บทที่ 4 คนที่ไม่ควรรัก
หลายสัปดาห์ต่อมา
“คุณลูกชุบครับนายให้มาเรียนว่าเย็นนี้ให้ไปยังสถานที่หนึ่ง วันนี้เวลาหนึ่งทุ่มตรงกรุณาแต่งตัวให้สวยที่สุดชุดและเครื่องประดับได้เตรียมไว้ให้แล้วอย่าสายนะครับ” ฟูกะที่รับคำสั่งจากริวกิเจ้านายหนุ่มให้มาแจ้งข่าวว่าวันนี้เธอจะต้องออกงานคู่กับเขาเป็นครั้งแรก
“คุณริวกิจะให้ฉันไปกับเขาเหรอคะ”
“ครับวันนี้มีงานเลี้ยงนายต้องไปเชื่อมสัมพันธ์กับเหล่าแวดวงกลุ่มนักธุรกิจและพันธมิตร”
“คุณฟูกะ คือว่าฉันมีหน้าที่ต้องไปออกงานอะไรแบบนี้กับเขาด้วยเหรอคะ”
“ผมรับคำสั่งมาจากเจ้านายอีกทีนะครับ…..คุณลูกชุบควรไปนะครับนายเตรียมทุกอย่างเอาไว้ให้คุณหมดแล้วอย่าทำให้เขาเสียความตั้งใจเลย” บอดี้การ์ดหนุ่มยิ้มเบา ๆ ที่มุมปากจากที่ติดตามริวกิมานานเขาไม่เคยให้ผู้หญิงคนไหนออกงานสังคมด้วยสักครั้ง นี่เป็นครั้งแรกแม้ปากจะว่าไม่ได้สนใจแต่พฤติกรรมท่าทางของริวกิสวนทางคำพูดเสมอ
“คุณหนูคะเชื่อป้าสมรนะคะ ตามใจคุณริวเถอะค่ะ”
“ชุบไม่ชอบงานแบบนี้เลยค่ะป้าสมรเคยออกงานกับคุณป้าที่เมืองไทยครั้งหนึ่ง รู้สึกกระอักกระอ่วนใจมากหนูไม่ชอบอะไรแบบนี้ที่สุดเลย” ใบหน้าสวยส่ายเบา ๆ เธอไม่ชอบออกสังคมเพราะเบื่อการปั้นหน้าโอ้อวดฐานะและความรวยเพราะพื้นฐานเธอไม่ได้มาจากตระกูลไฮโซ
“อย่าดื้อนะคะเดี๋ยวนายป้าก็เอ็ดเอาหรอกรายนั้นเขาชอบสั่ง ตั้งแต่มีคุณหนูมาอยู่ที่บ้านคุณริวกลับบ้านทุกวันเลยและเขาก็ดูจะอารมณ์ดีมีชีวิตชีวามากกว่าตอนที่กลับมาจากไทยเมื่อหลายเดือนก่อนมาก”
“ป้าพูดจริง ๆ เหรอคะ”
“จริงค่ะ ไปเถอะนะคะถือว่าไปทำงานหรือไปเปิดหูเปิดตาบ้างช่างแต่งหน้ามากันแล้วค่ะ เดี๋ยวป้าไปช่วยคุณหนูเลือกชุดนะคะ”
“ก็ได้ค่ะ” ป้าแม่บ้านจึงจูงมือลูกชุบลงไปยังห้องรับแขกเพื่อเลือกชุดที่ทางร้านส่งมาและเครื่องประดับที่ริวกินั้นสั่งให้คนเอามาให้ ชีวิตของลูกชุบในเวลานี้ทั้งสุขสบายดุจเจ้าหญิงมีพร้อมทุกอย่างที่เธอไม่ได้เอ่ยปากร้องขอริวกินั้นสรรหามาให้ไม่เคยขาด
โรงแรมหรูระดับห้าดาว
“นายครับผมจอดตรงนี้นะครับ” ฟูกะที่ขับรถหรูพาริวกิและลูกชุบมาส่งยังโรงแรมสถานที่จัดงาน
“อื้ม….รออยู่แถวนี้นะฟูกะไม่ต้องเข้าไปข้างในคนของพ่อเต็มไปหมด”
“พ่อ….คุณริวพ่อของคุณท่านมางานนี้ด้วยเหรอคะ” ลูกชุบที่ประหม่าเธอรู้ดีว่าบุคคลในงานนี้มีระดับหัวหน้าและกลุ่มยากูซ่าผู้มีอิทธิพลนักธุรกิจระดับประเทศทั้งนั้น
“ใช่ไม่ต้องกลัวพ่อไม่ทำอะไรเธอหรอกเพราะเธอมากับฉัน เข้าไปในงานก็ไม่ต้องพูดอะไรทั้งให้นั้นยืนเงียบ ๆ ข้างฉันก็พออย่าไปไหนเด็ดขาด วันนี้แค่มาคุยงานและสังสรรค์รวมกลุ่มกันเฉย ๆ มันไม่ได้น่ากลัวหรือป่าเถื่อนแบบในหนังที่เธอดูหรอก” ริวกิพยายามทำให้ลูกชุบสงบใจลงเพราะอันที่จริงแขกในงานแม้จะมีอำนาจบารมีและอิทธิพล แต่ก็คืออยู่ในกลุ่มสายงานเดียวกันมีผลประโยชน์ร่วมกันเอื้อในทางธุรกิจไม่ได้เป็นศัตรู
เมื่อเข้าไปข้างในงานทั้งคู่เดินควงแขนกันเข้าไปลูกชุบไม่ทำให้ริวกิผิดหวังเธอสวยสง่าและเป็นที่สะดุดตาแขกทุกคน เพราะเดินควงมากับทายาทยากูซ่าหนุ่มหล่ออย่างเขาทุกสายตาต่างจับจ้องมองดูคนทั้งคู่ทางด้านริวกิก็ทักทายแขกทุกคนเขาดูมีมารยาทและเข้าสังคมเก่งสุภาพและนอบน้อม
“สวัสดีครับนาย” ชายหนุ่มวัยฉกรรจ์ในชุดสูทสีดำลูกน้องของพ่อเดินเข้ามาทักทายริวกิและกระซิบที่ข้าง ๆ หู ริวกิจึงเดินตามเขาไปข้างในและพาลูกชุบไปด้วยเมื่อมาถึงโต๊ะด้านในก็พบกับชายชาวญี่ปุ่นสูงวัยที่ดูมีบารมีหน้าตาเขาคล้ายกับริวกิ โดยเฉพาะดวงตาลูกชุบมั่นใจว่านี่คือพ่อของเขา ‘ชิวาร่า เรียวตะ’ จึงทำความเคารพตามมารยาท
“ขอโทษที่ต้องให้รอครับคุณพ่อ”
“ไม่เป็นไรนั่งก่อนสิริวกิ”
“ครับแล้วคุณแม่ท่านไม่มาด้วยเหรอครับ”
“แม่แกเขากลับไปเยี่ยมยายของแกที่เมืองไทยรอบนี้ไปนานเลยล่ะ”
“ครับ ผมเองก็ไม่ได้มีโอกาสไปเยี่ยมคุณยายที่ไทยเลยหลายเดือนแล้วเกือบปีละมั้ง”
“อื้ม งานยุ่งล่ะสิเห็นว่าแกคุยกับเพื่อนพ่อ ‘ยามาดะ’ ได้สำเร็จเขาชอบแกมากเลยนะที่เรียกแกมาวันนี้ก็เพราะเรื่องนี้แหละ” สายตาของผู้เป็นพ่อมองไปที่สาวสวยหน้าตางดงามใบหน้าจิ้มลิ้มคนนี้ตั้งแต่หัวจรดเท้าเขาเพิ่งจะเคยเห็นลูกชายพาผู้หญิงเดินควงออกงานครั้งแรก
“ครับคุณยามาดะยินดีที่จะร่วมลงทุนเปิดห้างสรรพสินค้าสาขาใหม่ใจกลางเมือง และเขายังบอกว่าให้เชิญคุณพ่อไปทานอาหารที่บ้านด้วยคุณยามาดะชอบโปรเจกต์นี้มาก ๆ”
“ฮ่ะ ๆ ๆ มันต้องแบบนี้สิสมกับที่เป็นลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น พ่อภูมิใจในตัวแกมาริวกิต่อไปพ่อไม่ต้องห่วงอะไรแล้วเหลือแค่แกแต่งงานมีคู่ครองที่เหมาะสม”
“ผมยังไม่คิดถึงเรื่องนั้นครับพ่อ”
“นี่แล้วแม่หนูคนนี้เป็นใครแฟนแกรึเปล่า หน้าตาน่ารักนะสวยเหมือนแม่แกตอนสมัยสาว ๆ เลย” รอยยิ้มที่ยิ้มออกมาเผยให้เห็นตีนกาบนใบหน้าชายสูงวัย เขาเห็นลูกชุบที่สวยและสดใสเหมือนภรรยาของตัวเองในวัยสาวแรกแย้ม
“เธอเป็นคนของผมน่ะครับ….ชื่อ นวรา เป็นคนไทยครับพ่อเรารู้จักกัน” ริวกิแนะนำลูกชุบกับผู้เป็นพ่อซึ่งพ่อนั้นก็ไม่ได้พูดอะไรเขายิ้มให้กับลูกชุบและเข้าใจว่าลูกชายโตเป็นหนุ่มต้องมีผู้หญิงควงบ้างเป็นเรื่องธรรมดาของผู้ชาย ทำให้ลูกชุบนั้นโล่งใจที่พ่อของริวกินั้นไม่ได้โหดร้ายหรือดุอย่างที่เธอคิดเอาไว้แต่แรก
“ริว….รู้ใช่ไหมว่าอนาคตแกต้องขึ้นมาแทนพ่อ”
“ครับ! ผมจะทำให้ดีเหมือนที่พ่อทำ” ริวกิก้มศรีษะพยักหน้าเป็นการตอบรับแม้ในใจเขาจะไม่อยากยอมรับแต่มันเป็นหน้าที่และเลี่ยงไม่ได้ที่เขานั้นเกิดมาเพื่อเป็นผู้สืบทอด
“แม่หนูคนไทยเธออยู่กับเขาได้แต่ต้องเข้าใจด้วยนะว่าริวกินั้นมีชีวิตไม่เหมือนผู้ชายทั่ว ๆ ไป ถ้าเธอรับได้เธออยู่ในที่ของตัวเองก็จะมีความสุขและไม่มีทางลำบาก” ผู้เป็นพ่อกล่าวทิ้งท้ายก่อนที่จะลุกออกไปจากโต๊ะพร้อมกับลูกน้องอีกหลายคนด้วยใบหน้าที่เปื้อนรอยยิ้ม
“หึ! พ่อก็พูดอะไรพล่ามเป็นคนแก่” ริวกิรู้สึกเป็นกังวลเล็กน้อยแต่เขาก็ไม่ได้ใส่ใจจึงพาลูกชุบเดินไปรับประทานอาหารและดื่มไวนท์ที่โต๊ะ ริวกินั้นช่างดูมีเสน่ห์เวลาที่เขาพูดคุยเจรากับแขกทุกคนในงานเขาเป็นเหมือนดาวเด่นจรัสแสงทุกคนให้ความสำคัญและสนใจนักธุรกิจหนุ่มไฟแรงทายาทตระกูลดังคนนี้มาก
“ขอนั่งด้วยคนได้ไหมคะ” สาวสวยหุ่นดีในชุดราตรีสีดำโชว์แผ่นหลังขาวเนียนดุจหิมะและสัดส่วนโค้งเว้าเดินเข้ามาขอร่วมโต๊ะ เธอดูสวยสง่าดูมีออร่าท่าทางฉลาดมีไหวพริบไม่ธรรมดามาพร้อมกับบอดี้การ์ดหนุ่มข้างกายที่หล่อเหลาใบหน้าคมคายคอยเดินตามหลังอยู่ไม่ห่าง
“เชิญครับคุณ……” ริวกิตอบรับตามมารยาทเขาคุ้นหน้าสาวสวยชุดดำคนนี้มากจึงถามชื่อหญิงสาวไป
“ยามาดะ ไอริ ค่ะ หรือจะเรียกว่า ไอริ เฉย ๆ ก็ได้นะคะ” มือบางนิ้วเรียวสวยยื่นมาเพื่อทักทายจากนั้นริวกิจึงจับไปที่มือของเธอเพื่อทักทายตามมารยาทนิ้วเรียวของไอรินั้นลูบไปที่หลังมือของเขาเบา ๆ จนยากูซ่าหนุ่มต้องสะดุ้งและรีบดึงมือกลับ ไอริส่งสายตาหยาดเยิ้มให้กับเขาโดยที่ไม่สนใจสาวสวยที่นั่งอยู่เคียงข้างอย่างลูกชุบ
“ถ้าผมจำไม่ผิดคุณคือ ยามาดะ เป็นลูกสาวของคุณ ยามาดะ ไดกิ ใช่ไหมครับ ผมคือ ชิวาร่า ริวกิคุง ยินดีที่ได้รู้จักครับ”
“ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ อันที่จริงฉันรู้จักคุณนะคะพ่อของเราเป็นเพื่อนกันและตระกูลของเราทำธุรกิจร่วมกันนี่” ไอริยกแก้วไวน์สีอำพันขึ้นมาและชนไปที่แก้วในมือของริวกิเธอจิบเบา ๆ พร้อมกับโปรยเสน่ห์ลูกชุบที่นั่งอยู่ด้วยเธอเอาแต่ก้มหน้าเพราะไม่รู้จะทักทายหรือคุยอะไรกับสาวสวยสายเฟียสคนนี้ และเธอก็ไม่ได้มองมาที่ลูกชุบแม้แต่น้อยทำเหมือนเธอเป็นเพียงอากาศธาตุเท่านั้น
“ครับ ยินดีที่ได้ร่วมงานกับตระกูล ยามาดะ พ่อของคุณ ไอริ ท่านเก่งมากเลยนะครับผมชื่นชมท่านจากใจจริง”
“เช่นกันค่ะ ฝากความคิดถึงถึงคุณลุง เรียวตะด้วยนะคะ บอกว่า ไอริ คิดถึงและจะไปเยียมท่านที่บ้านค่ะ”
“อ่อ ครับ”
“ไว้เจอกันคราวหน้าอีกนะคะ ยินดีที่ได้รู้จักค่ะคุณริวกิ”
“เช่นกันครับ”
หลังจากที่สาวสวยอย่างไอริเดินจากไปลูกชุบที่ในใจนั้นรู้สึกเจ็บเธอไม่มีสิทธิ์หึงและหวงชายผู้ที่เธอนั้นรักได้ ทำได้แค่เพียงนั่งเงียบ ๆ เจียมตัวไม่กล้าที่จะมองดูคนทั้งคู่ เวลาส่งสายตาให้กันหญิงสาวผู้นี้เธอช่างดูมีเสน่ห์บารมีและดูน่าค้นหาเหมาะสมกับริวกิทุกอย่างการเข้ามาของเธอก็แสดงออกได้ชัดเจนว่าชอบริวกิ
“ลูกชุบ….ลูกชุบ” เสียงเข้มได้เรียกชื่อเธอให้หันมาหลังจากกลับจากงานลูกชุบดูซึมและไม่ร่าเริงเธอนั่งเหม่อลอยและผิดแปลกไปจากเดิม
“ค่า…ค่ะ! คุณริวมีอะไรหรือเปล่าคะ” ลูกชุบตกใจที่ริวกินั้นเดินเข้ามาในห้องของเธอและยืนอยู่ด้านหลังเธอไม่รู้ว่าเขาได้เข้ามาในตอนไหนด้วยซ้ำ
“คิดอะไรอยู่ฉันเรียกเธอตั้งนาน”
“เปล่าค่ะ ฉันแค่เหนื่อย ๆ วันหลังชุบขอไม่ไปงานแบบนี้อีกจะได้ไหมคะไม่ชอบจริง ๆ”
“หึ! คิดจะเป็นคนที่เดินข้างกายฉันเธอก็ต้องพร้อมรับทุกสถานการณ์สิ เรื่องแบบนี้เธอต้องชินเข้าไว้เพราะมันคือการหาคอนเนกชั่นทางธุรกิจ”
“แต่คุณริวไปคนเดียวก็ได้นี่คะ จะได้สะดวกเวลาคุยงานเอาฉันไปก็เกะกะลูกตาเปล่า ๆ ช่วยอะไรคุยไม่ได้ทั้งนั้น สาว ๆ ก็จะได้เข้าหาคุณง่ายขึ้นฉันไม่อยากเป็นตัวประหลาดให้คนพวกนั้นมองค่ะ”
“ชิ! เธอหึงฉันเหรอ?” ใบหน้าหล่อกระตุกยิ้มที่มุมปากจู่ ๆ เขาก็ยิ้มออกมาและมีความสุขที่ลูกชุบนั้นหึง
“ไม่ใช่ค่ะ ทำไมชุบต้องหึงคุณริวด้วยล่ะเราไม่ได้เป็นแฟนกันสักหน่อย” ใบหน้าสวยหันควับทันทีเธอไม่กล้าสบตาเขาเพราะกลัวว่าริวกินั้นจะรู้ใจเธอไปมากกว่านี้
“ใครว่าเธอช่วยฉันไม่ได้ล่ะ เธอช่วยฉันอยู่นะในงานมีแต่คนมองเธอว่าสวยและทำให้ฉันโดดเด่นยามที่เดินควงแขนกับเธอเสริมบามีให้ไม่น้อย”
“คุณริว…” เมื่อได้ฟังคำพูดหวาน ๆ ลูกชุบนั้นถึงกับใจสั่นเธอแทบไม่เป็นตัวของตัวเอง ริวกินั้นพูดจาหวานหูทำให้จิตใจเธอนั้นปั่นป่วนไปหมด
“ฉันเมื่อยคืนนี้นอนที่ห้องเธอนะนวดหัวให้ฉันที เธอนวดเก่งรึเปล่าคนไทยเขาว่านวดเก่งนะ” จากนั้นร่างสูงก็ขยับขึ้นมานอนบนเตียงและเอาหัวทุยมานอนหนุนที่ตักนิ่มของเธอ ลูกชุบตกใจแต่เธอก็เขินและมีความสุขมากจึงใช้มือคลึงศรีษะนวดผ่อนคลายเบา ๆ เธอนวดให้เขาดีจนต้องเอ่ยปากชม
“ดีจัง….มือเธอก็นิ่มตักก็นิ่มอีกอย่าง ปากเธอก็นิ่มที่สุด” ใบหน้าหล่อเหลาที่หลับตาพริ้มเคลิบเคลิ้มพูดออกมาอย่างพึงพอใจเขานั้นชอบการปรนนิบัติจากเธอไม่น้อย
“คุณริวถ้าพูดจาทะลึ่งอีกชุบจะไม่นวดแล้วนะคะ”
“หื้อ….ได้ไงคนกำลังเคลิ้มสบายตัวขนาดนี้ถ้าหยุดพรุ่งนี้จะไม่พาเธอไปเที่ยวนะ”
“เที่ยว คุณริวจะพาฉันไปเที่ยวเหรอคะ?” ลูกชุบที่ได้ยินเธอยิ้มราวกับว่ากำลังได้รับรางวัลเธออยากจะไปเที่ยวเปิดหูเปิดตาแต่ก็ไม่กล้าขออนุญาตเขานับจากวันที่ก่อเรื่องหนีไปนอนนอกบ้าน เมื่อได้ยินจึงไม่อยากจะเชื่อหูตัวเอง
“จริงสิ เท่าที่รู้จักกันมามีครั้งไหนบ้างที่ฉันพูดเล่นกับเธอไปเที่ยวด้วยกันนะ พรุ่งนี้ฉันว่างเธออยากได้อะไรอยากไปที่ไหนขอแค่บอก”
“ไม่เคยค่ะ คุณไม่เคยโกหกสักครั้งฉันอยากไปซื้อของฝากให้หลานสาวค่ะ หนูเวียงพิงค์” เมื่อเอ่ยถึงชื่อหลานสาวที่เป็นลูกของเคนโซ่กับเฟื่องนิมมาน ลูกชุบถึงกับชะงักเธอเผลอเอ่ยถึงครอบครัวของพี่ชายเธอกลัวว่าจะพูดทำร้ายจิตใจเขา
“คลอดแล้วเหรอลูกของเฟื่องนิมมาน” ใบหน้าหล่อที่ยังหลับตาอยู่เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย
“ขอโทษค่ะ ชุบไม่ระวัง”
“ทำไมต้องขอโทษ….ฉันไม่ใช่คนงี่เง่าประสาทแดกที่ไม่แยกแยะเด็กก็คือเด็ก”
“คลอดแล้วค่ะเป็นเด็กผู้หญิงน่าตาน่ารักน่าชังเลย ตั้งแต่ยัยหนูเวียงพิงค์คลอดชุบก็ไม่มีของขวัญให้หลานเลยจึงอยากจะซื้อให้แกน่ะคะ”
“อื้มเอาสิ เธอจะซื้ออะไรก็ตามใจเก็บเงินที่ฉันได้เลยเฟื่องนิมมานคงจะสบายดีใช่ไหม?”
“ค่ะ พี่เฟื่องเธอสบายดี”
“เฮ้อ! นวดต่อสิเธอนวดดีนะฝีมือใช้ได้” ทั้งคู่จึงตกลงกันไปเที่ยวในวันต่อมาลูกชุบนั้นดีใจอย่างมากนี่ถือว่าเป็นครั้งแรกที่เธอจะได้ออกเดทกับเขา ริวกินั้นเมื่อพูดถึงเฟื่องนิมมานเขาก็ดูนิ่ง ๆ เฉย ๆ แต่อย่างไรก็ตามลูกชุบก็จะพยายามหลีกเลี่ยงและถนอมใจเขาให้มากที่สุดและจะไม่เอ่ยถึงชื่อนี้อีก