“พีมอยากมาบอกข่าวดีพี่พราวค่ะ ละครของช่องเดือนหน้า พ่อของพีมจะเป็นนายทุนสนับสนุนรายใหญ่ ตอนนี้กำลังมองหานางเอก ถ้าพี่พราวสนใจพีมช่วยเสนอชื่อให้ได้นะคะ”
“อุ๊ย! ตายแล้ว! ขอเช็คตารางงานพี่ก่อนนะคะว่าว่างไหม พอดีช่วงนี้งานพรีเซ็นเตอร์เข้ารัวๆ ไม่รู้จะมีเวลาหรือเปล่า”
พชิราบุ้ยปาก หมั่นไส้ในความขี้อวดของอีกฝ่าย “ค่ะ งั้นถ้าไม่ว่างก็ไม่เป็นไรค่ะ พระเอกของเรื่องดังอยู่แล้ว ไม่ต้องใช้นางเอกเบอร์ใหญ่มากก็เอาอยู่ ผู้กำกับก็พึ่งได้รางวัลมาปีนี้ เห็นทีพีมคงต้องเอาไปเสนอคนอื่น”
“ใครพระเอก ใครผู้กำกับ” พราวฝันถามอย่างใคร่รู้
“พระเอกพี่คินค่ะ ส่วนผู้กำกับคือคุณอาเหรียญ ถ่ายเดือนหน้า เป็นละครพีเรียดย้อนยุคจากนิยายดัง”
คนหนึ่งเป็นซุปเปอร์สตาร์ขวัญใจแม่ยกค่อนประเทศ อีกคนเป็นผู้กำกับรางวัลละครโทรทัศน์ยอดเยี่ยมสามปีซ้อน บทนางเอกใช้เส้นแทบตายก็ไม่ได้แตะ แต่หากนักลงทุนใหญ่อย่างพ่อของพชิราช่วยพูด มีหรือผู้กำกับจะค้านได้
“ขอบคุณน้องพีมมากนะจ๊ะสำหรับข่าวดี พี่ดูแล้วถ้าเป็นคุณอาเหรียญพี่สามารถเคลียร์ตารางงานได้” พราวฝันหยุดไปชั่วอึดใจ จากนั้นถามอย่างไม่อ้อมค้อม “น้องพีมคงไม่ได้อยู่ๆ ก็ใจดีขึ้นมาหรอกใช่ไหม ต้องการอะไรเหรอ”
พชิราร้ายจะตาย ไม่มีทางที่จะนึกถึงคนอื่นโดยไม่หวังสิ่งตอบแทน ในวงการชื่อเสียงของเจ้าตัวเปรี้ยวซ่าแค่ไหน ก็ดูได้จากที่เป็นนักแสดงมาได้แค่สามปี พวกรุ่นพี่ขาใหญ่ไม่มีใครกล้ากดซีนพชิราสักคน มีแต่ต้องพยายามสุดความสามารถไม่ให้นางร้ายหน้าใสคนนี้แย่งซีนแทน
“งานปาร์ตี้ที่คลับอีสเทิร์นคืนนี้ พีมอยากไปแทนพี่พราวค่ะ”
พราวฝันชะงักเล็กน้อยที่อีกฝ่ายหาข้อมูลจนรู้ว่าเธอถูกเชิญ ครอบครัวพชิราไม่ได้ถือว่าเป็นมหาเศรษฐี แต่ก็อยู่ในระดับที่มีเงินเหลือกินเหลือใช้ คงไม่แปลกหากข่าววงในแค่นี้จะเสาะหามาได้ “งานของคุณอิทธิพลน่ะเหรอ น้องพีมพึ่งเลิกกับแฟน เพจข่าวยังสนใจประเด็นนี้กันอยู่เลย แน่ใจนะคะว่าจะเล่นกับไฟอย่างคุณอิทธิพล”
“สรุปพี่พราวตกลงไหมคะ” พชิราขี้เกียจต่อปากต่อคำกับอีกฝ่าย ถ้าอารมณ์ไม่ดีเธอจะแต่งหน้าไม่สวย
พราวฝันที่ปลายสายเงียบไปคล้ายกำลังชั่งใจ ทว่าความจริงดาราสาวเพียงต้องการเล่นตัวสักเล็กน้อยก็เท่านั้น เธอได้รับการติดต่อจากอิทธิพลผ่านผู้จัดการส่วนตัว เขามันเสือร้ายเห็นผู้หญิงเป็นแค่ของเล่น
พวกดาราหน้าใหม่จนถึงตัวประกอบที่หน้าตาพอใช้ได้หน่อยล้วนถูกชายหนุ่มผู้ร่ำรวยคนนี้ฟาดมาหมดแล้ว เธออยู่คนละระดับกับนางๆ พวกนั้น เลยไม่คิดจะไปเข้าร่วมเพื่อลดเกรดตัวเองแต่แรก หากว่าเปลี่ยนเป็นคุณอัครภพผู้เป็นพี่ชายแทน แน่นอนว่าละครของผู้กำกับคนดังแค่เรื่องเดียว ไม่มีทางแลกเปลี่ยนกันได้
“ตกลงค่ะ แต่ระวังไว้หน่อยก็ดีนะ” พชิราอยากลดเกรดตัวเองก็ทำไปเถอะ ดูสิว่าจะมีข่าวฉาวอะไรออกมาอีก
หลังวางสายหญิงสาวอมยิ้มพอใจทันที หยิบบลัชออนมาปัดแก้ม แต่งหน้าแต่งตัวต่อไปพลางร้องเพลงเสียงหวาน
ผู้จัดการซึ่งกำลังรอฟังข่าวอยู่ด้านข้างเห็นว่าแม่เจ้าประคุณอารมณ์ดีก็ถามขึ้น “ทางนั้นตกลงแล้วเหรอน้องพีม พี่ว่าเอาบทนางเอกไปประเคนให้พราวฝันมันไม่ค่อยคุ้มนะ หรือบางทีน้องพีมควรคิดอีกรอบ เรื่องนั้นเป็นละครพีเรียดทุนสร้างสูง น้องพีมไม่อยากลองเล่นบทนางเอกบ้างเหรอ”
“ไม่ค่ะ อีกอย่างเหมือนยัยพราวฝันจะไม่รู้นะคะว่าพี่อิทจองตัวนางให้ใคร ถ้าทราบทีหลังคงโมโหจนหน้าเขียวแน่”
ที่โรงพยาบาลเครือตระกูลธาดากีรติ ใกล้เวลาเลิกงานของอัครภพเข้าไปทุกขณะ ทว่าคุณหมอหนุ่มไม่กระตือรือร้นเตรียมตัวกลับบ้านสักนิด น้องชายที่มารอนานแล้วจึงเริ่มลุกลี้ลุกลนอยู่ไม่สุข อิทธิพลที่แต่งตัวซะหล่อเดินวนไปมา ไม่กล้าส่งเสียงรบกวนพี่ชาย แต่การเคลื่อนไหวยุกยิกของเขาทำให้อัครภพเหลือบนัยน์ตาคมกริบขึ้นมอง สีหน้านิ่งเรียบมีคำว่ารำคาญแปะติดเตือนคนไว้ตัวเบ้อเร่อ
อิทธิพลไม่มีทางเลือกแล้ว จึงทำใจกล้าเอ่ยปาก “พี่อัค ทุ่มครึ่งแล้ว ถ้าเราไม่เดินทางตอนนี้จะไปถึงช้านะ ผมเชิญเพื่อนพี่มาเรียบร้อย ถ้าพี่ไม่ไปผมจะทำยังไง นักธุรกิจหน้าใหม่อย่างผมจะเหลือความน่าเชื่อถือไหม”
“ใครสั่งให้ทำ” อัครภพตอบกลับเย็นชา
“โธ่พี่ค้าบ! พี่ดูนะ ในประเทศนี้พี่ก็คือหมอหนุ่มที่ขึ้นมาเป็นผู้อำนวยการโรงพยาบาลดังที่อายุน้อยที่สุด พี่เก่งโคตรๆ โหดจนใครก็เทียบไม่ได้ ผมภูมิใจในตัวพี่ สรรเสริญพี่ คนในวงสังคมพอรู้ว่าผมจะจัดปาร์ตี้ให้พี่ก็กระตือรือร้นอยากมาร่วม ดูคอนเนคชันของพี่สิ ทำให้ผมมีโอกาสได้เจรจาทำธุรกิจกับคนที่ไม่เคยได้คุยกันด้วย พี่ชาย ผมขอร้องล่ะ อย่าลอยแพผมกลางคันเลย ไม่งั้นพ่อแม่รู้เข้าได้เอาผมตายแน่”
อัครภพบีบหว่างคิ้ว คร้านจะเสวนากับน้องชายตัวป่วนเต็มที จึงอ่านเอกสารอีกไม่กี่หน้าแล้วปิดแฟ้ม อิทธิพลเห็นสัญญาณที่ดีก็กระดิกหางของตนอย่างลิงโลด แทบจะกระโดดกอดคอเขาแล้ว “ผมรู้ว่าพี่รักผมที่สุด ไม่เคยคิดทอดทิ้งผม”
ฮือๆ น้ำตาจะไหล พี่ชายของเขาแม้ภายนอกเย็นชาเหมือนไม่ใส่ใจ พูดน้อยจนชวนให้เดาอารมณ์ไม่ถูก แต่ทุกครั้งพอเขาเจอปัญหาก็ไม่เคยทอดทิ้ง ยิ่งปาร์ตี้นี้เชิญเพื่อนฝูงในวงการนักธุรกิจไฮโซมากันเพียบ หากอัครภพตัดสินใจไม่ไปย่อมเท่ากับทำให้น้องชายถูกมองไม่ดี เขาจึงเข้าห้องพักส่วนตัวไปอาบน้ำเปลี่ยนชุด รอสักหน่อยสองพี่น้องผู้มียีนส์หน้าตาฟ้าประทานก็ออกจากห้องทำงานของผู้อำนวยการ
เวลาเกือบสองทุ่มที่คลับหรูอีสเทิร์น ในห้องรับรองVIP แสงไฟจากดิสโก้บนเพดานสาดแสงสีฟ้าสลับม่วงอาบไล้ไปทุกพื้นที่ ท่ามกลางบทสนทนาร้อยแปดพันเรื่อง มีเสียงเพลงนุ่มละมุนเปิดคลอขับกล่อม แขกที่มาถึงแล้วส่วนใหญ่จับกลุ่มคุยเรื่องธุรกิจสรวลเสเฮฮา ข้างกายพวกเขามีสาวสวยสวมหน้ากากอำพรางคอยยกยิ้มเอาใจ
พชิราที่พยายามลดการมีตัวตนให้ได้มากที่สุดเหลือบมองรอบๆ พลันรู้สึกสะอิดสะเอียนเมื่อเห็นพวกผู้ชายไฮโซที่มีเมียแล้วกกกอดผู้หญิงอื่นได้หน้าตาเฉย ถึงเธอจะนิสัยไม่ได้แสนดีมากมาย แต่ก็พึงระลึกไว้เสมอว่าการเป็นเมียน้อยมันทุเรศ ให้ป้อยอเศษสวะแลกงานในวงการ เธอฝืนใจทำไม่ลง ไม่มีเส้นสายครอบครัวก็ไม่มีทางทำ
“เธอ! คุณอัครภพมาแล้ว”
“ไหนๆ มาจริงด้วย หล่อมาก! แม่เจ้า เขาควงใครมาไหมอ่ะ พวกเราลองเข้าไปขอชนแก้วดีไหม”
“กล้าเหรอ แค่มองไกลๆ ฉันยังขาสั่น ถ้าเข้าไปใกล้แล้วโดนเมินขึ้นมา จะไม่หน้าแตกยับเลยหรือไง คุณอัคไม่ได้ใจดีเหมือนคุณอิทนะ ฉันเคยได้ยินมา ว่าตัวแม่ของช่องเราโดนคุณอัคหักหน้ากลางงานประมูลการกุศลมาแล้ว”
หญิงสาวรอบด้านจดจ้องไปยังชายหนุ่มคนสำคัญเป็นตาเดียว ทว่าอัครภพปฏิบัติกับหญิงสาวที่พยายามจะเข้าหาเขาอำมหิตเกินไป พวกน้องใหม่ใจบางจึงไม่มีใครกล้าพอจะรนหาที่
พชิราฟังแล้วยิ้มมุมปาก ในมือประคองแก้วแชมเปญทรงสูงจิบดื่มไปพลางส่งสายตาวาวหวานให้ใครบางคน รู้ว่าสู้ไม่ได้ก็ถอยไปน่ะถูกแล้ว ดูเอาไว้ว่าตัวแม่เขาทำยังไงกัน หญิงสาวหุ่นอรชรอกเป็นอก ก้นเป็นก้น ก้าวขาเรียวเดินผ่านเด็กน้อยตาละห้อยตรงไปยังโซฟาที่ชายหนุ่มหล่อเหลานั่งอยู่ ทว่าฉากเปิดตัวนี้กลับต้องสะดุดกึก
ผู้ชายร่างสูงคนหนึ่งถลามาขวางหน้าพชิราเอาไว้ กลิ่นเหล้าเข้มข้นจากเขาฉุนจมูกจนเวียนหัว “คนสวย ผมมองคุณอยู่นานแล้ว มานี่เถอะ คืนนี้ถ้าทำดีอยากเล่นละครเรื่องไหนผมก็จะช่วย”
“ขอโทษทีค่ะ” พชิราหันหน้าไปมองอัครภพ ซึ่งเขาเองก็กำลังมองมาทางนี้เช่นกัน
“หนูเป็นเด็กของคุณอัครภพ คืนนี้มาบริการเขาคนเดียว”
ชื่อของอัครภพราวกับยันต์กันผี ต่อให้เมาแค่ไหนผู้ชายคนนี้พอได้ยินว่าหญิงสาวเป็นเด็กของใครก็ถอยกรู ยังโค้งศีรษะเล็กน้อยให้อัครภพอย่างขอโทษขอโพย พชิราเดินต่อไปจนถึงเบื้องหน้าสองพี่น้องหนุ่มหล่อคนดัง อิทธิพลตาวาวโรจน์ พอได้ยินว่าเธอประกาศตัวมาบริการพี่ชายโดยเฉพาะก็รีบจัดที่นั่งให้
“อะแฮ่ม! พี่อัคให้น้องเขาอยู่เป็นเพื่อนเถอะ เดี๋ยวผมขอไปทำธุระหน่อย” อิทธิพลยิ้มแป้นหน้าระรื่น จากนั้นหันไปขยิบตาเจ้าชู้ให้พชิรา
“บริการพี่ฉันอย่าให้ขาดตกบกพร่องล่ะ”
“ได้ค่ะคุณอิท” พชิรารับคำ มือเรียวสวยหยิบไวน์มารินใส่แก้วให้ชายหนุ่ม
“ขอโทษที่ต้องอ้างชื่อคุณอัคนะคะ ผู้ชายคนนั้นตอแยหนูตั้งแต่มาถึงเลย หนูพึ่งถูกเชิญมางานแบบนี้ครั้งแรก ไม่รู้จะทำยังไงดี อย่างน้อยจนกว่าคุณอัคจะกลับ ให้หนูนั่งอยู่ตรงนี้ด้วยเถอะนะคะ”
อัครภพไม่ได้พูดอะไรทั้งไม่ได้ออกปากไล่เธอ ยังคงเฉยเมยประหนึ่งภูเขาน้ำแข็งสลักก็ไม่ปาน แขกในงานทยอยเข้ามาขอชนแก้วยินดีกับตำแหน่งผู้อำนวยการโรงพยาบาลหมาดๆ ของเขา บ้างก็ชวนคุยสัพเพเหระไปเรื่อย ทว่าบรรยากาศรอบกายชายหนุ่มเหมือนมีเมฆดำลอยปกคลุมตลอดเวลา คนที่ต้านทานความเงียบสุดลึกล้ำของเขาไม่ไหวคุยไปได้นิดหน่อย ก็ล่าถอยไปเข้าทางผู้เป็นน้องชายแทน
สองพี่น้องคู่นี้มีส่วนที่คล้ายกันคือเป็นทายาทตระกูลมหาเศรษฐีผู้มีหน้าตาหล่อเหลาสะท้าน ทว่านิสัยและความชอบต่างกันสิ้นเชิง อิทธิพลเจ้าชู้เสเพล ยิ้มง่ายเข้ากันได้กับคนไปทั่ว
ในขณะที่อัครภพเป็นประเภทเก็บตัวแทบไม่ออกงานสังคม มีเสียงดังรบกวนสมาธิหน่อยเขาก็รำคาญแล้ว อย่าหวังว่าในสถานที่อึกทึกเช่นนี้จะมีใครเก่งพอให้เขาสนใจได้
หลังไปวอแวสาวทั่วทั้งงาน อิทธิพลกลับมานั่งลงข้างพี่ชาย มองขวดไวน์ที่หมดไปแล้วหกขวดอย่างสุดจะทึ่ง
“โอ้โหพี่ค้าบ ดื่มไปขนาดนี้ยังไม่เมาอีกเหรอเนี่ย ผมนับถือจริงๆ” พี่ชายเขาคอแข็งดื่มเหล้าเหมือนดื่มน้ำเปล่า เป็นแบบนี้จนงานจบแผนการที่วางไว้ก็ไม่สำเร็จสิ
อิทธิพลยิ้มยิงฟันขาวก่อนจะรินน้ำสีอำพันใส่แก้วใบใหม่ จังหวะที่หญิงสาวเสียงหวานชวนอัครภพคุย เขาได้แอบหยอดของเหลวแปลกปลอมสามสี่หยดผสมลงไป จากนั้นเลื่อนให้พี่ชายตัวเอง
“พี่ครับดื่มกับผมหน่อย คืนนี้ผมตั้งใจจัดงานให้พี่แต่ยังไม่ได้ดื่มกับพี่เลย คนสวยก็มาดื่มด้วยกันสิ”
มีคนคุยด้วยสักทีพชิราพลันผ่อนคลาย อยู่ใกล้อัครภพนาน ถูกเมฆหมอกที่แผ่ซ่านจากตัวเขาปกคลุมจนจะเฉาตายอยู่แล้ว แรกๆ ก็อ่อยเล่นหูเล่นตาอยู่ แต่อัครภพดูเหมือนจะไม่ชอบ เธอจึงได้แต่นั่งเงียบๆ ชวนคุยเขาก็ไม่คุย น้ำแข็งสลักทำให้เธอใกล้จะเป็นตอไม้เข้าไปทุกที
จากนั้นสิบนาที
“พี่ผมว่าพี่เมาแล้วแหละ มาเถอะเดี๋ยวผมไปส่ง”
ดื่มไวน์หกขวดไม่เมา แต่ดื่มเหล้าแค่ไม่กี่แก้วกลับหน้าแดงดวงตาหรี่ปรือ พชิราไม่เห็นถึงการกระทำที่ผิดปกติ ความสนใจของเธอถูกสีหน้าง่วงซึมของอัครภพดึงดูดไปหมดแล้ว
“คนสวยมาช่วยหน่อย” อิทธิพลพยุงพี่ชาย อีกข้างเป็นพชิราช่วยประคอง ทั้งสองพาคนเมาขึ้นไปยังห้องสวีทชั้นบน พออัครภพนอนแผ่หลาอยู่บนเตียง น้องชายผู้เจ้าเล่ห์ก็หันไปบอกกล่าวกับสาวสวยที่มาด้วยกัน
“คืนนี้ขอแบบจัดหนัก มีลีลาเท่าไหร่ก็งัดออกมา ถ้าพี่ชายฉันติดใจ เธอมีโอกาสได้ไปต่อ”
อันที่จริงเขาเหงื่อตกกับผลลัพธ์ที่จะตามมา แต่พราวฝันหน้าตาสะสวย ถ้าพี่รู้ว่าผู้หญิงที่เขาหามาให้ไม่เลวเลย คงแค่ด่านิดหน่อย ไม่ถึงขั้นกระทืบจมบาทาหรอกมั้ง
พชิรา (“…”)