8 กาแฟใส่อะไร
ไทธัชกลับมาถึงบ้านเกือบสองทุ่ม มารดาและยายกำลังช่วยกันห่อข้าวต้มมัดเพราะพรุ่งนี้เป็นวันพระยายมักจะทำขนมหวานไปวางขายที่ตลาดด้วย
“ไท กลับค่ำเชียวลูก”
“ขอโทษครับยาย ผมคุยเพลินไปหน่อย” เด็กหนุ่มเข้ามากอดยายอย่างประจบ
“กินอะไรมาหรือยังล่ะลูก” มัทนาถามลูกชายที่แม้จะตัวโตแล้วแต่ในสายตาเธอไทธัชก็ยังคงเป็นเด็กอยู่เสมอ
“ยังเลยครับ หิวจังมีอะไรเหลือให้ผมกินบ้างครับแม่”
“ในตู้เย็นมีแกงส้มเหลืออยู่ ส่วนในตู้กับข้าวมีน้ำพริกกะปิ ชะอมทอดและปลาทูทอด”
“ของโปรดเลยครับ เดี๋ยวผมไปกินข้าวก่อนนะครับ แล้วจะมาช่วย”
“ไม่ต้องรีบขนาดนั้นหรอกลูก เดี๋ยวข้าวก็ได้ติดคอกันพอดี” ยายมาลัยพูดไล่หลังหลานชายด้วยความเป็นห่วง
ทานข้าวเสร็จแล้วไทธัชก็มาช่วยมารดาและยายห่อข้าวต้มมัด แม้จะเป็นเด็กผู้ชายแต่เขาก็ทำมาตั้งแต่เด็กจึงไม่รู้สึกเคอะเขินที่จะทำงานของผู้หญิง
ระหว่างที่มือทำปากก็ชวนคุยไปเรื่อย เด็กหนุ่มไม่ลืมที่จะบอกมารดาว่าเขารับออเดอร์คุกกี้มาให้มารดาอีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งไทธัชจะเป็นคนเอาไปส่งเองในอีกสองวันข้างหน้า
“แม่ครับพรุ่งนี้ไทจะไปอ่านหนังสือที่ห้องสมุดนะครับแม่”
“โรงเรียนปิดนี่ลูก ห้องสมุดจะเปิดเหรอ”
“ห้องสมุดประชาชนครับ”
“ทำไมไม่อ่านอยู่ที่บ้านละลูก หรือยายทำเสียดังจนไทไม่มีสมาธิ”
“ยายครับ ไม่ใช่อย่างนั้นสักหน่อย ผมอ่านหนังสือที่บ้านทีไรมันจะลงไปนอนบนเตียงทุกทีเลยนี่ครับยาย ถ้าออกไปอ่านที่ห้องสมุดอย่างนั้นผมจะได้บังคับตัวเองไม่ให้หลับด้วยนะครับ”
“อันนี้หนูเห็นด้วยนะคะแม่ ไทอ่านหนังสือทีไรเป็นหลับทุกทีไป” มัทนาบอกกับยายของเด็กหนุ่มไปตามที่ตัวเองเห็น
“แล้วไปทั้งวันเลยไหม อย่าอ่านเพลินจนลืมกินข้าวกินปลาล่ะ”
“ไม่ลืมหรอกครับ ยายก็รู้เรื่องกินสำหรับผมต้องมาเป็นอันดับแรกอยู่แล้ว”
“ไทจะไปกี่โมง ถ้าไปเช้ามากไม่ต้องเก็บครัวก็ได้นะ แม่จะกลับเก็บเอง”
“ผมว่าน่าจะออกเช้าหน่อยครับ จะได้จองที่นั่งทำเลดี เรื่องทำความสะอาดในครัวผมจะรีบทำก่อนไปครับ แต่ถ้าอันไหนที่ต้องแช่นานผมจะกลับมาล้างตอนเย็นนะครับแม่”
“ไม่ต้องห่วงเรื่องงานหรอกนะลูก แค่นี้แม่กับยายช่วยกันทำได้สบายมาก แม่เห็นไทขยันอ่านหนังสือแบบนี้แม่ก็ดีใจ”
ไทธัชรู้สึกผิดที่โกหกผู้มีพระคุณทั้งสองท่าน เขากำลังชั่งใจอยู่ว่าจะสารภาพความจริงทั้งหมดให้ยายและมารดาฟังดีหรือเปล่า บางทีเขาคงต้องหาใครสักคนที่จะให้คำปรึกษาเรื่องนี้กับเขาได้
พอรถของมารดาออกจากรั้วไปแล้วไทธัชก็รับทำความสะอาดเครื่องใช้ในครัวอย่างรวดเร็วจากนั้นก็รีบวิ่งมายังป้ายรถเมล์ทันที
เด็กหนุ่มพักงานคนใหม่มาถึงหน้าร้านก่อนที่พีรพลจะมาถึงเพียงเสี้ยววินาที พรุ่งนี้เขาคงต้องวางแผนให้กับตัวเองใหม่เพราะไม่อยากมาทำงานเฉียดฉิวแบบนี้
“สวัสดีครับพี่พีท”
“อือ สวัสดี มาถึงนานหรือยัง”
“ก่อนหน้าพี่นิดเดียวเองครับ”
“เช้าๆ แบบนี้งานมีไม่มากหรอก ส่วนใหญ่แล้วก็จะมาสั่งกาแฟแล้วก็เอาไปกินบนรถ บางคนก็โทรเข้ามาแล้วให้เราเอาไปส่งที่รถ เดี๋ยวพี่จะคอยบอกว่ารถคันไหนของใคร”
แล้วลูกค้าคนแรกก็โทรมาสั่ง คนที่รับโทรศัพท์คือเจ้าของร้านแต่เขาเปิดลำโพงเพื่อให้ไทธัชได้ยิน เด็กหนุ่มจะได้เรียนรู้ว่าจะต้องคุยกับลูกค้าอย่างไรบ้าง
วางสายแล้วพีรพลก็ไปทำกาแฟตามที่สั่ง จากนั้น เขาก็ออกไปยืนที่หน้าร้านพอเห็นรถคันสีน้ำเงินที่กำลังชะลอความเร็วลงเจ้าของร้านก็ให้ไทธัชเป็นคนเดินเอากาแฟไปส่งที่รถ
“เอสเปรสโซ่ร้อนครับ” ไทธัชส่งแก้วกาแฟให้กับคนขับรถที่เปิดกระจกออกมารับ
“ขอบใจมาก มาทำงานวันแรกเหรอ” ลูกค้าผู้หญิงชวนเขาคุย
“ครับ วันแรกครับ”
“ฝากขอบคุณคุณพีทด้วยนะที่บริการพี่เป็นอย่างดี พี่ไปก่อนล่ะ แล้วจะมาอุดหนุนใหม่ อ้อ วันศุกร์พี่เปลี่ยนเป็นรถตู้นะ อย่าส่งผิดคันล่ะ”
“ครับ ขอบคุณที่อุดหนุนครับ”
เด็กหนุ่มเดินกลับเข้ามาในร้านและไม่ลืมที่จะบอกพีรพลว่าวันศุกร์ลูกค้าคนเมื่อครู่จะเปลี่ยนไปใช่รถตู้
“ไท โน๊ตไว้บนไวท์บอร์ดด้วยนะกันพลาด”
“ครับ”
เขารีบโน้ตไว้ตามที่เจ้าของร้านบอก
“มีลูกค้าสั่งเพิ่มเหรอครับ ให้ผมช่วยไหม”
“ไม่เป็นไร ลูกค้าค่อนข้างรีบ เดี๋ยวไทเอาไปส่งที่ห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาลนะ บอกว่าของหมอวิ”
“ครับพี่พีท แล้วผมต้องเก็บเงินมาด้วยไหมครับ”
“ไม่ต้องหมอวิเป็นลูกค้าประจำพี่จะสรุปยอดที่เดียว”
ไทธัชถือกล่องกระดาษที่มีแก้วกาแฟอยู่กล่องละ 4 แก้วจำนวนสองกล่องและแซนด์วิชที่อีกนับสิบชิ้นเดินเข้าด้านหน้าโรงพยาบาลก่อนจะไปตรงไปยังแผนกฉุกเฉินตามป้ายบอกอย่างรวดเร็ว
“ผมเอากาแฟมาส่งหมอวิครับ”
“ขอบใจมา เดี๋ยวพี่เอาไปให้หมอวิเอง” หญิงคนหนึ่งดูแล้วอายุมากกว่าเขาอยู่มากเดินมารับของในมือเด็กหนุ่มซึ่งยืนรออยู่แค่เพียงด้านหน้าห้อง
ส่งกาแฟและแซนด์วิชเสร็จแล้วเขาก็รีบเดินกลับไปที่ร้านทันที พอไปถึงก็เห็นลูกค้าอยู่ด้านในหนึ่งคน มองจากด้านหลังค่อนข้างคุ้นตา
“นั่นไงมาพอดี ไท มาชงกาแฟหน่อย” เจ้าของร้านเรียกไทธัชที่เพิ่งเปิดประตูเข้ามา
“ครับพี่พีท” เขาเดินอ้อมมาด้านหลังเคาน์เตอร์ พอเงยหน้าขึ้นก็เห็นรอยของอีกคนส่งมา
“พี่ซัน สวัสดีครับ”
“อือ ชงกาแฟให้พี่หน่อย”
“ได้ครับ พี่ซันจะเอาอะไร”
“ทำอะไรได้ก็เอามาเถอะ”
“งั้นเอาเอสร้อนนะครับ ผมทำเป็นแค่อย่างเดียว” เด็กหนุ่มพูดพร้อมกับรอยยิ้มที่จริงใจส่งมาให้
“ได้ เพิ่มช็อตด้วยนะ ง่วงมาก” เพราะเมื่อคืนกว่าจะออกจากห้องผ่าตัดก็เกือบเที่ยงคืนแล้วเช้านี้ยังต้องรีบตื่นมาดูคนไข้ตั้งแต่ตีหน้า ตอนนี้อคิราห์ตาแทบจะปิดอยู่แล้ว
“ได้ครับ”
รอไม่นานกาแฟร้อนก็ส่งกลิ่นหอมกระตุ้นให้สมองตื่นตัวได้เป็นอย่างดี ไทธัชหยิบปลอกแก้วมาเขียนอวยพรให้กับลูกค้าคนแรกของเขาก่อนจะสวมมันลงไปที่แก้วแล้วส่งให้อคิราห์
“แก้วนี้ผมเลี้ยงครับ”
“ใส่อะไรลงไปหรือเปล่า ไม่วางยากันใช่ไหม”
“ผมจะทำอย่างนั้นทำไม ถ้าจะวางยาพี่ผมใส่ไปในคุกกี้ไม่ดีกว่าเหรอ” เด็กหนุ่มหัวเราะ
“ขอบใจมาก พี่ไปก่อนนะ ตั้งใจทำงานด้วย”
“ครับ”
หลังจากชงกาแฟให้กับลูกค้าคนแรกเสร็จแล้ว ก็มีลูกค้าคนอื่นทยอยเข้าเรื่อย เพราะช่วงเช้าร้านแถวนี้ยังไม่ค่อยกันเท่าไหร่ ไทธัชสนุกกับการทำงานจนเวลาผ่านไปนานนับชั่วโมง
“เหนื่อยไหม” เจ้าของร้านถาม
“ไม่ครับ สนุกดี”
“ใหม่ ๆ พี่ก็สนุกแบบนี้แหละ พอนาน ๆ ไปก็เริ่มเบื่อ แต่จะทำไงได้ในเมื่อเปิดร้านแล้วก็ต้องขาย”
“พี่เปิดร้านมานานหรือยังครับ”
“10 ปีได้แล้วมั้ง”
“นานมากเลยนะครับ”
“ใช่นานมาก ลูกค้าบางคนก็มาอุดหนุนตั้งแต่เปิดร้าน อย่างหมอซัน นั่นก็เป็นลูกค้า แต่พอแวะมาบ่อย ๆ ก็สนิทกันมากขึ้นแล้วเราไปรู้จักกับหมอซันได้ยังไงขานั้นออกจะเป็นคนเก็บตัว”
“พี่ซันเป็นผู้มีพระคุณครับ”
“อ้อ อย่างนี้นี่เอง” พีรพลพยักหน้าเข้าใจ
ระหว่างนั้นก็มีหญิงชายคู่หนึ่งเดินเข้าในร้าน ไทธัชกำลังจะเดินออกไปต้อนรับแต่เจ้าของร้านก็ห้ามไว้ก่อน พร้อมกับแนะนำให้เขารู้จัก เจนกับมิ้นต์สองสาวเพื่อนซี้ซึ่งมาทำงานที่ร้านได้เกือบสามปีแล้ว
“ผมขอเรียกพี่เจนกับพี่มิ้นต์ได้ไหมครับ” ไทธัชคิดว่าตัวเองคงจะอายุน้อยกว่าคนทั้งสองจึงขออนุญาตออกไป
“ได้สิ ไทยังเรียนอยู่ใช่ไหม”
“ครับผมอยู่ ม.6”
“พี่สองคนเรียนจบม.6 มาหลายปีแล้วตอนนี้กำเรียนที่รามนะ”
“ครับ”
“ถ้าไทไม่เข้าใจตรงไหนก็ถามพี่สองคนได้นะ ไม่ต้องเกรงใจนะ”
“ขอบคุณครับ”
ตลอดทั้งวันลูกค้าก็มาใช้บริการไม่ขาดสาย กว่าทุกคนจะพักทานอาหารก็หลังบ่ายโมงไปแล้ว
พี่พีทเป็นคนจัดการเรื่องอาหารกลางวันโดยสั่งมาจากร้านที่อยู่ใกล้ๆ ซึ่งแต่ละร้านก็มีบริการส่ง ทุกคนทานอาหารสลับกับเพราะแม้จะเลยเวลาพักกลางวันไปแล้วแต่ก็ยังคงมีลูกค้าเข้ามาแทบไม่ขาดสาย
พอบ่ายสองก็ถึงเวลาเลิกงานของไทธัช เพราะเขามาทำงานก่อนพี่เจนและพี่มิ้นต์ถึงสามชั่วโมง
“ไท เอากาแฟไปส่งที่ตึกสีเทาฝั่งตรงข้ามนะ ฝากไว้ที่ประชาสัมพันธ์ ส่งแล้วก็กลับบ้านได้เลย”
“ครับพี่พีท ผมไปก่อนนะครับพี่เจน พี่มิ้นต์”
“โชคดีนะ พรุ่งนี้เจอกัน” พี่เจนโบกมือให้เขาอย่างเป็นกันเอง