บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 3

“ถ้ามึงไม่ถอยก็ได้..ถ้างั้นมึงก็อย่ามาด่ากูทีหลังแล้วกันนะ ถ้ากูจะทำอะไรลงไป” อิ้งค์พูดด้วยสีหน้านิ่งๆ เพลิงขยับหน้าเข้าไปใกล้อิ้งค์มากยิ่งขึ้นจนปลายจมูกชนเข้าหากัน ม่อนเองก็ได้แต่ยืนนิ่งขวางไว้แล้วหันไปมองวิวพร้อมกับรอยยิ้ม วิวเองก็พยักหน้าให้ม่อนนิดๆแล้วยิ้มกลับไปเช่นกัน

อิ้งค์เริ่มนับหนึ่งถึงสามในใจแล้วจัดการทำในสิ่งที่ตัวเองคิดเอาไว้ทันทีเมื่อความอดทนหมดลง

“เอาหน้าหมาๆของมึงออกไป!” อิ้งดึงผมหน้าของเพลิงแล้วกระชากออก จนเพลิงหงายหลัง

“โอ๊ย!!”

การกระทำของอิ้งค์ทำให้คนที่อยู่ในห้องนี้ต่างพากันอ้าปากค้างด้วยความอึ้ง

“อุ๊บ! ไอ้เชี้ยย ฮ่าๆๆๆๆ” ม่อนถอยหลังห่างจากอิ้งค์แล้วยกมือปิดปากขำออกมาทันที ส่วนวิวก็อมยิ้มมองภาพตรงหน้าด้วยความขำขัน

“ไอ้อิ้งค์!” เปาอ้าปากค้างเบิกตากว้างมองมือของเพื่อนที่จิกผมของเพลิงอยู่

“กูบอกแล้วว่าอย่าด่ากู” อิ้งค์พูดดักเพลิงทันที แล้วจ้องหน้าเพลิงด้วยความโมโห เขาเห็นแววตาที่วาวโรจน์ของเพลิงนิดๆและมันก็มลายหายไปด้วยความเร็ว กลายเป็นแววตาที่เขายากจะคาดเดา แต่ที่เขารู้สึกได้คือไม่ใช่แววตาของคนที่กำลังโกรธเขา

“ปล่อยผมกู” เพลิงจับข้อมือข้างที่อิ้งค์จับผมตัวเองอยู่

“มึงต้องเอาตีนถอยออกไปให้ห่างตัวกูสามก้าว ไม่งั้น..ผมหน้ามึงหลุดแน่!” อิ้งค์จ้องหน้าเพลิงเขม็ง เพื่อบอกให้อีกฝ่ายรู้ว่าครั้งนี้เขาเอาจริงแน่นอน

“มึงดึงผมกูอยู่แบบนี้ มึงจะให้กูถอยยังไงห๊ะ!” เพลิงขึ้นเสียงใส่อิ้งค์ เพราะอิ้งค์เอาแต่จิกผมหน้าเขาแน่นมาก

“ถอยแค่ตีนมึงไง มึงไม่เคยเรียนลีลาศเหรอไง ก้าวชิดก้าวชิดอ่ะ ห๊ะ!” อิ้งค์ท้าวเอวมองหน้าเพลิงอย่างกวนๆ แต่มือที่จิกผมของเพลิงอยู่ก็ไม่ได้ผ่อนแรงลงเลยแม้แต่น้อย เพลิงจึงจำเป็นที่จะต้องทำตามที่อิ้งค์บอกอย่างเลี่ยงไม่ได้เพราะไม่อยากผมหลุด เมื่ออิ้งค์เห็นว่าเพลิงยอมทำตามที่ตัวเองบอกแล้ว เขาจึงค่อยๆปล่อยผมของเพลิงให้เป็นอิสระ

“ด่ากูไม่ได้นะ กูเตือนมึงแล้วว่าให้ถอยไป เตือนหลายรอบมากด้วย” อิ้งค์ชี้หน้าเพลิงแล้วพูดดักขึ้นมาอีกครั้ง เพลิงจ้องหน้าอิ้งค์นิ่งๆแล้วจัดผมตัวเองให้เหมือนเดิม

อิ้งค์เชิดหน้าขึ้นนิดๆแล้วหันไปมองเปา คิ้วเรียวสวยขมวดเข้าหากันทันทีเมื่อเห็นท่านั่งของเพื่อน ที่มีมือของวิวโอบเอวเอาไว้ข้างหน้า

“ไอ้เปา! มึงไปนั่งตักมันทำไม ออกมา!” อิ้งค์เดินตรงเข้าไปหาเปาแล้วดึงแขนของเพื่อนให้ออกมาทันที เปาเองก็ถลาเข้าไปหาอิ้งค์ด้วยใบหน้าแดงๆเพราะเขาเองก็พึ่งรู้สึกตัวว่ากำลังนั่งในท่าไหน อิ้งค์หันไปมองหน้าเพลิงอีกครั้ง

“วันหลังอย่ามากวนตีนกูอีก เจอหน้ากูถ้าเลี่ยงได้ก็เลี่ยงซะ ไม่งั้น..หนังหัวมึงหลุดแน่” อิ้งค์พูดเสียงเชิดๆแล้วดึงเพื่อนให้ออกจากห้องพยาบาลทันที

คล้อยหลังที่อิ้งค์กับเปาเดินออกไปแล้ว ม่อนกับวิวก็เดินไปนั่งที่เตียงพร้อมกับจ้องหน้าเพลิงยิ้มๆ

“เด็กมึงแม่งแสบใช้ได้เลยว่ะไอ้เพลิง” วิวพูดขึ้น

“แม่งดื้อฉิบหาย” เพลิงส่ายหน้าไปมาเล็กน้อย แต่น้ำเสียงกลับมีความเอ็นดูอีกฝ่ายมากกว่าจะโกรธเคือง

“มึงเองก็ร้ายเชี้ยวิว ทำเป็นว่าเด็กมัน” ม่อนผลักหัวของวิวเบาๆ

“ร้ายอะไรของมึงวะ” วิวทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้

“แหมไอ้สัส นั่งกอดเอวน้องมันขนาดนั้น อย่าคิดว่ากูไม่เห็นนะว่ามึงแอบหอมไหล่น้องมันด้วยตอนหัวเราะอ่ะ ร้ายไอ้สัสร้ายยย” ม่อนหรี่ตามองเพื่อนอย่างจับผิด

“แล้วทีมึงอ่ะ เข้าไปตีซี้ไอ้เด็กโอโซนนั่น ก็เพราะอยากจะได้มันไม่ใช่รึไง” วิวเลิกคิ้วถามม่อนกลับไป ม่อนอึกอักเมื่อได้ยิน

“พอๆ เอาเรื่องของไอ้เชี้ยเพลิงก่อนดีกว่า” ม่อนยกมือห้ามแล้วหันไปมองหน้าเพลิงอีกครั้ง

“เด็กมึงพยศน่าดูเลยว่ะเพลิง จะเอาไงต่อละทีนี้” ม่อนถามขึ้น

“กูปล่อยให้ตายใจไปก่อน..ถึงเวลานั้นขึ้นมา..กูไม่ปล่อยให้มันรอดแน่” เพลิงพูดเสียงเข้ม

“นี่ถ้าไอ้เชี้ยเข้มได้ยินนะ กูว่าแม่งต้องยืนยิ้มมุมปากแน่ๆ” ม่อนส่ายหน้าไปมาเล็กน้อย

“หึหึ กูก็ว่างั้นแหละ แม่งเสือกหนีไปส่งรายงานอาจารย์เฉยเลย” วิวยกยิ้มมุมปากนิดๆ

“มึงโทรตามมันละกันว่าถ้าเสร็จแล้วให้ตามไปที่ห้องไอ้เพลิง” ม่อนพูดบอก

“แดกเหล้า?” วิวเลิกคิ้วเป็นเชิงถาม ม่อนยักคิ้วใส่วิวนิดๆ

“แดกได้?” วิวหันไปมองหน้าเพลิงแล้วถามออกไป

“เออ” เพลิงพยักหน้านิดๆ

“โอเคเบตง” วิวพูดจบก็ต่อสายตรงไปหาเข้มทันที

เช้าวันต่อมา

มหาลัย

“มึงว่าอะไรนะ!!” อิ้งค์หันหน้าไปมองโอโซนทันที เมื่อได้ยินในสิ่งที่ไม่เข้าหู

ตอนนี้พวกเขาอยู่กันที่โรงอาหารคณะสถาปัตย์เพราะโอโซนมีงานที่ต้องส่งให้อาจารย์ในตอนเช้า พวกเขาเลยเลือกที่จะมากินข้าวที่คณะนี้แทน ถึงแม้อิ้งค์จะไม่อยากเข้ามาเหยียบที่นี่เลยก็ตาม แต่เพราะสงสารเพื่อนที่ต้องเสียเวลาเดินทางไปมาระหว่างตึก ทำให้เขาลดทิฐิที่มีต่อคณะนี้ลงและมานั่งรอโอโซนที่โรงอาหาร ดีที่ในช่วงเช้าแบบนี้ไม่ค่อยมีใครมาเท่าไหร่นัก

“คะ..คืองี้นะมึง เมื่อวานนี้อ่ะพี่ปีสูงแม่งบอกกูมา ว่าให้พวกพี่ระเบียบไปเข้าร่วมประชุมกับคณะสถาปัตย์ซึ่งต้องประชุมกับเฮดว๊ากของคณะนี้เท่านั้น และอีกอย่างคือ..มึงต้องไปขอใบกฎระเบียบของการที่จะต้องดูแลพวกปีหนึ่งจาก..เอ่อ..”

“มึงอย่าบอกกูนะว่า..” อิ้งค์ถลึงตาใส่โอโซนเมื่อนึกถึงชื่อคนคนนึงขึ้นมาได้

“เออก็..นั่นแหละ มึงต้องไปขอใบจาก..พี่เพลิงว่ะ” โอโซนทำหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออกหลังจากบอกอิ้งค์ไป

“เชี้ยยย ใครเป็นคนต้นคิดวะ..ฉิบหายละไง” เปาหน้าเครียดทันทีเมื่อได้ยิน

“จะใครเป็นใครกูไม่สน กูสนแค่ว่าทำไมกูต้องไปรวมกับไอ้เหี้ยเพลิงด้วย! กูกับมันคนละคณะกัน การรับน้องแต่ละคณะแม่งก็คนละแบบแล้วปะวะ จะให้กูไปขอใบเชี้ยไรอีก กู ไม่ ไป!!” อิ้งค์ยืนยันคำขาดด้วยอารมณ์ฉุนเฉียวไม่น้อย

“กูก็รู้ว่ามึงไม่อยากไป แต่ทำไงได้วะ ก็..ไอ้พี่ฟ้า พี่รหัสมึงอ่ะเป็นคนมาพูดกับกูเองนี่หว่า แถมมันยังให้กูมาพูดกับมึงอีก เพราะมันรู้ว่ามึงไม่ค่อยถูกชะตากับพี่เพลิง” โอโซนพูดเสียงอ้อมแอ้ม

“ไม่ใช่แค่กูไม่ถูกชะตา แต่กูเกลียดเลยแหละ! แล้วนี่ไอ้เหี้ยพี่ฟ้ามันไปยุ่งอะไรกับคณะมึงด้วย เสือกไปทั่วจริงๆพี่กู” อิ้งค์พูดอย่างหัวเสีย เขาลุกขึ้นยืนทันที นั่นทำให้เปากับโอโซนลุกขึ้นยืนตาม

“เดี๋ยวกูจะไปคุยกับแม่งเอง!”

“เฮ้ยๆๆๆ มึงใจเย็นก่อนไอ้อิ้งค์!” เปารีบคว้าตัวของอิ้งค์เอาไว้ทันที

“มึงให้กูเย็นเหี้ยอะไร กูเกลียดขี้หน้ามันยิ่งกว่าขี้หมาตอนเช้าที่กูเหยียบมาขนาดนี้ แต่มึงจะให้กูไปขอใบกฎระเบียบกับมันเนี้ยนะ! มึงให้กูกลืนขยะเปียก ดีกว่าให้กูกลืนน้ำลายและผิดคำพูดตัวเอง!” อิ้งค์จ้องหน้าเปาเขม็ง

“แต่นี่มันงานของคณะมึงไม่ใช่เหรอวะอิ้งค์ และมึงก็เป็นหัวหน้าของพี่ระเบียบด้วย มึงจะทิ้งหน้าที่ของมึงเพราะเรื่องส่วนตัวแค่นี้เหรอวะ” โอโซนขมวดคิ้วแล้วพูดบอกเสียงเครียด ซึ่งมันก็ทำให้อิ้งค์พอที่จะนิ่งและใจเย็นลงได้บ้าง

“แม่งเอ้ยยยไอ้เหี้ยพี่ฟ้า ไอ้สัส!” อิ้งค์นั่งลงด้วยความโมโห พลางนึกเคืองพี่รหัสของตัวเองอยู่ในใจ

“พี่มันก็ได้รับมอบหมายมาจากปู่รหัสอีกทีนั่นแหละ จะไปโทษพี่มันคนเดียวก็ไม่ถูกหรอก” โอโซนพยายามพูดอย่างใจเย็น

“เฮ้อ! แม่งเอ้ยยย ทำไมต้องเป็นกูด้วยวะเนี้ย!” อิ้งค์ถอนหายใจออกมาหนักๆ

“เอาหน่ามึง แค่ไปขอใบจากพี่มันที่คณะ แป๊บเดียวก็คงไม่มีอะไรหรอก เดี๋ยวพวกกูไปด้วย” เปาพูดบอก

“พวกมึงก็ลองไม่ไปกับกูดูสิ กูโกรธแน่” อิ้งค์มองเปาและโอโซนสลับกันไปมา

“ไปอยู่แล้วหน่า!!” ทั้งคู่พูดออกมาพร้อมกันยิ้มๆ

“เออมึง กูลืมบอกไปอีกเรื่อง” โอโซนพูดอย่างนึกขึ้นได้

“อะไรอีกวะ”

“ไอ้ใบระเบียบที่ต้องใช้กับน้องปีหนึ่งอ่ะ มัน..ต้องใช้ลายเซ็นพี่ปีสูงด้วย ซึ่ง..ต้องให้ปีสูงที่เป็นเฮดว๊ากเซ็นอนุมัติเท่านั้นว่ะ ไม่งั้นใบกฎที่มึงได้มา..แม่งใช้ไม่ได้ผล และมันอาจจะมีปัญหาตอนที่รับน้องด้วยนะเว้ย” โอโซนขมวดคิ้วด้วยความกังวล

“งั้นกูก็ให้พี่กูเซ็นก็ได้” อิ้งค์พูดบอก

“ถ้ามันง่ายแบบนั้นกูแม่งจะไม่ลำบากใจที่ต้องบอกมึงเลยอิ้งค์” โอโซนถอนหายใจออกมาหนักๆ เปากับอิ้งค์มองหน้ากันทันที

“มึงหมายความว่ายังไงวะ” เปาถามต่อ

“คือ..ใบมันอยู่ที่พี่เพลิงใช่ปะ แล้ว..มันก็ต้องให้พี่เขาเซ็นเท่านั้นว่ะ เพราะในบรรดารุ่นพี่ปีสามทั้งหมด พี่เพลิงแม่งใหญ่ที่สุดแล้ว ไม่มีใครกล้ากับพี่มันเลยสักคน”

“แล้วทำไมแม่งไม่เซ็นมาเลยทีเดียวว่ะ! ใบก็อยู่ที่แม่งแล้วไม่ใช่เหรอ ยังจะเสือกให้กูไปขอเหี้ยอะไรอีกเนี้ย กูไม่ได้อยู่ปีหนึ่งนะไอ้สัสที่ต้องมารอขอลายเซ็นรุ่นพี่อ่ะ” อิ้งค์พูดอย่างหัวเสีย

“กูก็ไม่รู้อ่ะ พี่ฟ้าแม่งสั่งมาแบบนี้อ่ะ”

“โว๊ยยยยยยย นี่แม่งเรื่องเชี้ยไรกันวะเนี้ย เจอแม่งเมื่อวานไม่พอ ยังเสือกต้องมีเรื่องให้เจอวันนี้อีก นี่กูจะหนีแม่งไปไหนไม่ได้เลยใช่มั้ยเนี้ย!” อิ้งค์ทึ้งหัวตัวเองไปมาด้วยความโมโห

“เอ่อ..กูต้องโกรธด้วยมั้ยอ่ะ” เปากระพริบตาปริบๆมองท่าทางของอิ้งค์ด้วยความหวาดๆ

“ไม่ต้องไอ้สัส!” อิ้งค์มองขวางเปาเล็กน้อย

“ปล่อยมันมึง” โอโซนพยักหน้าให้เปานิดๆ เปาเองก็พยักหน้าตอบกลับไป

..

..

ตอนบ่าย

เปา อิ้งค์และโอโซนยืนอยู่ที่หน้าห้องประชุมของคณะสถาปัตย์ ซึ่งอยู่ชั้นสามของตึก พวกเขายืนมองป้ายที่อยู่หน้าห้องมาได้สักพักแล้ว

-ห้องปีสาม-

“มึงจะให้กูเข้าไปก่อนมั้ย” โอโซนถามขึ้น เพราะรู้ว่าเพื่อนไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่นัก ถึงแม้เวลามันจะผ่านมาหลายชั่วโมงแล้วก็ตาม แต่เพื่อนของเขาก็ยังหน้าบึ้งอยู่ เสียงในห้องดังขึ้นเป็นระยะเหมือนกับว่าคนที่อยู่ข้างในกำลังพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน

“มึงไปเอาให้กูเลยไม่ได้เหรอวะ กูไม่อยากเจอหน้าแม่งอ่ะ!” อิ้งค์เกิดอาการงอแงขึ้นมาเล็กน้อย เพราะเขาไม่อยากเจอหน้าของเพลิงจริงๆ

“กูก็อยากเอาให้มึงนะ แต่ถ้าพวกพี่ฟ้ามันรู้อ่ะ มึงจะโดนด่าว่าไม่มีความรับผิดชอบนะอิ้งค์” โอโซนพูดขึ้น

“เฮ้อออกูละเบื่อฉิบหาย” อิ้งค์กรอกตามองบนนิดๆ แต่ก็เอื้อมมือไปเคาะประตูห้อง

ก๊อกๆๆ

รอได้ไม่นานประตูก็ถูกเปิดออก

“อ่าววเด็กใครมาครับเนี้ย” เสียงของรุ่นพี่คนนึงซึ่งไม่ค่อยคุ้นหน้าคุ้นตาเท่าไหร่นัก แต่ถ้าให้อิ้งค์ลองเดาดูก็น่าจะเป็นเพื่อนกลุ่มเดียวกับเพลิง ผู้ชายอีกสองคนที่ไม่คุ้นหน้าเดินเข้ามาสมทบอีกครั้ง

“มาหาไอ้เชี้..ผมมาหาพี่เพลิง” อิ้งค์ถอนหายใจออกมาหนักๆเมื่อพูดจบ ถึงเขาจะไม่อยากให้เรียกอีกฝ่ายว่าพี่ก็ตาม แต่เพราะไม่อยากให้เกิดปัญหาขึ้นตามหลัง เขาก็จำเป็นที่ต้องเรียกเพลิงดีดีต่อหน้าคนอื่น

“ไอ้เพลิงเว้ย! เด็กมึงมาหา” อีกฝ่ายตะโกนเข้าไปข้างในอีกครั้ง รอได้ไม่นานเพลิงก็เดินแทรกเพื่อนออกมานอกห้องพร้อมม่อนกับวิวและเข้ม อิ้งค์กัดฟันด้วยความโกรธเพราะเขาไม่ชอบที่อีกฝ่ายเรียกเขาแบบนั้น เปากับโอโซนมองหน้ากันอย่างเครียดๆ พวกเขาได้แต่ภาวนาในใจว่าไม่ให้เพื่อนระเบิดลง

“มึงคอยจับมันไว้ด้วยนะไอ้เปา กูคนเดียวเอาไม่อยู่แน่ๆ” โอโซนกระซิบบอกเปา เปาพยักหน้างึกงัก

“มีอะไร” เพลิงเลิกคิ้วเป็นเชิงถาม

“ใบกฎระเบียบของน้องปีหนึ่ง” อิ้งค์แบมือต่อหน้าเพลิง แต่สายตาไม่ได้อยากมองไปที่เพลิงเท่าไหร่นัก

“กฎอะไรวะ” เพลิงถามขึ้นด้วยน้ำเสียงกวนๆ มุมปากมีรอยยิ้มนิดๆ

อิ้งค์หันขวับไปมองทันทีและพบว่าอีกฝ่ายกำลังเล่นสงครามประสาทกับเขาอยู่ อิ้งค์ทำท่าจะพุ่งเข้าไปหาเพลิงแล้วด่าแต่เปากับโอโซนก็จับแขนของอิ้งค์เอาไว้ก่อน

“ใจเย็นมึง/ใจเย็นมึง”

อิ้งค์หันไปมองหน้าเพื่อนนิดๆแล้วพยายามที่จะสูดลมหายใจเข้าลึกๆ

“ก็ใบกฎที่พี่รหัสของผมเขาฝากไว้กับพี่เพลิงไงครับ” อิ้งค์กัดฟันพูดใส่เพลิงไป ซึ่งทุกคนต่างก็รู้ว่าน้ำเสียงที่อิ้งค์ใช้มันคือการแดกดันอย่างนึงเหมือนกัน

“พอดีใบมันอยู่ในห้อง แต่ถ้าน้องอยากได้ ก็คงต้องเข้าไปเอาแล้วละครับ” เพลิงเองก็ใช้น้ำเสียงเดียวกันกับอิ้งค์ตอบกลับไปแต่เน้นเสียงใส่อิ้งค์เล็กน้อย

อิ้งค์กำหมัดด้วยความโกรธ เขาจ้องหน้าเพลิงเขม็ง

“ไอ้เชี้ยเพลิง น้องมันโกรธแล้วนะเว้ยมองมึงตาเขียวปั้ดเลย” ม่อนพูดขึ้นยิ้มๆ

“น้องโกรธเหรอครับ ถ้าโกรธเนี้ยก็กลับไปก็ได้นะ” เพลิงกระตุกยิ้มมุมปากนิดๆ

“ไออิ้งค์..ใจเย็นก่อนมึง นึกถึงน้องๆไว้ ถ้ามึงทำอะไรพี่เขา..คนที่จะซวยคือมึงนะ” เปาพยายามพูดเตือน ถึงแม้เขาจะรู้สึกเคืองๆที่เพลิงเอาแต่พูดกวนเพื่อนสนิทของเขาอยู่ก็ตาม แต่เขาเองก็มีสติมากพอที่จะคิดก่อนที่จะทำอะไรลงไป

“พี่ไปหยิบใบกฎระเบียบที่จะให้น้องๆออกมาให้ผมดีดีดีกว่า ก่อนที่ผมจะหมดความอดทน” อิ้งค์จ้องหน้าเพลิงนิ่งๆ เพลิงเบี่ยงตัวหลบเล็กน้อยแล้วผายมือเข้าไปทางด้านในเพื่อให้อิ้งค์ได้เข้าไป เพื่อนๆของเพลิงต่างก็หลบไปกันคนละด้านไม่ได้ยืนขวางทาง เหมือนกับว่าต้องการให้อิ้งค์ได้เข้าไปเอาใบกฎระเบียบตามที่เจ้าตัวได้พูดขอไว้ อิ้งค์จ้องหน้าเพลิงด้วยความระแวงไม่น้อย แต่ก็ยอมที่จะเดินเข้าไป โดยมีเปากับโอโซนเดินเข้าไปด้วย

“ไอ้เปา..ทำไมพวกพี่มันมองพวกเราแล้วยิ้มวะ” โอโซนกระซิบถามเปา เมื่อเข้าไปเห็นรุ่นพี่จำนวนหลายสิบคนเอาแต่มองพวกเขาสามคนด้วยรอยยิ้มแปลกๆ ซึ่งพวกเขาเองก็ไม่รู้ว่ามันหมายความว่ายังไงเหมือนกัน

“ไหนอ่ะใบ” อิ้งค์หันไปถามเพลิงที่เดินตามหลังมาพร้อมกับม่อน วิวและเข้ม

“หาเอาเอง” เพลิงพูดจบก็เดินไปนั่งที่หลังห้องพร้อมกับหยิบโทรศัพท์จากกระเป๋ากางเกงขึ้นมาเล่น วิว ม่อนและเข้มก็เดินตามเพลิงไปด้วยเช่นกัน อิ้งค์ขมวดคิ้วแล้วจ้องหน้าเพลิงเขม็ง

“เพื่อนมึงนั่งกันอยู่เต็มนรกขนาดนี้ กูคงเดินไปหาได้หรอก!!” อิ้งค์คิดในใจด้วยความโมโห

“ไอ้อิ้งค์ กูว่าเราลองไปเปิดหาดูตรงกองเอกสารดีกว่ามั้ย อาจจะอยู่ในนั้นก็ได้นะมึง” เปาเสนอ

“ถ้ามันง่ายขนาดนั้น พี่เพลิงแกไม่ให้หาเองหรอก กูว่ามันต้องอยู่ในที่ที่มึงหาไม่เจอนั่นแหละ” โอโซนพูดบอก

“กูก็คิดเหมือนไอ้โซน คนอย่างไอ้เหี้ยนี่มันตั้งใจแกล้งกูแต่แรกอยู่แล้ว แค่กูเห็นเงามันกูก็สัมผัสได้ละ” อิ้งค์ถอนหายใจออกมาหนักๆเมื่อพูดจบ

“มึงเป็นพี่ริวเหรอวะ!?” เปาถามออกมาด้วยความตกใจ

“ริวเหี้ยอะไรละ! คนอย่างกูต้องเป็นหมอปลาเว้ย เพราะกูจะไปอ้วกใส่หน้าแม่ง!” อิ้งค์ตอบกลับไปด้วยความโมโห โดยไม่ได้เดาเสียงลงเลยแม้แต่น้อยเพราะจงใจที่จะให้เพลิงได้ยิน

“พามพ่าม!” โอโซนแกล้งพูดขึ้นยิ้มๆ

“พ่ามพ่อง!” อิ้งหันไปมองขวางโอโซนนิดๆ โอโซนยิ้มแหยๆ

“แล้วเราจะเอายังไงอ่ะมึง มาขนาดนี้แล้วนะเว้ย” เปาถามขึ้น

“เดี๋ยวกูลองถามพี่วิวมันให้ละกัน” โอโซนพูดบอก เพราะอย่างน้อยๆถ้าเขาถามถึงพี่รหัสตัวเองอาจจะทำได้ง่ายกว่า

“เออๆ มึงรีบไปถามไป กูว่าอีกไม่นานเชี้ยอิ้งค์ระเบิดลงแน่” เปาพูดบอก โอโซนพยักหน้าและเดินไปตรงที่กลุ่มของเพลิงนั่งอยู่ เปาและอิ้งค์ค่อยๆเดินตามไปทีหลัง

“พี่วิว พี่พอรู้มั้ยอ่ะว่าเอกสารมันอยู่แถวไหน เดี๋ยวพวกผมไปหาเอาเอง” โอโซนมองหน้าวิวด้วยความสงสัย

“มึงก็ลองถามไอ้ม่อนดูดิ” วิวพยักหน้าไปทางม่อน ที่ตอนนี้กำลังยิ้มมุมปากแล้วจ้องหน้าโอโซนอยู่ โอโซนเหลือบตาไปมองทางม่อนนิดๆ ถึงแม้ว่าเขาจะรู้สึกสงสัยอยู่บ้างแต่ก็เดินไปหาม่อนเพื่อถาม

“วิ้ววววววว อิจฉาโว๊ยยยย”

“นั่นดิวะ มีเด็กๆมาประเคนให้ถึงที่เลยวุ๊ยย”

เสียงโฮแซวดังขึ้นทันที ซึ่งมันทำให้ความอดทนของอิ้งค์ขาดลง

“พ่อมึงอยู่มโหรีหรือไงวะ!” อิ้งค์มองขวางไปทางกลุ่มของเพื่อนเพลิงที่นั่งอยู่ทางด้านข้าง

“อ่าวเฮ้ย! แซวแค่นี้เล่นถึงพ่อเลยเหรอวะ” ชายคนนึงลุกขึ้นแล้วเดินเข้าไปหาอิ้งค์อย่างหาเรื่อง

“แล้วพวกมึงจะทำไม” อิ้งค์เองก็เดินเข้าไปหาอีกฝ่ายอย่างไม่กลัวเช่นกัน

“เชี้ยอิ้งค์!” เปารีบดึงแขนเพื่อนตัวเองเอาไว้แน่น

“ไอต้น” เสียงของเพลิงพูดปรามต้นนิ่งๆ ต้นเมื่อเห็นแววตาของเพลิงก็ต้องนิ่งลง

“มึงเองก็หุบปากเอาไว้บ้าง อย่าแกว่งตีนหาเรื่องให้มากนัก” เพลิงหันไปพูดกับอิ้งค์เสียงเข้ม อิ้งค์หันไปมองหน้าเพลิงอย่างหาเรื่องและทำท่าจะเดินเข้าไปหาเพลิง แต่เปาดึงแขนเอาไว้ก่อน อิ้งค์หันไปมองหน้าเปาทันที

“เปา”

“อิ้งค์..กูขอ” เปาพูดเสียงนิ่ง เพียงเท่านั้นอิ้งค์ก็รู้ได้ทันทีว่าเปาคงเริ่มที่จะไม่โอเคแล้ว

“แม่ง!” อิ้งค์กรอกตามองบนนิดๆแต่ก็ยอมหยุดตามที่เปาขอ

“ตกลงพี่รู้มั้ยว่าใบกฎมันอยู่ที่ไหนอ่ะ” โอโซนรีบถามม่อน หลังจากที่เขาเห็นว่าเพื่อนตัวเองพอที่จะควบคุมอารมณ์ได้แล้ว

“กูก็อยากจะบอกอยู่นะ แต่..มึงต้องทำตามที่กูบอกก่อน” ม่อนยิ้มมุมปากนิดๆ

“ร้ายสัส” เสียงของเข้มพูดขึ้นลอยๆพร้อมกับส่ายหน้าไปมานิดๆ วิวเองก็มองเพื่อนสนิทยิ้มๆ

“ทำอะไรอ่ะพี่? นี่มันหมดรับน้องไปแล้วไม่ใช่หรอ” โอโซนถามด้วยความสงสัย

“เป็นรุ่นน้องก็ต้องทำตามที่สั่งสิวะ แล้วอีกอย่างนะมึง กูเองก็ไม่ได้สั่งอะไรร้ายแรงหรอกน่า แค่ขำๆเอง” ม่อนพูดด้วยน้ำเสียงปกติ

“แบบนี้แม่งไม่..” อิ้งค์ทำท่าจะเข้าไปขวาง แต่โอโซนหันไปส่ายหน้าห้ามเอาไว้ก่อน นั่นจึงทำให้อิ้งค์ต้องนิ่งลง

“ถ้ามึงยังควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้แบบนี้ละก็..เพื่อนมึงเดือดร้อนแน่” เพลิงพูดขึ้นพร้อมกับเอามือล้วงกระเป๋ากางเกงด้วยท่าทีสบายๆ

“แน่จริงมึงก็อย่าเอาเพื่อนกูไปเกี่ยวดิ มีเหี้ยอะไรก็มาคุยกูนี่มา” อิ้งค์จ้องหน้าเพลิงอย่างไม่พอใจ

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel