ยินดีที่ได้รับใช้
"ใส่สร้อยเอาไว้ครับ...อย่าดื้อ ..."สตาร์ไม่พูดเปล่า เขาสวมสร้อยที่มีตะกรุดห้อยอยู่ให้กับตรีภพไปด้วย ในขณะที่ตรีภพกำลังนั่งอึ้งอยู่
"อะไร...น้าไม่ใส่ น้า ..."
"ถ้าถอดออกมานะ...ผมก็จะใส่ให้อีกครับ ไปที่ไหนถ้าผมไม่เห็นว่าน้าตรีใส่ ผมก็จะตามใส่ให้คอยดูสิครับ ..."สตาร์สบตากับตรีภพแล้วพูดด้วยนํ้าเสียงที่จริงจัง
"อือๆใส่ก็ใส่ เอาจริงๆนะเรารู้ได้ยังไง...เรื่องที่น้าโดนหัวหน้าด่ามา แล้วก็ที่โดนตัดออกจากคดีสำคัญ ..."ตรีภพสบตากับสตาร์แล้วถามด้วยนํ้าเสียงที่จริงจัง หลังจากที่เขาพยักหน้ายอมใส่สร้อย ที่สตาร์ใส่ให้เขาอย่างตัดรำคาญ
"น้ารู้แค่ว่า...ผมรู้ว่าน้าเจออะไรมาก็พอครับ ..."สตาร์พูดขึ้นเสียงเรียบ
"ถ้าสตาร์รู้ว่าน้าเจออะไรมา สตาร์ก็รู้สิ ว่าที่น้าเจอคืออะไร โดนแกล้งหรือว่ามันเป็นเรื่องจริง น้า ...
"น้าตรีครับ ผมไม่ใช่ผู้วิเศษนะครับ ผมมองเห็นแค่ที่น้าเห็นแล้วก็รู้สึกแค่นั้น คนอื่นผมไม่รู้ ถ้าผมไม่ได้สัมผัส ..."สตาร์สบตากับตรีภพแล้วพูดขึ้นด้วยนํ้าเสียงที่จริงจัง
"อือ...งั้นน้าขอขึ้นไปอาบนํ้านอนก่อนนะ เดี๋ยวน้าจะให้แม่บ้าน ..."
"น้าตรีครับ ไม่ต้องให้แม่บ้านจัดห้องให้ผมหรอกครับ ผมเกรงใจ ผมขอนอนห้องเดียวกับน้าตรีได้ไหมครับ เพราะยังไงน้าตรีก็ไม่ค่อยได้อยู่บ้านอยู่แล้ว แล้วผมก็อยู่ไม่นานด้วย ..."สตาร์พูดพร้อมลุ้นไปด้วย ในขณะที่ตรีภพกำลังยืนมึนๆง่วงๆอยู่
"อือๆแล้วแต่เราเถอะ น้าขอขึ้นไปนอนก่อนนะ ..."ตรีภพที่ง่วงและเพลียพูดขึ้นอย่างตัดรำคาญ โดยที่เขาไม่ได้สนใจว่าสตาร์พูดอะไร นาทีนี้ขอให้เขาได้นอนก่อนเถอะ
"ขอบคุณครับ น้าตรีขึ้นไปนอนเถอะครับ หึหึ ..."สตาร์พูดพร้อมกับหัวเราะในลำคอเบาๆอย่างพอใจ กับคำตอบที่ได้รับ
....
"มึงหายไปไหนมาสตาร์ นิ่มบอกว่าเห็นรถมึงมาจอดนานแล้วนะ ..."ศรัณย์ถามทันที ที่เขาเห็นสตาร์เดินเข้ามาในบ้าน
"กูไปบ้านน้าตรีมา กูเอาของฝากไปให้น้าตรี แล้วกูก็จะมาขอพักที่บ้านของน้าตรีชั่วคราวด้วย ในระหว่างที่กูจะให้พ่อคีตะสักให้ ..."
"ค้าง...? มึงก็ขับรถเทียวไปเทียวมาบ้านกูประจำ สักแค่นี้ทำไมต้องค้าง แล้วทำไมมึงไม่ค้างบ้านกู ..."ศรัณย์ถามพร้อมกับมองหน้าของสตาร์ด้วยสายตาที่ไม่เข้าใจ
"ก็กูขี้เกียจขับรถ แล้วที่กูไม่ค้างบ้านมึง เพราะกูไม่อยากเป็นอากาศธาตุในสายตาของเพื่อน เวลาที่เพื่อนอยู่กับเมีย ..."สตาร์พูดขึ้น ก่อนที่เขาจะยักคิ้วให้ศรัณย์ข้างหนึ่งอย่างกวนๆ
"เอาความจริง...มีอะไรป่ะเนี่ย แล้วมึงไปสนิทกับน้าตรีตอนไหน ขนาดขอไปนอนที่บ้านของน้าตรีได้ อย่าบอกนะ...ว่าสนิทตอนที่ไปเรือนไทยหลังนั้น ..."ศรัณย์มองเพื่อนอย่างจับผิด ไทม์กับสตาร์รู้จักกับน้าของเขาตั้งแต่เด็กๆก็จริง แต่ด้วยวัยที่ต่างกัน และต่างก็มีเพื่อนกันคนละกลุ่ม และต่างคนก็มีหน้าที่ที่ต้องทำ ทำให้นานๆได้เจอกันสักที เลยแค่รู้จักกัน แต่ไม่ได้สนิทถึงขนาดที่จะไปนอนค้างด้วยกันได้ และตัวของสตาร์ก็ไว้ตัวด้วย ไม่ได้สนิทกับใครง่ายๆ เหมือนกันกับเขารวมทั้งไทม์ด้วย
"แล้วนี่เมียมึงไปไหนแล้วอ่ะ ปกติตัวติดกันตลอด ..."สตาร์ถามขึ้น เพื่อให้ศรัณย์ไปสนใจเรื่องอื่น มากกว่าเรื่องของเขา
"อยู่ในครัวกับแม่ เห็นบอกว่าจะทำอะไรกันเป็นอาหารเย็นก็ไม่รู้ ..."ศรัณย์พูดพร้อมกับยิ้มไปด้วยอย่างอารมณ์ดี เมื่อเขานึกถึงคนที่กำลังพูดถึงอยู่
"อ้าว...สตาร์มาแล้วเหรอลูก พ่อว่าจะโทรไปบอกสตาร์อยู่เหมือนกัน ว่าอาทิตย์นี้พ่อต้องไปช่วยงานของเพื่อนที่ต่างจังหวัดด่วน ขอเลื่อนเป็นอาทิตย์หน้าได้ไหม พ่อขอโทษทีนะ ที่โทรไปบอกช้า ..."คีตะพูดพร้อมกับนั่งลงตรงข้ามกับสตาร์
"สวัสดีครับพ่อ ไม่เป็นไรหรอกครับพ่อ ผมไม่รีบ พ่อไปช่วยงานของเพื่อนให้สบายใจเถอะครับ ..."สตาร์พูดขึ้น ก่อนที่เขาจะยิ้มที่มุมปากเล็กน้อย
"อ้าว…สตาร์มาเหรอ วันนี้กินข้าวเย็นด้วยกันไหม เห็นสตาร์บอกว่าอยากลองกินแกงรัญจวนดูบ้างหนิ...ใช่ป่ะ วันนี้ทำแกงรัญจวนนะ ศรัณย์บอกว่าอยากกิน กูก็เลยทำ ..."เจษพูดพร้อมกับลงไปนั่งข้างๆศรัณย์ หลังจากที่เขาทำอาหารช่วยแม่ของศรัณย์เสร็จแล้ว
"ไม่เอา...พี่บอกแล้วไง ว่าแกงรัญจวนให้เจษแกงให้พี่กินคนเดียวไง พี่ ..."
"มึงอย่าเว่อร์ศรัณย์ เห็นไหม...นี่คือเหตุผลหนึ่ง ที่กูไม่อยากมาค้างที่นี่ กูคิดถูกแล้วที่กูไม่มา ..."สตาร์พูดพร้อมกับกลอกตามองบน ให้กับความหลงเมียจนเว่อร์ของเพื่อน และเหมือนศรัณย์จะเสพติดกับการกอดเมียด้วย เมียนั่งลงปุ๊บศรัณย์ก็กอดเอวของเมียปั๊บเลย เจษเองก็เหมือนกัน เหมือนจะชินกับสิ่งที่ศรัณย์ทำ มันเลยดูเป็นธรรมชาติไม่มีการต่อต้านหรือฝืนทำต่อหน้าของคนอื่น ทุกอย่างดูเรียลไปหมด
"แล้วมึงเลือกลายรึยังวะ ว่ามึงจะสักลายไหน ..."ศรัณย์ถามขึ้น ถามเหมือนกับชวนคุยมากกว่าที่จะจริงจังอะไร
"หือ...? สตาร์จะสักเหรอ ..."เจษถามขึ้นด้วยนํ้าเสียงที่ตื่นเต้น
"ไม่ต้องคิดเลยไอ้ดื้อ หึหึ ..."ศรัณย์พูดพร้อมกับเอามือลูบหัวของเจษไปด้วย
"ไม่สักหรอก กลัวเข็ม ..."เจษพูดขึ้นเสียงเบาให้ศรัณย์ได้ยินแค่คนเดียว
"คิดเอาไว้แล้วแหละ กูคิดว่าจะลงอักขระพอๆกับมึงนั่นแหละ ..."สตาร์พูดขึ้นพร้อมกับอมยิ้มที่มุมปากไปด้วยเล็กน้อย เพราะเขากำลังคิดที่จะสักชื่อของใครสักคนเข้าไปด้วย
"แปลกๆนะมึง มีอะไรที่กูยังไม่รู้รึเปล่า ..."ศรัณย์ถามขึ้น ก่อนที่เขาจะจ้องหน้าของสตาร์ด้วยสายตาที่จับผิด เพราะว่าวันนี้สตาร์มาแปลก ดูยิ้มบ่อยกว่าที่เคยเป็น
"ไม่มีอะไร พ่อครับ...ถ้าวันไหนพ่อว่างก็บอกผมได้นะครับ ผมพักอยู่ที่บ้านของน้าตรีครับ กูไปแล้วนะ ผมไปแล้วนะครับพ่อ ..."สตาร์บอกลาศรัณย์กับเจษ แล้วหันไปยกมือไหว้ลาพ่อของศรัณย์ ก่อนที่เขาจะเดินออกไปจากบ้านของศรัณย์
"อ้าว...!! เอ๊ะ...!! ทำไมสตาร์มาพักที่บ้านของน้าตรีล่ะ ..."เจษหันไปถามศรัณย์ด้วยความแปลกใจ เพราะว่าเขาถามสตาร์ไม่ทันแล้ว สตาร์เดินออกไปจากบ้านเร็วมาก
"ไม่รู้มัน ..."ศรัณย์ส่ายหน้าปฏิเสธ พร้อมกับมองตามหลังเพื่อนของตัวเองไปอย่างไม่เข้าใจ
.......
"ดื่มฉลองกันหน่อยครับเสี่ย ..."ลีซอพูดพร้อมกับรินวิสกี้ใส่แก้วให้กับทุกคนบนโต๊ะไปด้วย
"แก้วนี้ดื่มให้กับสารวัตรครับ ที่กำจัดไอ้ผู้กองตรีภพออกไปจากงานของผมได้ ดื่มครับ ฮ่าๆ ..."เสี่ยดิลกพูดพร้อมกับยกแก้วชนกับสารวัตรกรณ์อย่างอารมณ์ดี
"ดื่มครับ หึหึ ..."สารวัตรกรณ์เองก็ยกแก้ววิสกี้ ขึ้นไปชนกับเสี่ยดิลกและกับทุกคนที่อยู่บนโต๊ะ พร้อมกับรอยยิ้มที่มีความสุข
"ต่อไปเราก็จะทำงานกันสะดวกขึ้น จริงๆน่าจะยิงให้มันตายไปเลยนะครับ จะได้จบๆ ..."พศินพูดขึ้น
"ยิงมันให้ตายไม่ใช่เรื่องยาก แต่เสี่ยดิลกจะโดนเพ่งเล็งน่ะสิ ..."สารวัตรกรณ์พูดขึ้น เพราะว่าแผนกำจัดผู้กองตรีภพ เขาเป็นคนคิดเอง
"ขอบคุณสารวัตรมากนะครับ ที่เป็นห่วงผม อย่างงี้สิครับ เราจะได้ทำงานด้วยกันนานๆ นี่ครับ...ค่าขนม ..."เสี่ยดิลกพูดพร้อมกับยื่นห่อเงินให้กับสารวัตรกรณ์ ซึ่งทุกคนมองเห็นก็รู้ว่าไม่ตํ่ากว่าล้านบาทแน่นอน เพราะเป็นห่อที่หนามาก
"ยินดีที่ได้รับใช้ครับ...เสี่ย ถ้าจะส่งของเส้นทางไหน บอกผมได้นะครับ ผมจะเปิดทางให้ ..."สารวัตรกรณ์พูดขึ้นยิ้มๆอย่างอารมณ์ดี ก่อนที่เขาจะหยิบเอาห่อเงินมาใส่กระเป๋าถือของเขา ที่เขามักจะถือมาด้วยตลอด ถ้าเขามาหาเสี่ยดิลกที่คอนโดส่วนตัวของเสี่ยดิลก และจะไม่มีการโอนเงินผ่านธนาคารให้เป็นหลักฐาน ที่จะมาเอาผิดเขาในภายหลังได้ เงินที่จะเข้าธนาคารของเขา จะมีแค่เงินเดือนและเงินค่าตำแหน่งของเขาเท่านั้น
"แล้วใครจะเป็นคนมาแทนผู้กองตรีภพครับสารวัตร ..."ยุกต์ถามพร้อมกับจิบวิสกี้ไปด้วย
"ผมมีคนแทนแล้วครับ แต่ผมยังไม่มอบหน้าที่ให้ คดีของคุณดิลก...ผมจะทิ้งเอาไว้สักสองสามอาทิตย์หรือมากกว่านั้น ระหว่างนี้ก็ทำงานกันตามสบายเลยนะครับ เผลอๆผมอาจจะลงมารับผิดชอบคดีนี้เองก็ได้ เพราะว่ามันเป็นคดีใหญ่และดัง ก็ต้องมีผลงานให้ผมบ้าง เล็กๆน้อยๆ จริงไหมครับ...เสี่ย ..."สารวัตรกรณ์พูดพร้อมกับชูแก้วให้เสี่ยดิลกแล้วยิ้มให้อย่างรู้กัน
"สารวัตรไม่ต้องกลัวไปหรอก ขอให้ผ่านทุกงาน คุณจะได้เงินค่าขนม มากกว่าเงินเดือนและเงินค่าตำแหน่งของคุณหลายเท่า และคุณจะได้ผลงานดีเด่นประจำปีนี้แน่นอน ฮ่าๆ ดื่มฉลองให้กับความสำเร็จล่วงหน้าของเราครับ ..."ดิลกพูดพร้อมกับชนแก้วกับสารวัตรกรณ์อย่างอารมณ์ดี เพราะว่าสารวัตรกรณ์ไม่ได้ดีแต่ปาก แต่ทำได้จริงๆ สารวัตรกรณ์ทำให้สินค้าของเขาผ่านไปถึงชายแดนได้ทุกครั้ง ไม่เคยมีปัญหาเลย
"ผมสะใจจริงๆ ที่ไอ้ผู้กองตรีภพโดนคุณเล่นงานไป จริงๆน่าจะพักงานมันนะ มันจะได้รู้ ว่าตรงเกินไปแล้วมันต้องชนตอ หึหึ ..."พศินพูดพร้อมกับยกยิ้มมุมปากเล็กน้อยด้วยความพอใจ
"เสี่ยครับ นี่ครับ...อาจารย์เขาฝากของดีมาให้เสี่ยครับ ..."ลีซอพูดพร้อมกับยื่นของดีที่ว่าให้กับเสี่ยดิลกไปด้วย
"อะไรวะ ..."เสี่ยดิลกรับมาพร้อมกับมองหน้าของลีซองงๆ
"เสี่ยลองเปิดดูสิครับ ตามที่เสี่ยสั่งเลยครับ ..."ลีซอยกยิ้มที่มุมปากเล็กน้อย
"โอ้ว...ว สวยมาก หมึกท่าพระจันทร์ ฮ่าๆ ..."เสี่ยดิลกรับมาแล้วเปิดดู เขาหัวเราะออกมาเสียงดังอย่างถูกใจ หลังจากที่เขาเห็นของในกล่องแล้ว
"อะไรเหรอครับเสี่ย ..."สารวัตรกรณ์ถามพร้อมมองไปที่มือของเสี่ยดิลก
"ตะกรุด...สวยไหมสารวัตร รุ่นนี้ผมอยากได้มานานแล้ว ..."เสี่ยดิลกยื่นให้สารวัตรกรณ์ดูพร้อมกับพูดอวดไปด้วย
"ของดีนะครับสารวัตร รุ่นนี้พาของผ่านได้อย่างไม่น่าเชื่อ ผมลองมาแล้ว อาจารย์ของผมท่านนี้เก่งมากนะครับ หึหึ ..."เสี่ยดิลกพูดขึ้น หลังจากที่เขาเห็นหน้าที่เหมือนจะไม่เชื่อ และออกจะขำด้วยของสารวัตรกรณ์
"เหรอครับ หึหึ ..."สารวัตรกรณ์พูดพร้อมกับคืนตะกรุดให้กับเสี่ยดิลกไป เขากลั้นขำเอาไว้ เขาคิดว่ามันเป็นเรื่องไร้สาระ เพราะถ้าของดีขนาดนั้น เสี่ยดิลกจะต้องมาขอให้เขาช่วยทำไม ของพวกนี้หลอกลวงทั้งนั้น
"อย่าดูถูกมันนะครับ...สารวัตร หึหึ ..."เสี่ยดิลกรับตะกรุดคืนมาพร้อมกับยิ้มที่มุมปากไปด้วย
"ผมว่า...เรามาชนแก้วกันดีกว่านะครับ เพื่องานใหญ่ของเราที่จะมาถึงเร็วๆนี้ ..."พศินพูดพร้อมกับชูแก้วขึ้น เพื่อชนกับเพื่อนร่วมโต๊ะ
"เอ้า...ชน...น !! ..."ทุกคนชนแก้วพร้อมกับยิ้มให้กันอย่างมีความสุข กับงานใหญ่ข้างหน้าที่จะมาถึง นั่นหมายความว่าเงินก้อนใหญ่ก็จะตามมาด้วย
......
"ตื่นแล้วเหรอครับ หิวไหมครับ ..."สตาร์ถามขึ้น หลังจากที่เขาหันไปเห็นตรีภพเดินเข้ามาในห้องอาหาร
"สตาร์...!! เออ...จริงด้วย น้าลืมไป ..."
"ลืมอะไรครับ ..."สตาร์ถามแทรกขึ้น เพราะหน้าของตรีภพตอนนี้คืองงมาก ที่เห็นเขาอยู่ในบ้าน
"น้าตกใจ ที่เราเข้ามาอยู่ในบ้านของน้าได้ยังไง น้าเพิ่งจะตื่น สมองของน้ามันเบลอๆอ่ะ ..."ตรีภพพูดขึ้น ก่อนที่เขาจะนั่งลงที่เก้าอี้พร้อมกับบีบขมับของตัวเองไปด้วย
"แล้ววันนี้น้าตรีไม่เข้าเวรเหรอครับ ..."สตาร์ถามขึ้น เพราะเขาเห็นว่าตรีภพยังอยู่ในชุดกางเกงขาสั้นกับเสื้อยืดธรรมดาอยู่บ้าน เหมือนกับว่าวันนี้จะไม่ออกไปไหน
"ไปสิ น้าจะไปช่วงเย็นๆอ่ะ แล้วนี้แกงอะไร กลิ่นเหมือนกับใส่กะปิเลย อย่าบอกว่าแกงรัญจวนนะ ..."ตรีภพถามพร้อมกับมองหน้าของสตาร์ไปด้วย
"ครับ แกงรัญจวน ศรัณย์มันอยากจะกินครับ เจษก็เลยแกงให้มันกินแล้วแบ่งมาให้ผมชิมด้วย เพราะว่าผมไม่เคยกินฝีมือของเจษมาก่อน ..."สตาร์พูดพร้อมกับตักข้าวใส่จานไปด้วย ก่อนที่เขาจะยื่นให้กับตรีภพ
"แล้วเราสักมาแล้วเหรอ ..."ตรีภพถามขึ้น ในขณะที่เขารับจานข้าวมาจากสตาร์
"ยังครับ พ่อคีตะยังไม่ว่าง แต่ผมขอค้างที่บ้านของน้าตรีนะครับ ไหนๆผมก็ขนของมาแล้ว ผมขี้เกียจขนไปขนมา ..."สตาร์พูดพร้อมกับตักข้าวกินไปด้วย
"หือ...? แล้วแต่เราเถอะ แล้วตุ๊กจัดห้องให้หรือยังอ่ะ น้าบอกตุ๊กหรือยังวะ ..."ตรีภพพูดพร้อมกับทบทวนเรื่องของเมื่อเช้าไปด้วย เมื่อเช้าสมองของเขามันมึนๆเบลอๆ เรื่องงานที่ทำผิดพลาด และที่โดนหัวหน้าด่ามาด้วย
"สงสัยน้าตรีจะเพลียจริงๆด้วย เมื่อเช้าผมบอกน้าตรีไปแล้วไงครับ ว่าผมจะขอพักที่ห้องของน้าตรี แต่ถ้าน้าตรีไม่สะดวก ให้พี่ตุ๊กจัดห้องให้ผมก็ได้ครับ ..."สตาร์พูดขึ้น เพราะว่าเขาเห็นหน้าของตรีภพแล้ว คงจะเครียดเรื่องงานจนลืมไปหมดแล้ว ว่าตกลงอะไรกับเขาเอาไว้
"อือ...แล้วแต่เราเถอะ ..."ตรีภพพยักหน้ารับคำ ก่อนที่เขาจะก้มหน้าก้มตากินข้าว