บทที่ 3 (2)
“อยากเห็นหน้าพี่สะใภ้จังเลย พี่ริคพาไปหาหน่อยสิคะ”
ปาลิตาอ้อนวอนเสียงกระตือรือร้น ตื่นเต้นจนแทบระงับใจไว้ไม่อยู่ เพราะอยากยลโฉมว่าที่พี่สะใภ้ว่าจะงดงามและเป็นคนเช่นไร จึงสามารถพิชิตใจของเจ้าแห่งเดอะ คิง ออฟ คอรันดัม กรุ๊ปได้
“ไม่ต้องไปหรอก เดี๋ยวรีน่าก็คงมาแล้วมั้ง พี่สั่งเลขาฯ ไปสักพักใหญ่แล้วให้รีน่ามาพบพี่ที่ห้องทำงาน”
“ถ้างั้นลิตารอที่นี่ก็ได้ เดี๋ยวระหว่างนี้จะได้สัมภาษณ์พี่ริคเรื่องที่พบรักกับพี่รีน่าด้วย”
ปาลิตายิ้มแป้น พอจะอ้าปากยิงคำถามที่ตนเองคิดไว้เป็นสิบๆ ก็ถูกเฟรดร์ดิโค้ยกมือขึ้นห้ามทัพอย่างรู้ทัน
“ไม่ต้องถามอะไรทั้งนั้นแหละลิต้า ว่าแต่ลิต้าเถอะมาถึงเมืองไทยเมื่อไร แล้วทำไมไม่โทรมาบอกพี่ให้ไปรับที่สนามบิน”
ปาลิตาแกล้งตีหน้าม่อยพร้อมกับถอนหายใจยาว
“เฮ้อ...ถ้ารอให้คุณเฟรดร์ดิโค้ เลมาร์โค้ นักธุรกิจหนุ่มที่มีงานมัดรอบตัว สงสัยลิต้าคงได้นอนรอที่สนามบินเป็นแน่”
เฟรดร์ดิโค้หัวเราะเบาๆ กับคำแซวของน้องสาว ก่อนจะเอ่ยแก้ตัวทั้งๆ ที่รู้ว่าสิ่งที่น้องสาวพูดมานั้นถูกต้องทุกอย่าง
“งานพี่ไม่ได้รัดตัวขนาดนั้นหรอก แล้วนี่ลิต้าเรียนจบแล้วใช่ไหม”
“จบแล้วค่ะ ด้านบริหารธุรกิจ ได้เกียรตินิยมด้วยนะคะ พี่ริคสนใจจะให้รางวัลน้องสาวเป็นรถยนต์หรูๆ หรือเครื่องเพชรชุดใหญ่สักชุดสองชุดไหมคะ”
ที่เอ่ยขอเพราะอยากแซวพี่ชายเล่น หาใช่อยากได้ในสิ่งที่เอ่ยไป เพราะสิ่งเหล่านี้เธอได้รับมามากพอแล้ว ทั้งจากบิดาและมารดา รวมทั้งเฟรดร์ดิโค้ที่คอยส่งของขวัญสวยๆ ราคาแพงให้เธอตามเทศกาลสำคัญๆ เสมอ
“อยากได้อะไรล่ะยายตัวแสบ รถ เครื่องเพชร หรือว่าอยากได้อย่างอื่น” เฟรดร์ดิโค้ถามยิ้มๆ รู้ว่าปาลิตาแกล้งขอ ไม่ได้อยากได้จริงๆ
ดวงตาคู่สวยกลมโตเต้นระริกแพรวพราว ขณะที่เจ้าตัวยิ้มย่องด้วยความดีใจกับคำถามของพี่ชายผู้ใจดี
“พูดแล้วห้ามคืนคำนะพี่ริค” ปาลิตาย้ำคำ พอเฟรดร์ดิโค้พยักหน้ารับอีกครั้งก็รีบเอ่ยสิ่งที่ตนเองต้องการทันทีด้วยเกรงว่าพี่ชายจะเปลี่ยนใจ
“ลิต้าอยากทำงานที่เดอะ คิง ออฟ คอรันดัม”
“เฮ้ย! จะดีเหรอลิต้า”
เฟรดร์ดิโค้ร้องเสียงหลงทันที อยากจะปฏิเสธเหลือกำลัง ขืนให้น้องสาวตัวแสบจอมป่วนมาทำงานที่เดอะ คิง ออฟ คอรันดัม มีหวังได้ไล่แขกออกหมดโรงแรมเป็นแน่
“ดีที่สุดเลยพี่ริค ลิต้าไม่อยากไปทำงานกับคุณพ่อคุณแม่ ให้ลิต้าทำงานที่นี่ด้วยนะ”
ปาลิตาอ้อนเสียงหวาน ทำตาปริบๆ ยิ้มประจบประแจง ราวกับแมวน้อยที่กำลังคลอเคลียอ้อนเจ้าของไม่มีผิด
“พี่กลัวลิต้าจะไล่แขกพี่หมดน่ะสิ” เฟรดร์ดิโค้รีบบอกความคิดของตัวเอง ซึ่งมีความเป็นไปได้สูงที่ปาลิตาจอมแก่นจะทำเช่นนั้น
“รับรองว่าปาลิตาคนนี้ไม่ไล่แขกหมดโรงแรมแน่นอน”
“ฟังแล้วทะแม่งๆ นะลิต้า ไม่ไล่แขกหมดโรงแรม แต่แปลว่าจะไล่ออกบางส่วนหรือเปล่า”
เฟรดร์ดิโค้ถามย้ำอีกครั้ง ชักอยากจะส่งน้องสาวไปเรียนภาษาไทยเพิ่มเติม เวลาพูดจะได้ชัดเจนไม่กำกวมชวนให้เขาหวั่นๆ แบบนี้
“เชื่อลิต้าบ้างสิ ลิต้าโตแล้วนะ นิสัยแผลงๆ ตอนเด็กๆ ลิต้าทิ้งไปหมดแล้ว”
ปาลิตาพยายามชักแม่น้ำทั้งห้า แต่เมื่อพี่ชายผู้ชาญฉลาดไม่เชื่อสักทีจึงรีบเอ่ยคำสัญญาเป็นมั่นเป็นเหมาะ
“สัญญาด้วยเกียรติของลูกผู้หญิงตัวน้อยๆ ว่าจะดูแลแขกของพี่ริคให้ดีที่สุด”
ปาลิตาชูนิ้วขึ้นทำท่าสัญญาอย่างเข้มแข็งทั้งๆ ที่ไม่แน่ใจว่าตัวเองจะทำตามที่รับปากกับพี่ชายสุดหล่อได้หรือเปล่า ก็แหม! เธอเป็นคนจำพวกที่ว่าใครวีนมาเธอวีนกลับ ใครแรงมาเธอได้ด่าเปิง!
น้ำเสียงที่สัญญาจริงจัง นิ้วเรียวยาวที่ชูให้เห็นอย่างเข้มแข็ง ทว่าดวงตากลมโตกลับเต้นระริกเผยแววเจ้าเล่ห์ให้เห็น ทำให้เฟรดร์ดิโค้ต้องถอนหายใจยาว ไม่อยากเชื่อคำสัญญาของน้องสาวสักเท่าไร
“โอเค พี่จะให้โอกาสลิต้าทดลองงานหกเดือน”
ปาลิตามองค้อนก่อนจะต่อว่าอย่างงอนๆ “ปกติเขาทดลองงานแค่สามเดือนไม่ใช่หรือพี่ริค”
“สามเดือนน่ะใช่ แต่สำหรับพนักงานทั่วๆ ไปที่ไม่ใช่ปาลิตาจอมแก่น”
เฟรดร์ดิโค้ดักคออย่างรู้ทัน เขากล้าเอาหัวเป็นประกัน เชื่อว่าไม่เกินอาทิตย์เดอะ คิง ออฟ คอรันดัม คงได้วุ่นวายเพราะปาลิตาเป็นแน่
ปาลิตาตีหน้ามุ่ยไม่ชอบใจเลยที่เฟรดร์ดิโค้มักจะรู้ทันเธอไปทุกอย่าง
“หกเดือนก็หกเดือน ลิต้าคนนี้สู้ไม่ถอยอยู่แล้ว เอาเป็นว่าลิต้าเริ่มงานวันนี้เลยนะ”
“บัณฑิตใหม่ไฟแรง” เฟรดร์ดิโค้แซวยิ้มๆ ก่อนจะพยักหน้าอนุญาต
“รักพี่ริคที่สุดในโลกเลย”
ปาลิตายิ้มแป้นด้วยความดีใจ ยื่นหน้าเข้าไปหอมแก้มพี่ชายฟอดใหญ่ จากนั้นก็กอดร่างกำยำไว้แน่น หญิงสาวไม่รู้เลยว่าการแสดงออกถึงความรักอันสนิทสนมที่น้องสาวมีต่อญาติผู้พี่ ได้ทำให้หญิงสาวอีกคนที่กำลังเปิดประตูห้องทำงานออกกว้าง ถึงกับนิ่งขึงด้วยความเสียใจเมื่อได้เห็นภาพดังกล่าว
หญิงสาวนัยน์ตาสีอ่อนใสผู้ที่เข้ามาใหม่ ขบฟัน กำมือเข้าหากันแน่น พยายามทำใจให้ยอมรับว่าคนอย่างเฟรดร์ดิโค้ไม่เคยว่างเว้นจากสาวๆ มาแนบกาย แต่พอได้เห็นภาพบาดตาบาดใจก็อดที่จะเจ็บปวดไม่ได้
“ขอโทษที่มาขัดจังหวะ พอดีไม่ทราบว่าคุณเฟรดร์ดิโค้มีแขกรออยู่แล้ว”
อัลรีน่าเอ่ยเสียงเย็น ใบหน้างามนิ่งเฉย ดวงตาคู่สวยสีอ่อนใสสงบนิ่งว่างเปล่าอย่างคนที่ระงับอารมณ์หึงหวงไว้ได้อย่างดีเยี่ยม
เฟรดร์ดิโค้หันไปตามเสียงที่ทักทายอย่างเย็นชา ก่อนจะลอบอมยิ้มเมื่อรับรู้ได้ถึงกระแสหึงหวงที่อัลรีน่าพยายามเก็บซ่อนไว้แต่ก็ปิดไม่มิด หญิงสาวนัยน์ตาสีสวยผู้นี้เป็นคนรักของเขา แม้ว่าการพบกันในครั้งแรกจะไม่ค่อยราบรื่นสักเท่าไร แต่เพราะความน่ารัก ความอ่อนหวานของอัลรีน่า ทำให้เธอสามารถพิชิตใจของเขาได้อย่างรวดเร็ว
“มาแล้วหรือครับรีน่า”
ชายหนุ่มลุกขึ้นยืนจากโซฟาตัวยาว พร้อมกับยื่นมือให้น้องสาวจับลุกขึ้นยืนด้วย เขาหันไปยิ้มให้ปาลิตานิดหนึ่ง ก่อนจะเดินเข้าไปหาหญิงที่รัก พอเอื้อมแขนหมายจะโอบร่างบอบบางมากอดให้ชื่นใจก็เจอปฏิกิริยาต่อต้านจากอัลรีน่าทันที
“อย่ามาแตะต้องตัวรีน่า” อัลรีน่าตะคอกสั่งเสียงลอดไรฟัน แล้วขยับหนีไปหลายก้าว
เฟรดร์ดิโค้ไม่ได้ยอมให้อัลรีน่าถอยหนีได้ดั่งใจนึก พอหญิงสาวก้าวถอยหลัง เขาก็รุกประชิดจนสามารถดึงร่างบางระหงมาโอบกอด พร้อมกับกระซิบแซวข้างๆ ใบหูเล็ก
“รีน่ากำลังหึงผมหรือครับ”
ปาลิตายิ้มหวานขณะทอดสายตามองพี่ชาย ซึ่งแสดงออกให้เห็นชัดเจนว่ารักหญิงสาวผู้นี้มาก แม้พี่ชายเธอจะมีคู่ควงมากหน้าหลายตา แต่เธอก็ไม่เคยเห็นพี่ชายมองหญิงสาวคนไหนด้วยสายตาหวานฉ่ำเต็มไปด้วยความรักภักดีเท่ากับมองหญิงงามในอ้อมแขนเลย
“พี่ริคคะ เมื่อไรจะแนะนำว่าที่พี่สะใภ้ให้ลิต้ารู้จักคะ”
ปาลิตาเดินเข้าไปใกล้คนทั้งสอง แล้วยิ้มกว้างให้หญิงสาวนัยน์ตาสีสวยอ่อนใสที่กำลังมองสบตาเธอด้วยความแปลกใจ
“รีน่า รู้จักปาลิตาสิครับ ลิต้าเป็นลูกของคุณน้าผม”
เฟรดร์ดิโค้เอ่ยแนะนำ พร้อมกับปล่อยแขนออกจากร่างบอบบาง ให้ปาลิตาได้ดึงว่าที่พี่สะใภ้ไปสวมกอดบ้าง
“ลิต้าเป็นน้องสาวคุณริคหรือคะ” อัลรีน่าหันมาถามเฟรดร์ดิโค้อีกครั้ง ราวกับสิ่งที่ได้ยินนั้นยังไม่ชัดเจนเท่าไร
“ใช่แล้วค่ะ ลิต้าเป็นน้องสาวจอมยุ่งของพี่ริคค่ะ” ปาลิตาเป็นคนตอบเอง พร้อมกันนั้นก็โอบแขนไปรอบร่างบางของว่าที่พี่สะใภ้ที่ยังยืนงงไม่หาย
“เอ่อ...รีน่านึกว่าคุณปาลิตาเป็นคนรักของคุณริคเสียอีก”
อัลรีน่ายกมือกอดอีกฝ่ายโดยอัตโนมัติ ดีใจที่สาวน้อยน่ารักคนนี้ไม่ใช่คู่แข่งทางหัวใจ
“ยินดีต้อนรับเข้าสู่ครอบครัวของเราค่ะ”
ปาลิตากอดร่างบางไว้แน่น รู้สึกถูกชะตาว่าที่พี่สะใภ้ตั้งแต่แรกเห็น จากนั้นก็ผละออกแล้วดึงมือว่าที่พี่สะใภ้ให้ไปนั่งคุยกันที่โซฟาตัวยาว
“พี่รีน่าแต่งงานเมื่อไรให้ลิต้าเป็นเพื่อนเจ้าสาวนะคะ”
อัลรีน่ายิ้มเอียงอาย หันไปสบตากับเฟรดร์ดิโค้ซึ่งยิ้มละไมให้พวกเธอทั้งสอง จากนั้นก็หันกลับมาสนทนากับปาลิตาต่อ
“อีกนานค่ะกว่ารีน่าจะแต่งงาน เพราะยังไม่มีใครมาขอสักคน”
“แต่ลิต้าเชื่อว่าจะได้แต่งงานเร็วๆ นี้แน่นอน”
ปาลิตาพูดเป็นนัยๆ พลางหันไปยักคิ้วให้พี่ชายที่ไม่พูดไม่จา เอาแต่ยิ้มหวานให้คนรักเพียงอย่างเดียว
“รีน่ามาอยู่ที่โรงแรมก็ตั้งนานแล้ว แต่ทำไมไม่เคยเห็นคุณปาลิตาเลยล่ะคะ”
“เรียกลิต้าก็ได้ค่ะพี่รีน่า” ปาลิตาเอ่ยอนุญาตและเรียกอีกฝ่ายว่าพี่ได้อย่างสนิทใจ “ลิต้าเพิ่งกลับมาจากอเมริกาค่ะ หอบใบปริญญามาขอพี่ริคทำงาน แต่กว่าจะอนุญาตได้ก็เล่นเอาลิต้าเหนื่อย ต้องอ้อนวอนเสียน้ำลายแตกฟอง”
เฟรดร์ดิโค้หัวเราะร่วนเมื่อถูกน้องสาวแขวะเข้าให้
“ก็อย่างที่บอกนั่นแหละ ว่าพี่กลัวลิต้าจะไล่แขกพี่ออกหมด ตอนนี้เริ่มกลัวคูณสองเมื่อรีน่ากับลิต้ามาอยู่ด้วยกัน”
อัลรีน่ามองค้อนบุรุษที่รักก่อนจะเอ่ยแก้ตัว “รีน่าไม่ได้ไล่แขกของคุณริคสักหน่อย แค่เล่นงานคู่ควงของคุณริคคนเดียวเอง”
ปาลิตาหัวเราะร่วนอย่างถูกใจ อยากเห็นหน้าคู่ควงของพี่ชายตอนที่ถูกว่าที่พี่สะใภ้อาละวาดเหลือเกิน
“ดีใจจริงๆ เลยที่พี่รีน่าจัดการคู่ควงหิวเงินของพี่ริคได้ เสียดายที่ลิต้าไม่ได้เห็นหน้าพวกเธอตอนที่ถูกพี่รีน่าจัดการ”
อัลรีน่ายิ้มบางๆ ก่อนจะชวนปาลิตาสนทนาต่อ “น้องลิต้าจบจากที่ไหนมาคะ”
“มหาวิทยาลัยมิชิแกนค่ะ เพิ่งกลับมาได้วันสองวัน ตอนแรกลิต้ากะว่าจะอยู่เที่ยวให้ทั่วอเมริกาก่อน แต่ลิต้าคงมีเซนส์รู้ว่าพี่ริคจะแต่งงานก็เลยกลับก่อนกำหนด”
ปาลิตาพูดเป็นต่อยหอย ไม่ได้สังเกตสีหน้าของคู่สนทนาเลยสักนิดว่าเริ่มซีดลงทุกขณะ เมื่อถูกสะกิดให้นึกถึงเรื่องที่ตนเองทำเป็นลืมเลือน
“รีน่า เดี๋ยวค่อยคุยกับลิต้าทีหลังได้ไหมครับ ผมมีธุระสำคัญอยากคุยกับรีน่าก่อน”
เฟรดร์ดิโค้ขัดจังหวะหญิงงาม เมื่อเห็นว่าทั้งสองกำลังเพลิดเพลินกับการสนทนาจนทำให้เขาไม่มีโอกาสได้คุยเรื่องสำคัญที่ยังค้างคาอยู่ในใจ
“ธุระสำคัญมากเลยหรือคะคุณริค” อัลรีน่าเปล่งเสียงถามติดกังวลเล็กน้อย เพราะมัวแต่คุยกับปาลิตาเพลิน เธอเลยลืมเรื่องงานไปเสียสนิท
เฟรดร์ดิโค้ไม่ตอบแต่ปรายตามองน้องสาวเป็นการบอกนัยๆ ว่าต้องการพูดเป็นการส่วนตัวกับหญิงที่รักโดยไม่มีคนอื่นเข้ามาข้องเกี่ยว ปาลิตาหัวเราะแหะๆ รู้ว่าโดนพี่ชายไล่ทางอ้อม แต่กลับทำไม่รู้ไม่ชี้พร้อมกับออดอ้อนเสียงหวานตามแบบฉบับของเธอ
“ขอนั่งอยู่ในนี้ด้วยคนนะคะ รับรองว่าลิต้าจะทำตัวเป็นน้องที่ดีไม่แอบฟังพวกพี่ๆ คุยกัน”
“ลิต้า...” เฟรดร์ดิโค้เรียกเสียงทุ้มลึก ส่งสายตาดุๆ ใส่น้องสาวตัวแสบ
“สัญญาว่าจะปิดปากเงียบ ไม่โต้ ไม่เถียง ไม่ออกความเห็นใดๆ ทั้งสิ้น”
ปาลิตารีบบอกรัวเร็ว เมื่อพี่ชายก้าวเท้ายาวๆ ตรงเข้ามาหา ทำท่าจะจับเธอโยนออกไปจากห้องทำงาน เฟรดร์ดิโค้ถึงกับส่ายหน้าอย่างระอาในความดื้อด้านของน้องสาว ซึ่งดูเหมือนว่าไม่ต่างจากอัลรีน่าสักเท่าไร
“สงสัยเอาช้างมาฉุดลิต้าก็คงไม่ยอมออกจากห้องแน่ๆ” ชายหนุ่มพึมพำอย่างเหลืออด พอน้องสาวพยักหน้างึกๆ เห็นด้วยกับคำพูดก็ส่งเสียงห้ามอีกชุดใหญ่
“ห้ามออกความเห็นเรื่องที่พี่กำลังจะพูดกับรีน่า และห้ามช่วยกันต่อต้านพี่ด้วย”
ปาลิตาอมยิ้มแก้มตุ่ย พยักหน้าหงึกๆ แล้วทำท่าจีบมือรูดซิปปากตัวเอง
เมื่อไม่อาจไล่น้องสาวออกจากห้องได้ตามที่ต้องการ เฟรดร์ดิโค้จึงจำเป็นต้องปล่อยให้ตัวแสบอยู่ฟังเรื่องที่เขาจะคุยกับอัลรีน่าด้วย
“รีน่า ผมอยากให้รีน่าหยุดทำงานที่โรงแรม แล้วไปพักที่บ้านเลมาร์โค้กับผม”
ตอนนี้อัลรีน่าได้ทำงานและพักอยู่ที่โรงแรมเดอะ คิง ออฟ คอรันดัมด้วย โดยทำหน้าที่เป็นประชาสัมพันธ์ คอยให้การต้อนรับกลุ่มลูกค้าที่เป็นชาวตะวันออกกลางโดยเฉพาะ ด้วยความหึงหวงไม่อยากให้หนุ่มๆ คนไหนได้ใกล้ชิดกับหญิงสาวที่ตนเองรักใคร่ เฟรดร์ดิโค้จึงอยากให้หญิงสาวเลิกทำงาน และไปพักอยู่ที่คฤหาสน์ของตนแทน
“บ้านคุณริคงั้นหรือคะ” อัลรีน่าถามเสียงสูง ก่อนจะหัวเราะคิกเมื่อได้ยินเสียงพรายกระซิบอยู่ข้างๆ หู
“คฤหาสน์ของพี่ริคตั้งอยู่ที่ชานเมือง พี่รีน่าเป็นผู้หญิงคนแรกที่พี่ริคจะพาไปพักที่คฤหาสน์ ซึ่งขึ้นชื่อว่าสวยที่สุดในเมืองไทย”
ปาลิตาอดไม่ได้ที่จะกระซิบบอกให้อัลรีน่ารู้ ว่าเธอเป็นหญิงสาวที่โชคดีที่สุดในรอบปี
“ลิต้า ให้พี่คุยกับรีน่าให้จบก่อน”
เฟรดร์ดิโค้ขึงตาใส่พร้อมกับห้ามเสียงดุ พอปาลิตายิ้มแห้งๆ ใส่ ยกมือปิดปาก จึงได้หันไปพูดกับหญิงที่รักต่อ
ปาลิตาหัวเราะคิกขณะนั่งฟังพี่ชายกล่อมว่าที่พี่สะใภ้ให้ไปอยู่ที่คฤหาสน์เลมาร์โค้ หญิงสาวพนันได้เลยว่ายังไงๆ อัลรีน่าก็ไม่มีทางยอมไปอย่างแน่นอน และก็เป็นดั่งที่เธอคิดไว้ทุกอย่าง พอการเจรจาสิ้นสุดลงผู้ที่ชนะก็คือว่าที่พี่สะใภ้ของเธอ
และเมื่อถูกพี่ชายห้ามไม่ให้พูดไม่ให้ออกความคิดเห็น หญิงสาวจึงใช้วิธียกนิ้วโป้งซูฮกให้กับความเก่งกาจของว่าที่พี่สะใภ้ ที่สามารถเอาชนะท่านประธานแห่งเดอะ คิง ออฟ คอรันดัมได้ในทุกยก