บท
ตั้งค่า

บทที่ 5

ก๊อก...ก๊อก...

เสียงเคาะกระจกรถ เรียกความสนใจให้นาราหันไปมอง พอเห็นมีบุรุษร่างใหญ่ก้มหน้าใกล้ประตูรถ ทำไม้ทำมือให้ลดกระจกรถลง จึงทำตามเพราะอยากรู้ว่าชายคนนี้ต้องการอะไร ทว่า...หญิงสาวกดกระจกลงเพียงเล็กน้อย พอให้ได้ยินเสียงจากชายคนดั่งกล่าวเท่านั้น

“คุณนาราครับ”

ในยามจำเป็น ภาวินก็เล่นละครตบตาได้ดีไม่แพ้เหล่านักแสดง ชายหนุ่มตีสีหน้าตระหนกให้เห็นขณะเอ่ยเรียกหญิงสาวด้วย

นาราจ้องมองชายหนุ่มที่ยืนข้างรถ ซึ่งเรียกได้ว่าหล่อเหลาคมเข้มยิ่งกว่าดาราในสังกัดของคุณพ่อของเธอซะอีก

แต่หญิงสาวไม่ได้สนใจที่ความหล่อเหลาของชายผู้นี้ เธอกำลังสงสัยว่าเขาเป็นใครถึงได้เรียกชื่อของเธอได้ถูกต้อง อีกทั้งรู้สึกคุ้นหน้าอีกฝ่ายเหลือเกิน แต่ก็นึกไม่ออกว่าเคยเห็นจากที่ไหนมาก่อน

“คุณเป็นใคร มีธุระอะไรคะ”

“ผมเป็นพนักงานยกของในกองถ่าย คุณพ่อของคุณไม่สบาย เป็นลมอยู่ในงานเลี้ยงครับ” ภาวินเอ่ยโกหกตามที่ได้ขบคิดแผนการไว้แล้ว

“ตอนนี้คุณพ่อของฉันอยู่ที่ไหน อาการของท่านเป็นยังไงบ้าง”

นาราเอ่ยถามกลับคืนรัวเร็ว แค่เพียงได้ยินว่าบิดาไม่สบายก็หน้าถอดสีซีดในทันควัน

“อาการไม่สู้ดีเท่าไรนัก พ่อของคุณหมดสติไม่รู้สึกตัวเลย แต่พวกเราเรียกรถพยาบาล พาท่านไปโรงพยาบาลแล้วครับ”

ภาวินโกหกต่อได้อย่างแนบเนียนที่สุด ขณะเดียวกันก็ลอบยิ้มเยาะอยู่ในใจกับสีหน้าอันซีดเผือดไร้สีเลือดของนารา

“ทำไม ไม่มีใครโทร.มาบอกฉัน”

“ผมกับคนอื่นๆ พยายามโทร.หาคุณนาราแล้ว แต่คุณไม่รับสายครับ”

นารารีบคว้ากระเป๋าสะพายมาควานหามือถือ พอพบกับความว่างเปล่าก็ยิ่งหน้าซีดกว่าเดิม

“บ้าชะมัด ฉันลืมโทรศัพท์ไว้ในห้อง”

‘นั่นนะสิ ช่างเป็นเรื่องที่ประจวบเหมาะซะเหลือเกิน’

ภาวินเยาะหยัน ก่อนจะเล่นละครต่อ “แต่ไม่เป็นไรครับ ผมมารับคุณไปโรงพยาบาลแล้ว เรารีบไปกันเถอะครับ หากต้องผ่าตัดเร่งด่วน คุณนาราต้องรีบไปเซ็นชื่อด้วยนะครับ”

“ค่ะๆ ฉันจะรีบไปเดี๋ยวนี้ค่ะ”

นาราทำท่าจะบิดลูกกุญแจเพื่อสตาร์ทรถยนต์ แต่ถูกภาวินเอ่ยห้ามไว้เสียก่อน พร้อมกับให้เหตุผลที่น่าเชื่อถือยิ่งนัก

“คุณกำลังตกใจแบบนี้ คงไม่มีสมาธิขับรถสักเท่าไร ดีไม่ดี จะเกิดอุบัติเหตุได้ ถ้าคุณเป็นอะไรไปอีกคน คงไม่ดีแน่ ไปกับผมดีกว่าครับ ผมมารับคุณนาราโดยเฉพาะเลยครับ”

นาราช่างใจอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะพยักหน้ารับ ไปกับภาวินก็ดีเหมือนกัน ยอมรับว่าตอนนี้เธอมือไม้เย็นเฉียบสั่นเทา เพราะความเป็นห่วงบิดา และด้วยมัวแต่คิดถึงอาการเจ็บป่วยของบิดา นาราจึงไม่รู้สึกสะดุดหูกับคำพูดในตอนท้ายของภาวิน

ใช่! ภาวินลงมากรุงเทพฯ เพื่อการนี้โดยเฉพาะ เพื่อมารับนาราไปเป็นเชลยแค้นของเขา

“ไปกันเถอะค่ะ ฉันเป็นห่วงคุณพ่อ ไม่รู้ป่านนี้จะเป็นยังไงบ้าง”

“ครับ ไปกันเลยครับ”

นาราก้าวลงจากรถ โดยมีภาวินเป็นผู้เปิดประตูรถให้ พอล็อกรถเรียบร้อยแล้ว นาราก็เดินเร็วๆ ตามภาวิน ซึ่งกุมข้อมือเล็กไว้แน่นราวกับกลัวเธอจะหนีหลุดมือไปก็ไม่ป่าน แล้วเดินเร็วๆ ตรงไปยังรถยนต์คันใหญ่ด้วยกัน

พอเห็นรถปาเจโร่แบบสปอร์ตใหม่เอี่ยม ราคาเป็นล้าน นาราก็เลิกคิ้วขึ้นสูงชะงักอยู่กับที่ ไม่ยอมขึ้นไปบนรถซึ่งภาวินเปิดประตูรออยู่แล้ว

“คุณเป็นพนักงานยกของในกองฯ จริงหรือคะ ทำไมถึงขับรถราคาเป็นล้าน”

ภาวินมองรถยนต์ของตนเอง แล้วโกหกได้อย่างไหลลื่นไม่มีติดขัด “ไม่ใช่รถของผมหรอกครับ เพื่อนของคุณพ่อของคุณสั่งให้ผมมารับคุณไปโรงพยาบาล และก็ให้ผมขับรถของเขามารับคุณ พนักงานเงินเดือนน้อยไม่ถึงหมื่นอย่างผม มีปัญญาขับแค่รถมอเตอร์ไซค์คันเก่าๆ เท่านั้นครับ”

เอ่ยโกหกไปแล้ว ภาวินก็ยิ้มเยาะอยู่ในใจ อย่าว่าแต่รถปาเจโร่คันนี้เลย ต่อให้เป็นรถแลมโบกินี่ (Lamborghini) ที่ถูกจัดอันดับหนึ่งในสิบว่า...เป็นรถยนต์ที่แพงที่สุดในโลก เขาก็มีอยู่ในครอบครอบถึงสองคันด้วยกัน รวมถึงรถสปอร์ตยี่ห้อดังๆ อีกหลายสิบคันที่เขาซื้อไว้สะสม และเพื่อเก็งกำไรในอนาคตด้วย

“อย่าสงสัยในตัวผมเลยครับ รีบไปโรงพยาบาลก่อนจะไม่ทันการนะครับ” ภาวินเร่งเร้าพร้อมกับดุนแผ่นหลังให้นาราก้าวขึ้นไปนั่งในรถ

นารายอมทำตามที่ภาวินบอก ก้าวขึ้นไปนั่งในรถยนต์ เดินตามเกมของภาวินโดยไม่รู้ตัวว่านี่เป็นกับดักที่ชายหนุ่มจัดมาเพื่อเธอโดยเฉพาะ

“คุณพ่อของฉันอยู่โรงพยาบาลไหนคะ”

“เราพาคุณพ่อของคุณไปส่งโรงพยาบาลที่อยู่ใกล้โรงแรมที่สุด โรงพยาบาล...”

นาราพยักหน้ารับ หลังจากภาวินบอกชื่อโรงพยาบาลแล้ว “ขอให้คุณพ่อปลอดภัยด้วยเถอะ”

“ตอนนี้เขาอยู่ในมือหมอแล้ว คุณพ่อของคุณต้องปลอดภัยแน่นอนครับ”

ไม่ได้แสร้งเอ่ยปลอบด้วยน้ำเสียงอบอุ่นเท่านั้น ทว่าภาวินได้เอื้อมมือใหญ่ข้างหนึ่งไปจับมือเล็กที่วางอยู่บนหน้าตักมาบีบเบาๆ เป็นการส่งกำลังใจให้กับหญิงสาวด้วย

นาราหันมามองหน้าเจ้าของมือใหญ่ หลุบสายตามองมือตัวเองที่ถูกกุมไว้แน่น ก่อนจะเงยหน้ามองภาวินอีกครั้ง รู้สึกอบอุ่นใจอย่างประหลาดกับคำปลอบโยนและกำลังใจที่อีกฝ่ายส่งมาให้

ในขณะนารามีความรู้สึกดีๆ ให้กับภาวิน ชายหนุ่มกลับยิ้มเยาะหยันอยู่ในใจกับแผนการขั้นแรกที่ลุล่วงไปด้วยดี สามารถหลอกล่อให้นารามากับเขาได้อย่างง่ายดาย โดยไม่ต้องออกแรงให้เหนื่อยเปล่า

“ทุกอย่างต้องเรียบร้อยครับ”

ภาวินเอ่ยปลอบอีกครั้ง ดึงความสนใจของนาราให้อยู่ที่ตัวเขา กระทั่งหญิงสาวไม่รู้ว่าเขาขับรถออกนอกเส้นทาง มุ่งตรงไปยังจังหวัดเชียงใหม่แทนการไปโรงพยาบาล

นาราเริ่มรู้สึกตัว เมื่อหันไปมองนอกตัวรถเห็นว่าไม่ใช่เส้นทางไปโรงพยาบาล ก็เอ่ยถามรัวเร็วด้วยน้ำเสียงตื่นตระหนกตกใจ

“นี่ไม่ใช่ทางไปโรงพยาบาลนี่คะ ทำไมไม่ไปโรงพยาบาล คุณจะพาฉันไปไหน”

“นรก!”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel