บทที่ 3 บำรุงให้นางโตเร็ว ๆ
บทที่ 3 บำรุงให้นางโตเร็ว ๆ
ไป๋มู่หลันรู้สึกหวาดกลัวเป็นอย่างมาก นางรีบมุดหน้าเข้าไปในผ้าห่มทันที ผ่านไปครู่หนึ่งเมื่อจ้าวฝูหมิงได้ระบายอารมณ์จนพอใจแล้ว เขาจึงล้มตัวลงนอนข้างกายของนาง ตลอดทั้งคืนไป๋มู่หลันรู้สึกนอนไม่หลับเลยแม้แต่น้อย คงเพราะนางแปลกที่ด้วย และอีกอย่างก็เพราะจ้าวฝูหมิงใช้ท่อนขาแกร่งมาวางพาดบนร่างของนางตลอดทั้งคืนราวกับนางเป็นหมอนข้างให้เขากอดก่าย
จ้าวฝูหมิงมิเคยให้สตรีใดมานอนข้างกายเขาทั้งคืนเช่นนี้ เมื่อไป๋มู่หลันมานอนด้วย เขาจึงไม่รู้ว่าควรจะต้องทำเช่นไร จะกอดนางก็กลัวว่าตนเองจะทนไม่ไหว เผลอทำสิ่งใดนางลงไปโดยไม่รู้ตัว นางยังไม่มีรอบเดือน เขาจึงทำได้เพียงใช้ท่อนขาข้างหนึ่งก่ายไว้บนกายนาง
สตรีของข้าย่อมต้องอยู่ใต้บัญชาของข้า ต่อให้ข้าเอาขาก่ายคอนาง นางก็ไม่มีสิทธิ์มาต่อว่าเขาแม้แต่น้อย!!!
รุ่งเช้ามาเยือน ดวงอาทิตย์ส่องแสงเจิดจ้าสาดส่องเข้ามาในกระโจม จ้าวฝูหมิงลืมตาตื่นขึ้นมาและมองไปข้างกาย กลับพบว่านางหายไปเสียแล้ว
บัดซบ!!! แอบหนีไปตอนข้าหลับหรือ!!! บังอาจนัก
เขาชักดาบยาวออกมาพร้อมกับเดินมุ่งตรงออกไปนอกกระโจม แต่เมื่อออกไปกลับพบไป๋มู่หลันที่กำลังง่วนอยู่ที่หน้าเตาไฟ โดยมีหลัวเฉิงลู่คอยรับใช้อยู่ไม่ห่าง
เพราะติดนิสัยตื่นเช้ามาตลอด นางจึงออกไปสูดอากาศที่ด้านนอก จนได้พบกับหลัวเฉิงลู่เข้า จึงเอ่ยปากวานให้เขากลับไปที่เรือนของนาง นำซี่โครงหมูและวัตถุดิบที่นางต้องการมาให้เสียหน่อย อย่างไรเสียนางก็แต่งเป็นอนุของเขาแล้ว ท่านป้าบอกว่าภรรยาควรดูแลปรนนิบัติสามีให้ดี นางจึงไม่อยากจะคิดสิ่งใดให้มากความ หลัวเฉิงลู่รับคำก่อนจะจากไปและกลับมาพร้อมวัตถุดิบที่นางต้องการ
ไป๋มู่หลันจัดการนำซี่โครงหมูมาล้างให้สะอาดและนำไปลวกในน้ำเดือด ให้ซี่โครงหมูระบายเลือดออกและช้อนฟองสีขาวขุ่นออกจนหมด จากนั้นจึงต้มมันต่อไปเรื่อย ๆ จนกลายเป็นน้ำซุป นางหั่นขิงเป็นแผ่นขนาดพอดีไม่เล็กไม่ใหญ่ใส่ลงไปเล็กน้อย เพื่อให้ได้รสชาติที่ดีมากยิ่งขึ้น เคี่ยวด้วยไฟอ่อน ๆ จนได้ที่ปรุงรสด้วยเกลือ พริกไทย และน้ำมันงาเล็กน้อย แล้วจึงใส่หัวไชเท้าไปตุ๋นอีกรอบ รอจนสีของน้ำซุปเข้มข้นขึ้นเป็นอันเสร็จเรียบร้อย ทานกับข้าวเม็ดนุ่มฟูคงจะเข้ากันดีเป็นอย่างยิ่ง
กลิ่นหอมของซุปกระดูกต้มหัวไชเท้าทำให้โทสะในใจของจ้าวฝูหมิงคลายลงไปไม่น้อย ที่แท้ก็ออกมาทำอาหารนี่เอง เหตุใดจึงไม่บอกเขาก่อนเล่า!!! เขาเป็นสามีนางนะ
ไป๋มู่หลันยกมือเรียวสวยขึ้นมาซับเหงื่อออกเล็กน้อย นางหันไปพบกับจ้าวฝูหมิงเข้าพอดี จึงรีบวางสิ่งของในมือลงและย่อกายคำนับเขา หลัวเฉิงลู่ที่เห็นเช่นนั้นจึงรีบเดินออกไปทันที
"ทำสิ่งใดอยู่?"
"ทูลท่านอ๋อง หม่อมฉันกำลังทำซุปกระดูกต้มหัวไชเท้าเพคะ"
จ้าวฝูหมิงพยักหน้าเล็กน้อย ดีจริง! นางทำอาหารเป็นเสียด้วย
"ยกไปให้ข้าในกระโจม"
"เพคะ"
ไป๋มู่หลันพยักหน้าอย่างว่าง่าย นางจัดแจงจัดสำรับไปให้เขาอย่างไม่รอช้า จ้าวฝูหมิงที่เห็นเช่นนั้นก็ไม่รีรอ รีบพุ้ยข้าวใส่ปากทันที เขายกถ้วยซุปขึ้นมาซดและพบว่ามันรสชาติดีเยี่ยมเหลือเกิน
"ยังมีอีกหรือไม่?"
"มีเพคะ"
"เอามาให้ข้าทั้งหม้อ"
ไป๋มู่หลันรู้สึกตกใจยิ่งนัก นี่เขากินเก่งถึงเพียงนี้เชียวหรือ
แม้จะสงสัยแต่ก็ไม่อาจรั้งรอ นางรีบยกหม้อซุปมาให้เขาทันที จ้าวฝูหมิงกินมันจนเกือบหมด ก่อนจะลุกเดินออกไปทันที
ไป๋มู่หลันจ้องมองเศษกระดูกในน้ำซุปนั้นด้วยสายตาที่ห่อเหี่ยว เขากินไม่เหลือให้นางเลย แต่ช่างเถิด นางเองก็ไม่รู้สึกหิวเท่าใดนัก กินรองท้องเพียงแค่นี้ก็พอแล้ว
จ้าวฝูหมิงสั่งการให้หลัวเฉิงลู่ไปเสาะหาหมอที่เก่งกาจเรื่องของสตรีมาสามสี่คน เขาต้องการให้นางมีรอบเดือนให้เร็วที่สุด เขาจะทนไม่ไหวแล้ว!!! หากต้องรอไปเช่นนี้เรื่อย ๆ เขาจะแต่งอนุมาทำไมกัน!!!
เมื่อกลับมาอีกครา ก็พบว่านางกำลังกินเศษกระดูกในน้ำซุปอยู่ แววตาของเขาเย็นเยียบขึ้นมาทันที
"หลัวเฉิงลู่!!!"
"พ่ะย่ะค่ะท่านอ๋อง"
"เจ้าให้อนุข้ากินเศษกระดูกเช่นนี้หรือ!!!"
หลัวเฉิงลู่รู้สึกมึนงงเป็นอย่างยิ่ง เมื่อครู่เขามาแจ้งนางว่าจะมีท่านหมอเข้ามาตรวจร่างกาย กลับพบว่านางกำลังกินเศษกระดูกอยู่ พอสอบถามจึงพบว่าท่านอ๋องเสวยจนเกลี้ยงหม้อไม่เหลือเอาไว้ให้นางเลยแม้แต่น้อย
เขาผิดตรงไหนกัน?
"ทูลท่านอ๋อง เป็นพระองค์ที่เสวยจนหมดมิใช่หรือพ่ะย่ะค่ะ"
หลัวเฉิงลู่เอ่ยอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ จ้าวฝูหมิงนิ่งคิดไปชั่วครู่ แล้วจึงหันไปจ้องมององครักษ์ของเขาด้วยความไม่พอใจ
เขากินหมดหม้อแล้วจะทำไม!!!
"ข้ากินหมด!!! แล้วพวกเจ้าไม่มีปัญญาหามาให้นางใหม่หรือ บัดซบ!!! ช่างไม่รู้ความ"
"ขออภัยท่านอ๋อง"
"ไสหัวไปพาหมอมา!!!"
หลัวเฉิงลู่พยักหน้าก่อนจะรีบถอยออกไปทันที ไป๋มู่หลันรู้สึกอิ่มเสียแล้ว เสียงโวยวายที่หน้ากระโจมนั่นทำให้นางรู้สึกไม่อยากอาหาร
จ้าวฝูหมิงครุ่นคิดอีกคราหนึ่ง นี่เขาต้องรอนางกินด้วยหรือ? เขาไม่เข้าใจ
เขาเดินกลับเข้าไปหานางทันที ก่อนจะพบว่านางกำลังเก็บถ้วยชามอยู่ เขาตรงเข้าไปคว้าข้อมือของนางทันที ไป๋มู่หลันรู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก นี่เขาจะทำอะไรนางอีก
"ท่านอ๋อง"
"เดินชักช้ายิ่งนัก มานี่!!!"
"ว้าย!!!"
เขาจับร่างของนางขึ้นพาดบ่าทันที ไป๋มู่หลันรู้สึกอยากอาเจียนแต่พยายามอดทนเอาไว้ เขาจับนางยัดเข้าไปในเกี้ยวแล้วจึงตามเข้ามานั่งด้วยทันที
"ไปตลาด"
เขาออกคำสั่งไม่นานนักรถม้าก็เคลื่อนที่ออกจากกองทัพของเขาทันที ไป๋มู่หลันกระวนกระวายยิ่งนัก ไม่รู้ว่าเขาจะพานางไปตลาดทำไมกัน
"ท่านอ๋อง"
"หุบปาก!!! ห้ามถาม"
เขาหันไปตะคอกใส่นางทันที สตรีพวกนี้ช่างน่ารำคาญยิ่งนัก จะสงสัยสิ่งใดกันนักหนา
แต่เมื่อหันไปพบเข้ากับนางที่ยามนี้กำลังจัดเสื้อผ้าให้เข้าที่ ดวงตาคมจ้องมองไปที่เนินอกอวบสวยของนางในยามนี้ที่มันแทบจะล้นทะลักออกมาอยู่แล้ว
จ้าวฝูหมิงกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ เขาชื่นชอบสตรีที่มีหน้าอกใหญ่เช่นนี้ นางบำเรอในจวนล้วนมีหน้าอกที่ใหญ่ไม่ต่างกัน แต่ไม่เหมือนกับนาง หน้าอกของนางดูเต่งตึง และงดงามเกินคำบรรยาย ผิวพรรณของนางก็ขาวเนียนราวหิมะ ไม่เหมือนสตรีใดที่เขาเคยพบเจอ
รถม้าโคลงเคลงไปมา ทำให้ร่างของไป๋มู่หลันซวนเซไปชนกับร่างของเขา หน้าอกอวบบดเบียดถูไถท่อนแขนของเขาครั้งแล้วครั้งเล่า จ้าวฝูหมิงพยายามอดทนปากก็ท่องบทสวดดับกิเลสพึมพำไปมาอย่างไม่ขาดสาย
อดทนไว้! อดทนไว้
หมับ
"ว้าย!!! ท่านอ๋อง มาจับหน้าอกหม่อมฉันทำไมเพคะ!!!"
"หุบปาก!!! รถม้ามันโคลงเคลงข้าเวียนหัวยิ่งนัก ต้องหาที่ยึดเอาไว้"
จึงยึดหน้าอกนาง?
"เอ่อ...อื้อออ อย่าบีบเพคะ"
"รถม้ามันโคลงเคลงเจ้าไม่เห็นหรือ!!!"
อาาาา!!! พอดีมือข้าเลย
ตลอดทางจ้าวฝูหมิงหาทางแทะโลมนางตลอด ไป๋มู่หลันทั้งโกรธทั้งอายเสียจนใบหน้าแดงระเรื่อไปหมด นึกอยากจะทุบตีเขายิ่งนัก
ไม่นานนักรถม้าก็มาจอดที่กลางตลาด เขาเดินลงไปก่อนนาง ไป๋มู่หลันเดินตามเขาลงมาอย่างรวดเร็ว
ตรงหน้าของนางมีร้านผ้าขนาดใหญ่อยู่ร้านหนึ่ง มีทั้งเสื้อผ้าที่ตัดสำเร็จแล้ว และผ้าสีสันสวยงามที่ใช้สำหรับตัดอาภรณ์ให้สตรี
"ตามข้ามา"
"เพคะ"
ไป๋มู่หลันเดินเข้าไปในร้านผ้า เถ้าแก่ที่ร้านกับภรรยารีบมาต้อนรับทันทีอย่างกระตือรือร้น
"ต้องการผ้าแบบใดเจ้าคะ"
"เหมาหมดทั้งร้าน ตัดชุดให้อนุของข้า วัดตัวของนางได้เลย เนื้อผ้าดีดี เน้นเป็นชุดที่เห็นเรือนร่างชัดเจน"
"ได้เลยเจ้าค่ะ"
เถ้าแก่ร้านหันไปยิ้มกับภรรยาด้วยความดีใจ นาน ๆ ครั้งถึงจะมีชนชั้นสูงมาเหมาร้านเช่นนี้ย่อมดีไม่น้อย
ไป๋มู่หลันรู้สึกว่าจ้าวฝูหมิงช่างใช้ตำลึงสิ้นเปลืองไม่น้อย นี่เขาเหมาร้านหมดเลยหรือ ใครจะไปใส่หมดนี่กัน!!!
"ยืนบื้ออยู่ทำไม ไปวัดตัวตัดชุดสิ!"
"เอ่อ ท่านอ๋องเพคะ หม่อมฉัน..."
"จะไปดีดี หรือจะให้ข้าจูบเจ้าให้คนในตลาดดู"
ไป๋มู่หลันรีบก้มหน้างุด แล้วเดินตามภรรยาของเถ้าแก่ร้านเสื้อผ้าเข้าไปทันที
ผ่านไปหนึ่งเค่อ (15นาที) ไป๋มู่หลันก็เดินออกมา จ้าวฝูหมิงเอ่ยเพียงว่าจะมีคนมารับชุดในอีกสามวัน ก่อนจะพานางเดินลัดเลาะเข้าไปในตลาดและซื้อของกินหลายอย่างทั้งของสดของคาว ไว้ให้นางจนเต็มไปหมด
เด็กในวัยนี้กำลังเจริญเติบโต เขาต้องบำรุงนางให้ดี ให้รอบเดือนของนางมาเร็ว ๆ!!!
เขาพานางกลับไปที่กองทัพทันทีอย่างไม่รีรอ เมื่อไปถึงก็พบว่าท่านหมอที่หลัวเฉิงลู่พามาได้มารออยู่แล้ว เขาจึงสั่งให้ตรวจนางอย่างละเอียด
เหล่าหมอต่างทำงานกันด้วยความละเอียด มิกล้ากระทำการใดให้ท่านอ๋องผู้นี้โกรธแม้แต่น้อย ให้ตายเถิด!!! ท่านอ๋องผู้นี้ ไปฉุดสตรีที่ยังไม่มีรอบเดือนมาเชียวหรือ ช่างน่าเวทนายิ่งนัก!!!
"เหตุใดนางจึงยังไม่มีรอบเดือน?"
"ทูลท่านอ๋อง อาจจะเป็นเพราะภายในเย็นจนเกินไป จึงทำให้เลือดไหลเวียนไม่สะดวก กระหม่อมจะจัดเทียบยาให้นางดื่มเรื่อยไป คาดว่าอีกสามสี่เดือน รอบเดือนของนางจะมาเป็นปกติพ่ะย่ะค่ะ"
"สามสี่เดือน!!!"
จ้าวฝูหมิงลุกขึ้นยืนพร้อมกับตะโกนออกมาจนสุดเสียง!!! บัดซบ!!! สามสี่เดือน แขนเขาไม่ล้าหมดแล้วรึ!!! ต้องออกแรงชักนานเช่นนั้น
"เร็วกว่านี้ได้หรือไม่?"
"ทูลท่านอ๋อง การจะรักษาอาการเย็นภายในร่างกายย่อมมิใช่เรื่องง่าย ท่าน โอ๊ย!!!"
จ้าวฝูหมิงยกเท้าขึ้นถีบท่านหมอจนกระเด็นไปชนกับหลัวเฉิงลู่ที่ยืนอยู่ไม่ไกลนัก
"ข้าอยากรู้ว่าเร็วกว่านี้ได้หรือไม่!!! ไม่อยากรู้วิธีรักษาของเจ้า ไสหัวไป!!!"
"ท่านอ๋อง!!! บ่าวจะพยายามสุดความสามารถ ขอท่านอ๋องได้โปรดอย่าทรงกริ้ว!!!"
"ไสหัวไป!!!"
จ้าวฝูหมิงรู้สึกหงุดหงิดใจยิ่งนัก เห็นทีหมอชาวบ้านคงจะรักษานางไม่หาย คงต้องพานางกลับเมืองเสียนหยางให้เร็วที่สุด!!!
ไป๋มู่หลันก้มหน้างุด นางทั้งอับอายเหลือจะกล่าว แต่ก็ไม่อาจเอ่ยสิ่งใดออกไปได้แม้แต่น้อย
จ้าวฝูหมิงไล่คนอื่น ๆ ออกไปจากกระโจมจนหมด เหลือเพียงเขากับนางสองคน เขาจัดการให้คนเตรียมของบำรุงชั้นเยี่ยมเอาไว้ให้นาง ทั้งพุทราจีนผลใหญ่สีแดง ซุปเนื้อชั้นดี และผลไม้อีกมากมาย
"เจ้ากินเสียสิ"
คราวนี้เขาเริ่มรู้แล้วว่าต้องให้นางกินจนอิ่มก่อน หากนางอิ่ม ร่างกายแข็งแรง นางก็จะโตเร็ว!!! หึหึ
"เอ่อ หม่อมฉันอิ่มแล้วเพคะ อื้ออ!!!"
"สั่งให้กินก็กิน"
เขาหยิบพุทราขึ้นมากัดเอาไว้ แล้วจึงโน้มใบหน้าเข้าไปหานาง ก่อนจะป้อนพุทราจากปากของเขาเข้าไปในปากของนางอย่างเอาแต่ใจ
ไป๋มู่หลันจนปัญญาแล้ว นางจึงทำได้เพียงเคี้ยวกลืนมันลงคอไปเสีย แต่ทว่ารสชาติมันก็ไม่เลวเลย หวานอร่อยยิ่งนัก
จ้าวฝูหมิงที่หันไปเห็นส้มผลใหญ่ก็รีบหยิบมันขึ้นมาปอกเปลือกทันที เขาชอบกินส้มมากที่สุด มันมีรสชาติหวานอมเปรี้ยวให้ความรู้สึกที่สดชื่นยิ่งนัก
เขาใช้มือจับกลีบส้มมาวางใส่จานใบเล็ก ก่อนจะครุ่นคิดขึ้นมา
เอ๋? สองกลีบช่วงล่างของนางจะหนาเหมือนกลีบส้มหรือไม่?