12 ถ้านึกออกจะบอก
กล่องขนาดใหญ่ที่วางอยู่มุมห้องมีทั้งหมดสามกล่อง ทั้งสองคนช่วยกันแกะและนำของข้างในออกมาวางบนโต๊ะ ซึ่งมีทั้งเคสคอมพิวเตอร์สีดำ จอมอนิเตอร์ขนาด 24 นิ้วนอกจากนั้นยังมีเมาส์ แผ่นรองเมาส์ คีย์บอร์ด หูฟัง รวมไปถึงจอยสติ๊กและกล้องอีกหนึ่งตัว
กว่าจะจัดทุกอย่างให้เข้าที่ก็เล่นเอาเหนื่อยด้วยกันทั้งคู่
“คิดว่าสเปกแค่นี้พอไหวไหม” อคิราห์ยื่นใบเสร็จรับเงินซึ่งในนั้นระบุสเปกของอุปกรณ์แต่ละชิ้นไว้ด้วย
“สุดยอดเลยครับพี่ซัน ซีพียู Ryzen 9 RAM DDR5 32 Gb การ์ดจอ RTA3080Ti 12 Gb แค่ราคาการ์ดจอก็หลายหมื่นแล้ว”
“รู้เรื่องคอมพ์เยอะเหมือนกันนะ”
“แน่สิ ก็ผมอยากเรียนกราฟิกนี่ครับ ว้าว มีชุดน้ำระบายความร้อนด้วย เจ๋งสุดอะ” เขาหมายถึงระบบระบายความร้อนจากการทำงานของคอมพิวเตอร์ซึ่งโดยทั่วไปจะเป็นเพียงพัดลมธรรมดาที่แถมมาในกล่องซีพียูเท่านั้น การเพิ่มชุดน้ำระบายความร้อนการเปิดใช้งานคอมพิวเตอร์ต่อเนื่องหลายชั่วโมง ๆ โดยไม่ต้องกลัวว่าเครื่องคอมพิวเตอร์จะร้อนแม้จะเปิดใช้งานโดยไม่พักเลยก็ตาม
“ถูกใจไหมล่ะ”
“มากครับ แต่ผมไม่กล้าใช้ กลัวมันพัง ไม่อยากเป็นหนี้เพิ่มแล้วครับ” ไทธัชมองตาละห้อย เพราะราคาของคอมพิวเตอร์ชุดนี้มันเกือบจะเป็นเลขหกหลัก
“ใช่ไปเถอะ ของซื้อมาใช้ อีกอย่างทุกชิ้นมันก็มีประกันกันจะกลัวอะไรถ้าเสียก็ส่งเคลม อ้อไดร์ฟ E ยกให้เลยนะ จะได้เอาไว้เก็บงาน”
“มีกี่ไดร์ฟครับ”
“สามไดร์ฟ ไดร์ฟ C เป็น M.2 ไดร์ฟ D และ E เป็น SSD ธรรมดา” เขาหมายถึงอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลซึ่งมีทั้งสองแบบ
ไทธัชพยักหน้า แม้เครื่องที่ตัวเองใช้จะเป็นอุปกรณ์รุ่นเก่าแต่ก็เข้าใจทุกอย่างที่อคิราห์พูดเป็นอย่างดี
“พี่ซันเปิดสิครับ” เมื่อเสียบสายทุกอย่างครบแล้วไทธัชก็อยากให้เจ้าของเป็นคนกดสวิตซ์เปิดเครื่อง
อคิราห์หัวเราะร่วนเมื่อเห็นท่าทางของเด็กหนุ่มตรงหน้า เขาย้อนคิดถึงวันที่ตัวเองที่ได้ใช้คอมสเปกแรง ๆ เป็นครั้งแรก ซึ่งมันก็ไม่ต่างอะไรกับท่าทางของไทธัชตอนนี้เลย
“เปิดไวมาก สมแล้วกับสเปกนี้ ว่าแต่พี่ซันจะลองก่อนไหม” เด็กหนุ่มเลื่อนเก้าอี้ให้
“ไม่ละ ยังไม่ได้โหลเกมเลยเอาไว้ว่างค่อยมาโหลด แล้วโปรแกรมที่จะเรียนพรุ่งนี้มีไหม” เขาจำไม่ได้ว่าบอกทางร้านให้ลงโปรแกรมอะไรให้บ้าง
ไทธัชกวาดสายตามองไอคอนที่หน้าจออย่างรวดเร็วก่อนจะตอบ
“มีครับ ทางร้านลงมาให้แล้ว”
“งั้นก็เป็นอันจบ พรุ่งนี้ไม่ต้องไปที่ร้านเน็ต แล้วเริ่มเรียนกี่โมง”
“บ่ายสองครับ”
“งั้นถ้าพี่กลับมาจากโรงพยาบาลก็ติวอังกฤษสักสองชั่วโมง โอเคไหม”
“ได้ครับ ไม่มีปัญหา”
“งั้นคืนนี้นอนเถอะง่วงเต็มทีแล้ว”
“ได้ครับ” เด็กหนุ่มชัดดาวน์แล้วเก็บทุกอย่างเข้าที่จากนั้นก็ปิดไฟแล้วเดินตามหลังเจ้าของห้องออกมา
“พรุ่งนี้เช้าพี่ไปราวด์คนไข้นะ จะกลับมาสาย ๆ ตอนเช้าลงไปหาอะไรกินเองข้างล่างนะ” เขาหมายถึงร้านอาหารที่อยู่ฝั่งตรงข้ามคอนโด
“ไม่มีปัญหาครับ เรื่องกินพี่ไม่ต้องห่วงผมหรอก ในตู้มีเสบียงตุนไว้เยอะเลย”
“ไปซื้อมาตอนไหน”
“ตอนเลิกงานครับ พี่พีทให้ค่าจ้างมาแล้ว”
“ก็เลยโชว์ป๋าซื้อของมาให้พี่ซะงั้น”
“แค่นี้ไม่เท่าไหร่หรอก มันเทียบไม่ได้เลยกับสิ่งที่พี่ให้ผม”
“อย่าเอามาเปรียบเทียบกันแบบนั้น พี่ทำงานแล้ว ส่วนนายยังเรียนอยู่”
“ผมรู้ แต่ก็อยากทำอะไรที่เป็นประโยชน์บ้าง”
“แค่ช่วยทำความสะอาดห้องให้ก็ดีมากแล้ว ดูสิไม่รกเหมือนวันแรกที่มาใช่ไหม”
“มันก็แค่นั้นเอง พี่มีอะไรที่จะให้ผมทำให้พี่บอกผมเลยนะ สำหรับพี่ซันผมเต็มใจทำให้ทุกอย่าง หรืออยากได้อะไรบอกผมเลย ผมจะจดไว้ พอทำงานแล้วจะหามาให้พี่เอง”
“ตอนนี้พี่ยังคิดไม่ออกเลยว่าอยากได้อะไร ขอติดไว้ก่อนนะ ถ้าคิดออกแล้วจะบอก”
“อือ อย่าลืมนะครับ อยากได้อะไรจากผมบอกได้เลยไม่ต้องเกรงใจ” สีหน้าและคำพูดของไทธัชมันจริงใจจนคนฟังรู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก
แม้ครั้งหนึ่งเด็กหนุ่มเคยคิดจะฆ่าตัวตาย แต่เวลาผ่านยังไม่ถึงเดือนเขาก็กลับมาสดใสร่าเริงอีกครั้ง
ยิ่งเห็นแบบนี้อคิราห์ก็คิดว่าสิ่งที่ตัวเองทำนั้นมันถูกต้องที่สุดแล้ว แต่เขาลืมคิดไปว่าถ้าตัวเองไม่อยู่แล้วใครจะช่วยซับพอร์ตจิตใจของไทธัช
แม้ว่าวันนี้ตัวเองไม่ได้อยู่ที่บ้านและไม่ต้องตื่นมาช่วยมารดาและยายทำกับข้าวเพราะท่านทั้งสองไปเยี่ยมญาติที่ต่างจังหวัด แต่ไทธัชก็ตื่นนอนแต่เช้าอย่างเคย เขาตื่นมาทำความสะอาดห้องนอนเล็กที่อคิราห์ให้เข้ามาใช้ระหว่างที่มาค้างที่คอนโดแห่งนี้ จากนั้นก็รอให้เจ้าของห้องออกไปทำงานก่อนจะเก็บกวาดห้องนอนของคุณหมอหนุ่มจนเรียบร้อย เมื่อทำงานบ้านเสร็จก็เอาอาหารแช่แข็งที่ซื้อมาจากร้านสะดวกซื้อเข้าไมโครเวฟเพื่อทานเป็นอาหารเช้า
ไทธัชทำงานที่ร้านกาแฟได้เพียงสองสัปดาห์ก็ต้องเลิกทำเพราะอคิราห์และมารดารวมถึงคุณยายของเขาต่างเห็นตรงกันว่าอยากให้ไทธัชใช้เวลาที่เหลือในช่วงปิดเทอมปิดเทอมเตรียมอ่านหนังสือสอบให้เต็มที่ เพราะเปิดเทอมไปเพียงไม่กี่เดือนก็จะมีการสอบวัดความรู้เพื่อนำคะแนนไปยื่นเข้ามหาวิทยาลัยแล้ว
ระหว่างเจ้าของห้องกลับมาจากที่ทำงานก็เอาข้อสอบมาฝึกทำ หนังสือที่อคิราห์บอกว่าสั่งมาให้น้องชายนั้นมีประโยชน์อย่างมากเพราะทุกเล่มล้วนเต็มไปด้วยข้อสอบใหม่ที่น่าสนใจ ต่างจากหนังสือที่เขายืมของทางโรงเรียน
“คิว ฉันไม่ได้มาแทนที่นายนะ ฉันจะไม่ทำให้พี่ชายของนายลืมว่านายเป็นน้องชายคนเดียวของเขา แต่ฉันจะทำหน้าที่ของฉันคือตั้งใจเรียนจะไม่ทำให้พี่ชายของนายต้องผิดหวังอีกเป็นครั้งที่สอง ฉันไม่รู้ว่านายต้องเจอกับอะไรบ้างถึงตัดสินใจแบบนั้น แต่ฉันเคารพการตัดสินใจของนาย และฉันจะไม่ตัดสินนายจากการกระทำนั้น ฉันต้องขอบใจนายที่ทำให้ฉันมีโอกาสได้เจอกับพี่ซัน ขอบใจจะคิว”
ไทธัชพูดอยู่คนเดียวกลางห้องรับแขก เขาหวังว่าสิ่งที่ตัวเองพูดออกไปนั้นจะสื่อไปถึงอคินทร์ที่จากโลกนี้ไปแล้ว
อคิราห์กลับมาตอนเกือบเที่ยง เขาแวะซื้ออาหารกลางวันขึ้นมาด้วยเพราะคิดว่าไทธัชคงไม่ลงมาซื้อแน่ เนื่องจากเจ้าตัวตุนอาหารแช่แข็งไว้จนเต็มตู้
“กลับมาแล้วเหรอครับ เหนื่อยไหม มาผมช่วย” ไทธัชรีบลุกจากโซฟามารับกล่องข้าวไปวางบนโต๊ะในส่วนที่เป็นห้องครัว
“ยังไม่ได้กินข้าวกลางวันใช่ไหม”
“ยังครับ ก็พี่ไลน์มาบอกว่าจะซื้อเขามา”
“เหรอโทษที ลืมไปเลย หิวไหมกินก่อนได้นะ พี่ขออาบน้ำก่อน”
“ไม่เป็นไรครับผมยังไม่หิว พี่ไม่ต้องรีบหรอก ผมเพิ่งกินข้าวเช้าไปตอน 10 โมง”
“นายไม่หิวแต่พี่หิว”
แม้จะหิวจนตาลายแค่ไหนแต่อคิราห์ก็ต้องอาบน้ำก่อนเพราะเขาไม่รู้ว่าตัวเองไปเจอเชื้อโรคอะไรมาบ้างระหว่างที่ราวด์ผู้ป่วย
ร่างสูงของคุณหมอหนุ่มเปลี่ยนมาอยู่ในชุดเสื้อยืดกับกางเกงผ้ายึดขาสั้นทำให้เขาดูอ่อนกว่าอายุจริงอยู่หลายปี
“มองอะไร” พอออกมาจากห้องก็เห็นเจ้าเด็กหนุ่มมองตาไม่กะพริบ
“พี่หมอซันเหมือนเด็กมหาลัยเลยครับ” ไทธัชชอบเรียกเขาด้วยชื่อยาว ๆ เวลาที่เจ้าตัวนึกสนุกอยากคุยเรื่องที่ไม่มีสาระ
พอได้ยินแบบนั้นเขาก็ทำตัวไม่ถูก ไทธัชไมได้แค่พูดเพราะตอนนี้เดินเข้ามาใกล้จนหน้าห่างกันเพียงนิด
“ใกล้พอยัง จะดูให้เห็นเลขเลยหรือไง”
“ก็แค่อยากดู หน้าพี่เด็กมาก พี่ใช่ครีมอะไร”
“อยากลองใช้ไหมในห้อง ไปหยิบมาสิ แต่ครีมอะไรก็ช่วยไม่ได้หรอกถ้าไม่ดูแลร่างกายตัวเอง”
“ยังไง”
“ก็ไม่กินเหล้า ไม่สูบบุหรี่ ไม่นอนดึกแล้วก็กินน้ำเยอะ ๆ ถ้าจะให้ดีก็ต้องออกกำลังกาย”
“แค่ไม่กินเหล้ากับสูบบุหรี่เท่านั้นที่ผมทำได้”
“ก็ฝึกสิ เย็นนี้เรียนเสร็จแล้วไปวิ่งกันไหม หรือไปฟิตเนสข้างล่างก็ได้”
“เอาไว้วันหลังดีกว่า วันนี้ผมไม่ได้เตรียมชุดกับรองเท้ามา”
หลังทานอาหารกลางวันเสร็จแล้วอคิราห์ติววิชาภาษาอังกฤษให้กับไทธัช ดูเหมือนเด็กหนุ่มจะมีพื้นฐานที่ดีอยู่แล้ว อคิราห์จึงไม่ต้องอธิบายอะไรมาก
จนกระทั่งถึงเวลาบ่ายโมงครึ่ง ไทธัชก็ขอตัวไปเตรียมเรียนออนไลน์
“ไท เรียนเสร็จแล้วเข้าไปปลุกพี่ด้วยนะ” อคิราห์อยากนอนพักสักงีบ ก่อนที่จะออกไปซื้อของกับไทธัชในตอนเย็น