บท
ตั้งค่า

13 ถ้าผมเป็นผู้หญิง

ไทธัชเรียนการใช้โปรแกรม illustrator กับอาจารย์ท่านหนึ่งผ่านทางโปรแกรมซูมโดยใช้โน้ตบุ๊กของตัวเอง และเปิดคอมพิวเตอร์แบบตั้งโต๊ะของอคิราห์ทำตามที่อาจารย์สอนไปด้วย

เด็กหนุ่มพอมีพื้นฐานมาบ้างแล้ว จึงเรียนรู้ได้อย่างไม่ติดขัดอะไรแม้จะเป็นเพียงแค่การเรียนครั้งแรกก็ตาม

เวลาสองชั่วโมงผ่านไปอย่างรวดเร็ว ไทธัชชัดดาวน์คอมพิวเตอร์และเดินไปปลุกเจ้าของห้องตามที่เขาสั่งไว้

ห้องนอนของอคิราห์ตกแต่งอย่างเรียบง่ายด้วยโทนสีเทา บนเตียงกว้างตอนนี้มีร่างสูงของคุณหมอหนุ่มนอนหลับสนิทและดูเหมือนว่าเขากำลังฝันดีเพราะสังเกตจากปากรูปกระจับที่มุมปากยกขึ้นเล็กน้อย

“พี่ซันครับ” เขาเรียกเบา ๆ เพราะกลัวคนที่หลับอยู่จะตกใจ

“อือ เรียนเสร็จแล้วเหรอ”

“ครับ”

“ขอนอนต่ออีกนิดได้ไหม ง่วงมาก”

“ตามสบายครับผมออกไปก่อนนะ”

“อย่าเพิ่งไปรอก่อน ขอสิบนาทีนะ” ชายหนุ่มพลิกตะแคงตัวหันหน้ามาทางคนที่เดินมาปลุก มือเรียวยาวคว้าข้อมือของไทธัชไว้ ก่อนที่จะหลับลงไปอีกครั้ง

ไทธัชไม่กล้าขยับตัวเพราะกลัวจะรบกวนเวลาสิบนาทีตามที่อคิราห์ขอ เขามองใบหน้าของคุณหมอหนุ่มแล้วก็ยิ้มอย่างชื่นชม นอกจากอคิราห์จะเป็นคนจิตใจดีแล้วยังเป็นผู้ชายที่มีใบหน้าหล่อเหลา ดูดีไปทุกมุม ขนาดเขาเป็นผู้ชายยังอดที่จะมองไม่ได้ แล้วนับประสาอะไรกับผู้หญิง

เด็กหนุ่มไม่รู้ว่าคนที่กำลังนอนหลับอยู่นั้นมีแฟนหรือยัง เพราะเท่าที่ได้รู้จักมาเกือบเดือนก็ยังไม่เคยเห็นอคิราห์อยู่กับผู้หญิงคนไหน ไม่มีแม้กระทั่งการคุยโทรศัพท์กับใครนาน ๆ เหมือนอย่างพวกเพื่อนของเขาตอนที่โทรคุยกับแฟน

ไทธัชนั่งมองใบหน้านั้นอยู่นานจนกระทั่งครบเวลาตามที่เจ้าของห้องบอก

“พี่ซันครับ”

เงียบ ไม่ขยับ

“พี่หมอครับ”

“อือ”

“พี่หมอซันครับ ผมว่ามันครบสิบนาทีแล้ว ถ้าพี่ยังหลับต่อคืนนี้คงได้นอนไม่หลับแน่” เขาพูดด้วยเสียงที่ดังกว่าเดิม

“รู้แล้ว ๆ แต่ตอนนี้เป็นเหน็บ ขยับไม่ได้” เขาเปลี่ยนเป็นนอนหงายลืมตามองไทธัชอย่างขอร้อง

“ไท นวดแขนหน่อย”

ไทธัชนวดแขนข้างที่เขาบอกอย่างคนชำนาญเพราะเขารับหน้าที่นวดให้กับยายและมารดามาตั้งแต่จำความได้

“อืม ดีจัง นวดให้แม่บ่อยเหรอ” คนที่นอนชวนคุย

“ครับ ผมเป็นหมอนวดมือหนึ่งประจำบ้านเลยนะครับ”

“แล้วมือสองล่ะใคร”

“ไม่มีครับทั้งบ้านผมนวดอยู่คนเดียว” พูดจบเด็กหนุ่มก็หัวเราะอย่างอารมณ์ดี เมื่อนึกถึงเวลาที่ตัวเองเป็นคนนวดให้กับผู้มีพระคุณทั้งสองและตอนนี้เขาก็กำลังนวดให้กับผู้มีพระคุณคนที่สามอย่างเต็มใจ

“ว่าแล้วเชียว พี่ดีขึ้นแล้ว เดี๋ยวออกไปซื้อของกันนะ แล้วก็หาอะไรกินเข้ามาเลย”

“พี่ซันจะไปซื้อของที่ไหน ผ่านร้านหนังสือไหมครับผมว่าจะไปซื้อหนังสือด้วย”

“มันก็ต้องผ่านอยู่แล้ว แต่ถ้าไม่ผ่านสั่งออนไลน์เอาก็ได้”

“ผมว่าไปเลือกเองดีกว่า”

“งั้นก็ตามใจ พี่ขอเปลี่ยนเสื้อผ้าแป๊บนะ”

“ผมไปรอข้างนอกนะครับ”

“รอในนี้ก็ได้จะอายทำไมผู้ชายเหมือนกัน” อคิราห์พูดพร้อมกับถอดเสื้อยืดออกแล้วโยนลงตะกร้าที่อยู่มุมห้อง

“ผมว่ารอข้างนอกดีกว่า” เด็กหนุ่มรีบเดินออกจากห้องเพราะกลัวว่าพี่หมอจะไม่มีความเป็นส่วนตัว

ทั้งสองออกมาจากคอนโดในเวลาเกือบสี่โมงเย็น อคิราห์พาไทธัชไปที่ร้านหนังสือก่อน เพราะเขาเองก็มีหนังสือบางเล่มที่อยากได้

ใช้เวลาอยู่ในร้านหนังสือเกือบชั่วโมงจากนั้นก็เดินขึ้นมาอีกชั้นซึ่งเป็นที่ตั้งของร้านขายฟิกเกอร์และโมเดลขนาดใหญ่ร้านหนึ่ง

ด้านในมีฟิกเกอร์จากการ์ตูนดังระดับโลกอยู่มากมาย ซึ่งดูแล้วแต่ละตัวราคาของมันคงแพงไม่น้อย เพราะบางตัวนั้นก็เป็นตัวที่ผลิตออกมาจำนวนจำกัด อีกทั้งของในร้านก็เป็นของแท้ทุกชิ้น

“อยากได้ตัวไหนไหม” อคิราห์เห็นไทธัชจ้องอยู่หน้าตู้โชว์ตัวหนึ่งอยู่นาน

“ไม่ดีกว่าครับ” ไทธัชรีบส่ายหัว แม้จะมีตัวการ์ตูนที่ตัวเองชอบแต่ก็ไม่คิดอยากจะซื้อ ราคาของมันค่อนข้างสูงอีกทั้งมันยังไม่ใช่สิ่งของที่จำเป็นขนาดที่ต้องเอาเงินหลายพันมาซื้อ

“ดูไปก่อนนะเดี๋ยวพี่ไปเอาของที่สั่งไว้” อคิราห์เดินเข้าไปในร้านขณะที่ไทธัชนั้นยืนรออยู่ด้านนอก

เขาเดินดูอยู่ไม่นานอคิราห์ก็กลับมาพร้อมกับถุงใบย่อมในมือ

“พี่ซันซื้ออะไรครับ” เขาอดถามไม่ได้

“ฟิกเกอร์โคนันกับอามุโร่” พูดพร้อมหยิบกล่องฟิกเกอร์ออกมาจากถุง

“ชอบโคนันเหรอครับ ผมก็ชอบนะ” เขามองยอดนักสืบจิ๋วที่อยู่ในมือของอคิราห์ด้วยท่าทางสนใจ

“จริงเหรอแล้วมีตัวไหนอยากได้ไหม พี่จะซื้อให้” คุณหมอหนุ่มดีใจที่มีคนชอบเหมือนตัวเอง

“ไม่ดีกว่ามันแพง”

“ไม่แพงหรอกพี่รู้จักเจ้าของร้าน ไทชอบตัวไหนล่ะ”

“ผมชอบอากาอิ ชูอิจิครับ แต่พี่วันไม่ต้องซื้อให้นะครับ ผมชอบก็ไม่ได้หมายความว่าอยากได้” เขาบอกชื่อตัวการ์ตูนที่ตัวเองชอบในเรื่องยอดนักสืบจิ๋วโคนัน

อคิราห์เข้าใจความรู้สึกของไทธัชดี เพราะแต่ก่อนตัวเองก็ไม่กล้าซื้อของแพงแบบนี้

“ผลสอบออกตอนไหน” จู่ ๆ ชายหนุ่มคนพี่ก็หันมาถาม

“ครูจะแจ้งตอนเปิดเทอมครับ”

“เอางี้ ถ้าเกรดของเทอมนี้ได้มากกว่า 3.2 จะซื้อให้ เลือกมาได้เลยจะเอากี่ตัวก็ได้” เขาเคยเห็นเกรดของเด็กหนุ่มมาแล้วจึงคิดว่าเทอมนี้ไทธัชก็คงต้องได้มากกว่านั้นแน่นอน

“อย่าเลยครับ ผมว่ามันแพงเกินไป”

“เอาตัวเล็ก ๆ ของพวกนี้สะสมไว้มันดีต่อใจนะ”

“พี่หมอเหมือนเด็กเลยนะครับ”

“ใช่พี่คนเดียวที่ไหน ในดูในร้านสิ บางคนอายุมากกว่าพี่ยังมาซื้อเลย บางคนก็อ้างว่าซื้อไปให้ลูก แต่พี่เห็นหน้าก็รู้แล้วว่าซื้อให้ตัวเองชัด ๆ”

“เขาก็คงอายละมั้งครับ”

“พี่ไม่เห็นอายเลย อีกอย่างนะ ตอนเราเด็กยังไม่มีเงินเราก็อยากได้ แต่พอโตแล้วมีเงินแล้วก็แค่อยากทำความฝันตอนเด็กให้เป็นจริงก็แค่นั้นเอง”

“ผมเข้าใจแล้ว ถ้างั้นผมจะดูไว้ก้อน พอทำงานมีเงินก็ค่อยมาซื้อ”

“แต่บางตัวมันอาจไม่มีขายอีกแล้วนะ เอาน่าอย่างคิดอะไรให้มากเลย พี่จะซื้อให้ถือว่าเป็นรางวัลถ้าผลสอบของนายออกมาดี”

“งั้นก็ได้ครับ แต่ตัวเดียวก็พอนะครับ” เขาต่อรองเพราะมั่นใจว่าเกรดของตัวเองต้องออกมากกว่า 3.2 อย่างแน่นอน

“อือ ถึงตอนนั้นค่อยว่ากันอีกทีนะ”

ออกจากร้านขายฟิกเกอร์ไทธัชก็ตามอคิราห์ไปยังร้านขายเสื้อผ้าและอุปกรณ์กีฬา

“ไปเลือกเลยทั้งชุดและรองเท้าจะได้ไม่ต้องอ้างว่าไม่มีชุด”

“ผมไม่ได้อ้างนะ รองเท้าผมมีอยู่แล้วที่บ้าน”

“ซื้อใหม่เถอะพี่อยากซื้อให้ พี่เพิ่งได้เงินตกเบิกมาก้อนหนึ่ง”

“เงินตกเบิกคืออะไรครับ” ไทธัชไม่เคยได้ยินคำนี้มาก่อน

“มันก็เหมือนเงินเดือนนั่นแหละแต่ว่ามันจ่ายให้ย้อนหลัง มันได้มากกว่าที่คิดไว้ก็เลยอยากเอาใช้สักหน่อย” เขาอธิบายให้ไทธัชฟังอย่างง่าย ๆ

“ถ้าผมเป็นผู้หญิงผมคงคิดว่าพี่กำลังจีบผมอยู่แน่ ๆ เลย” ไทธัชหัวเราะก่อนจะเดินตามพนักงานไปเลือกรองเท้าที่อยู่อีกมุมหนึ่งของร้าน

คำพูดที่ดูเหมือนไม่คิดอะไรของเด็กหนุ่มนั้นทำให้คนฟังต้องอมยิ้ม ใช่ตอนนี้เขาคิดว่าตัวเองกำลังจีบอยู่ แม้ว่าไทธัชจะไม่ใช่ผู้หญิงก็ตาม

มันคงแปลกในสายตาเด็กมัธยมปลายอย่างเด็กหนุ่มรุ่นน้องคนนี้ เพราะในสังคมของไทธัชอาจจะยังไม่เจอกับความรักในรูปแบบที่หลากหลาย

อคิราห์ไม่คิดเห็นแก่ตัวด้วยการยัดเยียดความรู้สึกที่ตัวเองมีให้กับคนที่มองเขาด้วยสายตาชื่นชม เพราะกลัวว่าจะเสียเด็กหนุ่มนิสัยดีคนนี้ไป

เขาจะปล่อยให้ไทธัชได้ใช้ชีวิตในแบบที่วัยรุ่นทั่วไปใช้กัน ให้เด็กหนุ่มได้เติบโตและเรียนรู้โลกกว้างอย่างเต็มที่ หากวันหนึ่งไทธัชมีแฟนเป็นผู้หญิงเขาก็จะไม่เสียใจเลยสักนิด เพราะอคิหาร์ไม่ได้คาดหวังว่าไทธัชจะเป็นผู้ชายในแบบที่เขาอยากให้เป็น

ในเมื่อไม่คาดหวังเขาก็จะไม่ผิดหวัง คุณหมอหนุ่มพยายามบอกกับตัวเองแบบนี้ แต่บางครั้งก็แอบคิดเข้าข้างตัวเองว่าสายตาที่เด็กหนุ่มมองเขานั้นมันมากกว่าพี่ชาย มากกว่าผู้มีพระคุณที่เจ้าตัวบอกอยู่เสมอ เขาเห็นอะไรบางอย่างในดวงตาสีน้ำตาลคู่นั้น

ถ้าสักวันเวลาที่เหมาะสมมาถึงเขาจะบอกทุกอย่างกับไทธัชอย่างไม่มีปิดบัง แต่นั่นต้องเป็นตอนที่เขาพร้อมแล้วที่จะยอมรับกับเรื่องราวทุกอย่างที่จะเกิดขึ้นหลังจากบอกความรู้สึกของตัวเองออกไป

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel