เจ๊ดอก
แต่ทันทีที่ประตูถูกเปิด วินวี่ก็ต้องผิดหวังอย่างแรง เพราะที่ยืนอยู่มันไม่ใช่ผู้ชายหล่อกรุบ ๆ อย่างที่เธอคาดหวัง หากแต่เป็นป้าอายุราวสี่สิบปลาย สวมกางเกงแล็คกิ้งสีโอรส เสื้อรัดรูปลายเสือ แต่ด้วยสรีระของเจ้าหล่อนที่เกินอวบระยะสุดท้ายไปไกลโข แทนที่มันจะดูเซ็กซี่เป็นแม่เสือสาว มันเลยปลิ้นออกมาเป็นปล้อง ๆ ดูเซ็กส์เสื่อมคล้ายงูเหลือมอิ่มหมาเสียมากกว่า สิบนิ้วสวมแหวนเสียแปด ผิวเจ้าหล่อนขาวจั๊วะราวกับเต้าหู้ ใบหน้าอวบอูม ตาเล็กหยี ปากบางเฉียบเคลือบลิปสติกสีเดียวกับกางเกง เหนือริมฝีปากขวามีไฝเม็ดเป้งติดอยู่ เป็นสัญลักษณ์เรดาร์แห่งวงการเผือกที่แท้จริง
ปากสีโอรสคลี่ยิ้มก่อนจะยื่นถุงในมือมาให้
“ สวัสดีค่ะคุณน้องผู้มาอยู่ใหม่ทั้งสอง เจ๊ชื่อดอกไม้นะคะ อยู่ห้องริมขวาสุด ได้ยินจากเจ๊ลำไยว่ามีสมาชิกใหม่ พี่ก็เลยซื้อขนมจีนแกงเขียวหวานมาฝาก ” วินวี่ยกมือขึ้นไหว้ด้วยท่าทีอ่อนช้อยราวนางงามพึ่งได้รับตำแหน่ง
“ ขอบพระคุณมาก ๆ เลยนะคะเจ๊ดอก ”
“ ดอกไม้จ้ะ กรุณาเรียกให้เต็ม ๆ ”
“ ค่ะ เจ๊ดอกไม้ น้องชื่อวินวี่นะคะ ส่วนเพื่อนของน้องที่เถื่อน ๆ ถึก ๆ หน้าโหด ๆ นั่นชื่อเมษ์ เมษ์ โผล่หน้าออกมาหน่อยซิ มีพี่เพื่อนบ้านเขามาต้อนรับแน่ะ ” ท้ายประโยคนางชะโงกหน้าไปตะโกนเรียกเพื่อนรัก เมษาที่ทิ้งตัวลงบนเตียงแล้วจำต้องผุดลุกขึ้นแล้วเดินออกไปที่ประตู กระนั้นมันก็ยุ่งไปหมดทั้งหน้าทั้งหัว แต่เมื่อเห็นผู้มาเยือนก็จำต้องฉีกยิ้มและไหว้ทำความเคารพตามมารยาท
“ สวัสดีค่ะคุณพี่ ”
“ ดอกไม้จ้ะ จะเรียกว่าเจ๊ดอกไม้แสนสวยก็ได้ เจ๊ไม่เกี่ยง แล้วนี่มาจากไหน ทำงานที่ไหน มีลูกมีผัวกันหรือยัง สองคนคงเป็นเพื่อนกันสินะ ดูสภาพแล้วไม่น่าใช่ผัวเมีย ” เรดาร์เริ่มทำงาน ดวงตาเล็กหยีกลอกมองทั้งสองตั้งแต่ศีรษะจรดเท้าวินวี่ลอบกลอกตามองบนแว้บหนึ่งก่อนที่จะเอ่ยตอบอ่อนหวานอย่างนางสาวไทย
“ เราเป็นเพื่อนกันน่ะค่ะ ย้ายมาประจำชั่วคราวที่ห้างโฮมแอนด์แลนด์สาขาที่นี่ เมษ์บ้านอยู่สงขลา ส่วนหนูที่หน้าตาสวย ๆ เซ็กซี่ ๆ แบบนี้ก็มาจากกรุงเทพฯ ค่ะ ”
“ นั่นน่ะสิ เจ๊ก็ว่า หน้าตาไม่เหมือนคนหาเช้ากินค่ำ ว่าแล้วจะต้องทำงานมีหน้ามีตามีตำแหน่ง แล้วทำไมถึงย้ายมาล่ะ มีเรื่องอะไรกันใช่มะถึงได้โดนย้าย แหม อย่าว่าอย่างนั้นอย่างนี้เลยนะ ขอเจ๊เข้าไปนั่งเม้าท์ข้างในหน่อยเถอะ ยืนอยู่ตรงนี้เริ่มปวดขา หัวเข่าไม่ค่อยดีเท่าไร ” พูดพลางทำทีจะเดินเข้าไปด้านใน เป็นเมษาที่รีบเอ่ยเบรกเสียก่อน
“ เจ๊ดอกคะ ”
“ ดอกไม้จ้ะ ” เจ้าตัวรีบแย้งทันควัน
“ ค่ะ โทษที เจ๊ดอกไม้ คือเราทั้งสองเนี่ยพึ่งจะย้ายของ จัดของเสร็จเหนื่อยมากเลย อยากจะนอนพักสักหน่อย ดังนั้นเราขอเสียมารยาทยังไม่คุยตอนนี้ได้ไหมคะ ไว้วันว่าง ๆ เราจะรีบเดินไปเม้าท์กับเจ๊ที่ห้องเลย ดีไหมคะ ” เจ๊ดอกไม้มีสีหน้าผิดหวังอย่างเห็นได้ชัดที่โดนปฏิเสธตามประสาคนช่างเม้าท์ แต่ก็ต้องยิ้มออกมาในท้ายที่สุด
“ ก็ได้จ้ะ แหม เสียดาย อยากจะทำความรู้จักกันให้มากขึ้น เออ ถ้าน้องทั้งสองอยากจะรู้อะไรนะ ถามเจ๊ได้ เจ๊รู้ทุกอย่าง แต่เจ๊ไม่ค่อยได้อยู่ห้องหรอก ไป ๆ มา ๆ น่ะ”
“ เสือกไปทั่วทุกอณูล่ะสิ ” วินวี่เอ่ยเบา ๆ อย่างอดไม่ได้ มิวายที่เจ๊แกจะเงยหน้าขึ้นมองอย่างตกใจ
“ ตะกี๊คุณน้องว่าไงนะคะ ”
“ อ๋อ เปล่าค่ะ แค่บอกว่า ดีใจที่เจ๊รู้ทุกอณูเหมือนกูเกิ้ลเลย เวลาสงสัยอะไรจะได้ถาม เนาะเมษ์เนาะ ดี๊ดี ” ท้ายประโยคหันไปพยักเพยิดกับเพื่อนรัก เมษาได้แต่ยิ้มให้เนือย ๆ เพราะตาแทบจะปิดอยู่แล้ว
“ ถ้าอย่างงั้นเจ๊ไปละนะ พักผ่อนกันเถอะ นี่ก็บ่ายแล้ว ประเดี๋ยวไอ้พวกเด็กสวะข้างห้องนี่มันกลับมาก็คงไม่ได้หลับไม่ได้นอนกันอีก ไม่ได้อยู่กันอย่างมีความสุขหรอก เจ๊บอกเลย ” คำบอกกล่าวนั้นทำให้สองคู่ซี้หันมาสนใจอีกครั้ง
“ เหรอคะเจ๊ แย่ขนาดนั้นเลยเหรอคะ” เมษาเอ่ยด้วยความกังวล ตัวเองกับเพื่อนก็มาจากต่างถิ่น เกิดมาเจอเด็กอันธพาล เด็กติดยาหรืออะไรพรรค์อย่างนั้น ใครจะไปรู้ว่าอะไรร้าย ๆ จะเกิดขึ้นบ้าง
เจ๊ดอกไม้หันกลับมาพร้อมพยักเพยิดทันที