บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 2 เด็กพี่อัคเท่านั้น

ความวุ่นวายฉากหนึ่งจบลงสักที มีคนมาหามโกสนออกไปจัดกระดูก พชิราจึงเดินตามหลังอัครภพไปส่งขนมที่ห้องพักส่วนตัวของเขา บรรยากาศรอบกายชายหนุ่มค่อนข้างอึมครึมนิ่งสงบ ไม่มีกลิ่นอายความคุ้นเคยเก่าๆ หลงเหลืออยู่เลย

อาจเพราะพวกเราไม่ค่อยมีเวลาเจอกัน เขาเป็นหมอผ่าตัดเต็มตัว ส่วนเธอก็เข้าวงการบันเทิงไปตามหาความฝัน พชิราจึงคิดเอาเองว่าอัครภพเฉยชาเช่นนี้ คงเหนื่อยกับงานจึงไม่มีอารมณ์คุยเล่นก็เป็นได้

“พี่อัคดื่มนมตอนนี้เลยไหมคะ เดี๋ยวพีมแกะให้”

“ไม่ต้อง กลับไปเถอะ พี่ยังต้องทำงาน” อัครภพนั่งอ่านประวัติคนไข้ที่กำลังจะผ่าตัดในอีกครึ่งชั่วโมง เขาขี้รำคาญ ยิ่งกับคนไม่คุ้นเคยยิ่งไม่อยากให้อยู่ใกล้ พชิราเป็นน้องสาวของเพื่อนก็จริง แต่ไม่ได้หมายความว่าเขาจะอนุญาตให้อีกฝ่ายมารบกวน พูดง่ายๆ คือ พวกเขาทั้งคู่ไม่ได้สนิทกัน พชิรานับว่าเป็นคนแปลกหน้าด้วยซ้ำ

“งั้นหนูกลับแล้วนะคะ ขนมกับนมพวกนี้พี่อย่าลืมกินนะ” พชิรายังอยากพูดต่อทั้งที่สีหน้าเจื่อน เขาไม่ไล่กันตรงๆ แต่การแสดงออกผ่านความเงียบกลับตอกหน้าเธอชัดเจน พี่ชายที่แสนอบอุ่นเย็นชาห่างเหินจนน่าใจหาย

ก็เพราะเป็นอย่างนี้ไง เพราะเขาเอาแต่ทำงานไม่มีเวลาสนใจคนรอบข้างเลย อีกสองปีก็จะขึ้นเลขสามสิบแล้ว แฟนสักคนยังไม่มี เทียบกับเธอที่อายุแค่ยี่สิบเอ็ดปีก็คบไปแล้วเดือนละคน นี่เขารอใครอยู่งั้นเหรอ หรือจะครองตัวเป็นโสดตลอดไป ให้ตายเถอะ! เสียของชะมัด

พชิราแอบมองใบหน้าหล่อเหลา สำรวจยามที่เขาหลุบตาต่ำอ่านเอกสาร มองจมูกที่โด่งคมรับกับริมฝีปากสีเข้ม จากนั้นก็เลื่อนสายตาผ่านปลายคางสลักเสลา หยุดอยู่ที่ลูกกระเดือกใต้ลำคอแข็งแกร่ง คนๆ หนึ่งจำเป็นต้องสมบูรณ์แบบขนาดนี้เชียวเหรอ เพราะเขาไม่เคยมีข่าวชู้สาวเลยสักครั้ง ความรู้สึกของพชิราจึงเสมือนได้พบกับเจ้าชายรูปงามผู้บริสุทธิ์ คนที่สูงส่งทั้งเย่อหยิ่ง คนที่วางตัวสะอาดเอี่ยมจนตัวเธอนึกอยากกระโจนเข้าไปกอดรัดทำให้แปดเปื้อน

เมื่อก่อนอัครภพหล่อมากอยู่แล้ว ผ่านมาแปดปีกาลเวลาไม่สามารถทำอะไรเขาได้เลยแม้แต่น้อย อายุเพิ่มขึ้นกลับยิ่งหล่อพิฆาตสะท้านทรวง เธอต้องไปทำบุญขอพรอีกกี่วัดถึงจะมีวาสนาได้ขบจูบริมฝีปากสีเข้มนั่น ต้องเอาน้ำแดงไข่ต้มไปบนบาลเจ้าพ่อเจ้าแม่ศาลไหน ถึงจะได้ซุกไซ้อยู่ในอ้อมกอดของเขา คิดแล้วก็เซ็งจริงๆ อัครภพเป็นพวกไม่ฝักใฝ่ทางเพศหรือไง อย่างน้อยถ้าเขามีแฟนสักคน เธอก็คงไม่ฝันเพ้อเจ้ออยากพรากพรหมจรรย์เขาเช่นนี้

กลับถึงคอนโดฯ ผู้จัดการของพชิราชื่อว่าพี่เหมียวรีบร้อนโทรเข้ามา เธอเป็นหญิงวัยกลางคนรุ่นอา น้ำเสียงสั่นเครือเล่าต้นสายปลายเหตุอย่างตะกุกตะกัก พชิราฟังจนจบก็ไม่ได้รู้สึกตกใจอะไร โกสนเป็นพวกขี้แพ้ชวนตี วันนี้เขาถึงขั้นหัวแตกย่อมไม่ยอมปล่อยเธอไปง่ายๆ อยู่แล้ว

ก่อนคบกัน ผู้ชายคนนี้ก็ไม่มีอะไรดี นอกจากหน้าตากับสถานะครอบครัว จึงเป็นได้แค่ลูกแหง่นิสัยคุณชาย ที่เธอตัดสินใจคว้ามาควง ไม่ใช่เพราะพิศวาส แค่ต้องการใช้เขาเป็นบันไดไต่ไปชิงบทละครมาก็เท่านั้นเอง

“น้องพีมทำร้ายคุณโกสนจริงๆ เหรอ” พี่เหมียวพูดไปก็จะเป็นลมไป แม่เจ้าประคุณเด็กในสังกัดของเธอคนนี้หาแต่เรื่องไม่เว้นแต่ละวัน เมื่อสัปดาห์ก่อนยังไม่เคลียร์ แป๊บๆ เอาอีกแล้ว

“ใช่ค่ะ พีมตีหัวไอ้บ้านั่นเอง พี่เหมียวอย่าพึ่งคิดมากสิคะ รอให้คนสนใจกว่านี้ก่อน พวกเราค่อยเอาคลิปกล้องในห้องพีมไปโพสต์” นี่คือการพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส โกสนมีข่าวทำร้ายร่างกายแฟนสาวที่เคยคบทุกคน คุณพ่อนักการเมืองคนนั้นของเขาเห็นแก่ชื่อเสียงตัวเองเป็นที่สุด จะต้องทักมาหาเธอเพื่อใช้เงินปิดปากแน่ และก่อนจะถึงเวลานั้น เธอต้องฉวยโอกาสที่มวลชนสนใจเรียกร้องความสงสารให้ได้มากที่สุด

“น้องพีมหมายความว่า…” เหมียวเป็นผู้จัดการที่ทุ่มเท แต่บางครั้งก็ตามไม่ทันเล่ห์เหลี่ยมของพชิรา จึงถามออกไปอย่างไม่รู้ พอได้ยินอีกฝ่ายหัวเราะร่าเข้ามาในสาย ขนแขนพลันลุกซู่ทันที

“ใครๆ ก็ยกให้พีมเป็นนางร้ายทั้งในจอและนอกจอ” หญิงสาวเว้นจังหวะ กลั้วหัวเราะอีกเล็กน้อยก็ต่อประโยคให้จบ

“พี่เหมียวคงไม่ได้คิดว่าพีมจะยอมหรอกใช่ไหมคะ ต้องมาดูกันแล้วล่ะค่ะ ว่าไอ้บ้านั่นจะมีน้ำยาสักแค่ไหน”

พชิรา วรวลัญช์ เข้าสู่วงการบันเทิงด้วยเส้นสายครอบครัว เดิมข้อนี้ควรเป็นจุดอ่อนให้บุคคลไม่หวังดีใช้เล่นงานเธอ แต่คนดวงแข็งตกน้ำไม่ไหลตกไฟไม่ไหม้ เธอไม่ใช่คนดีมากมายอะไร ไม่อย่างนั้นคงไม่ได้ฉายาว่าร้ายจริงทั้งในจอและนอกจอ ใครที่คิดจะทำลายเธอต้องมีฝีมือมากหน่อย ไม่งั้นคงจะเสียรู้เหมือนกับโกสน เขามั่นใจว่าตัวเองแน่ มีพ่อคอยโอ๋เป็นไอ้ลูกแหง่ไม่เป็นโล้เป็นพาย สุดท้ายกว่าจะรู้ตัวว่ากลายเป็นบันไดให้เธอเหยียบ คงนู้นแหละ! ตอนกระแสตีกลับนู้น!

หญิงสาวทิ้งเรื่องทุกอย่างให้ดำเนินไปตามครรลอง เช้าวันต่อมาเห็นว่ามีคนพูดถึงประเด็นนี้ไปห้าแสนกว่าครั้งในแอพพลิเคชันเอ็กแล้ว ก็จัดการปล่อยคลิปที่โกสนบุกรุกเข้าห้องของเธอ เขาตอแหลว่าถูกทำร้ายก่อน แต่หากเป็นผู้หญิงด้วยกันได้มาเห็นคลิปนี้จะต้องตกใจไม่ต่างจากเธอแน่ เพราะหมอนั่นไม่ได้แค่เดินโต้งๆ เข้ามาขอคุย เขายังพยายามจะล่วงละเมิดร่างกายเธอด้วย โดนแจกันฟาดไปแค่นี้ถือว่ายังน้อยไปด้วยซ้ำ

ระหว่างเดินทางไปกองถ่าย พี่เหมียวผู้จัดการเห็นเงินโอนเข้าบัญชีมาสองล้านพลันอึ้งจนพูดไม่ออก หากไม่ทำอาชีพนักแสดง พชิราไปเอาดีด้านกรรโชกทรัพย์ขู่แบล็คเมลคงจะรุ่งน่าดู ถึงอย่างนั้นผู้จัดการก็พูดอย่างเป็นห่วง

“น้องพีม ทำแบบนี้จะดีจริงเหรอ อีกฝ่ายเป็นนักการเมืองมีอิทธิพลเชียวนะ”

พชิรากำลังทบทวนบท พอผู้จัดการถามก็ตอบไปอย่างนิ่งเฉย “พีมทำครั้งแรกเหรอคะ ทำไมพี่เหมียวยังกลัวอยู่อีก”

“กลัวสิแม่เจ้าประคุณของพี่ หากเป็นคนที่คิดแค้นไม่ยอมเลิก น้องพีมของพี่จะรับมือไม่ไหวเอานะ”

หญิงสาวเงียบไป ทว่าไม่อยากคิดให้รกสมองจึงเอาไว้ไตร่ตรองทีหลัง คนเราภัยยังไม่มาถึงตัวไม่ควรกังวลเกินเหตุ

วันนี้พชิรามีถ่ายไม่กี่ฉาก นอกจากแต่งตัวสวยเลิศกลั่นแกล้งนางเอกอย่างไร้สมอง ด่าเสริมตัวจริงของพระเอกอย่างมั่นหน้าอีกเล็กน้อยก็กลับบ้านได้ เธอใช้เส้นสายครอบครัวคว้าบทบาทก็จริง แต่เป็นเส้นเล็กไม่ใช่เส้นใหญ่ ผู้กำกับเกรงใจนายทุนซึ่งเป็นบิดาของเธอ แต่ก็ไม่อยากให้ละครขายไม่ได้จึงส่งบทจำพวกนางร้ายกับนางรองมาให้เลือกตลอด

แน่นอนว่านางรองน่าสงสารเกินไป แสดงแล้วปวดใจแปลกๆ พชิราจึงปัดตก บทนางร้ายสิโดนใจเธอ ไม่จืดชืดทั้งแต่งตัวสวยตลอด มีอยู่เรื่องหนึ่งผู้กำกับให้เธอกรี๊ดอยู่บนรองเท้าส้นสูงท่ามกลางสายฝน กว่าจะผ่านก็หลายสิบเทค ทว่าพชิราไม่เหนื่อยสักนิด กลับสนุกจนติดใจบทงี่เง่าเป็นเด็กมีปมแบบนี้

“อุ๊ย! น้องพีม มาทำงานได้แล้วเหรอ เห็นข่าวทะเลาะกับแฟนจนหัวร้างข้างแตก แต่ไม่เป็นไรใช่มั้ยคะ พี่เป็นห่วงแทบแย่ นึกว่าน้องพีมจะโดนตบจนมาไม่ไหว”

มินตรานางเอกของละครเรื่องนี้เดินผ่านจุดพักของพชิรา คำพูดคำจาเจ้าหล่อนฟังคล้ายเป็นห่วง แต่เมื่อฟังให้ดี เหมือนจะเยาะหยันเสียมากกว่า แถมสีหน้าสีตาเจ้าหล่อนก็เสแสร้งชัดเจนชนิดไม่ว่าใครก็ดูออก

“อุ๊บ!” พชิราจีบปากจีบคอ วางบทลงแล้วตอบกลับนักแสดงรุ่นพี่ “พี่มินก็ไม่ใช่ย่อยนะคะ เอาตัวรอดเก่งจนมาถึงตอนนี้ พีมนับถือจริงๆ ได้ยินว่าเวลานางเอกเบอร์หนึ่งจับบ้านที่สามของสามีได้ เมียน้อยพวกนั้นจบไม่ดีสักรายเลย ถ้าไม่โดนดักตบจนหน้าแหก ก็ถูกฟ้องไปหลายสิบล้าน”

“พชิรา! พูดจาให้มันดีๆ”

“ฮาฮ่า รับทราบค่ะรุ่นพี่” พชิราทำท่าทางรูดซิบปาก นางเอกในจอบางคนไม่จำเป็นต้องดีเลิศประเสริฐ มินตราเป็นตัวอย่างของพวกกินอยู่กับปากอยากอยู่กับท้อง นึกวางตนข่มคนอื่นแต่ลืมไปว่าตัวเองก็หางโผล่แล้วเหมือนกัน

หลังเลิกกอง ขณะเก็บของเตรียมตัวกลับไปพักผ่อน พี่เหมียวผู้จัดการของพชิราก็รีบปรี่เข้ามา เล่าเรื่องที่พึ่งไปได้ยินมาอย่างตื่นเต้น “น้องพีมข่าวด่วนจ้าข่าวด่วน สองทุ่มวันนี้ ทางผู้ใหญ่จะมีงานเลี้ยงหรู น้องพีมสนใจไปร่วมหรือเปล่า เป็นงานที่เขาว่ากันว่าคนหล่อเพียบ พวกหนุ่มๆในวงไฮโซไปกันเยอะมาก”

“ใครจองหนูล่ะ” พชิรารู้ดีว่างานเลี้ยงหรูของพวกหนุ่มไฮโซ หากเชิญดาราสาวๆ ไปเข้าร่วมเป็นการส่วนตัว ย่อมหมายความว่าจะให้ไปทำหน้าที่เอ็นเตอร์เทน เธอโดนทาบทามไปงานเช่นนี้บ่อยเสียยิ่งกว่ามีกองละครติดต่อมา

จึงรู้เบื้องลึกเบื้องหลังและเจตนาแอบแฝงพวกนี้ดี นักแสดงหน้าใหม่ที่สวยๆ หน่อย หากอยากได้สปอร์นเซอร์ส่วนตัวช่วยให้มีที่ยืนในวงการ ก็ต้องไปร่วมงานประเภทนี้กันแทบทุกคน ไม่เกิดมาเป็นดาวจรัสแสงจริงๆ ประกอบกับจังหวะช่วยส่ง ก็ยากจะเฉิดฉายกลายเป็นตัวพ่อตัวแม่ได้

“คุณอิทธิพล ธาดากีรติ น้องชายของคุณอัครภพ เขาบอกว่าถ้าหนูไปร่วมงานนี้ ละครใหม่ของช่องเดือนหน้าจะให้หนูเลือกบทเอง”

“ไม่ไปค่ะ เพลย์บอยตัวร้ายอย่างเขาพีมกลัวจะรับมือไม่ไหว”

เธอไม่ได้จนหนทางจนต้องใช้เรือนร่างเข้าแลก และไม่ทราบว่าเพราะได้ยินชื่อของเขาคนนั้นหรือเปล่า พชิราจึงถามอ้อมแอ้มกับผู้จัดการ “ไปแค่คุณอิทธิพลเหรอพี่เหมียว พี่ชายเขาไม่ไปด้วยเหรอ”

“ไปสิ พี่ได้ยินว่าคุณอัครภพจองตัวดาวรุ่งคนดังของปีนี้เชียว”

“พี่พราวฝัน?”

“ใช่แล้ว พราวฝันคนนั้นแหละ แสดงละครแค่ปีเดียวก็เรตติ้งเปรี้ยงปร้าง นี่นะอีกหน่อยคงเบียดพวกนางเอกเลขสามตกกระป๋อง”

“เชอะ! แสดงหน้าเดียวทั้งเรื่องแบบนั้นน่ะเหรอเรียกดาวรุ่ง พีมตกลงจะไปค่ะ แต่พีมต้องได้เป็นเด็กของพี่อัคเท่านั้น”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel