บทที่ 5
“เอ๋? มันออกใหม่แล้วหรือคะ นี่มันเล่มเก่านะพี่ปัญ มิ้มอ่านแล้วนะ”
เธอว่า ท่าทางตื่นเต้นสุดขีดดูคลายลงทันที เมื่อเขายื่นหนังสือให้ หล่อนจับมันไปพลิกดู แล้วบ่นพี่ชายข้างบ้านเสียงงุ้งงิ้งเหมือนแมว
“พี่ปัญอะ หลอกให้มิ้มดีใจเก้อ ก็ว่าอยู่ว่าตามเพจของอาจารย์แบบติดตูดขนาดนั้น ทำไมถึงพลาดถ้าอาจารย์มีเรื่องใหม่ออกมา”
“โอ๋ๆ พี่ขอโทษนะคะ พี่นึกว่ามิ้มยังไม่ได้อ่าน ก็รีบเอามาให้อ่าน เบลอไปนิดหนึ่ง”
เขาว่า แล้วชวนเธอโอ้เอ้คุยเกี่ยวกับการ์ตูนเรื่องโปรดอีกสองสามประโยค ได้ผลว่าสาวน้อยของเขาเผลอคุยยาวๆ ยามหลงในภวังค์ความชอบแล้ว แม่ตัวเล็กของเขาจะเป็นแบบนี้ล่ะ ลืมทุกอย่าง
“น้องมิ้ม น้องมิ้มครับ”
เสียงห้าวทุ้มเรียกดังขึ้น เมื่อลูกศิษย์ของเขาหายไปนาน พิสุทธิ์เลยลุกขึ้นมาตาม เขาได้ยินเสียงคุยกันดังที่ตรงนี้เลยเดินมา เมื่อสายตาของเขาปะทะกับใครบางคนที่ยืนอยู่ใกล้ๆ กับวาริสา ก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย แล้วมองอีกฝ่ายแบบหัวจรดเท้าอย่างรวดเร็ว
อื้อหือ...
ถ้าเกิดว่าเขาเป็นแมวมองดาราล่ะก็ เขาคงจะส่งหมอนี่เข้าไปแคสติ้ง บทหนุ่มหน้าสวยคงไม่พลาด ตอนนี้ซีรีส์วายกำลังฮิตสุดๆ เสียด้วย...รับรองว่าดังไกลแน่ๆ หน้าตาสูสีกันกับดาราจีนคนหนึ่งที่ดังเพราะซีรีส์นี้เลยล่ะ
หน้าตาหมอนี่ควรไปเป็นต้นแบบของหนุ่มที่อยากศัลยกรรมให้ตัวเองหล่อเหมือนเทพปั้น
ทางนั้นเองก็มองเขาด้วยนัยน์ตาคมกริบ หรี่ลงเล็กน้อย ปากของเขาเม้ม หน้าเชิดขึ้นนิดๆ สีหน้าแบบนี้ไม่เป็นมิตรเลยสักนิด เขาสังหรณ์แปลกๆ ว่าไอ้หมอนี่ กับลูกศิษย์พิเศษคนนี้ อาจจะมีอะไรพิเศษต่อกัน
ออร่าศัตรูพุ่งมาขนาดนั้นแค่มองตา
“ใครน่ะ”
เสียงห้วนเล็กน้อยดังจากปากหมอปัญภัทร เขาก้าวไปอีกนิดชิดกับน้อง แล้วเชิดหน้าใส่หมอนั่นเหมือนประกาศกลายๆ ว่านี่เด็กเขา ถ้าทำได้คงจะโอบน้องเข้าหาตัวไปล่ะ แต่ยั้งไว้ก่อน...น้องเงยหน้ามองเขาแล้วเอ่ยแนะนำเสียงใส
“อ้อ ครูสอนพิเศษของมิ้มเองค่ะพี่ปัญ อุ๊ย...ขอโทษค่ะพี่พีท น้องลืมไปเลยอะว่ากำลังเรียนกันอยู่ พี่พีทคะ นี่พี่หมอปัญค่ะ”
“สวัสดีครับ ผมพีทครับ มาสอนพิเศษให้กับน้องครับ ยินดีที่ได้รู้จักครับ”
เขาพนมมือไหว้อีกฝ่าย เพราะดูตัวเองจะอ่อนอาวุโสกว่า ถึงดูผาดๆ จะหน้าตาใกล้เคียงอายุกันก็เถอะ
“ผมหมอปัญครับ พี่ชายของมิ้ม ยินดีที่ได้รู้จักครับ”
เขาแนะนำตัวเอง แล้วกอดอก หรือรับไหว้อีกฝ่ายทำให้พิสุทธิ์เสียหน้าเล็กน้อย แต่ก็หันไปสนใจวาริสาแทน หมอนี่ดูประหลาด ท่าจะหวง...ไหนแนะนำว่าเป็นพี่ชายหว่า ที่รู้จักจากน้องสาวเขา วาริสาเป็นลูกคนเดียว แล้วหมอนี่งอกมาจากไหนนะ
“กลับไปแก้โจทย์ได้แล้วครับ”
เขาว่า แล้วเอ่ยเสียงกลั้วหัวเราะ
“อย่าลืมว่าถ้าแก้ได้พี่มีรางวัลให้นะ ไอศกรีมรออยู่ แต่ถ้าแก้ไม่ได้ พี่ก็จะให้โจทย์เพิ่มจนกว่าจะแก้ได้ ถ้าเราแก้โจทย์เลขฐานสองได้แล้ว เราจะเริ่มลงเรียนต่อคือทบทวนเรื่องการเขียนโปรแกรมขั้นต้น”
“เรียนพิเศษเหรอ พี่รบกวนหรือเปล่า”
แกล้งว่า แล้วยิ้มเลยไปให้กับครูสอนพิเศษของน้อง พร้อมกับเอ่ยเสียงเป็นมิตรมากขึ้น ทั้งที่อยากจะขู่ตะคอกแล้วก็ไล่หมอนี่ออกไปจากบ้านน้องแล้วเต็มแก่
“เอ่อ...ได้ยินว่าคุณสอนคอมพิวเตอร์มิ้ม เกี่ยวกับเรื่องการเขียนโปรแกรมหรือครับ”
“ครับ ตามนั้น”
“จะเป็นอะไรหรือเปล่าครับ ถ้าเกิดว่าผมจะขอเรียนด้วย ขอจ่ายค่าเรียนด้วยนะครับ ไม่ได้ให้สอนฟรี”
“เอ๊ะ พี่ปัญจะเรียนคอมกับน้องหรือคะ?”
ยัยน้องของเขาเงยหน้ามองเขา สีหน้าประหลาดใจขั้นสุด หมอปัญภัทรยักไหล่ แล้วตอบเสียงหนักแน่น
“ครับ พี่อยากเรียนด้วย เอาไว้เผื่อ...เอ่อ...”
สมองคิดเร็วจี๋ ว่าจะทำยังไงดีถึงได้เสนอหน้าเรียนกับน้องได้จนจบหลักสูตร
“เอาไว้เผื่อเขียนโปรแกรมเกี่ยวกับทางการแพทย์น่ะ คือเผื่อพี่ทำแอพ ทำอะไรให้กับคนไข้...”
“นั่นมันจะต้องเรียนนานเลยนะครับ ถ้าคุณอยากจะรู้ลึกขนาดนั้น อีกอย่างหนึ่งผมมาสอนน้องก็แค่ขั้นต้นพื้นฐานของเด็กที่จะสอบเข้ามหาวิทยาลัยนะครับคุณหมอ”
“ก็ขั้นต้นก่อนก็ได้ครับ ถ้าคุณไม่สะดวกสอนต่อผมก็ค่อยไปเรียนต่อเอา”
ตอบแบบแปลกๆ แหะ
“พี่เรียนเป็นเพื่อน ยัยน้องจะได้ไม่เหลวไหลยังไงล่ะ”
เขาว่า แล้วจับมือน้องเดินนำเข้าบ้านไปเสียด้วย เล่นเอาพิสุทธิ์มองตามแล้วตาเป็นประกายขึ้นมาทันที
แบบนี้...
มันไม่ใช่อาการของพี่ชายธรรมดาแล้วล่ะ