บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 5

“พี่จะมายุ่งวุ่นวายอะไรกับผมนักหนาวะเนี้ย ผมไม่ไป!” เปาตะคอกใส่วิวด้วยความโมโห ดวงตาของวิววาวโรจน์ด้วยความโกรธ เขาจับแขนของเปาแล้วกระชากให้เข้ามาใกล้ จนปลายจมูกของเปาชนเข้ากับปลายจมูกของวิว เปาเบิกตากว้างด้วยความตกใจ

มือที่กำลังสัมผัสที่เอวของเขาอยู่นั้นทำให้เปาเริ่มได้สติ เขาผละหน้าตัวเองออกห่างจากวิวนิดๆ

“คือ..”

“ไอ้ไม้มันจะเอาเด็กมันมานั่งด้วย กูเลยอยากให้มึงมานั่งกับกู เพราะกูเกร็งใจไอ้ไม้มัน” วิวพูดบอก

“อ่าว แล้วทำไมพี่ไม่บอกผมตั้งแต่แรกอ่ะ” เปามองหน้าวิวด้วยความสงสัย

“ก็กูไม่ชอบพูดอะไรเยอะ” วิวไหวไหล่เล็กน้อย วิวจ้องหน้าเปาไม่วางตา ถึงแม้ว่าคนตรงหน้าจะเป็นถึงเดือนมหาลัยและสูงมากแค่ไหน แต่ถ้าเทียบกับเขาแล้ว..อีกฝ่ายยังคงเตี้ยกว่าอยู่หลายเซ็นเหมือนกัน

“แล้วตกลงมึงจะมานั่งกับกูได้รึยัง” วิวถามอีกครั้ง เปานิ่งคิด ซึ่งท่าทางของเปามันดูน่ารักจนวิวอดใจไม่ไหว หอมไปที่แก้มขาวด้วยความหมั่นเขี้ยว

ฟอดดดด

เปาเบิกตากว้าง ยกมือมากุมหน้าของตัวเองแล้วหันหน้าไปมองทางวิวด้วยความตกใจ

“พี่ทำไรเนี้ย!”

“เล่นบันจีจัมป์มั้ง” วิวตอบกลับไปอย่างกวนๆ

“มึงอย่าบอกนะว่าโตเป็นควายแล้วแต่ดันไม่รู้ว่าที่กูทำเนี้ย มันเรียกว่าอะไร”

“ไอ้รู้มันก็รู้อยู่พี่ แต่พี่หอมแก้มผมทำไม” เปาขมวดคิ้วถามกลับไป

“เอ้า กูจะหอมทำไมมันก็เรื่องของกูปะ ว่าแต่..แก้มมึงนิ่มดีว่ะ ไหนมาหอมอีกข้างดิ๊”

ยังไม่ทันที่เปาจะได้เอ่ยห้ามหรือขัดขืน วิวก็ก้มลงมาหอมแก้มเขาอีกข้างแล้ว

ฟอดดดดดด

“ไอ้พี่วิว!!” เปาเรียกวิวเสียงดังลั่น มือทั้งสองข้างของเปาจับแก้มทั้งสองข้างของตัวเองอย่างรวดเร็ว นั่นทำให้มือของวิวนั้นหลุดออกจากแขนของเปาทันที ซึ่งวิวเองก็ดึงเอวบางของเปาเข้ามาโอบไว้แน่น

“ป่านนี้เพื่อนมึงชะเง้อคอรอเป็นยีราฟแล้วมั้ง ไปหาเพื่อนมึงกัน” วิวกระตุกยิ้มมุมปากนิดๆแล้วโอบเอวบางของเปาเดินออกจากห้องน้ำไป

เปาพยายามดิ้นหนีออกจากมือปลาหมึกที่อยู่ตรงเอว แต่ก็ไม่เป็นผล เพราะนอกจากวิวจะไม่ยอมปล่อยแล้ว อีกฝ่ายยังดึงเขาให้เข้ามาใกล้มากกว่าเดิมด้วย เปาถอนหายใจออกมาหนักๆด้วยความเหนื่อย และเลิกดิ้นหนี นั่นจึงสร้างความพอใจให้กับวิวเป็นอย่างมาก

“น่ารักนะมึงเนี้ย” วิวก้มลงไปกระซิบที่ข้างหูของเปาเบาๆ เปาหันไปมองขวางวิวนิดๆ แต่ลึกๆเขาเองก็แอบเขินสิ่งที่วิวพูดออกมาไม่น้อย เพราะเขาไม่เคยโดนผู้ชายด้วยกันมาพูดชมแบบนี้ นอกจากจะไม่มีคนชมแล้ว เขายังเคยโดนหาเรื่องบ่อยๆด้วยซ้ำ

“ถ้ากูอยู่ใกล้พี่มันมากๆ กูต้องเป็นโรคไบโพลาร์ตายแน่ๆ” เปาคิดในใจด้วยความหวั่น

ทางด้านอิ้งค์

เมื่อเปาเดินไปเข้าห้องน้ำ อิ้งค์ก็เห็นว่าวิวลุกขึ้นแล้วจะเดินตามเปาไป เขาจึงรีบลุกขึ้นตามแล้วขวางเอาไว้ทันที

“นี่จะไปไหน” อิ้งค์ถามอีกฝ่ายอย่างหาเรื่อง

“กูจะไปขี้ หรือถ้ามึงระแวงว่ากูจะไปวอแวกับเพื่อนมึงละก็..จะตามไปดูกูขี้ก็ได้นะ ไปมั้ย” วิวเลิกคิ้วใส่อิ้งค์นิดๆ อิ้งค์หรี่ตามองวิวอย่างจับผิด แต่ในเมื่ออีกฝ่ายยืนยันออกมาแบบนั้นเขาก็ต้องนั่งลงกลับไปที่เดิม

“ขอพูดมึงกูได้ปะ” ไม้หันไปถามอิ้งค์

“ตามสบายพี่” อิ้งค์พูดบอก เขาหันมองนั่นมองนี่ไปเรื่อยเพราะไม่อยากโฟกัสเพลิงมากนัก

“มึงสนิทกับเพื่อนมึงมานานแล้วเหรอวะ” ไม้ถามขึ้น

“ก็ตั้งแต่มัธยมอ่ะ”

“แล้วนี่เพื่อนมึงมีแฟนกันหมดรึยังวะ” ไม้อมยิ้มแล้วถามออกไป อิ้งค์หันไปสบตากับโอโซนนิดๆและหันหน้าไปมองไม้พร้อมกับรอยยิ้ม

“ถามเหมือนมันไม่ได้อยู่นี่เลยนะพี่”

“เออหน่า ก็กูอยากรู้นี่หว่า” ไม้ยกแก้วขึ้นดื่ม สายตาก็ยังคงจับจ้องไปที่หน้าของอิ้งค์ไม่วางตา ร่างกายขยับเข้าไปใกล้อิ้งค์อัตโนมัติเพื่อรอฟังคำตอบ

“ไอ้ไม้” เสียงเข้มของเพลิงดังขึ้น ไม้หันหน้าไปมองเพลิงที่จ้องเขม็งอยู่ เขาก็รีบผละตัวออกห่างจากอิ้งค์ทันที ซึ่งนี่มันก็ทำให้อิ้งค์ขมวดคิ้วด้วยความไม่พอใจเพราะเห็นการกระทำของเพลิงทั้งหมด

“เพื่อนพี่เป็นอะไรกับผมมากปะ ถ้าหวงเพื่อนมากขนาดนั้นก็จับแดกลงท้องไปเถอะ” อิ้งค์จ้องหน้าเพลิงเขม็ง เพลิงหันไปจ้องหน้าอิ้งค์นิ่งๆ

ต้น ม่อน เข้ม ไม้และตั้มลอบมองหน้ากันทันที พวกเขาต่างก็รู้ว่าความจริงที่เพลิงทำแบบนี้มันหมายความว่าอะไร ถ้าไม่ใช่ว่าเพลิงหึงที่ไม้เข้าใกล้อิ้งค์มากเกินไป

“แล้วมึงจะทำไม” เพลิงเลิกคิ้วถามอิ้งค์กลับไปอย่างกวนๆ

“พูดแบบนี้มึงอยากมีปัญหากับกูมากใช่ปะ” อิ้งค์จ้องหน้าเพลิงอย่างไม่ยอม

“อิ้งค์ ใจเย็นมึง” โอโซนขมวดคิ้วมองหน้าอิ้งค์อย่างเครียดๆ อิ้งค์เองก็หันไปมองหน้าโอโซนนิดๆ แต่ยังไม่ทันที่เขาจะได้พูดอะไรออกไป เสียงของใครบางคนก็ดังขึ้น

“เอ่อ..ขอโทษนะคะ ขอชนแก้วหน่อยได้มั้ยคะ”

อิ้งค์หันหน้าไปมองด้านข้างทันที และพบว่าหญิงสาวมายืนข้างๆพร้อมกับแก้วเครื่องดื่มของเธอ

“ครับ” อิ้งค์ยกยิ้มมุมปากนิดๆแล้วยื่นแก้วชนกับเธอไป

“ขอโทษนะคะ” เธอพูดจบก็เดินมานั่งตักอิ้งค์ทันที อิ้งค์ตกใจเล็กน้อยเพราะไม่ทันตั้งตัว แต่เขาก็ไม่ได้ว่าอะไรเพราะรู้ว่าสถานที่แบบนี้มันต้องมีอะไรแบบนี้อยู่แล้ว

"พอดีเดินมาไกลก็เลยเมื่อยนิดหน่อย..ไม่ว่าอะไรใช่มั้ยคะ” เธอยกแขนคล้องคออิ้งค์แล้วถามเสียงหวาน อิ้งค์ใช้มือข้างที่ว่างอยู่ลูบไล้เอวบางของหญิงสาวเบาๆ

ทั้งหมดหันไปมองหน้าเพลิงทันที ยกเว้นแค่โอโซนที่อมยิ้มมองเพื่อนที่กำลังจะได้สาวกลับบ้านในคืนนี้

“ตามสบายครับ”

“ว่า!”

อิ้งค์หันไปมองด้านข้างทันที เมื่อเสียงที่พูดพร้อมเขาคือเสียงของเพลิง

“อะไรของมึง” อิ้งค์ขมวดคิ้วแล้วถามเพลิงออกไป เพลิงนิ่งเงียบไม่ได้มองมาที่อิ้งค์เลยแม้แต่นิดเดียว เพราะสายตาของเพลิงกำลังมองที่หญิงสาวอยู่

อิ้งค์ทำท่าจะต่อว่าเพลิงที่เข้ามาขัดจังหวะ แต่ก็ต้องเบิกตากว้างด้วยความตกใจเมื่อเพลิงจับแขนของหญิงสาวให้ลุกขึ้นแล้วดันเธอออกไป

“ไอ้เหี้ยเพลิง มึงทำอะไรของมึงเนี้ย!” อิ้งค์ถามเพลิงด้วยความไม่พอใจ

“คุณมายุ่งอะไรด้วย” เธอถามเพลิงด้วยความไม่เข้าใจ เพลิงจ้องหน้าหญิงสาวไม่วางตา ถึงเธอจะดูสวยมากแค่ไหน แต่ในตอนนี้ หญิงสาวไม่ใช่สเปคเขา

“ออกไป” เพลิงพูดเสียงนิ่ง

“เอาละเว้ยๆๆ นี่กูไม่เห็นไอ้เพลิงมีปัญหากับผู้หญิงมานานแค่ไหนแล้ววะเนี้ยย” ไม้หันไปพูดกับตั้ม ม่อนและต้นยิ้มๆ

“ว่าที่เมียข้าใครอย่าแตะ หึหึหึ ประโยคนี้คือประโยคMVPประจำตัวของท่านเพลิงเขาละ” ต้นพูดอย่างขำๆ

เพลิงหันไปมองหน้าอิ้งค์นิดๆ

“มึงอยู่เงียบๆไป” เมื่อพูดจบเขาก็หันไปมองทางหญิงสาวอีกครั้ง

“คนที่คุณกำลังยุ่งวุ่นวายด้วย เขาคือเมียผม ถ้ารู้แล้วก็ออกไปห่างๆได้ละ”

เธอเบิกตากว้างด้วยความตกใจแล้วรีบวิ่งออกไปทันที เพลิงหันไปมองหน้าอิ้งค์นิดๆ

“เมียเหี้ยอะไรของมึงไอ้สัสเพลิง!” อิ้งค์กระชากแขนของเพลิงให้เข้ามาหาตัวเองด้วยความโมโห

“ตอนนี้ยัง แต่อีกหน่อยก็ไม่แน่” เพลิงเลิกคิ้วใส่อิ้งค์นิดๆ อิ้งค์กำหมัดและเตรียมจะต่อยเพลิงด้วยความโกรธแต่โอโซนรีบวิ่งเข้ามาห้ามเอาไว้

“ไอ้เชี้ยอิ้งค์ใจเย็นก่อนมึง!”

“กูจะเอาเลือดหัวมันออกไอ้เหี้ย! มึงปล่อยกูเชี้ยโซน ปล่อยกู!!” อิ้งค์โวยวายด้วยความโมโห

“ปล่อยมึงก็มีเรื่องสิวะ มึงอยู่เฉยๆดิ๊!” โซนพูดบอกพร้อมกับกอดเอวของเพื่อนเอาไว้แน่น

“เฮ้ยย มีเรื่องอะไรกันวะเนี้ยไอ้อิ้งค์ไอ้โซน” เปาที่พึ่งมาถึงรีบวิ่งเข้าไปหาเพื่อนทันทีด้วยความตกใจ

“อะไรกันวะ” วิวขมวดคิ้วเดินเข้าไปอยู่ข้างๆเพลิงแล้วถามขึ้น

“ช่วยกูจับไอ้อิ้งค์ก่อนไอ้เปา” โอโซนหันไปพูดกับเปา เปารีบจับแขนของอิ้งค์คนละข้างกับโอโซนทันที

“มึงเลิกบ้าสักที! เป็นเหี้ยอะไรถึงได้เขานั่งตักแบบนั้นอ่ะห๊ะ!” เพลิงขมวดคิ้วแล้วพูดใส่อิ้งค์ด้วยความโมโหไม่ต่างกัน

“แล้วมึงพูดเหี้ยอะไร! ใครเมียมึงว่ะ” อิ้งค์จ้องหน้าเพลิงเขม็ง

“ก็ถ้ามึงคิดว่ามึงไม่ใช่ มึงก็ไม่จำเป็นที่จะต้องร้อนตัวหรือดิ้นตามที่กูพูดนี่” เพลิงขยับเข้ามาใกล้อิ้งค์นิดๆ อิ้งค์นิ่งไปเมื่อได้ยิน ความจริงสิ่งที่เพลิงพูดออกมามันก็ถูก แต่ด้วยอคติที่เขามีต่อเพลิง มันเลยทำให้เขาไม่สามารถควบคุมอารมณ์โกรธของตัวเองได้

“กูว่าที่พี่มันพูดก็ถูกนะไอ้อิ้งค์ ถ้ามึงไม่ใช่อย่างที่เขาพูดก็ไม่ต้องไปออกอาการมาก เดี๋ยวมันจะเข้าตัว” เปากระซิบพูดบอก

“พวกมึงปล่อยกู” อิ้งค์พูดบอก ในขณะที่สายตาก็ยังคงจ้องหน้าเพลิงไม่ละไปไหน

“พวกกูไม่ปล่อย/พวกกูไม่ปล่อย” เพื่อนทั้งสองพร้อมใจกันประสานเสียงตอบปฎิเสธออกไป

“กูไม่ทำอะไรแม่งหรอกน่า กูจะนั่งแดกแล้ว” อิ้งค์หันไปมองเพื่อนสนิททั้งสองแล้วพยักหน้า เพื่อยืนยันในสิ่งที่ตัวเองพูดไป

“แน่นะมึง” เปาถามด้วยความระแวง

“ก็ถ้าไม่รีบปล่อยให้กูไปแดกเหล้าตอนนี้ กูอาจจะโมโหจริงๆก็ได้ แต่ไม่ใช่กับมันนะ..แต่เป็นพวกมึงนี่แหละ” สิ้นสุดเสียงของอิ้งค์ ทำให้ทั้งเปาและโอโซนต่างปล่อยแขนของอิ้งค์ออกทันที และนั่งลงข้างๆกัน

“มานี่” ม่อนขมวดคิ้วแล้วดึงโอโซนให้กลับมานั่งที่เดิมโดยที่อีกฝ่ายก็ยังไม่ทันตั้งตัว

“ส่วนมึงก็มานี่” วิวก็ดึงเปาให้ขยับมานั่งข้างตัวเองเช่นกัน อิ้งค์ขมวดคิ้วมองเพื่อนตัวเองที่ถูกดึงไปนั่งด้วยความไม่พอใจ เขาเดินเข้าไปหาเปาเพื่อที่จะดึงตัวเปาให้ออกมา แต่เพลิงเดินมาขวางเอาไว้ก่อน ซึ่งเขาเองก็ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายเดินมาใกล้เขาแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ รู้อีกทีเพลิงก็มาจับข้อมือของเขาเอาไว้ก่อนแล้ว

“เหี้ยอะไรของมึงวะ” อิ้งค์ขมวดคิ้วมองเพลิงอย่างไม่เข้าใจ

“มานั่งกับกูนี่” เพลิงพูดจบก็ดึงตัวของอิ้งค์ให้เข้าไปนั่งด้านใน อิ้งค์ขืนตัวเล็กน้อยแต่ก็สู้แรงของเพลิงไม่ได้ จึงทำได้เพียงนั่งลงข้างๆด้วยความไม่พอใจ

“หยุดสะดีดสะดิ้งเหมือนผู้หญิงสักทีเถอะ นั่งข้างกูแค่นี้ไม่ตายหรอก” เพลิงพูดเสียงดุ แล้วดึงเอวของอิ้งค์ให้เข้ามาใกล้

“กูไม่ได้สะดีดสะดิ้ง แต่กูรังเกียจ!” อิ้งค์ตะคอกใส่เพลิงกลับไป

“รังเกียจกูมากใช่มั้ย”

“เออ!” อิ้งค์เชิดหน้าตอบกลับไป

“ได้” เพลิงดึงเอวของอิ้งค์ให้ลุกขึ้นมานั่งที่ตักตนเองพร้อมกับโอบเอวของอิ้งค์ให้แน่นขึ้น อิ้งค์พยายามดิ้นหนี แต่เหมือนยิ่งดิ้นก็ยิ่งโดนรัดแน่นมากขึ้น จนเขารู้สึกเหมือนอะไรมาทิ่มที่บั้นท้ายของเขา

“มึงเอาอะไรมาทิ่มกู”

“มึงก็ลองทายดูสิ” เพลิงเลิกคิ้วใส่อิ้งค์นิดๆ

“มึงเอาปืนมาโดนกูเหรอ!?” อิ้งค์ขมวดคิ้วกันไปมองหน้าเพลิงอย่างหาเรื่อง เพื่อนของเพลิงได้แต่อมยิ้มแล้วลอบมองหน้ากันนิดๆ ส่วนโอโซนและเปาตอนนี้ได้ตาโตด้วยความตกใจเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

“เชี้ยยนี่พี่เพลิงแม่งเล่นปืนเลยเหรอวะ” เปาหันไปถามโอโซนที่นั่งอยู่ข้างๆ โอโซนถอนหายใจออกมานิดๆเมื่อเจอความซื่อของเพื่อนทั้งสอง

“กูว่าไม่ใช่หรอก” โอโซนหันไปพูดกับเปาที่นั่งอยู่ข้างๆด้วยน้ำเสียงจริงจัง

“ถ้าไม่ใช่ปืน..นี่มึงอย่าบอกนะว่าเป็นมีดอ่ะ!” เปาเบิกตากว้างด้วยความตกใจ วิวหัวเราะในลำคอนิดๆเมื่อได้ยิน เขาโอบเอวบางของเปาเอาไว้ ซึ่งเจ้าตัวก็คงมัวแต่จดจ่ออยู่กับเพื่อนทำให้ไม่ได้ผละมือของวิวออกไป

โอโซนไม่ได้ตอบอะไรเปาออกไป เขายกแก้วดื่มด้วยท่าทีปกติ ปล่อยให้เปาสงสัยต่อไป ส่วนม่อนก็มองไปที่ใบหน้าของโอโซนนิดๆ

“มึงรู้?”

“ไม่แน่ใจ แต่ก็ใช่ว่าจะมองไม่ออก” โอโซนหันไปตอบม่อน

“แล้วมึงอยากเจอปืนกูบ้างมั้ยล่ะ” ม่อนกระตุกยิ้มถามโอโซนออกไป โอโซนปลายตามองช่วงล่างของม่อนนิดๆแล้วพูดขึ้น

“ปืนสั้นๆแบบนั้น..ไม่ค่อยอยากเจอเท่าไหร่” พูดจบก็ยกยิ้มมุมปากแล้วหันหน้าไปมองทางเพลิงและอิ้งค์ต่อ

“ปากดีเข้าไปเถอะ เดี๋ยวถึงเวลานั้นมึงจะร้องไม่ออก” ม่อนพูดด้วยความหมั่นเขี้ยว กับการต่อปากต่อคำของเด็กหนุ่ม โอโซนกลับไปมองทางม่อนอีกครั้ง

“ที่ร้องไม่ออกเพราะไม่รู้สึกใช่มั้ยพี่ หึ”

ม่อนขมวดคิ้วมองโอโซนเขม็ง เมื่อโดนโอโซนดูถูกกลายๆ

“ท้าทายกูรึไง” ม่อนถามเสียงเข้ม โอโซนถอนหายใจออกมาหนักๆ

“เลิกเล่นได้แล้วพี่ ผมไม่ได้ชอบผู้ชาย เพราะฉะนั้น..ไม่ต้องมาพูดยั่วให้เสียเวลา นี่ผมเล่นกับพี่มามากพอละ ดูอีกคู่นึงก่อนมั้ย ว่าเพื่อนพี่หรือเพื่อนผม..ใครจะโดนแดกหัวก่อนกัน” โอโซนพูดเสียงเข้ม เพราะเขาคิดว่าม่อนตั้งใจที่จะกวนประสาทเขาเลยพูดออกมาแบบนั้น ซึ่งเขาเองก็คิดว่าตอนนี้ควรพักเรื่องเล่นๆแบบนี้ได้แล้ว เพราะตรงหน้าของพวกเขาตอนนี้มีเรื่องที่ควรสนใจมากกว่า

“หึ” ม่อนเอนตัวพิงโซฟาแล้วดึงโอโซนให้ขยับเข้ามาใกล้ โอโซนเองก็ขี้เกียจที่จะดิ้นรนหนีแล้ว จึงได้แต่ปล่อยเลยตามเลยให้ม่อนได้ทำในสิ่งที่ต้องการ เพราะถ้าม่อนรู้สึกเบื่อเมื่อไหร่ก็คงเลิกยุ่งวุ่นวายกับเขาไปเอง

“ปืน?” เพลิงขมวดคิ้วมองหน้าอิ้งค์ด้วยความสงสัย

“ก็..ไอ้ที่มันอยู่ข้างล่างไง ที่มันทิ่มก้นกูอยู่เนี้ย! นี่มึงกะจะเอามาขู่กูใช่มั้ย เพราะกูขัดขืนมึง มึงก็เลยเอามาขู่กูแบบนี้สินะ” อิ้งค์ถามต่อทันที เพลิงกระตุกยิ้มมุมปากนิดๆ

“ดูมึงมั่นใจมากเหลือเกินนะว่านี่คือปืน”

“ถ้าไม่ใช่แล้วคืออะไร!?” อิ้งค์เชิดหน้าถามกลับไป

“ก็..ไม่รู้สิ แล้วถ้ามันเป็นปืนกูจริงๆละก็..มึงอยากเห็นปืนกูมั้ยละ”

“ทำไมกูต้องอยากเห็น มึงอย่าคิดว่ามึงมีปืนอยู่คนเดียวนะ กูก็มีเหมือนกัน!” อิ้งค์เถียงกลับไปอย่างไม่ยอมแพ้ ถึงแม้ในสิ่งที่เขาพูดไปมันจะเป็นคนโกหกก็ตาม

“ใครบ้าจะมีปืนไว้ครอบครองวะ แต่ถ้ากูพูดออกไปตามตรงมึงต้องหยามกูแน่เลย หึ กูไม่มีทางให้มึงหยามกูได้ง่ายๆหรอก” อิ้งค์จ้องหน้าเพลิงเขม็งพลางคิดในใจ พร้อมกับเชิดหน้าขึ้นนิดๆ

“ในเมื่อมึงไม่อยากดูปืนกู..งั้นกูขอดูปืนมึงหน่อยได้มั้ยละ” เพลิงเลิกคิ้วเป็นเชิงถาม อิ้งค์เบิกตากว้างนิดๆ

“ฉิบหายละ กูจะไปเอาปืนจากไหนมาให้มันละวะเนี้ย!” อิ้งค์คิดในใจอย่างเครียดๆ

“ปะ..ปืนเหรอ” อิ้งค์เผลอกลืนน้ำลายลงคออย่างฝืนๆ

“ผมว่าเราเลิกพูดคุยกันเรื่องนี้แล้วเริ่มสนุกกันดีกว่ามั้ยพี่” โอโซนพูดขัดขึ้น ทำให้อิ้งค์กันไปมองหน้าโอโซนด้วยความขอบคุณ ซึ่งโอโซนเองก็เข้าใจสายตาของอิ้งค์ที่มองมาดี ว่าสื่อถึงอะไร

“เอาๆๆ ชนหน่อยเว้ยๆ” ไม้ยกแก้วขึ้นแล้วรีบเปลี่ยนบรรยากาศให้กลับมาเป็นปกติดังเดิมทันที

อิ้งค์หันหน้าหนีเพลิงนิดๆแล้วยกแก้วขึ้นชนไม้ รวมถึงคนอื่นๆด้วย เพลิงกระตุกยิ้มมุมปากแล้วหันไปสบตาม่อนและวิวพร้อมกับพยักหน้านิดๆ ทั้งม่อนและวิวต่างก็พยักหน้าตอบรับกลับไป เพราะรู้ว่าเพลิงหมายถึงอะไร

“เอาๆๆหมดแก้วๆ ใครไม่หมดลูกหมาเว้ยย” วิวพูดเสียงดังแล้วยกแก้วขึ้นชนอีกครั้ง มือหนายังคงโอบเอวของเปาเอาไว้

“ปล่อยเอวผมก่อนก็ได้มั้งพี่ ผมกินไม่ถนัดอ่ะ” เปาขมวดคิ้วหันไปมองวิวทางด้านหลัง

“อยู่เฉยๆเถอะน่า อย่าเรื่องมากได้มั้ยมึงเนี้ย” วิวแกล้งพูดเสียงดุ นั่นทำให้เปาเงียบลงทันทีเพราะไม่อยากมีปัญหา

โอโซนที่ได้ยินแบบนั้นก็ส่ายหน้าไปมาเล็กน้อย ไม่ใช่ว่าเขามองกลุ่มรุ่นพี่ของเขาที่ไม่ออก ว่าที่เข้ามายุ่งวุ่นวายกับพวกเขาแบบนี้เพราะอะไร แต่ถ้ามันไม่มีอะไรที่เกินขอบเขตในความรู้สึกของเขา เขาก็อาจจะปล่อยผ่านไป เพราะเพื่อนของเขาทั้งสองคนมันควรที่จะรู้ตัวกันด้วยตัวเอง ไม่ใช่ให้ใครมานั่งบอก ส่วนตัวของเขานั้นก็พอได้ยินประวัติของม่อนมาบ้างว่าเจ้าชู้มากแค่ไหน เขาเลยไม่ได้คิดอะไร เพราะรู้ว่าสิ่งที่ม่อนทำก็คงเป็นนิสัยที่ม่อนทำกับคนอื่นๆเหมือนกัน

“เพื่อนพี่จะไม่ทำอะไรเพื่อนผมใช่มั้ย” โอโซนเอนตัวเล็กน้อยแล้วหันไปกระซิบถามม่อน

“ตอนปกติก็คงไม่ แต่ถ้าเมาก็ไม่แน่” ม่อนตอบออกมาตามตรง เขาเอามือวางพาดไปที่ไหล่ของโอโซนนิดๆเพื่อแสดงความเป็นเจ้าของ

“อย่างนี้ผมต้องรีบพาเพื่อนผมออกจากที่นี่มั้ย” โอโซนหันไปมองม่อนแล้วเลิกคิ้วเป็นเชิงถาม

“หึหึ ไม่ทันแล้วมั้ง เพื่อนกูไม่ปล่อยเพื่อนมึงหรอก..รวมถึงกูด้วย” ม่อนยักคิ้วใส่ม่อนนิดๆ

“หน้าม่อสันดานปลาไหลอย่างพี่อ่ะ ผมรู้ทันหมดแล้ว..ไม่ต้องใส่หน้ากากเข้ามาหาผมหรอก ปีหนึ่งคณะเราใครๆก็รู้ชื่อเสียงกลุ่มของพี่ทั้งนั้นว่าเป็นยังไง อย่ามาม่อผมให้ยากพี่ ผมไม่ตกหลุมพรางหรอกนะ” โอโซนยิ้มอย่างผู้ชนะ เมื่อรู้ทันม่อนทุกอย่าง ม่อนยิ้มมุมปากแล้วขยับเข้าไปกระซิบที่ข้างหูของโอโซนเสียงแผ่ว

“กูจะคอยดู ว่าอย่างมึง..จะรู้ทันกูมากแค่ไหน”

โอโซนตัวแข็งทื่อเมื่อรู้สึกถึงสัมผัสบางอย่างที่ติ่งหูของตัวเอง และเขาเองก็รู้ด้วยว่าสิ่งที่ม่อนทำเมื่อกี้มันคืออะไร เขาสูดลมหายใจเข้าลึกๆแล้วหันไปจ้องหน้าม่อนเขม็ง

“มาเลียหูผมแบบนี้ ถ้าผมติดเชื้อแบคทีเรียจากน้ำลายของพี่ แล้วเป็นบ้าขึ้นมา พี่รับผิดชอบครอบครัวผมด้วยละกัน”

สิ่งที่โอโซนพูดออกมาทำให้ม่อนชะงักไปนิด เขารีบถามเด็กหนุ่มด้วยความสงสัย

“นี่มึง..ไม่เขินเลยหรอ”

“คือ..พี่ต้องการให้ผมเขิน? เขินเพราะพี่เลียหูผมอ่ะนะ!? พี่เลียเหมือนหมาแบบนั้นผมจะเขินเพื่อ? มันก็ให้ความรู้สึกเหมือนหมาเลียปากอ่ะพี่ เวลามันดีใจมากๆมันก็เลียมือเลียหน้าเจ้าของ ผมไม่เคยเห็นเจ้าของเขินหมาเลย พี่แม่งโตเป็นควายละยังคิดอะไรปัญญาอ่อนอีกเหรอวะ เฮ้ออ” โอโซนส่ายหน้าไปมาเล็กน้อย ม่อนกระพริบตาปริบๆมองโอโซนอย่างแปลกใจ แต่ภายใต้ความแปลกใจที่ม่อนมีนั้น มันกลับแฝงไปด้วยความถูกใจอะไรบางอย่าง เขายิ้มมุมปากขึ้นมาทันที

“มึงแม่งน่าสนใจว่ะ” ม่อนพูดบอก

“สนใจที่ผมบอกเรื่องหมาอ่ะนะ?” โอโซนขมวดคิ้วแล้วถามม่อนกลับไป ม่อนไม่ได้ตอบอะไรกลับไป เขาหันหน้ามองไปทางเพลิงและอิ้งค์ที่กำลังเถียงกันอยู่อีกครั้ง

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel