ตอนที่ 6
เวลาผ่านไปสักพัก
ตอนนี้ทั้งอิ้งค์และเปา เริ่มไม่ค่อยมีสติอยู่กับตัวแล้ว ยังดีที่โอโซนพอที่จะรู้ตัวอยู่บ้าง เลยคอยดูแลเพื่อนอยู่ห่างๆ
“วู้ววววว เต้นๆๆๆเต้นกานนนน” เปายกแก้วพร้อมกับลุกขึ้นแล้วเต้นส่ายสะโพกไปมา เมื่อดีเจเปิดเพลงแดนซ์ ส่วนอิ้งค์ตอนนี้ได้นอนซบที่อกแกร่งของเพลิงเป็นที่เรียบร้อยแล้วด้วยความเมา
“มึงอยู่นิ่งๆดิ๊! จะลุกยืนทำเชี้ยไรเนี้ย” วิวพยายามที่จะจับตัวของเปาให้นั่งอยู่นิ่งๆ แต่เปาก็สะบัดมือออกแล้วเดินไปนอกโต๊ะ จนวิวต้องรีบลุกตามไปจับตัวของเปาเอาไว้ เพราะเปากำลังจะไปเต้นกับคนอื่น
“เพื่อนมึงนี่เวลาปกติก็ดูนิ่งๆเรียบร้อยดีนะ แต่พอเมานี่..หลุดเหมือนกันนี่หว่า” ไม้หันไปพูดกับโอโซนยิ้มๆ ซึ่งกลุ่มของเพลิงตอนนี้ไม่ได้มีใครเมาเลยสักคน เพราะแต่ละคนค่อนข้างคอแข็งมากพอสมควร และที่สำคัญคือยังดื่มกันไปไม่ได้มากกันเท่าไหร่
“ปกติแหละพี่ ไอ้พวกนี้มันไม่ค่อยได้กินเท่าไหร่ก็เลยคออ่อนอย่างที่เห็น” โอโซนพูดยิ้มๆ
“แล้วมึงไม่เมาบ้างรึไง” ม่อนถามขึ้น โอโซนหันไปมองหน้าม่อนนิดๆแล้วยิ้มมุมปาก
“รอให้ผมเมา เพื่อที่จะเอาผมได้ง่ายๆเหมือนผู้หญิงแล้วก็ผู้ชายหน้าอ่อนๆของพี่หลายๆคนอ่ะนะ หึหึหึ ยากว่ะ”
ม่อนกระตุกยิ้มมุมปากตอบกลับไปเมื่อได้ยิน เขาคิดเอาไว้อยู่แล้วว่าร่างบางจะต้องตอบออกมาแบบนี้
“ปากมึงดีจังวะ กูชักอยากรู้แล้วดิ ว่ารสชาติปากของมึงจะดีเหมือนคำพูดมั้ย” ม่อนขยับหน้าเข้าไปใกล้โอโซนจนปลายจมูกของทั้งคู่แตะกันนิดๆ โดยที่โอโซนไม่ได้หลบหรือถอยห่างเลยแม้แต่น้อย
“จะทำอะไรก็คิดให้มันดีดีนะพี่ พี่เองก็ไม่อยากมีพันธะหรอก..ใช่มั้ย?” โอโซนพูดออกมาอย่างรู้ทัน ยิ่งเขาหนี หรือหลบที่จะปะทะ อีกฝ่ายก็จะยิ่งอยากเอาชนะมากขึ้น ถ้าเขาไม่กลัวและสู้กลับไป มันก็อาจจะทำให้ม่อนถอยและเลิกยุ่งกับเขาไปเอง
“แล้วมึงรู้ได้ไงว่ากูไม่อยากมีพันธะ กูอาจจะอยากมี..กับมึงก็ได้นะ” ม่อนถูไถปลายจมูกของตัวเองกับโอโซนไปมา
หัวใจของโอโซนเริ่มเต้นแรง เมื่อได้ยินคำพูดที่หวานหูกับการกระทำที่อ่อนโยนของม่อน ไหนจะแววตาที่จริงจังของอีกฝ่ายที่ส่งมาให้เขา มันเริ่มทำให้เขาไม่เป็นตัวของตัวเอง
“โซน..มึงจะหวั่นไหวเพราะเรื่องแค่นี้ไม่ได้นะ พี่มันเป็นเสือผู้หญิง ไม่ว่ากับใครมันก็ทำแบบนี้ได้ทั้งนั้น ถึงแม้ว่ามึงจะไม่ได้ปิดกั้นเรื่องเพศ แต่มึงจะมีมันเป็นผัวคนแรกของมึงไม่ได้! อย่างน้อยถ้ามึงจะมีผัว มึงต้องหาที่ดีกว่านี้สิวะ” โอโซนคิดในใจอย่างหมายมั่น และลบความหวั่นไหวเหล่านั้นออกไปจากใจอย่างรวดเร็ว
“หึ ถ้างั้นพี่กล้าเรียกเด็กของพี่มาที่นี่แล้วบอกเลิกมั้ยละ” โอโซนเลิกคิ้วเป็นเชิงถาม ม่อนชะงักแล้วถอยห่างออกจากโอโซนนิดๆ เพียงแค่นี้โอโซนก็รู้แล้วว่าอีกฝ่ายแค่เล่นๆกับเขาจริงๆ
“เก่งแต่ปาก ก็อย่าห้าวนะพี่” โอโซนยิ้มมุมปากอย่างผู้ชนะ พร้อมกับเดินไปหาอิ้งค์ที่กำลังโดนเพลิงลูบเอวแล้วหอมหัวอยู่
“ไอ้อิ้งค์ กลับบ้านได้ละ เดี๋ยวกูไปส่ง” โอโซนดึงแขนของอิ้งค์แล้วเขย่านิดๆเพื่อปลุก
“เดี๋ยวคืนนี้กูดูแลมันเอง มึงดูแลตัวเองไปเถอะ” เพลิงพูดบอก โอโซนเหลือบตามองไปทางเพลิงนิดๆ
“ไม่เป็นไรพี่ มันเพื่อนผม ผมดูแลมันได้” โอโซนพูดเสียงนิ่ง ถ้าเป็นปกติเขาก็คงแอบกลัวๆเพลิงอยู่เหมือนกัน แต่ตอนนี้ด้วยฤทธิ์ของแอลกอฮอล์มันทำให้ความกลัวของเขาหายไป
“มึงมานี่มา” ม่อนดึงแขนของโอโซนให้กลับไปนั่งที่เดิม โอโซนที่ถูกดึงโดยไม่ทันตั้งตัวก็เผลอปลิวไปตามแรงดึงของม่อนนิดๆ
“พี่จะมาห้ามทำไมเนี้ย ผมจะพาเพื่อนผมกลับ” โอโซนหันไปพูดกับม่อนเสียงเข้ม
“เพื่อนกูมันไม่ทำอะไรเพื่อนมึงหรอก อย่าห่วงมากได้มั้ย หรือมึงคิดอะไรกับไอ้หน้าอ่อนนั่น!?” ม่อนขมวดคิ้วจ้องหน้าโอโซนเขม็ง ร่างบางถอนหายใจออกมาหนักๆแล้วจ้องหน้าม่อนกลับไป
“ที่พูดออกมาเนี้ย กลั่นกรองจากสมองที่มีอยู่น้อยแล้วใช่ปะ ความคิดถึงได้ดูปัญญาอ่อนขนาดนี้อ่ะ”
สิ้นสุดเสียงของโอโซน ไม้ ตั้มและต้นต่างก็ลอบมองหน้ากันทันที
“ฉิบหายละ ตั้งแต่กูคบกับไอ้เชี้ยม่อนมา กูยังไม่เคยเห็นใครด่ามันแล้วรอดไปได้เลยสักคน..ไอ้ห่าโซนไม่รอดแน่มึงเอ้ยย เตรียมคุยกับเจ้าของร้านเรื่องร้านพังได้เลย” ตั้มเผลอกลืนน้ำลายลงคออย่างฝืนๆ เพราะในบรรดากลุ่มเพื่อนทั้งหมด เพลิง ม่อนและวิวเป็นคนน่ากลัวมากที่สุดแล้ว
“ไอ้ม่อนไม่ปล่อยไว้แน่มึง” ไม้บอกเสียงเครียด ความจริงเขาเองก็อยากจะเข้าไปช่วยพูดแก้ต่างให้กับโอโซนอยู่หรอก เพียงแค่ตอนนี้พวกเขาอยากจะขอดูสถานการณ์ก่อน ว่าจะเลวร้ายมากแค่ไหน
“มึงอยู่นิ่งๆเถอะ ถึงพวกกูจะเหี้ย แต่พวกกูไม่ทำอะไรคนที่ไม่รู้เรื่องหรอก” ม่อนบอกโอโซนด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง จนโอโซนนิ่งไป
“หื้ม/เชี้ย/อะไรวะเนี้ย” ทั้งไม้ ตั้งและต้นต่างพากันมองเพื่อนสนิทด้วยความตกใจปนงุนงงไม่น้อย เพราะมันผิดจากการคาดเดาของพวกเขาไปมาก
“มึงว่าไอ้เชี้ยโซนมันเล่นของใส่ไอ้ม่อนปะวะ” ตั้มเอียงหน้าเข้าไปใกล้ไม้แล้วถามขึ้น
“ถ้าไอ้ม่อนเป็นขนาดนี้ กูว่าของเขมรแน่ๆ” ไม้เองก็พูดตอบกลับไปเช่นกัน
..
..
วิวขมวดคิ้วเมื่อร่างบางหายออกไปจากสายตาของเขา
“แม่งเอ้ย! หายไปไหนของมันวะ จับได้พ่อจะตีให้ก้นลายเลยคอยดู” วิวพูดกับตัวเองอย่างหัวเสีย แต่แล้วก็ต้องรู้สึกตกใจเมื่อมีผู้หญิงคนนึงมาเดินชน
“อุ้ย ขอโทษค่ะ”
วิวรีบคว้าเอวบางของเธอเอาไว้อัตโนมัติ
“ไม่เป็นไรครับ” วิวพูดบอก แล้วค่อยๆประคองหญิงสาวให้ยืนตรงๆ
“มากับเพื่อนเหรอคะ” เธอเอ่ยถาม
“ครับ” วิวพูดบอกอย่างไม่สนใจ ก่อนที่จะมองหาเปาอีกครั้ง
“อยากชนแก้วด้วย..ต้องทำยังไงเหรอคะ” หญิงสาวจับไปที่ท่อนแขนแกร่งของวิวแล้วลูบไล้เบาๆ วิวหันไปมองเธอนิดๆ ถ้าเป็นแต่ก่อนเขาคงจะตอบสนองเธอไปแล้ว แต่ตอนนี้เขามีสิ่งที่สำคัญมากกว่า นั่นก็คือหาคนเมาที่เดินหายไป
“ขอโทษนะครับ แต่พอดีผมมาหาคน ไม่ได้มาหาคู่..ขอตัวก่อน” วิวพูดจบก็เดินหนีจากหญิงสาวไป
ทางด้านเปา
เขารู้สึกพะอืดพะอมเหมือนอยากจะอ้วก ก็เลยค่อยๆเดินไปที่ห้องน้ำ ดวงตาของเปาพร่าเลือนเล็กน้อย แต่ก็ยังพอรับรู้ว่าสิ่งที่อยู่ตรงหน้ามันเขียนว่าอะไร เปาค่อยๆจับกำแพงแล้วเดินไปที่อ่าง ก่อนจะเปิดน้ำแล้วล้างหน้าเพื่อให้ความร้อนในร่างกายมันหายไป ดีที่ภายในห้องน้ำไม่มีใครยืนอยู่ เขาเลยไม่ต้องเดินชนใครเข้า
“ให้ช่วยมั้ยครับ” เสียงกระซิบที่ข้างหูทำให้เปาค่อยๆหันไปมอง แต่ใบหน้าของอีกฝ่ายไม่สามารถทำให้เปารับรู้ได้ว่ามีลักษณะยังไง เขารู้แค่ว่าอีกฝ่ายอยู่ใกล้เขามาก
“มะ..ไม่ อึก ไม่เป็นไรครับ” เปาพูดบอก และทำท่าจะเดินเลี่ยงไปอีกทาง แต่ชายคนเดิมก็ยืนขวางเขาเอาไว้
“ให้ผมช่วยดีกว่านะ..คุณจะได้รู้สึกดีขึ้นด้วยไง”
เปารับรู้ได้ถึงมือปลาหมึกที่กำลังโอบเอวของเขาเอาไว้ เปาพยายามที่จะดึงมือของอีกฝ่ายให้ออกไป แต่ดูเหมือนแรงของเขาจะไม่มากพอที่จะทำแบบนั้นได้
“ปะ..ปล่อยผมไปนะ”
“หึหึหึ น่ารักจัง..” ชายหนุ่มค่อยๆขยับใบหน้าเข้าไปใกล้เปา แล้วใช้ปลายจมูกสูดดมความหอมที่แก้มขาว เปาตัวสั่นด้วยความกลัว แต่เรี่ยวแรงของเขาตอนนี้มันเหลือน้อยมากเหลือเกิน เขาหันหน้าหนีอีกฝ่ายแต่ดูเหมือนหนียังไงก็หนีไม่พ้น เพราะมือที่โอบเอวของเขาอยู่ ดันให้เขาแนบชิดอีกฝ่ายมากยิ่งขึ้น
“คุณตัวหอมดีนะ”
เปาที่ได้ยินแบบนั้น ความรู้สึกที่รังเกียจอีกฝ่ายก็ยิ่งมีเพิ่มมากขึ้น แว๊บแรกเขาคิดถึงหน้าวิวขึ้นมา ความรู้สึกที่วิวสัมผัสเขามันไม่ได้ทำให้เขานึกรังเกียจเหมือนชายแปลกหน้าที่สัมผัสในตอนนี้ และถ้าหากอีกฝ่ายยังอยู่ตรงนี้..เขาก็คงไม่ต้องถุกคนอื่นสัมผัส
“ไอ้สัส!!”
พลั่ก!
เปาตัวเซเล็กน้อยเมื่อชายคนเดิมถูกกระชากตัวออกไปจากเขาด้วยฝีมือของใครบางคน เปากุมหัวตัวเองนิดๆเพราะรู้สึกมึนเล็กน้อย หลังจากดีขึ้นแล้วเปาจึงมองภาพตรงหน้าชัดๆ และคนตรงหน้าที่ทำให้เปาเบิกตากว้างด้วยความตกใจและหายจากอาการมึนหัวไป นั่นก็คือวิว แต่สิ่งที่ทำให้เขาตกใจมากกว่านั่นก็คือ วิวกำลังง้างมือแล้วต่อยไปที่ชายแปลกหน้าอย่างแรง
ผัวะ!
“อึ่ก!”
“อย่ามายุ่งกับคนของกูอีก!!” วิวชี้หน้าอีกฝ่ายด้วยความโกรธ
“มะ..มึงเป็นใคร” อีกฝ่ายค่อยๆลุกขึ้นอย่างช้าๆ แล้วจ้องหน้าวิวด้วยความโกรธเช่นกัน
“แล้วมึงอ่ะเป็นใคร กล้าดียังไงมายุ่งกับคนของกู!” แววตาที่ดุดันของวิว ทำให้ชายคนนั้นถอยห่างออกไปทันที
“ออกไป!!!” วิวชี้ไปที่ประตูห้องน้ำ พร้อมกับตะคอกใส่อีกฝ่ายเสียงดังลั่น นั่นทำให้เปารู้สึกสั่นกลัวไม่น้อย เมื่อเห็นอีกด้านนึงของวิวที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน
ชายคนเดิมรีบกุลีกุจอวิ่งออกไปจากห้องน้ำด้วยความรวดเร็ว
“ส่วนมึง..แรดนักนะ ให้มันจับตัวได้ยังไง ห๊ะ!” วิวกระชากแขนของเปาให้เข้ามาหาตัวด้วยความโมโหที่อีกฝ่ายให้คนอื่นจับตัวได้ง่ายๆ แรงบีบจากมือแกร่งทำให้เปาหน้าแหยด้วยความเจ็บ
“จะ..เจ็บ”
“มานี่เลยมึง!” วิวกระชากแขนของเปาให้ออกจากห้องน้ำทันที เปาเองก็พยายามก้าวเท้าให้ทันคนตรงหน้า ถึงแม้เขาจะมึนหัวมากแค่ไหนก็ตาม
..
..
เพลิงที่เห็นว่าเวลาเริ่มดึกแล้ว เขาจึงสั่งให้เพื่อนเรียกพนักงานมาคิดเงิน เพื่อที่จะพาอิ้งค์กลับ
“ปายยยหนายยยยย” เสียงอ้อแอ้ของอิ้งค์พูดขึ้น เพลิงโอบเอวบางเอาไว้แน่น เพราะอีกฝ่ายเอาแต่จะเต้นท่าเดียว
“ให้ผมพามันกลับดีกว่าพี่” โอโซนพยายามเดินเข้าไปหาอิ้งค์ แต่ถูกมือของม่อนโอบเอวเอาไว้
“ปล่อยเพื่อนมึงเถอะ กูบอกมึงว่าไง” ม่อนเลิกคิ้วมองโอโซนนิ่งๆ โอโซนขมวดคิ้วนิดๆแล้วมองไปยังเพลิงกับอิ้งค์สลับกันไปมา
“กูไม่ทำอะไรเพื่อนมึงหรอก..ถ้าไม่จำเป็น” ประโยคหลังที่เพลิงพูด มันทำให้โอโซนชะงักไปนิด
“เพื่อนผมมันไม่เหมือนผู้หญิงหรือผู้ชายของพี่ ผมจะไม่ยุ่งวุ่นวายอะไรเรื่องของพี่มาก เพราะพี่เป็นรุ่นพี่ผม..แต่ถ้าพี่ยุ่งกับมันเมื่อไหร่..ผมก็ไม่ไว้หน้าพี่เหมือนกัน” โอโซนพูดเสียงนิ่ง แล้วจ้องหน้าเพลิงอย่างจริงจัง เพลิงเองก็ไม่ได้พูดอะไรตอบกลับไป แต่สายตาของเขาก็ไม่ได้ละไปจากสายตาของโอโซนเลยแม้แต่น้อย
“ส่งมันให้ถึงห้องด้วยแล้วกัน” โอโซนพูดแค่นั้นก็เดินออกจากโต๊ะไป
“เด็กมึงดุเหมือนกันนี่หว่าไอ้ม่อน” ไม้พูดขึ้นยิ้มๆ
“ทั้งดุทั้งดื้อเลยแม่ง” ม่อนถอนหายใจออกมาหนักๆ
“ไม่รีบตามไปเหรอวะ เดี๋ยวก็โดนหมาคาบไปแดกหรอกมึง เมื่อกี้กูเห็นโต๊ะข้างหลังแอบมองไอ้โซนตั้งหลายรอบนะเว้ย” ตั้มพูดบอก ยังไม่ทันที่ม่อนจะฟังจบ ขายาวก็รีบเดินตามโอโซนไปทันที
“หึหึหึ” ตั้มหัวเราะออกมาเล็กน้อย
“มึงก็ไปแกล้งมัน” ไม้ส่ายหน้าไปมาอย่างอ่อนใจ
“กูชอบเห็นหมามันคลั่ง” ตั้มยักคิ้วใส่ไม้นิดๆ ไม้ขมวดคิ้วมองตั้มด้วยความสงสัย
“ไอ้ม่อนเป็นหมา!?”
“มึงคิดว่าสภาพอย่างแม่งจะเป็นอะไรได้อีกนอกจากหมา”
“เออว่ะ อันนี้กูเห็นด้วย” ไม้พยักหน้านิดๆ
“แล้วนี่มึงจะพาไอ้น้องนี่ไปนอนที่ไหนวะ” ต้นถามเพลิงด้วยความสงสัย
“ห้องกู” เพลิงตอบสั้นๆ
“ปายๆๆ วู้วววว เด้า เด้า เด้า จังได๋กะบ่หลุดดดด” อิ้งค์โยกตัวไปมา จนเพลิงขมวดคิ้วมุ่นด้วยความหงุดหงิดเล็กน้อย ถึงแม้ว่าตัวของอิ้งค์จะไม่ได้หนักมากเท่าไหร่ แต่ถ้าอีกฝ่ายยังขยับไปมาแบบนี้ ก็ทำให้เพลิงเหงื่อออกด้วยความเหนื่อยได้เหมือนกัน
“กูว่าคนที่น่าเหนื่อยใจมากที่สุดแม่งคือไอ้ห่าเพลิงว่ะ” ไม้กระซิบบอกกับเพื่อนทั้งสองยิ้มๆ
“นั่นดิ แล้วนี่ไอ้วิวมันไปตามเด็กมันถึงไหนวะ แม่งหายไปเลย” ต้นถามด้วยความสงสัย
“ก็คงพากลับห้องมันแล้วจับแดกเหมือนเดิมนั่นแหละ” ไม้ยกยิ้มมุมปากนิดๆ
“หึหึหึ” ทั้งหมดหัวเราะออกมาในลำคอ
“กูพามันไปก่อน” เพลิงพูดบอก ก่อนที่จะโอบเอวบางให้แนบชิดกับตัวมากกว่าเดิม ถึงแม้ว่าอิ้งค์จะพยายามดิ้นมากแค่ไหน แต่ด้วยกำลังของเพลิงที่มันมากกว่า เลยสามารถทำให้อิ้งค์อยู่ในอ้อมแขนของตัวเองได้ เพื่อนทั้งสามพยักหน้ากันยิ้มๆแล้วเดินตามหลังของเพลิงและอิ้งค์ไป