บท
ตั้งค่า

มืออุ่นจังครับ

"มีอะไรหรือเปล่าจ่ามั่น ..."ตรีภพถามขึ้นด้วยความสงสัย เพราะว่าพอเขาเดินเข้ามาในโรงพัก ทุกคนในโรงพักมองหน้าของเขาแปลกๆรวมทั้งจ่ามั่นด้วย

"เออ...คือ ..."

"ผู้กองตรีภพครับ...ไปดื่มฉลองกับผมไหมครับ ผมได้ทำคดีของเสี่ยดิลกแทนผู้กอง ..."ผู้กองนัดมองหน้าของตรีภพพร้อมกับยกยิ้มที่มุมปากไปด้วย 

"เหรอครับ ยินดีกับผู้กองนัดด้วยนะครับ ..."ตรีภพพูดขึ้น ก่อนที่เขาจะเดินไปนั่งที่โต๊ะทำงานของตัวเอง

"ผมบอกแล้ว...คุณยังใหม่อยู่ คดีของเสี่ยดิลก เปลี่ยนมือมาไม่รู้กี่รุ่นแล้ว ยังหาหลักฐานไปมัดตัวเขาไม่ได้เลย โดนเด้งออกไปจากคดีก่อนทุกราย หึหึ ..."ผู้กองนัดพูดพร้อมกับขำลึกๆในลำคอไปด้วย

"ผมเอาใจช่วยนะครับ ขอให้หาหลักฐานมามัดตัวของเสี่ยดิลกได้ ..."ตรีภพพูดขึ้นเสียงเรียบ พร้อมกับเหลือบตามองหน้าของผู้กองนัดไปด้วยเล็กน้อย ก่อนที่เขาจะหยิบแฟ้มมาเปิดดู แล้วทำเป็นไม่สนผู้กองนัดอีก จนผู้กองนัดเดินออกไปจากห้อง

"ผู้กองครับ สารวัตรถอดผู้กองออกจากคดีของเสี่ยดิลกจริงๆเหรอครับ คนเขาลือไปทั้งโรงพัก ..."จ่ามั่นกระซิบถามเสียงเบา หลังจากที่ผู้กองนัดเดินออกไปจากห้องแล้ว

"ตามนั้น แล้วหมวดณภัทรมาหรือยัง ..."ตรีภพถามหาหมวดณภัทรด้วยนํ้าเสียงที่จริงจัง เพราะว่าเขาไม่อยากคุยเรื่องที่เขาโดนเด้งออกจากคดีของเสี่ยดิลก เขากำลังจะได้หลักฐานสำคัญอยู่แล้ว แต่ก็แค่กำลังทุกครั้งไป ไม่เคยได้เลย คดีของเสี่ยดิลก เป็นคดีที่ท้าทายมากๆ ใครๆก็อยากทำ เพราะว่าเป็นคดีที่ยาก และยังไม่มีใครหาหลักฐานมามัดตัวของเสี่ยดิลกได้เลย ทั้งๆที่ตำรวจทุกนายในสน.ก็รู้ว่า เสี่ยดิลกทำเรื่องผิดกฏหมายอะไรบ้าง แต่พอจะได้หลักฐานสำคัญ ก็จะถูกเด้งออกไปจากคดีทุกราย

"ผู้กองครับ...ผู้กองเชื่อเรื่องลี้ลับไหมครับ ผมหมายถึงพวกของดี...ของขลังน่ะครับ ..."จ่ามั่นมองซ้ายมองขวาแล้วกระซิบถามตรีภพเสียงเบา

"ฮ่าๆ ทำไมจ่าต้องทำลับๆล่อๆด้วยล่ะครับ ทำไมเหรอ...จ่ามั่นมีของดีเหรอ ..."ตรีภพถามพร้อมกับขำไปด้วยเบาๆ ที่เขาขำ…เขาไม่ได้ขำเรื่องที่จ่ามั่นถาม แต่เขาขำท่าทางของจ่ามั่น ที่ทำเหมือนกลัวใครจะมาได้ยินเข้า

"ผมไม่มีหรอกครับ ผมมีแต่สร้อยพระธรรมดา ที่แม่ให้ผมมาตอนที่ผมเข้ามาทำงานใหม่ๆ แม่เขาอยากให้ผมรับราชการน่ะครับ นี่ไงครับ ..."จ่ามั่นพูดพร้อมกับดึงสร้อยออกมาจากในเสื้อให้ตรีภพดู

"ดีจัง ไม่ธรรมดาหรอกครับ แค่แม่ให้มาก็เป็นของดีที่สุดแล้วครับ จริงไหมครับ เพราะถ้าไม่ดีจริง จ่าคงไม่ห้อยมาสิบยี่สิบปีหรอก...จริงไหมครับ ..."ตรีภพถามพร้อมกับยิ้มที่มุมปากไปด้วยเล็กน้อย

"ก็จริงนะครับ แล้วผู้กองห้อยพระไหมครับ เอ๊ะ...!! ผู้กองห้อยตะกรุดด้วยเหรอครับ ผมขอดูได้ไหมครับ ..."จ่ามั่นไม่ถามเปล่า เขาจ้องเข้าไปในเสื้อของตรีภพ ที่นูนออกมารูปร่างคล้ายตะกรุดไปด้วย

"ไม่มีอะไร ผมถามจ่า…จ่ายังไม่ตอบผมเลย ว่าหมวดณภัทรมาหรือยัง ..."ตรีภพพูดพร้อมกับดึงเสื้อตัวนอกให้เข้าที่ ก่อนที่เขาจะชวนเปลี่ยนเรื่องคุย

"ตะกรุดจากวัดไหนครับผู้กอง...ดูหวงจัง อย่าปิดเลยครับ ผมเห็นแล้ว...ไม่น่าเชื่อนะครับ ว่าผู้กองจะเชื่อเรื่องพวกนี้ด้วย ไม่ใช่อะไรหรอกครับ ที่ผมถามพวกเครื่องลางของขลัง เพราะว่าคนเขาพูดกัน ว่าเสี่ยดิลกมีอาจารย์ที่นับถืออยู่ แล้วใช้ของขลังพวกนี้ ทำให้แคล้วคลาดจากเรื่องคดีไปได้ครับ ..."จ่ามั่นกระซิบเสียงเบา

"ตลกแล้วจ่ามั่น ถ้าเก่งขนาดนั้น จะมาทำงานให้เหนื่อยทำไหม หรือว่าจะทำเรื่องผิดกฏหมายให้ตัวเองมีความผิดทำไม ก็เสกเอาเงินมาใช้เลยสิครับ หึหึ ..."ตรีภพพูดพร้อมกับส่ายหน้าไปด้วย

"โถ่...มันก็ไม่ขนาดนั้นไหมครับผู้กอง แต่มันก็สามารถทำให้งานราบรื่นตามคำขอได้นะครับ ไม่งั้นคนเขาไม่หาของพวกนี้เอามาเก็บไว้กับตัวหรอกครับ ..."จ่ามั่นพูดด้วยนํ้าเสียงที่จริงจัง

"แล้วที่จ่าได้ยินมา เสี่ยดิลกเขามีของดีที่ได้มาจากอาจารย์เหรอครับ อาจารย์ที่ว่า...อยู่ที่ไหนเหรอครับ ..."ตรีภพถามพร้อมกับทำงานของตัวเองไปด้วย เขาถามเหมือนกับชวนคุยมากกว่าที่จะจริงจัง

"ผมไม่รู้ครับ เห็นแต่พวกที่เคยทำคดีของเสี่ยดิลกเขาพูดกัน ก่อนที่จะโดนเด้งออกจากคดีไปซะก่อน ผมว่านะครับ ..." 

"จุ๊ๆ เดี๋ยวครับ ผมคุยสายนี้ก่อน ..."ตรีภพยกมือให้จ่ามั่นหยุดพูด เพราะว่ามีสายแปลกโทรมาหาเขา 

(ฮัลโล ครับ...)

("คุณตรีภพ อาจกิจเจริญ ใช่ไหมครับ...)

("ครับ ผมตรีภพครับ...)

("คุณฟังคำสั่งของผมอย่างเดียว ไม่ต้องถามอะไร และไม่ต้อพูดอะไร ผมคณาธิป สาครินทร์สกุล...)

("ห๊ะ...!! ครับ...)

("ผมให้คุณสืบคดีของเสี่ยดิลกเงียบๆ โดยที่ไม่ต้องบอกใคร คุณหาคนที่คุณไว้ใจได้มาทำงานนี้ด้วย จำไว้...คุณจะพลาดไม่ได้...)

("รับทราบครับ...)

"ใครโทรมาครับผู้กอง ทำไมผู้กองต้องทำหน้าอย่างงั้นด้วยครับ ..."จ่ามั่นถามด้วยนํ้าเสียงที่ตื่นเต้น หลังจากที่ตรีภพวางสายไปแล้ว เพราะตลอดเวลาที่ตรีภพคุยโทรศัพท์ ตรีภพทำหน้าตาตื่นๆพร้อมกับตอบรับด้วยนํ้าเสียงที่จริงจังและดูให้เกียรติคู่สายด้วย

"แก๊งค์คอลเซ็นเตอร์โทรมาทวงเงินผม ผมไม่คิดว่าผมจะเจอเอง ผมก็เลยตกใจแล้วก็ตื่นเต้นไปหน่อย จ่ามั่นยังไม่ตอบผมเลยนะ ว่าหมวดณภัทร์มาทำงานหรือยัง ..."ตรีภพถามขึ้นเพื่อเปลี่ยนเรื่อง ตอนนี้มือเขาสั่นด้วยความตื่นเต้น ไม่ได้สั่นแค่มือ ใจเขาก็เต้นแรงด้วย เขาไม่คิดว่าคนระดับผู้การจะโทรมาคุยกับเขาเป็นการส่วนตัว เพื่อให้เขาทำคดีของเสี่ยดิลกเงียบๆ โดยที่ไม่ผ่านสารวัตรหรือผู้กำกับ

"มาแล้วครับ หมวดบอกว่าไปหาเครื่องดื่มชูกำลังหน่อยครับ ผู้กองมีอะไรกับหมวดเหรอครับ ให้ผมไปตามไหมครับ ..."จ่ามั่นถามด้วยความสงสัย เพราะว่าเขาเห็นตรีภพถามหาหมวดณภัทรหลายครั้งแล้ว 

"ไม่เป็นไร เดี๋ยวผมออกไปหาหมวดเอง ..."ตรีภพพูดพร้อมกับเก็บเอกสารไปด้วย ก่อนที่เขาจะลุกขึ้นยืน เตรียมจะออกไปหาหมวดณภัทรตามที่เขาพูด

"ให้ผมไปด้วยไหมครับ ..."จ่ามั่นถามพร้อมกับลุกขึ้นเพื่อเตรียมพร้อม

"ไม่ต้องครับ ผมว่าจะไปวางแผนกับหมวดณภัทร จับเมียจ่ามั่นที่กำลังเล่นไพ่กับเมียของหมู่เอกอยู่ ผมไปแล้วนะ ..."

"เดี๋ยวสิครับผู้กอง แล้วทำไมเป็นอย่างงั้นล่ะครับ ทำไมผู้กองจะมาเล่นคนกันเองล่ะครับ บอกตรงๆนะครับ ผมขี้เกียจประกันตัวมันแล้ว ถ้าผู้กองจับเมียผม ผมไม่ประกันแล้วนะครับ ..."จ่ามั่นพูดด้วยนํ้าเสียงที่จริงจัง

"ฮ่าๆ ก็ผมตกงานอยู่ ไม่มีอะไรทำ ผมก็เลยจะหาผลงานซะหน่อย ฮ่าๆ โถ่...จ่ามั่นผมพูดเล่น ดูทำหน้าเข้าสิ ฮ่าๆ ผมไปแล้ว ..."ตรีภพพูดไปขำไป เพราะว่าจ่ามั่นทำหน้าเหมือนจะร้องไห้จริงๆ 

"อย่าล้อเล่นบ่อยนะครับผู้กอง ผมไม่มีเงินจะประกันตัวมันแล้วเนี่ย ..."จ่ามั่นตะโกนตามหลังของตรีภพไปอย่างโล่งอก

......

"แล้วเราจะเริ่มจากตรงไหนดีครับ...ผู้กอง ..."หมวดณภัทรถามขึ้น หลังจากที่เขารู้ว่า เขาจะได้ทำงานชิ้นสำคัญกับตรีภพแค่สองคน ในขณะที่พวกเขานั่งคุยกันที่ร้านกาแฟในห้างสรรพสินค้าชื่อดัง

"เออ...อ หมวดเคยได้ยินเรื่องอาจารย์ของเสี่ยดิลกไหม ที่คนเขาพูดกันว่า...ว่าเป็นอาจารย์หรือเป็นหมอผีอะไรเนี่ย ..."ตรีภพมองหน้าของหมวดณภัทรด้วยความเก้อเขินเล็กน้อย หลังจากที่เขาถามไปแล้ว เพราะเขากลัวจะโดนลูกน้องว่าเขางมงายตามจ่ามั่น

"เคยครับ เอ๊ะ...!! ผู้กองเชื่อเรื่องแบบนี้ด้วยเหรอครับ ปกติเวลาคนอื่นคุยกันเรื่องนี้ ผู้กองก็จะเดินหนีเลย มีอะไรหรือเปล่าครับ หรือผู้กองได้ยินมาว่า ที่เสี่ยดิลกรอดคดีมาได้ถึงทุกวันนี้ เพราะว่ามีของขลังจากอาจารย์ที่ว่านี้ ..."หมวดณภัทรถามพร้อมกับมองหน้าของตรีภพด้วยความสงสัย เพราะว่าปกติตรีภพจะไม่สนใจเรื่องลี้ลับอะไรพวกนี้เลย

"หมวดเคยได้ยินสุภาษิตคำนี้หรือเปล่าครับ  รู้เขารู้เรา รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง ในเมื่อผมได้รับมอบหมายมาโดยตรง ผมก็ต้องสืบทุกเรื่องของเสี่ยดิลก ทุกเรื่อง...ไม่ว่ามันจะมีอยู่จริงหรือไม่ ..."ตรีภพพูดขึ้นด้วยนํ้าเสียงที่จริงจัง 

"งั้นเราเริ่มจากตรงนี้เลยก็แล้วกัน เดี๋ยวผมจะตามเรื่องอาจารย์ของเสี่ยดิลกนะครับ แล้วผมจะมารายงานผู้กองนะครับ ..."หมวดณภัทรพูดขึ้น 

"ครับ ผมฝากหมวดด้วยนะครับ งานนี้ผมจะกัดไม่ปล่อย ..."ตรีภพพูดขึ้นด้วยสีหน้าที่จริงจัง

"ผมเอาด้วยครับ ..."หมวดณภัทรเองก็พูดด้วยสีหน้าที่จริงจังไม่ต่างกัน 

"เจอกันพรุ่งนี้เย็นๆนะครับหมวด คุณไปทำงานของคุณเถอะ ..."ตรีภพพูดขึ้น ก่อนที่ทั้งคู่จะแยกย้ายกัน

.....

"แยกกันตรงนี้นะพวกมึง ไทม์...มึงขับรถกลับไปให้กูด้วย เจอกันที่มอพรุ่งนี้ ..."สตาร์พูดพร้อมกับยื่นกุญแจรถของเขาให้กับไทม์ไปด้วย ในขณะที่เขากับเพื่อนกำลังจะแยกย้ายกันกลับ หลังจากที่พวกเขามากินข้าวหลังเลิกเรียน และเดินซื้อของกันต่อจนเกือบสามทุ่ม ที่ห้างสรรพสินค้าชื่อดัง

"อ้าว...!! สตาร์…แล้วมึงจะไปไหนวะ ไปไม่รอเลย อะไรของมันวะ ศรัณย์…มึงรู้ไหม ..."ไทม์หันไปถามศรัณย์ด้วยความสงสัย ที่จู่ๆสตาร์ก็วิ่งออกไปเลย แถมยังให้เขาขับรถกลับให้อีกต่างห่าง เพราะตอนขามาเขาไม่ได้เอารถมา 

"หึ...กูไม่รู้ว่ะ กูว่ามันแปลกๆ เหมือนกับมีความลับเลย กลับเถอะ...เดี๋ยวกูโดนเจษบ่น แยกกันตรงนี้นะเว้ยเจอกันพรุ่งนี้ ..."ศรัณย์พูดขึ้น ก่อนที่เขาจะเดินไปที่รถของตัวเอง

"ไอ้นี่ก็อีกคน มีเมียแล้วก็กลัวเมีย กลับก็ได้วะ ..."ไทม์พูดขึ้น ก่อนที่เขาจะเดินไปที่รถของสตาร์แล้วขับออกไป

"น้าตรีครับ ..."

"อ้าว...สตาร์ มากับศรัณย์กับไทม์เหรอ ไหนอ่ะ...พวกมันไปไหนกันแล้วล่ะ ..."ตรีภพถามพร้อมกับมองหาหลานของตัวเองไปด้วย

"แยกกันกลับเมื่อกี้แล้วครับ พอดีผมเห็นน้าตรี ผมก็เลยจะกลับพร้อมกับน้าตรีครับ ..."สตาร์พูดพร้อมกับยิ้มที่มุมปากเล็กน้อย

"อ้าว...ทำไมอ่ะ ทำไมเราไม่กลับพร้อมกับเพื่อน แล้วสตาร์เห็นน้าได้ยังไง ..."ตรีภพถามพร้อมกับเดินนำสตาร์ไปที่รถของเขา

"จิตผมสื่อถึงน้าตรีได้ครับ ..."สตาร์พูดขึ้น ก่อนที่เขาจะแอบอมยิ้มไปด้วย

"ตลกล่ะ...เอาความจริง ..."ตรีภพหันไปสบตากับสตาร์ ก่อนที่เขาจะส่ายหน้าให้กับความขี้เล่นของสตาร์

"ก็ผมเห็นน้าตรีเดินลงมาที่ลานจอดรถพอดีครับ ผมก็เลยขอแยกจากเพื่อนมา ..."สตาร์พูดขึ้น 

"แล้วสตาร์ไม่คิดว่าน้าจะไม่กลับไปทำงานที่สน.เหรอ น้าเข้าเวรดึกนะ ขึ้นรถเถอะ ..."ตรีภพพูดขึ้น ก่อนที่เขาจะเปิดประตูด้านคนขับขึ้นไปนั่ง

"ขอมือหน่อยครับ ..."สตาร์พูดขึ้น หลังจากที่เขาขึ้นมานั่งบนรถข้างคนขับแล้ว

"อย่ามาหลอกน้าซะให้ยาก คราวที่แล้วเราดูข่าวมาใช่ไหม ..."ตรีภพถามพร้อมกับค่อยๆถอยรถออกจากซองไปด้วย

"แล้วน้าตรีไม่อยากพิสูจน์เหรอครับ ว่าผมหลอกหรือว่าผมรู้จริง ..."สตาร์ถามพร้อมกับมองตรีภพด้วยสายตาที่ท้าทาย

"ก็ได้ น้าก็อยากรู้เหมือนกัน ..."ตรีภพหันไปสบตากับสตาร์แว็บหนึ่ง ก่อนที่เขาจะหันไปมองทางข้างหน้าต่อ 

"งั้นกลับไปคุยกันที่บ้านนะครับ ..."สตาร์พูดขึ้น เพราะว่าตรีภพกำลังขับรถอยู่ เขาเลยรอให้ไปคุยกันที่บ้านดีกว่า

"ตอนที่รถติดก็ได้ ..."ตรีภพพูดขึ้นอย่างใจร้อน เพราะภาพที่เขาคุยกับจ่ามั่น มันผุดขึ้นมาในหัวของเขา 

"หือ...? น้าตรีอยากรู้ขนาดนั้นเลยเหรอครับ ..."สตาร์ถามด้วยความแปลกใจ

"อ่ะ...เร็วๆสิ น้าอยากรู้แล้ว ว่าสตาร์จะรู้จริงแค่ไหน ..."ตรีภพพูดพร้อมกับยื่นมือให้สตาร์จับ เพราะทันทีที่ออกมาจากห้างสรรพสินค้าชื่อดังใจกลางกรุง รถก็ติดชนิดที่ว่า ไม่ขยับเลยก็ว่าได้

หมับ...บ

"มืออุ่นจังครับ ..."สตาร์หันไปสบตากับตรีภพแล้วพูดพร้อมกับยิ้มที่มุมปากเล็กน้อย

"เอ้า...!! เร็วสิ จะมามืออุ่นอะไรของเราเนี่ย ..."ตรีภพพูดขึ้นเสียงดุ เพราะว่าสตาร์จับมือของเขาแล้ว เอาแต่มองหน้าของเขาไม่ยอมพูดอะไรสักที

"ใจร้อนจัง พอได้รับงานใหญ่มา ก็เลยอยากรู้เรื่องลี้ลับว่ามันมีอยู่จริงไหม…เหรอครับ ..."สตาร์ถามพร้อมกับสบตากับตรีภพนิ่ง

"หือ...? งาน...งานใหญ่อะไร ..."ตรีภพถามสตาร์ด้วยนํ้าเสียงที่ตกใจ

"ต้องระวังตัวให้ดีนะครับ เพราะสิ่งที่น้าตรีมองไม่เห็น น้าตรีก็เคยเห็นแล้ว…ว่ามันมีอยู่จริง ..."สตาร์พูดขึ้นด้วยนํ้าเสียงที่เป็นห่วง

"สตาร์...สตาร์เห็นอะไร ..."ตรีภพจ้องเข้าไปในดวงตาของสตาร์อย่างจริงจัง

"น้าตรีก็รู้ว่าผมหมายถึงอะไร ..."สตาร์พูดพร้อมกับมองตรีภพด้วยสายตาที่เป็นห่วง

"น้าเอาตัวรอดได้น่า อย่าคิดมาก มันเป็นงานของน้า ..."ตรีภพพูดพร้อมกับยิ้มให้สตาร์ ซึ่งเขาก็รู้ดี ว่ารอยยิ้มของเขามันแห้งแค่ไหน 

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel