เด็กข้างบ้าน

60.0K · จบแล้ว
Xmaniac
45
บท
14.0K
ยอดวิว
7.0
การให้คะแนน

บทย่อ

เด็กมันยั่ว เลยหลวมตัวไปหน่อย ! เมื่อบุพเพอาละวาดให้สาวใหญ่อย่าง “ เมษา ” ต้องย้ายไปอยู่ข้างห้องเช่า อันมีเสียงร่ำลือว่าเป็นเด็กเปรต มันทั้งหื่น ทั้งโรคจิต ทั้งซาดิสม์ วิตถาร แต่ความจริงจะเป็นอย่างไร เขาจะเลวร้ายดังปากชาวบ้านว่ากันไหม เธอจะเอาชีวิตรอดปลอดภัยได้หรือไม่ หรือจะเต็มอกเต็มใจตกเป็นเหยื่อ ของไอ้เด็กข้างบ้านร้าย ๆ อย่าง “ นายธันวา ” ตัวอย่าง : “ ไอ้บ้า แกจะทำอะไรฉัน ” “ คิดว่าผมจะทำอะไรล่ะ ” มันถามกลับเสียงกระเส่าก่อนนาบปากลงดูดที่ต้นคอขาวเบา ๆ แล้วลากยาวมายังใบหู จงใจเป่าลมอุ่น ๆ เข้าไปในนั้น งับติ่งหูนุ่มเบา ๆ ใช้ใบหน้าที่ล้อมกรอบไปด้วยตอเคราสากระคายเกลือกกลิ้งไปบนผิวนุ่ม แทนที่จะเจ็บคันน่ารำคาญ หากกลับขนลุกเกรียว สัมผัสเหล่านั้นล้วนสร้างความหวิวไหวให้กายสาวที่ร้างมือชายมานานเหลือเกิน ปวารณาไว้แน่วแน่ว่าจะครองตนให้ห่างจากเรื่องอย่างว่าไปชั่วชีวิต แต่วันนี้ ไอ้เด็กเวรนี่กำลังทำเธอสติแตก “ ปละ... ปล่อยฉันนะ ” เธอเอ่ยเสียงห้ามปรามสั่นเครือ เขาตอบกลับคำขอร้องด้วยการเลื่อนมาดูดเม้มที่ริมฝีปากอิ่มเบา ๆ แล้วขยับอย่างรวดเร็วลงไปประทับมันลงบนเนินอกอวบข้างซ้าย แม้จะมีเสื้อเชิ้ตกับบราเซียเปียก ๆ เป็นปราการ หากมันไม่ได้ลดทอนความร้อนแรงลงได้เลย “ หัวใจเต้นแรงจังเลย เต้นจนนมสั่นเลยอะ ” “ อะ... ไอ้บ้า ไอ้ลามก ” “ ลามกอะไร ผมเห็นอะไรก็พูดไปแบบนั้น เสียวมากอะดิ สั่นเชียว นมก็สั่น ตัวก็สั่น อะไรที่มันโหนก ๆ ข้างล่างจะสั่นไปด้วยหรือเปล่าน้า ” “ ไอ้... ไอ้ทุเรศ ไอ้เด็กเวร เสียวบ้าเสียวบออะไร แกคิดว่าลีลาไก่อ่อนอย่างแกจะทำให้ฉันรู้สึกรู้สาอะไรอย่างนั้นเหรอ ลีลาแบบเนี้ยมันเด็ก ๆ ไอ้เด็กเมื่อวานซืน ” เธอโต้เถียงเพื่อไม่ให้เสียหน้า หากเกลียดเหลือเกินที่ร่างกายทรยศ สั่นไปหมดอย่างมันว่าจริง ๆ “ ถ้าป้าช่ำชองจริง ทำไมตัวสั่นไปหมดเวลาโดนไก่อ่อนไซ้ล่ะ ” มันถามเสียงอู้อี้เพราะกำลังวุ่นวายอยู่บนยอดอกเคร่งครัดที่ตอนนี้ชูชันแข็งขึงเป็นตุ่มไต เจ้าตัวสะท้านกายเยือก ปากคอสั่นเทา หากยังแก้ตัวไปน้ำขุ่น ๆ “ ฉะ... ฉันแค่หนาว ก็เสื้อผ้าเปียกหมดขนาดนี้ ” “ งั้นเดี๋ยวผมจะแก้ผ้าให้ จะได้หายหนาว ” “ อย่านะ จะบ้าหรือไง ” เธอท้วง หากมันไม่ฟัง ยังคงพล่ามสนุกปาก ดวงตาคมหวานเยิ้มราวงูเห่าเมากัญชา “ พอแก้ผ้าป้าเสร็จ ผมก็จะแก้ผ้าตัวเอง จากนั้นเราก็จะออกกำลังกายร่วมกัน มันจะได้หายหนาว ป้าว่าดีป่ะ ! ” หมายเหตุ : เมษา นางเอกเรื่องนี้ เป็นตัวละครมาจากเรื่อง ก็ตั้งใจจะไม่รัก

นิยายรักโรแมนติกนิยายรัก

เมษาและวินวี่

“ โอ๊ย ทำไมมันทุลักทุเลขนาดนี้วะ ถ้าไม่นึกถึงเบี้ยเลี้ยงพิเศษวันละแปดร้อยห้าสิบค่าสกิลที่จะได้รับนะ วินวี่จะไม่ทน ไอ้รถบ้าของฉันก็ดันมาเข้าอู่ได้จังหวะพอดิบพอดี ”

เสียงบ่นกะปอดกะแปดออกมาจากริมฝีปากหนาที่เคลือบลิปสติกสีชมพูโอรสแปร๊ดตัดกับสีผิวคล้ำของนางเสียเหลือเกิน ใบหน้าโบกด้วยรองพื้นและเครื่องสำอางหนาเตอะ ดวงตาที่กระพือขึ้นลงไม่ยอมหยุดนั้นติดขนตาชนิดหนายาวงอนเป็นพิเศษเพื่อให้ดูกลมโตและอ่อนหวาน แต่แทนที่มันจะดูสวยแบ๊วอย่างที่นางตั้งใจ มันกลับดูเหมือนมีนกอินทรีย์ไปกระพือปีกแทนขนตาเพราะมันหนาและยาวจนเกินควรสวยแบบแปลก ๆ สวยแหวกมนุษย์มนา

ร่างสูงใหญ่ กล้ามเนื้อแน่นแกร่งไปทั้งตัวแบบฉบับชายชาตรีทั้งแท่ง แต่การแต่งกายและจิตใจของนางล้ำอิสตรีที่แท้ทรูไปเสียสิ้น เดินบิดสะโพกไปมาราวกับเยื้องย่างอยู่บนเวทีประกวดมิสทิฟฟานี่

นางคือ วินวี่ สาวประเภทสองที่คิดว่าตนเองงามเลิศเจิดจรัสที่สุดในปฐพี

“ หุบปากสักทีอีเทวินทร์ ทน ๆ เอาหน่อยเถอะวะ ” อีกคนที่เดินเคียงข้างเอ่ยสวนเพื่อตัดความรำคาญ ตากลมโตภายใต้คิ้วโก่งได้รูป จมูกโด่งรั้นรับกับริมฝีปากอวบอิ่ม เครื่องหน้าเหล่านั้นอยู่ภายใต้กรอบใบหน้ารูปไข่ มันคงจะงดงามหากเจ้าหล่อนแย้มยิ้มบ่อย ๆ เสียแต่ว่าชอบทำหน้ายักษ์จนคนที่ไม่รู้จักเธอดีไม่อยากเข้าใกล้ เพราะใบหน้าไม่เป็นมิตรเอาเสียเลย

ร่างอวบอัดเดินขึ้นรถตุ๊ก ๆ ที่เหมาไว้แล้วทิ้งตัวลงบนเบาะ โดยมีร่างสูงใหญ่ของเพื่อนสาวกระแทกสะโพกนั่งลงด้านข้าง ส่งสายตาปะหลับปะเหลือกมาให้

“ อีเมษา ฉันบอกแกเป็นครั้งที่สามร้อยแปดสิบสองแล้วว่าห้ามเรียกชื่อนั้นอีก ฉันชื่อวินวี่ ”

“ เออ ๆ ชื่ออะไรก็เหมือนกันแหละ หุบปากสักที รำคาญ ”

ไม่พูดเปล่า ยกมือขึ้นไปตะปบปากเพื่อนหนึ่งที นางรีบปัดออกพัลวัน คนทำหัวเราะหึ ๆ ก่อนเอนหลังพิงเบาะรถแล้วหลับตาลงอย่างเหนื่อยล้า

เธอชื่อ เมษา เป็นแม่หม้ายวัยสามสิบที่มีลูกติดอายุแปดขวบเศษ เพราะความผิดพลาดในวัยเรียนครั้งอยู่มหาวิทยาลัย ความเชื่อมั่นในรักด้วยหัวใจอันบริสุทธิ์ ทำให้เธอพลาดท่าเสียสาวให้กับชายคนรักด้วยความเต็มอกเต็มใจ และในวันที่เธอเดินไปบอกเขาว่าเธอตั้งครรภ์ เขาก็หายไปจากมหาวิทยาลัย หายไปจากชีวิตเธอกับลูก และไม่เคยส่งข่าวมาอีกเลย

หัวใจอันบริสุทธิ์ของเด็กสาวคนหนึ่งแตกสลาย อนาคตดับวูบ เธอกลับบ้านไปบอกข่าวแม่ด้วยน้ำตานองหน้า แต่ความรักอันงดงาม อ้อมกอดอันอบอุ่นจากผู้เป็นแม่ เฝ้าปลอบประโลม เยียวยาหัวใจจนเธอแข็งแกร่ง ไม่ใช่แค่เพื่อตัวเอง เพื่อแม่เท่านั้น แต่เพื่ออีกชีวิตที่กำลังจะลืมตาดูโลก อีกหนึ่งชีวิตที่บริสุทธิ์ไร้เดียงสา

เหตุการณ์อันโหดร้ายหล่อหลอมให้ผู้หญิงอ่อนแอไม่ทันโลกกลับกลายเป็นคนเข้มแข็งและเด็ดเดี่ยวมากขึ้น ปฏิเสธไม่ได้ว่าสังคมรอบด้าน เพื่อนบ้าน หรือแม้กระทั่งญาติพี่น้องก็รุมนินทาว่าร้ายเธอต่าง ๆ นานา เธอจึงสร้างเกราะกำบังฉาบไว้ด้วยการเป็นคนเคร่งเครียด หน้าดุ พูดจาห้วนห้าวจนถึงบัดนี้

เธอเข้าทำงานที่ห้างสรรพสินค้าจำหน่ายของตกแต่งบ้านแห่งหนึ่ง มีหลายสาขาทั่วประเทศ และได้พบกับเพื่อนร่วมงานสาวประเภทสองอย่างวินวี่ หรือชื่อในบัตรประชาชนที่บุพการีตั้งให้ว่า เทวิน นิสัยปากร้ายแต่ใจดีของทั้งคู่ทำให้เข้ากันได้ดี เป็นปี่เป็นขลุ่ย จากเพื่อนร่วมงานก็กลายมาเป็นเพื่อนรักจนถึงบัดนี้

ทางบริษัทมีการเปิดสาขาใหม่ที่นี่ราวหนึ่งปี และตอนนี้มีการเปลี่ยนแปลงระบบฐานข้อมูลที่ใช้บริหารการจัดส่งและสินค้าคงคลัง ทั้งสองในฐานะที่อยู่มานาน เป็นผู้เชี่ยวชาญในระบบที่สุด เพราะหนึ่งเป็นผู้จัดการแผนกคอมพิวเตอร์และฐานข้อมูลคือวินวี่ อีกหนึ่งคือเมษา เป็นผู้จัดการแผนกสินค้าคงคลัง ทางบริษัทจึงส่งทั้งคู่มาสอนการใช้ระบบที่นี่เป็นเวลาหนึ่งเดือน แต่ด้วยความที่เป็นเมืองเล็กกว่าที่เคยทำอยู่ จึงหาบ้านเช่ายากเย็นเหลือเกิน นี่ก็ตระเวนถามมาเกือบสิบที่แล้วยังไม่มีที่ว่าง เพราะมันฉุกละหุกเหลือหลาย อากาศก็ร้อนแสนร้อน หลังจากบ้านเช่าที่ไม่ห่างไกลตลาดนั้นเต็มหมด ตอนนี้ไม่มีตัวเลือกมากนัก จึงกลายเป็นว่าที่ไหนก็ได้ ขอให้มีที่ซุกหัวนอนเป็นพอ

คุณลุงวัยหกสิบเศษ โชเฟอร์รถตุ๊กตุ๊ก พาทั้งสองมุ่งหน้าไปยังบ้านเช่าที่อยู่ห่างจากตัวตลาดมาไกลพอสมควร ปากซอยมีร้านขายของชำเล็ก ๆ และร้านอาหารตามสั่งอยู่ติดกัน มีบ้านอยู่สองสามหลังห่างกันพอสมควร

มีสิ่งเดียวที่ดูเจริญตาเจริญใจมากที่สุดในซอยหรือจะเรียกว่าที่สุดในบริเวณนี้ก็ว่าได้ สิ่งนั้นคือ บ้านหลังงามสไตล์โมเดิร์นที่รายล้อมไปด้วยไม้ดอกไม้ประดับนานาพรรณ แถมยังมีหลังเล็กเป็นปูนเปลือยอยู่ด้านซ้ายของหลังใหญ่ เรียบหรูดูดีนักเชียว