บท
ตั้งค่า

บทที่ 4 เดินทางกลับเสียนหยาง

บทที่ 4 เดินทางกลับเสียนหยาง

หลายวันต่อมาจ้าวฝูหมิงให้ไป๋มู่หลันกลับไปเก็บข้าวของเครื่องใช้ของนางที่เรือนให้เรียบร้อย เพื่อเตรียมออกเดินทางกลับเมืองหลวงเสียนหยางทันที ส่วนเขากลับไปกวาดต้อนเหล่าเชลยที่เป็นพวกเดียวกับฉีอ๋องให้กลับไปรับโทษที่เสียนหยางด้วย ยามนี้จวนอ๋องที่เคยใหญ่โตกลับกลายเป็นจวนร้าง จ้าวฝูหมิงจัดการฆ่าล้างตระกูลของฉีอ๋องจนสิ้นซากภายในคืนเดียว แต่ไหนแต่ไรฉีอ๋องผู้นี้ก็คิดก่อความวุ่นวายมาโดยตลอด ฮ่องเต้จ้าวฝูหรง พี่ชายของเขาเห็นแก่ความสัมพันธ์ฉันญาติมิตรมาโดยตลอด แม้จะเป็นญาติห่าง ๆ แต่ก็ยังยกดินแดนแคว้นฉีให้ปกครอง แต่ทว่าฉีอ๋องกลับโลภมากไม่รู้จักพอ จึงต้องมาพบจุดจบเช่นนี้

นี่สินะความโหดเหี้ยมในราชวงศ์ต่อให้เป็นญาติมิตรพี่น้องที่เคยรักใคร่กันแค่ไหน สุดท้ายแล้วก็ต้องจบชีวิตลงเพราะคำว่ายื้อแย่งอำนาจเพียงคำเดียว

ไป๋มู่หลันกลับมาลาบิดาของนางด้วยแววตาที่เศร้าใจไม่น้อย ได้ยินมาว่าท่านอ๋องสั่งให้เหล่าทหารมาทุบร้านของท่านพ่อ นางรู้สึกตื่นตระหนกยิ่งนัก แต่ทว่าทหารเหล่านั้นเอ่ยเพียงว่าท่านอ๋องสั่งให้ทุบร้านเก่าทิ้งเพราะเล็กเกินไป และสั่งให้สร้างร้านใหม่ที่ใหญ่ขึ้นกว่าเดิม

ให้ตายเถิด!!! เหตุใดจึงไม่แจ้งก่อนทุบกันเล่า!!!

"มู่หลัน เจ้าไปอยู่ในจวนท่านอ๋องก็ทำตัวดีดีเล่า สิ่งไหนที่ควรสงบปากสงบคำเจ้าก็เงียบเสีย เข้าใจหรือไม่?"

"เจ้าค่ะท่านพ่อ"

ไป๋มู่หลันพยักหน้าเพียงเล็กน้อย ก่อนจะแยกตัวเข้าไปในครัว นางทำเกี๊ยวหมูแป้งใสขึ้นมาหลายชิ้น รวมถึงซาลาเปาไส้เนื้ออีกหลายลูก และยังทำขนมเปี๊ยะไส้หัวไชเท้าเพิ่มมาอีกหลายชิ้นเพื่อรองท้องระหว่างการเดินทาง

"อนุไป๋ ท่านอ๋องให้ข้ามารับท่านกลับไปที่กองทัพขอรับ"

"ข้ารู้แล้ว"

ไป๋มู่หลันรับคำก่อนจะเดินไปนั่งในเกี้ยว สายตาของนางมองไปยังผู้เป็นบิดาอีกครั้ง ท่านพ่อส่งยิ้มให้นางด้วยความห่วงใย ก่อนจากลา ไป๋เฟยยังไม่ลืมที่จะยื่นตั๋วเงินหลายร้อยตำลึงให้นางติดตัวไปอีกด้วย เขาเองไม่มีสิ่งใดจะมอบให้บุตรสาวจึงทำได้เพียงมอบตั๋วเงินให้นางไว้ใช้สอยยามอยู่ที่จวนอ๋อง

เมื่อไป๋มู่หลันมาถึงกระโจมก็พบว่าจ้าวฝูหมิงเก็บข้าวของของเขาเรียบร้อยแล้ว ดวงตาคมหันมาจ้องมองนางเล็กน้อย ไป๋มู่หลันรู้สึกกระอักกระอ่วนในใจไม่น้อย นางจึงก้มหน้างุดไม่ยอมสบตากับเขา

จ้าวฝูหมิงยกยิ้มเจ้าเล่ห์ที่มุมปาก ก่อนจะเดินเข้าไปหานาง เขาใช้มือหนาใหญ่เชยคางนางขึ้นมาให้สบตากับเขา

"หึ!!! เขินอายข้าหรือ เฮ้อ เกิดมารูปงามที่สุดในใต้หล้าก็เป็นเช่นนี้ เจ้าจงทำใจเสียเถิด อย่างไรก็ต้องทนมองใบหน้าหล่อเหลาของข้าไปทั้งชีวิต"

ไป๋มู่หลันที่ได้ยินเขาเอ่ยเช่นนี้ก็รู้สึกมวนท้องน้อย อยากจะอาเจียนยิ่งนัก

หากนางอาเจียนใส่เขา เขาจะชักดาบมาฟันนางหรือไม่?

คงไม่เพราะเขาชอบชักอย่างอื่นให้นางดูมากกว่าชักดาบ!!!

"เก็บของเรียบร้อยแล้วหรือ?"

"เพคะ"

"ออกเดินทางได้"

ไป๋มู่หลันพยักหน้าน้อย ๆ ไม่นานนักเหล่าทหารก็มาช่วยขนข้าวของเครื่องใช้ของนางออกไป ของที่นางนำมาด้วยมีไม่มากเท่าใดนัก นอกจากเสื้อผ้าที่เขาสั่งตัดให้นางเมื่อหลายวันก่อน

จ้าวฝูหมิงนั่งอยู่บนรถม้ากับไป๋มู่หลัน โดยมีหลัวเฉิงลู่เป็นผู้นำขบวนทัพอยู่ด้านหน้า แววตาของจ้าวฝูหมิงนั้นเย็นชาและสุขุม ราวกับคอยระแวดระวังทุกอย่างรอบด้านตลอดเวลา

ไม่อาจปฏิเสธได้เลยว่าเขาช่างรูปงามไม่น้อย ชีวิตนี้นางเองไม่เคยมีความรักเลยสักครั้ง ด้วยมิเคยพบเจอหรือใกล้ชิดบุรุษมาก่อน จึงรู้สึกขัดเขินยามที่ต้องอยู่ใกล้กับเขา

ไป๋มู่หลันยื่นมือไปเปิดห่อผ้าที่บรรจุชามใส่อาหารแห้งเอาไว้ นางยื่นมันไปตรงหน้าเขาด้วยแววตาที่หวาดกลัว มิรู้ว่าเขาจะชอบหรือไม่?

จ้าวฝูหมิงขมวดคิ้วมุ่น แต่ทว่าเมื่อเห็นอาหารตรงหน้าที่ดูน่ากินไม่น้อย เขาก็รู้สึกอารมณ์ดีขึ้นมาบ้าง

"หม่อมฉันเห็นว่าทรงต้องเดินทางไกล จึงทำเพียงอาหารง่าย ๆ มาถวายเพคะ"

"อืม เจ้าจะมากพิธีไปทำไม มานี่!!! ขยับมาใกล้ข้า"

"เอ่อ..."

"มานี่!!!"

เขาช้อนอุ้มร่างบางของนางขึ้นมาวางไว้บนท่อนขาแกร่ง ไป๋มู่หลันใบหน้าแดงระเรื่อด้วยความเขินอาย รถม้าที่โยกโคลงเคลงไปมา ทำให้ร่างของนางบดเบียดซุกเข้าไปในแผงอกของเขาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

จ้าวฝูหมิงรู้สึกดีไม่น้อย อ่าาาา!!! หน้าอกนางเบียดเข้ามาแล้ว โอวว ดีเยี่ยม เบียดอีก คนขับรถม้าเที่ยวนี้ช่างรู้งานยิ่งนัก กลับไปต้องตกรางวัล!!!

"ทะ ท่านอ๋องเพคะ"

"หยิบขนมเปี๊ยะขึ้นมาป้อนให้ข้า"

ไป๋มู่หลันคิดอยากปฏิเสธเขาแต่นางก็ไม่กล้า จึงทำได้เพียงหยิบมันขึ้นมาป้อนเขาทีละคำอย่างช้า ๆ

ผ่านไปไม่นาน จ้าวฝูหมิงรู้สึกอิ่มแล้ว เขาจึงปล่อยนางให้ไปนั่งตามเดิม ไป๋มู่หลันไม่ค่อยอยากอาหารเท่าใดนัก นางจึงยื่นมือไปหยิบเซียงเจียวผลใหญ่ (กล้วยหอม) ขึ้นมาปอกเปลือกและกัดกินอย่างช้า ๆ

จ้าวฝูหมิงหันไปเห็นเข้าพอดี แววตาของเขาทอประกายแวววาวขึ้นมาทันที ในหัวพลันครุ่นคิดบางอย่างขึ้นมาได้ ยามที่นางกัดกินผลเซียงเจียวผลนั้น ริมฝีปากของนางเผยออ้าออกอย่างช้า ๆ ช่างดูงดงามไม่น้อย

หากผลเซียงเจียวในปากของนางเปลี่ยนเป็นแท่งเอ็นร้อนของเขาก็คงจะดีไม่น้อย

ขบวนรถม้าของชินอ๋องเคลื่อนไปอย่างไม่รีบไม่ร้อน เหนื่อยก็พัก พอหายเหนื่อยเขาก็สั่งให้เคลื่อนขบวนต่อ เหล่าเชลยจากแคว้นฉี ต่างเดินเท้าตามขบวนกันด้วยแววตาที่หมดอาลัยตายอยาก นับจากนี้ชะตาชีวิตจะดำเนินไปในทิศทางใด จะเป็นหรือตายก็ยังไม่แน่ชัด

ขบวนทัพของชินอ๋องจ้าวฝูหมิงเดินทางมาร่วมครึ่งเดือนก็ถึงเมืองหลวงเสียนหยาง ไป๋มู่หลันรู้สึกปวดเมื่อยตามร่างกายไปหมด

จ้าวฝูหมิงสั่งให้หลัวเฉิงลู่นำเชลยไปส่งมอบให้แก่ฮ่องเต้จ้าวฝูหรงผู้เป็นพี่ชาย ส่วนเขามุ่งหน้ากลับจวนอ๋องอย่างไม่ใส่ใจ

เสด็จพี่น่ะหรือจะกล้าต่อว่าเขา รอให้เขาอารมณ์ดีจะไปเข้าเฝ้าเอง!!!

ฮ่องเต้จ้าวฝูหรงที่ทราบว่าน้องชายกลับมาถึงเมืองหลวงแล้วก็ดีใจเป็นอย่างมาก แต่ทว่ารอแล้วรอเล่าก็ไร้วี่แววของจ้าวฝูหมิง ได้ยินมาว่าน้องรองพาอนุกลับมาด้วยคนหนึ่ง ดูแล้วคงจะไม่มาเข้าเฝ้าเขาในเร็ววันนี้เป็นแน่

บัดซบ!!! เห็นสตรีดีกว่าข้าเช่นนั้นหรือ?

แต่ช่างเถิด ปล่อยมันไป!!! ข้าไม่อาจทนให้น้องรองมาด่าทอข้าอีก จ้าวฝูหมิงปากร้ายไม่เห็นหัวผู้ใดทั้งสิ้น ข้อนี้เขาทราบดี แต่อย่างไรเสีย เขาก็รักน้องรองผู้นี้ไม่น้อย แม้จะปากร้ายไม่เห็นหัวผู้ใด แต่ยามที่บ้านเมืองตกอยู่ในความลำบาก น้องรองจะยื่นมือเข้ามาช่วยทุกครั้งอย่างสุดความสามารถ

ไป๋มู่หลันแอบเปิดม่านออกมองดูทิวทัศน์รอบด้านของเมืองเสียนหยาง ที่นี่ค่อนข้างอุดมสมบูรณ์และงดงามกว่าแคว้นฉีของนางยิ่งนัก อีกทั้งผู้คนก็มากมายเหลือเกิน

"จะลงมาเอง หรือให้ข้าลากลงไป เหม่อสิ่งใดอยู่!!!"

"ขออภัยเพคะท่านอ๋อง"

จ้าวฝูหมิงปรายตามองไปยังทิศทางที่ไป๋มู่หลันจ้องมองเมื่อครู่ ก่อนจะพบกับตาเฒ่าชราผู้หนึ่งที่ขายซาลาเปาอยู่ด้านหน้าจวนอ๋องของเขา

บัดซบ!!! มิใช่ว่านางชอบตาเฒ่าขายซาลาเปาคราวพ่อผู้นั้นหรอกนะ

เขารีบช้อนตัวนางมาพาดไว้บนบ่าทันที ไป๋มู่หลันรู้สึกตกใจไม่น้อย เหตุใดเขานึกจะแบกนางก็แบกไปเช่นนี้!!!

จ้าวฝูหมิงยกยิ้มเจ้าเล่ห์ ก่อนจะหันไปยักคิ้วให้ตาเฒ่าขายซาลาเปาผู้นั้น หึ!!! แหกตาดูเสีย นางเป็นภรรยาข้าแล้ว

ตาเฒ่าขายซาลาเปาทำได้เพียงขมวดคิ้วมุ่นด้วยความงุนงง ท่านอ๋องผู้นี้อยู่ดีดีมายักคิ้วให้ข้าทำไมกัน?

ภายในจวนอ๋องประดับประดาด้วยของมีค่ามากมาย ช่างดูหรูหราแม้กระทั่งประตูจวนที่มีอักษรทองคำสลักเอาไว้ว่า จวนชินอ๋อง บรรยากาศภายในจวนร่มรื่นปกคลุมไปด้วยต้นไม้และดอกไม้มากมาย ด้านหน้าตำหนักใหญ่ยังมีสระบัวขนาดใหญ่อีกด้วย จวนแห่งนี้จ้าวฝูหมิงเป็นคนตกแต่งด้วยตนเอง เขาชื่นชอบธรรมชาติ ในจวนจึงมีต้นไม้และดอกไม้ปลูกเอาไว้จนเต็มไปหมด

"ท่านอ๋องกลับมาแล้ว"

"พ่อบ้านเฉิน ไปเตรียมห้องนอนให้อนุของข้า"

"อนุ?"

"ฟังไม่รู้เรื่องรึ!!! เดี๋ยวก็ถีบยอดหน้าเข้าให้!!!"

"ขออภัยท่านอ๋อง บ่าวจะไปจัดเตรียมเดี๋ยวนี้"

พ่อบ้านเฉินรีบกุลีกุจอจากไปทันที แต่ถึงอย่างนั้นเขายังแอบเหลือบมองไป๋มู่หลันคราหนึ่ง เขาเฝ้ามองดูการเติบโตของชินอ๋องมาแต่เล็กแต่น้อย เขาเคารพและรักชินอ๋องเป็นอย่างมาก แม้บางคราจะถูกชินอ๋องกระชากหงอกจนหมดหัวก็ตามเถิด!!!

ไม่คาดคิดว่าจะมีสตรีใดที่ทำให้พระองค์ทรงใส่พระทัยได้เช่นนี้

จ้าวฝูหมิงสั่งคนให้อุ่นสุรามาให้เขากาหนึ่ง ก่อนจะเทมันลงในจอกและยกขึ้นดื่มลงคออย่างสบายอารมณ์

"ท่านอ๋องพ่ะย่ะค่ะ"

"พ่อบ้านเฉิน จัดที่ทางให้นางอยู่ส่วนไหน?"

"เอ่อ ทูลท่านอ๋อง ยามนี้ทั้งเรือนปีกซ้ายและปีกขวา ล้วนมีนางบำเรอพักอาศัยอยู่เต็มไปหมด เอ่อ... เหลือเพียงเรือนน้อยท้ายจวนที่ติดโรงครัวพ่ะย่ะค่ะ"

จ้าวฝูหมิงปรายตามองพ่อบ้านเฉินทันที

"เจ้ากล้าดีอย่างไรถึงกล้าให้อนุของข้าไปอยู่ท้ายจวน?"

"เอ่อ...ท่านอ๋อง!!!"

"ลากไปโบยห้าสิบไม้!!!"

ไป๋มู่หลันรู้สึกว่าเรื่องราวชักจะไปกันใหญ่ นางเองอยู่ที่ใดก็ได้ทั้งนั้น ดีเสียอีก ไปอยู่ท้ายจวนจะได้อยู่ไกลหูไกลตาเขาด้วย เขาจะได้ไม่มาใส่ใจนางอีก ลืม ๆ นางไปเสียเถิด

"ท่านอ๋องเพคะ หม่อมฉันชอบเรือนท้ายจวนเพคะ"

จ้าวฝูหมิงรีบหันไปมองนางทันที ไป๋มู่หลันที่เห็นเช่นนั้นจึงเอ่ยอธิบายให้ชัดเจนยิ่งขึ้น

"หม่อมฉันชื่นชอบการทำอาหาร ดีเสียอีกจะได้อยู่ใกล้โรงครัว คอยทำอาหารให้ท่านอ๋องเสวยทุกวันเพคะ"

จ้าวฝูหมิงที่ได้ยินเช่นนั้นก็อารมณ์ดีขึ้นมาไม่น้อย ในใจรู้สึกเอ็นดูนางขึ้นมาหลายส่วน

หึ...เริ่มจะหลงข้าจนหัวปักหัวปำแล้วสินะ

เอาเถิด! ในเมื่อนางชอบข้าก็จะตามใจนาง เด็กวัยกำลังเติบโต ห้ามขัดใจจะเป็นการดี ขืนนางอารมณ์เสียแล้วรอบเดือนมาช้าไปอีก ข้ามิต้องรอจนผมหงอกขึ้นเต็มหัวเลยหรือ!!!

ไม่ดี ไม่ดี!!!

"พ่อบ้านเฉิน ไปจัดเตรียมเรือนท้ายจวนเอาไว้ สั่งคนไปทำป้ายติดที่หน้าเรือนของนาง ว่าเรือน อนุไป๋!!!"

"พ่ะย่ะค่ะท่านอ๋อง"

หลังจากที่พ่อบ้านเฉินออกไปแล้ว ไป๋มู่หลันก็เห็นว่ามีสตรีสามสี่นางกำลังเดินเข้ามาหาจ้าวฝูหมิงด้วยแววตาเป็นประกาย

"ท่านอ๋อง!!!"

จ้าวฝูหมิงปรายตามองพวกนางด้วยความเบื่อหน่าย พวกนางเป็นนางบำเรอที่เขาเลี้ยงดูเอาไว้ วัน ๆ มีหน้าที่คอยเอาอกเอาใจเขา แต่ทว่าตั้งแต่หลับนอนกับพวกนางเพียงครั้งเดียว เขาก็ไม่เคยไปหาพวกนางอีกเลย

หลิงหลิง นางบำเรอที่อายุมากกว่าคนอื่น ๆ ปรายตามองไป๋มู่หลันเล็กน้อย ปีนี้นางอายุยี่สิบปีแล้ว ท่านอ๋องรับนางมาจากหอนางโลม เขาหลับนอนกับนางเพียงครั้งเดียว และเลี้ยงดูนางเอาไว้ในจวนได้ร่วมสองปีแล้ว

สตรีน้อยนางนี้คือผู้ใดกัน!!! นางบำเรอคนใหม่หรือ?

ทุกการกระทำของหลิงหลิงอยู่ในสายตาของจ้าวฝูหมิงทุกอย่าง เหตุใดเขาจะไม่ล่วงรู้ความคิดของนางกัน เมื่อเห็นเช่นนั้นเขาจึงเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชา

"นางเป็นอนุของข้า พวกเจ้ายังไม่ทำความเคารพนางอีก"

"เอ่อ อนุ?"

"ถามทำไม!!! รีบทำความเคารพนางสิ!!!"

หลิงหลิงและเหล่านางบำเรอทำความเคารพไป๋มู่หลันตามคำสั่งทันที แต่ทว่าหลิงหลิงยังไม่ยอมหยุดเอ่ยถามจ้าวฝูหมิงอีกครั้ง

"นางจะมาเป็นนายหญิงของพวกเราหรือเพคะ"

"เป็นอนุ!!! นายหญิงอะไรกัน ในจวนอ๋องแห่งนี้ข้าคนเดียวที่เป็นนาย!!!"

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel