บทย่อ
"ผมรักพลอยใสเหมือนน้องสาวเท่านั้นครับไม่ได้คิดเป็นอย่างอื่น" ธารารีบบอกคนเป็นนายออกไปทันที“ก็ดี ต่อไปจะได้ไม่เสียการปกครอง”“ครับ สมภารย่อมไม่กินไก่วัด..เดี๋ยวจะเสียการปกครอง”
ตอนที่ 1 เข้าถ้ำเสือ
ตอนที่ 1 เข้าถ้ำเสือ
บ้านเด็กกำพร้า
ห้าปีก่อน
“พลอยใสเสร็จหรือยังวันนี้มีผู้ใหญ่ใจดีจะมาเลี้ยงขนมและมีของเล่นมาแจกพวกเรานะ ตอนนี้แม่แก้วเรียกให้ไปรวมกันที่โรงอาหาร ไปกันเถอะเดี๋ยวเราค่อยมาล้างกันต่อ” เสียงเรียกของเพื่อนรุ่นเดียวกันในขณะที่พลอยใสยังคงทำหน้าที่ไม่เสร็จเพราะวันนี้เป็นเวรทำความสะอาดห้องน้ำของเธอและเพื่อน
“ไปก่อนได้เลยจ้ะ พลอยล้างพื้นใกล้เสร็จแล้วเดี๋ยวพลอยรีบตามไป” เสียงเล็กตะโกนบอกเพื่อนที่กำลังทำความสะอาดอยู่อีกห้องหนึ่ง
“ถ้าอย่างนั้นเราไปก่อนนะ พลอยอย่าช้าล่ะเดี๋ยวแม่แก้วดุเอา” แก้มใสเด็กหญิงวัยเดียวกันตะโกนกลับมา
“จ้า เดี๋ยวพลอยจะรีบตามไป” พลอยใสส่งเสียงออกมาจากห้องน้ำ หลังจากนั้นก็ได้ยินเสียงฝีเท้าของเพื่อนวิ่งออกไปจากบริเวณนั้น หลังจากเพื่อนของเธอวิ่งไปรวมกับเด็กคนอื่นที่โรงอาหารพลอยใสจึงรีบจัดการหน้าที่ของตนเองให้แล้วเสร็จเพื่อจะได้รีบตามเพื่อนไป
“นายมีเรื่องอะไรจะคุยกับคุณแก้วไหมครับผมจะได้ให้คนของเราจัดเตรียมห้อง” ธารามือขวาคนสนิทของชาร์วี ไลก้า ฮาร์เปอร์ เอ่ยถามผู้เป็นนายเมื่อรถยนต์คันหรูเคลื่อนตัวมาจอดบริเวณบ้านเด็กกำพร้าที่มาเฟียหนุ่มอุปถัมภ์อยู่
“ไม่ต้อง วันนี้แค่มามอบขนมและของเล่นเท่านั้น จัดการให้คนเอาของไปให้คุณแก้วแจกเด็ก ๆ ได้เลยฉันขอเดินดูรอบ ๆ สักหน่อย” เสียงเรียบบอกความประสงค์ชัดเจน เท้ายาวก้าวลงจากรถเดินมุ่งหน้าไปยังด้านหลังของสถานสงเคราะห์ซึ่งเป็นโซนพักผ่อนของเด็ก ๆ
“ครับนาย จัดการขนของเข้าไปแจกเด็ก ๆ ข้างในได้เลย” ธาราหันไปสั่งเหล่าบอดี้การ์ดที่ตามมาอีกหลายคน ก่อนจะเดินตามผู้เป็นนายที่ตอนนี้เดินนำหน้าห่างออกไป
“เสร็จสักที” พลอยใสพูดขึ้นมาคนเดียวเมื่อล้างห้องน้ำเสร็จเรียบร้อย พร้อมยืนยิ้มกับผลงานของตัวเอง ตอนนี้ห้องน้ำที่เธอล้างนั้นสะอาดหมดจด ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าตอนนี้ทุกคนคงไปรวมตัวกันที่โรงอาหารกันหมดแล้วคงเหลือเพียงตัวเธอเท่านั้น คิดได้ดังนั้นเด็กหญิงก็รีบจัดการเก็บอุปกรณ์ที่ใช้ทำความสะอาดเข้าที่อย่างรวดเร็วและรีบวิ่งไปสมทบกับเพื่อน ๆ
ตึก! ตึก! ตึก!
เสียงฝีเท้าที่กำลังวิ่งตามทางเดินจากด้านหลังไปยังโรงอาหารด้านหน้า เร่งความเร็วเท่าที่เด็กหญิงวัยแปดขวบจะทำได้ โดยไม่ทันมองว่าข้างหน้าเธอนั้นมีชายหนุ่มร่างกำยำกำลังเดินขวางทางอยู่กลางถนน
“โอ๊ย!!” เด็กหญิงร้องออกมาทันทีที่รู้สึกถึงการกระแทกกับบางสิ่งจนตัวเธอกระเด็นและล้มลงกองอยู่ที่พื้น หัวเข่าที่กระแทกกับพื้นปูนจนถลอกตอนนี้กำลังมีเลือดสีแดงสดไหลซึมออกมา รองเท้าแตะคู่เก่ากระเด็นออกไปคนละทิศคนละทาง เด็กหญิงเงยหน้าขึ้นมองเล็กน้อยแต่ก็เพียงแค่ครึ่งตัวของคนที่เธอวิ่งชนเท่านั้น เพราะความที่เริ่มรู้สึกแสบตรงแผลที่ถลอกจึงต้องก้มหน้าลงมองดูแผลของตัวเองก่อนเลยไม่ได้เห็นหน้าคนที่เธอวิ่งชน
ชาร์วีก้มมองดูเด็กน้อยที่วิ่งชนตนเองก่อนจะเหลือบไปเห็นแผลสดที่เริ่มมีเลือดซึมออกมาจากหัวเข่าเล็กนั้น เขาจึงก้มลงไปประคองเด็กน้อยและทำท่าจะอุ้มเธอขึ้นจากพื้น
“ให้ผมจัดการดีกว่าครับนาย” ธาราเอ่ยบอกคนเป็นนาย ชาร์วีมองดูเด็กหญิงหน้าตาจิ้มลิ้มที่เขากำลังประคองอยู่ก่อนจะปล่อยให้เป็นหน้าที่ของธารา
“รีบพาเธอไปทำแผลแล้วเอาตุ๊กตากับขนมมาให้เธอด้วย” เสียงทรงอำนาจบอกมือขวาและบอดี้การ์ดที่ยืนรอรับคำสั่ง ธาราจึงอุ้มพลอยใสไปยังห้องปฐมพยาบาลที่อยู่ไม่ไกลจากโรงอาหาร พลอยใสที่ถูกนำตัวมาห้องพยาบาลก็มีพี่ ๆ ของบ้านเด็กกำพร้าคอยช่วยดูแลและทำแผลให้โดยมีธารายืนดูอยู่ด้วย
“คราวหน้าอย่าวิ่งแบบนี้อีก เดี๋ยวจะเจ็บตัวเหมือนวันนี้” เสียงทุ้มไร้ความอ่อนโยนบอกพลอยใสออกไปเมื่อทำแผลเสร็จเรียบร้อย
“ขอโทษค่ะ คราวหน้าหนูจะระวังกว่านี้ค่ะ” พลอยใสตอบกลับเสียงสั่นเพราะกลัวโดนชายหนุ่มนั้นดุมากไปกว่านี้
“ไม่ต้องกลัวพี่ไม่ได้ดุพี่แค่เตือนเพราะไม่อยากให้เจ็บตัวแบบนี้อีก ถ้าขามีแผลแบบนี้โตมาขาจะไม่สวยเอานะครับ” ธาราบอกเด็กน้อยน้ำเสียงอ่อนลงเมื่อรู้สึกว่าเด็กนั้นกลัวเขาจนตัวสั่น
“ไม่เจ็บแล้วใช่ไหมครับ”
“ไม่เจ็บแล้วค่ะ หนูขอไปเอาขนมและของเล่นกับเพื่อน ๆ ได้ไหมคะ” เด็กน้อยไร้เดียงสาลืมความเจ็บก่อนหน้าเป็นปลิดทิ้งเมื่อนึกถึงขนมและของเล่นที่ผู้ใหญ่ใจดีนำมาแจกในวันนี้
“นั่งรออยู่ตรงนี้แหละเดี๋ยวพี่ให้คนไปเอามาให้” ชายหนุ่มนั่งลงกับขอบเตียงข้าง ๆ เด็กหญิง ฝ่ามือหนายื่นไปปัดกลุ่มผมที่หลุดลงมาบดบังใบหน้า
“ขอบคุณนะคะ พี่ใจดีจังเลยค่ะขอบคุณที่เอาขนมและของเล่นมาให้พวกหนูนะคะถ้าไม่มีคนใจดีแบบพี่พวกหนูคงไม่มีโอกาสได้กินขนมอร่อยและได้ของเล่นแบบนี้” คำพูดขอบคุณที่ธาราสัมผัสได้ว่ามันมาจากใจที่บริสุทธิ์ของเด็กหญิงคนหนึ่ง
“ไม่ต้องขอบคุณพี่หรอกเพราะเจ้าของขนมและของเล่นที่นำมาแจกให้วันนี้เป็นของเจ้านายพี่ คุณชาร์วีที่หนูพึ่งวิ่งชนเขานั่นแหละ เนทไปเอาขนมและของเล่นมาให้เด็กคนนี้ด้วย” ธาราบอกพลอยใสออกไปพร้อมกับหันไปสั่งลูกน้องเสียงเข้ม
“คุณชาร์วี” เสียงเล็กพึมพำกับตัวเอง
“เขาเป็นคนช่วยเหลือหนูและน้อง ๆ ด้วยใช่ไหมคะ” เมื่อนึกขึ้นได้ว่าเคยได้ยินแม่แก้วเคยพูดถึงเขาให้ฟังอยู่บ่อย ๆ แต่เธอไม่เคยเจอหน้าเขาเลยสักครั้ง ถึงแม้ครั้งนี้เขาจะมาปรากฏตัวที่นี่และเธอเองก็พึ่งวิ่งชนเขามาแต่ก็ไม่ทันได้มองหน้าเธอก็ถูกกลุ่มบอดี้การ์ดกันเธอออกเสียก่อน
“ใช่ครับ คุณชาร์วีเป็นคนอนุเคราะห์สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าแห่งนี้” ธาราตอบเด็กน้อยเสียงทุ้มอ่อนโยนขัดกับมาดบอดี้การ์ดมาเฟียใหญ่
“หนูชื่อพลอยใสนะคะ แล้วพี่ชายล่ะคะชื่ออะไร?” พลอยใสยิ้มกว้างถามธาราเมื่อรู้สึกว่าเขาคือคนใจดีไม่น่ากลัวเหมือนหน้าตาภายนอกที่เธอเห็นตอนแรก
“พี่ชื่อธารา เป็นคนติดตามคุณชาร์วีครับ”
“ลูกพี่รักเด็กด้วยเหรอวะ” บอดี้การ์ดที่ติดตามธารามองหน้ากันเมื่อเห็นมุมอ่อนโยนของชายหนุ่มที่ไม่เคยเห็นมาก่อน
“แล้วคุณชาร์วีใจดีเหมือนพี่ธาราหรือเปล่าคะ” เด็กน้อยถามออกไปด้วยความใสซื่อ
“หึ หึ ครับ คุณชาร์วีเป็นคนใจดี” ธาราที่ได้ยินในสิ่งที่เด็กหญิงถามเขาถึงกับต้องอมยิ้ม เพราะถ้าหากจะบอกความจริงว่าเจ้านายเขานั้นโหดและเถื่อนแค่ไหนก็คงจะไม่ใช่สิ่งที่เด็กคนนี้จะเข้าใจได้ในตอนนี้ พลอยใสที่รู้สึกสนุกที่ได้คุยกับพี่ใจดีก็หมั่นหาเรื่องมาคอยถามจนธารารู้สึกเอ็นดูเป็นพิเศษ
“มึงจะพากลับไปเลี้ยงที่บ้านด้วยเลยไหม” เสียงเรียบดังขึ้นจากทางประตู พลอยใสหันมองตามเสียงนั้นแต่ก็ไม่เห็นว่าเจ้าของเสียงนั้นเป็นใครเพราะมีธารายืนบังสายตาเธออยู่
“เดี๋ยวพี่ต้องไปแล้วนะ ไว้วันหลังมีโอกาสพี่จะแวะมาหาใหม่ หายเร็ว ๆ นะครับ” ธาราขยี้ผมพลอยใสเบา ๆ ก่อนจะเดินตามหลังผู้เป็นนายออกไป ดวงตากลมสวยได้แต่มองตามแผ่นหลังกว้างในระยะไกลจนสุดสายตา
“เป็นยังไงบ้าง” ชาร์วีหันมาถามทันทีที่ธาราเดินมาหยุดอยู่ด้านหลัง
“เรียบร้อยดีครับ” ธารารายงานผู้เป็นนาย
“เรียบร้อยดีคืออะไร” ชาร์วีถามกลับเสียงเข้ม คิ้วหนาได้รูปขมวดเข้าหากันเมื่อได้รับคำตอบจากมือขวาคนสนิท
“ทุกอย่างเรียบร้อยดีไงครับ เด็ก ๆ ได้รับขนมและของเล่นกันครบทุกคน” ธาราขยายความให้คนเป็นนายฟังอีกรอบ
“กูหมายถึงเด็กคนนั้น อาการเป็นอย่างไรบ้าง” ความหงุดหงิดเกิดขึ้นอีกครั้งเมื่อคำตอบที่ได้รับนั้นยังไม่เป็นที่ต้องการ
“ครับ ทำแผลให้เรียบร้อยแล้วครับ”
“ออกรถ” เสียงเข้มตะโกนสั่งออกไปจนบอดี้การ์ดที่ทำหน้าที่ขับรถวันนี้สะดุ้งโหยงรีบลนลานออกรถทันที โดยมีธารานั่งคู่คนขับอยู่ด้านหน้าสีหน้าเรียบนิ่งไม่สะทกสะท้านอะไร
ปัจจุบัน
“แฟ้มประวัติเด็กที่จะต้องย้ายออกจากสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าที่ทางเราอนุเคราะห์อยู่ครับ” ธาราวางแฟ้มประวัติที่พึ่งไปเอามาจากสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากว่าสิบแฟ้มลงตรงหน้ามาเฟียหนุ่ม
“วันนี้นายจะเข้าไปผับหรือเปล่าครับเห็นไอ้ลุคค์บอกว่าวันนี้คุณฉลามกับคุณมังกรจะเข้ามาดื่มที่ผับครับ”
“ไม่ไปกูมีงานอย่างอื่นสำคัญมากกว่าที่ต้องไปต้อนรับพวกมัน” ชาร์วีตอบกลับเสียงเรียบ มือหนาหยิบแฟ้มประวัติตรงหน้าขึ้นมาเปิดอ่าน ธาราได้รับคำตอบดังนั้นก็เดินกลับออกไปโทรสั่งงานลุคค์ก่อนจะเดินกลับเข้ามานั่งทำงานต่อในห้อง
“รับเด็กสามคนนี้เข้ามาช่วยป้าณีทำงาน ส่วนเด็กที่เหลือจัดการส่งต่อให้มูลนิธิที่จะดูแลต่อด้วย” แฟ้มประวัติสามแฟ้มถูกแยกออกมาจากกองวางไว้อีกฝั่ง
“ครับ” ธาราหยิบแฟ้มทั้งสามมาเปิดดูว่าหนึ่งในนั้นมีเด็กที่ชื่อพลอยใสหรือไม่
“กลัวไม่มีเด็กมึงหรือไง เริ่มโตเป็นสาวแล้วนี่อีกไม่กี่ปีก็โตเต็มวัย” ชาร์วีพูดขึ้นลอย ๆ เมื่อเห็นสีหน้าโล่งอกที่ลูกน้องเผลอแสดงออกให้เห็นเพียงแว็ปเดียว ชาร์วีได้ยินชื่อพลอยใสบ่อย ๆ ทุกครั้งที่ธาราไปจัดการธุระที่บ้านเด็กกำพร้าแทนก็จะกลับมารายงานทุกครั้ง และทุกครั้งก็มักได้ยินชื่อนี้ที่ธาราพูดถึงแทบทุกครั้ง
“ผมรักพลอยใสเหมือนน้องสาวเท่านั้นครับไม่ได้คิดเป็นอย่างอื่น” ธารารีบบอกคนเป็นนายออกไปทันที
“ก็ดี ต่อไปจะได้ไม่เสียการปกครอง”
“ครับ สมภารย่อมไม่กินไก่วัด..เดี๋ยวจะเสียการปกครอง” ธาราย้ำคำพูดเจ้านายอีกครั้งน้ำเสียงมีเลศนัย เมื่อก่อนหน้านั้นสังเกตเห็นคนเป็นนายดูประวัติของพลอยใสนานเป็นพิเศษใช้เวลามากกว่าของคนอื่นหลายนาทีจึงเดาได้ว่ามาเฟียหนุ่มนั้นต้องสนใจเด็กสาวคนนี้เป็นพิเศษ
“รีบไปจัดการตามที่กูสั่ง แล้วบัญชีที่ผับมึงตรวจเสร็จหรือยังมายืนย้อนคำพูดกูอยู่แบบนี้” เสียงกร้าวตะโกนใส่หน้าธาราเสียงดังเมื่อรับรู้ว่ากำลังโดนลูกน้องพูดจายอกย้อนใส่
“เสร็จแล้วครับ ที่เหลือเป็นหน้าที่ของนายครับ ไอ้ลุคค์มันฝากบอกว่ารายการสต๊อกของขอพรุ่งนี้เช้านะครับเดี๋ยวมันสั่งของไม่ทัน ถึงเวลาเลิกงานแล้วผมขอตัวก่อน” แฟ้มหนาสีดำถูกวางลงตรงหน้ามาเฟียหนุ่มพร้อมคำพูดแดกดันของลูกน้อง ธาราพูดเสร็จก็หยิบแฟ้มประวัติทั้งสองกองเดินออกไปโดยไม่สนใจว่าเจ้านายต้องการจะพูดอะไรกับเขาต่อหรือไม่
เช้าวันรุ่งขึ้น
“คุณชาร์วีประสงค์จะรับเด็กไปอุปการะที่บ้านฮาร์เปอร์จำนวนสามคนนะครับ ส่วนเด็กที่เหลือเดี๋ยวผมจะช่วยจัดการประสานมูลนิธิต่าง ๆ ที่จะรับเด็กไปดูแลต่อ และเด็กที่มีผู้ประสงค์จะอุปการะก็ให้ทางคุณแก้วจัดการได้เลยนะครับ” ธาราบอกกับแก้วหรือแม่แก้วของเด็ก ๆ ตามคำสั่งของเจ้านาย
“แล้วไม่ทราบว่าคุณชาร์วีเลือกใครไปบ้างคะ” แก้วถามขึ้นเพื่อจะได้บอกให้เด็กที่ถูกเลือกเตรียมตัวและอบรมสั่งสอนครั้งสุดท้ายก่อนจะเดินออกจากบ้านแห่งนี้ไปสู่บ้านหลังใหม่
“สองคนนี้ครับ” ธาราพูดขึ้นและส่งประวัติเด็กสาวสองคนที่เลือกให้แม่แก้ว
“แล้วอีกคนล่ะคะ?” แก้วถามขึ้นมาเมื่อประวัติเด็กพร้อมรูปถ่ายที่ธารายื่นมาให้นั้นมีเพียงสองคน
“พลอยใสครับ อีกคนคือพลอยใส แล้วทำไมวันนี้ผมไม่เห็นพลอยใสเลยครับ” ธาราหันมาบอกและถามอย่างแปลกใจที่พยายามกวาดตามองไปรอบบริเวณแล้วก็ยังไม่เห็นเด็กสาวที่คุ้นตา ก่อนจะยิ้มเมื่อเด็กสาวที่กำลังถามหาเดินถือถาดน้ำดื่มเข้ามาพอดี
“มานั่นพอดีเลยค่ะ สงสัยพึ่งรู้ว่าคุณธารามาเห็นบอกว่าวันนี้จะช่วยสอนการบ้านให้น้อง ๆ น่าจะยุ่ง ๆ ค่ะ” ธาราที่ได้ยินแก้วพูดถึงพลอยใสก็รู้สึกว่าตนเองคงเลือกคนไม่ผิดแน่
“สวัสดีค่ะพี่ธาราวันนี้มีขนมอร่อยมาให้อีกหรือเปล่าคะ” เมื่อเห็นหน้าพี่ชายใจดีเด็กสาวก็วางถาดน้ำดื่มแล้วยกมือไหว้ไม่เฉพาะธาราเท่านั้นแต่บอดี้การ์ดที่มากับธาราวันนี้พลอยใสก็ยกมือไหว้ทุกคน
“เห็นหน้าก็ถามหาแต่ขนมเลยนะเราน่ะ ถ้าไม่มีขนมมาให้สงสัยคงไม่ออกมาเจอพี่ใช่หรือเปล่าหืม..” ธาราแกล้งพูดหยอกจนพลอยใสต้องรีบแก้ตัว
“ไม่ใช่อย่างนั้นสักหน่อย พลอยไม่ได้เห็นแก่กินนะคะถึงไม่มีขนมมาให้แค่พี่ธารามาเยี่ยมพวกเราก็ดีใจแล้วค่ะ”
“เอาตัวรอดเก่งนะเราน่ะ วันนี้พี่ไม่ได้มีขนมมาให้หรอกแต่พี่มีข่าวดีมาบอก” เสียงอ่อนโยนบอกออกไป สายตาเอ็นดูที่ธารามองพลอยใสแม่แก้วเห็นถึงกับอมยิ้มอย่างมีความสุขที่เด็กในความดูแลมีคนรักคนเอ็นดูแบบนี้
“ข่าวดีอะไรคะ” พลอยใสทำหน้าเหมือนรอลุ้นผลการเรียน จนธาราต้องส่ายหัวเบา ๆ ขนาดว่าอายุ 13 ปีแล้วแต่เด็กสาวที่เขาเห็นมาตั้งแต่ห้าปีก่อนยังดูเป็นเด็กน้อยไม่เปลี่ยน
“พลอยรู้ใช่ไหมว่าถึงเวลาแล้วที่พลอยและเพื่อนรุ่นเดียวกันจะต้องย้ายบ้าน นั่นหมายถึงต้องออกจากที่นี่ไปเพื่ออยู่ที่อื่น” ธาราทำสีหน้าจริงจังแล้วพูดกับเด็กสาว
“ค่ะ พลอยรู้ดีแต่พลอยยังทำใจไม่ได้เพราะตั้งแต่จำความได้พลอยก็มีแต่แม่แก้วที่เลี้ยงดูมา พลอยไม่รู้จักใครเลยข้างนอกและอีกอย่างก็ไม่รู้ว่ามูลนิธิที่จะรับพลอยไปอยู่จะเป็นยังไงบ้าง” พลอยใสมีสีหน้าเศร้าหมองลงทันทีที่ธาราเอ่ยถึงเรื่องที่ยังทำใจไม่ได้
“พลอยไม่ต้องไปอยู่มูลนิธิไหนหรอก เพราะคุณชาร์วีประสงค์จะอุปการะเด็กไปดูแลที่บ้านฮาร์เปอร์สามคนและหนึ่งในนั้นคือพลอยใส”