บท
ตั้งค่า

9 น้องมันยังเด็กอยู่

กาแฟแก้วเมื่อเช้ายังวางอยู่ที่เดิมตั้งแต่รับมาจากมือของไทธัชเมื่อเช้า ส่วนเจ้าของห้องนั้นยังไม่ออกมาจากห้องผ่าตัด

เมื่อเช้าอคิราห์จิบกาแฟไปไม่ถึงครึ่งแก้วก็ถูกตามตัวเข้าไปในห้องผ่าตัดเพราะต้องเข้าไปเป็นผู้ช่วยอาจารย์หมอในการผ่าตัดเคสที่ค่อนข้างซับซ้อนและต้องใช้หมอศัลยกรรมหลายคนกว่าเขาจะออกมาจากห้องกาแฟแก้วนั้นก็เย็นชืดไปหมดแล้ว

แก้วกาแฟถูกยกขึ้นมาจิบแม้มันจะเย็นชืดแต่อคิราห์ก็ไม่คิดจะทิ้งเพราะกาแฟแก้วนี้ไทธัชเป็นคนเลี้ยง เขาจิบทีละนิดจนหมดแก้ว ขณะที่กำลังทิ้งแก้วเปล่าลงถังขยะก็เห็นว่าตรงปลอกแก้วมีอะไรเขียนอยู่

รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าหลอเหลาของคุณหมอวัยเกือบจะสามสิบปีเมื่อเห็นข้อความ

พี่ซันสู้ๆ

ด้านหลังข้อความยังมีรูปดวงอาทิตย์กับรูปชูนิ้วมือสองนิ้ววาดด้วยปากกาทำให้คนมองรู้สึกมีกำลังใจในการทำงานขึ้นอีกมาก

เขาถึงปลอกแก้วออกมาเก็บไว้ในลิ้นชักแล้วทิ้งแค่เพียงแก้วลงไปในถังขยะ

พอได้รับกำลังใจมาแล้วอคิราห์ก็มีแรงเริ่มต้นทำงานในตอนบ่ายอีกครั้ง

กว่าจะได้กลับไปยังคอนโดก็เป็นเวลาเย็นมากแล้ว อคิราห์สั่งอาหารเย็นยังแอปพลิเคชั่นสีเขียวให้ไปส่งที่คอนโด เพราะขี้เกียจจะแวะซื้อ

ชีวิตประจำวันของอคิราห์วนเวียนอยู่อย่างเดิมแบบนี้มานานหลายปีแล้ว บางคนอาจมองว่ามันน่าเบื่อแต่สำหรับคนรักสันโดดอย่างเขาแล้วมันไม่ได้มีปัญหาเลย แต่ใช่ว่าเขาจะเอาแต่หมกตัวอยู่ในห้องเพียงอย่างเดียวเท่านั้น เพราะหนุ่มโสดอย่างเขาก็มักจะออกไปหาความสุขใส่ตัวบ้างในเวลาที่เครียดจากการทำงานหรือในเวลาที่ร่างกายต้องการระบายออก

แต่ก่อนนั้นอคิราห์ก็เคยมีแฟนเป็นผู้หญิงแต่เวลาผ่านไปเขากลับรู้สึกว่าตัวเองไม่มีความสุข เขาคิดว่าตัวเองมีปัญหาด้านสุขภาพ ชายหนุ่มจึงใช้วันลาพักร้อนไปตรวจร่างกายที่ต่างประเทศเพราะไม่อยากให้ใครรู้ ผลการตรงร่างกายทุกอย่างปกติ หมอที่นั่นเลยแนะนำให้เขาไปพบจิตแพทย์ อคิราห์ทำใจอยู่สองวันก่อนที่จะเข้าไปปรึกษากับจิตแพทย์ เขาเปิดใจคุยกับคนแปลกหน้าอยู่เกือบสองชั่วโมง

จนในที่สุดจิตแพทย์ก็ค้นพบสาเหตุว่าที่เขาเบี่ยงเบนทางเพศนั้นเป็นเพราะปัญหาทางครอบครัว เขาเห็นบิดาและมารดาทะเลาะกันมาตั้งแต่จำความได้ ทำให้จิตใต้สำนึกต่อต้านความสัมพันธ์ใบแบบชายหญิง

กว่าเขาจะยอมรับตัวเองได้กับเรื่องนี้ก็ใช่เวลาเกือบครึ่งปี ระหว่างนั้นเขาก็ศึกษาพฤติกรรมคู่รักที่เป็นผู้ชายด้วยกัน เรียนรู้จากการอ่านงานวิจัยของต่างประเทศอยู่หลายฉบับ

เวลาผ่านไปจนครบปีอคิราห์ลาพักร้อนอีกครั้ง ชายหนุ่มไปเที่ยวในสถานที่ซึ่งไม่มีใครรู้จัก เมื่อเขาไปสัมผัสบรรยากาศในบาร์แห่งหนึ่งที่เต็มไปด้วยคนที่มีรสนิยมเดียวกัน ได้พูดคุยแลกเปลี่ยนกับคนแปลก เขากลับรู้สึกว่าตัวเองมีความสุขอย่างประหลาด

เขาไปในบาร์แห่งนั้นทุกคืนตลอดทั้งสัปดาห์ จนกระทั่งคืนสุดท้ายเขาตัดสินใจซื้อบริการจากที่นั่น ความสัมพันธ์ลึกซึ้งที่เกิดขึ้นกับผู้ชายด้วยกันในครั้งแรก ทำให้อคิราห์มีความสุขมากกว่าครั้งไหน และนับจากนั้นอคิราห์ก็ไม่เคยนอนกับผู้หญิงคนไหนอีกเลย

แต่เพราะยังไม่เจอคนถูกใจอคิราห์จึงยังไม่คบหากับใครเป็นแฟน แต่เขาก็มีคู่นอนชั่วคราวที่มักจะเรียกใช้บริการจากบาร์แห่งหนึ่งซึ่งเป็นแห่งเดียวกับที่ไทธัชจะไปทำงาน

เพราะรู้ว่าเด็กหนุ่มหน้าตาดีอย่างไทธัช เจ้าของร้านคงไม่รับไว้แค่เป็นเด็กเสิร์ฟเพียงอย่างเดียวเท่านั้น วันที่รู้ว่าไทธัชจะไปทำงานที่นั่น เขายอมรับว่าโกรธมาก กลัวว่าไทธัชจะไปทำงานแบบนั้น ถึงแม้จะไม่ได้ผิดอะไรแต่เพราะมองไทธัชเป็นเหมือนน้องชายคนหนึ่งอคิราห์จึงไม่อยากให้เขาต้องไปทำงานแบบนั้นโดยที่เจ้าตัวไม่ได้รู้มาก่อนเลยว่าจะต้องเจอกับอะไรบ้าง

ถ้าวันนั้นไทธัชตอบว่าเคยไปที่ร้านมาแล้ว อคิราห์จะไม่ห้ามเลยสักนิดเพราะถือว่าเจ้าตัวนั้นเต็มใจ แต่หลังจากคุยกันก็รู้ว่าเด็กหนุ่มน่าจะโดนหลอกมากกว่า ยิ่งพอเห็นสีหน้าตอนที่รู้ว่าบาร์ที่ตัวเองจะไปทำนั้นเป็นบาร์แบบไหน เขาก็มั่นใจว่าไทธัชไม่รู้มาก่อนว่าตัวเองอาจตกเป็นเหยื่อที่เดินเข้าไปติดกับโดยไม่รู้ตัว

พอนึกถึงเรื่องเด็กหนุ่มอคิราห์ก็รู้สึกว่าหัวใจของตัวเองเต้นเร็วขึ้นทั้งๆที่นั่งอยู่เฉยๆ ซึ่งอาการแบบนี้มันไม่เคยเกินขึ้นมาก่อน

เช้าวันใหม่

อคิราห์แวะไปที่ร้านกาแฟก่อนไปทำงานอย่างเคย เขาไม่ได้โทรมาสั่งไว้เหมือนคนอื่นเพราะอยากมาดูให้แน่ใจว่าคนที่ชงกาแฟให้กับตัวเองนั้นเป็นคนเดียวกับที่คิดไว้หรือเปล่า

“สวัสดีครับพี่ซัน วันนี้รับอะไรครับ” ไทธัชทักทายทันทีเมื่อประตูร้านเปิดออก ส่วนเจ้าของร้านนั้นกำลังง่วนอยู่กับการชงกาแฟให้ลูกค้าประจำที่โทรมาสั่ง

ยังไม่ทันจะตอบไทธัชก็ถูกเจ้าของร้านเรียกให้เอากาแฟไปส่งที่รถ

“ว่าไงซัน เช้านี้จะรับอะไร” พีรพลถามลูกค้าประจำที่เขามองเป็นน้องชายคนหนึ่ง

คุณหมอหนุ่มไม่ตอบ แต่มองไปยังนอกร้านซึ่งเด็กหนุ่มกำลังยืนรอลูกค้าอยู่ที่ริมทางเท้า

“เฮ้อ มันน่าน้อยใจนัก ชงกาแฟให้กินมาหลายปี เขากลับมองไม่เห็นหัว” พีรพลพูดพร้อมกับหัวเราะ

“ผมอยากช่วยให้เด็กพี่ได้ฝึกไงครับ เลยช่วยเป็นหนูทดลองให้ยังไม่พอใจอีกเหรอ”

“แน่ใจนะว่านั่นเด็กพี่”

“ก็เห็นอยู่ว่าทำงานในร้านพี่”

“ทำงานในร้านพี่ก็ใช่จะเป็นเด็กพี่เสมอไปที่ไหน ดูก็รู้ว่าเป็นเด็กของนาย”

“พี่เอาอะไรมาพูด”

“แกล้งไม่รู้หรือไม่รู้จริง ไม่เคยสังเกตเหรอว่าเด็กนั่นมองนายด้วยสายตาแบบไหน”

“แล้วมันแบบไหนล่ะ” เขาแกล้งถามไปอย่างนั้น เพราะตัวเองก็สังเกตเห็นว่าแววตาที่ไทธัชมองเขานั้นมันต่างจากวันแรกที่มองอย่างหวาดระแวง แต่ตอนนี้เขาพอมองออกว่าไทธัชนั้นมองเหมือนเขาเป็นคนสำคัญคนหนึ่ง แต่ไม่รู้ว่ามันจะสำคัญมากแค่ไหนเท่านั้นเอง

“โต ๆ แล้วคิดเองนะ แต่บอกก่อนนะไม่ใช่แค่คนรู้จักธรรมดาอย่างแน่นอน อย่าลืมนะน้องมันยังเด็กอยู่จะทำอะไรก็คิดหน้าคิดหลังให้ดี”

“ก็เพราะน้องมันยังเด็กอยู่นะสิ ผมถึงไม่ได้คิดอะไร”

“หมายความว่าถ้าน้องมันโตกว่านี้นายจะคิดงั้นสิ”

อคิราห์เงียบเพราะไม่รู้จะตอบคำถามของพีรพลยังไง

“พี่สองคนคุยอะไรกันอยู่หน้าเครียดเชียว”

“เรื่องทั่ว ๆ ไปไม่เครียดอะไร พี่คงง่วงมากกว่า รีบชงกาแฟให้พี่เลย เอาเหมือนเดิมเมื่อวาน”

“ครับ”

ได้กาแฟพร้อมกับปลอกแก้วที่คนชงวาดรูปดวงอาทิตย์กับรูปมือชูสองนิ้วแล้วอคิราห์ก็ไปสแกนชำระค่ากาแฟบวกกับทิปอีกจำนวนหนึ่งให้กับเด็กหนุ่ม ก่อนที่ตัวเองจะรีบออกจากร้านดูนาฬิกาแล้วขายาวก็รีบก้าวเท้าอย่างรวดเร็วเพราะเขาคุยเพลินจนเกือบลืมดูเวลา

“สวัสดีค่ะหมอซัน” พยาบาลสาวหน้าห้องตรวจทักทาย

ในทุกวันถ้าไม่มีเคสด่วนที่ต้องไปดูแลหรือเข้าห้องผ่าตัด อคิราห์จะต้องตรวจอยู่ที่แผนกผู้ป่วยนอกในช่วงเช้า ส่วนช่วงบ่ายก็จะตรวจผู้ป่วยที่นัดไว้ และถ้าวันไหนมีนัดผ่าตัดที่ไม่ด่วนมากเขาก็จะนัดผู้ป่วยมาในช่วงบ่าย

“สวัสดีครับ วันนี้คนไข้เยอะไหมครับ”

“ไม่เยอะค่ะ คงไม่เกิน 11 โมง ช่วงบ่ายคุณหมอมีผ่าตัดไหมคะ”

“ไม่มีครับ ถ้าคนไข้นัดช่วงบ่ายมาก่อนเวลาก็ให้เขาตรวจต่อได้เลยนะ”

“ได้ค่ะ”

พอพูดคุยทำความเข้าใจกันแล้วอคิราห์ก็เริ่มตรวจคนไข้จนกระทั่งถึงเวลาพักกลางวัน

ขณะที่กำลังจะไปทานอาหารที่โรงอาหารอย่างเคย ชลกรก็เข้ามาชวนเขาไปทานข้าวข้างนอก

“นึกยังไงชวนออกมากินข้าวข้างนอก”

“อยากพามาดูอะไรสักหน่อย” ชลกรกระซิบ

“กะแล้วเชียวว่าต้องมีอะไรถึงได้ชวนมา”

“นั้นไง มาแล้วคนนั้น” ชลกรชี้ให้เพื่อนดูนักศึกษาพยาบาลคนหนึ่งซึ่งดูโดดเด่นกว่าทุกคนในกลุ่มเพื่อนที่เดินมาด้วยกัน

“เฮ้ย ยังเด็กอยู่เลย ระวังข้อหาพรากผู้เยาว์นะ” เขาเตือนเพื่อนด้วยความหวังดี

“ไม่เด็ก อยู่ปี 4 แล้ว อีกไม่กี่เดือนก็จบ”

“รู้ดีนัก ไปสืบมาแล้วเหรอ”

“เปล่าก็แค่เจอกันที่วอร์ด น้องเขาน่ารักดี”

“อือ ก็น่ารักดี แต่ไม่คิดเหรอว่าตัวเองแก่ไปสำหรับน้องเขา” พูดไปแล้วก็คิดถึงตัวเองเพราะอายุก็ไม่ได้ต่างกับชลกรเลยสักนิด มิหนำซ้ำคนที่ตัวเองสนใจอยู่นั้นเพิ่งจะอยู่ ม.6

“ใครเขาดูที่อายุกัน ชอบก็คือชอบ”

“ไม่คิดถึงช่องว่าระหว่างวัยเหรอ”

“คิดทำไมให้ปวดหัว ถ้ามันใช่เรื่องวัยมันก็ไม่เกี่ยว”

“จะเอาจริงเหรอ”

“อือ เอาจริงสิ นานแล้วไม่เคยมีใครทำให้ใจเต้นแรงแบบนี้ เห็นหน้าน้องเขาแล้วมีแรงทำงานขึ้นมาทันทีเลย”

“งั้นก็ขออวยพรให้โชคดีนะ” อคิราห์อยากเห็นเพื่อนมีความสุข เพราะที่ผ่านมาเวลาคบกับใครก็มักจะคบกันไม่ยืดเพราะแต่ละคนที่ผ่านมาไม่ค่อยเข้าใจเนื้องานของหมออย่างพวกเขาสักเท่าไหร่

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel