บท
ตั้งค่า

บทที่ 4

บทที่ 3

นาราอยู่ในชุดแซกเปิดไหล่สีดำปักเหลื่อมไปทั้งตัว เดินตรงไปยังลานจอดรถใต้อาคารคอนโดสุดหรูติดแม่น้ำเจ้าพระยา เพื่อไปงานเลี้ยงในตอนค่ำคืนนี้ แต่ไม่ทันได้เข้าไปนั่งในรถ ต้นแขนเล็กขาวเนียนก็ถูกกระชากจากใครบางคนจากทางด้านหลัง

“คุณนารา...ที่รัก”

แค่ได้ยินน้ำเสียงของคนที่เรียกตนเอง นาราก็ตีหน้าบึง ดวงตาวาวโรจน์ กระชากมือออก พร้อมกับหันไปตวาดคนที่บังอาจมาแตะต้องตัวเธอ

“ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้ ทินภัทร”

ถูกขึงตามองด้วยความโกรธจัด ใบหน้างามถมึงทึงไม่ยอมญาติดีด้วย ทินภัทรจำต้องปล่อยต้นแขนเล็ก แต่กระนั้นก็ไม่ลืมโอดครวญขอโทษหญิงสาวด้วย

“ที่รัก...

“คุณไม่มีสิทธิ์เรียกฉันว่าที่รักอีก” นาราตวาดเสียงแข็ง

“ทำไมล่ะครับ ก็เราสองคนรักกัน เราเป็นคู่หมั้นกัน ทำไมผมจะเรียกคุณว่าที่รักไม่ได้”

พระเอกจอมเจ้าเล่ห์เล่นละครบทโศก ตีหน้าเศร้าเพื่อให้นาราเห็นใจ

“ฉันไม่ได้รักคุณ และอย่าลืมว่าฉันถอนหมั้นจากคุณแล้ว”

“โธ่...นารา...ผมขอโทษ ผมคิดถึงคุณ อยากปรับความเข้าใจกับคุณ และขอให้คุณยกโทษให้ผมด้วย”

ทินภัทรพยายามขยับเข้าใกล้ร่างบาง แต่นาราก็ก้าวถอยหนี ไม่อยากอยู่ใกล้คนเลวแม้วินาทีเดียว เพื่อให้เสนียดติดตัวเธอ

นาราจ้องมองคนตรงหน้าเขม็ง ยิ้มเยาะตรงมุมปาก ต่อว่าเสียงแข็ง “ยกโทษยังงั้นหรือคุณจะให้ฉันยกโทษคุณในเรื่องอะไร ถ้าเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับคุณรสิตา ต่อให้คุณคุกเข่าขอโทษพันครั้ง หมื่นครั้ง ฉันก็ไม่ยกโทษให้คุณ เพราะสิ่งที่คุณทำกับคุณรสิตา เรียกวได้ว่า ‘ชั่ว’ เกินกว่าจะให้อภัย”

ภาวินถึงกับหน้าตึงที่ถูกด่าซึ่งๆ หน้า แต่...เขาเป็นถึงพระเอกดัง เล่นละครมาหลายเรื่อง จึงไม่ใช่เรื่องยากที่จะปรับสีหน้าให้เป็นปกติ ก่อนจะเอ่ยแก้ตัวให้กับตนเอง

“เรื่องของรสิตา ไม่ใช่ความผิดของผมนะครับ”

“ไม่ใช่?” นาราทวนคำเสียงสูง “คุณทำเธอท้อง คุณยังบอกว่าไม่ใช่ความผิดของคุณยังงั้นหรือ คุณรสิตาคงท้องเองไม่ได้ หากคุณไม่มีส่วนร่วมด้วย”

“ลูกในท้องของรสิตาไม่ใช่ลูกของผม”

เผียะ!

นาราสะบัดมือตบลงไปบนใบหน้าหล่อสำอางของทินภัทรเต็มแรง แผดเสียงด่าทินภัทรด้วยความโกรธระคนเกลียดชัง

“คุณพูดมาได้ยังไงว่าไม่ใช่ลูกของคุณ...คุณทำคุณรสิตาท้อง และเพราะความเห็นแก่ตัวของคุณ ปัดความรับผิดชอบ ทำให้คุณรสิตาเสียใจจนต้องฆ่าตัวตายพร้อมกับลูกในท้อง!”

คราวนี้ทินภัทรหน้าถอดสีซีดโดยไร้การเล่นละคร เอ่ยถามเสียงตะกุกตะกัก “คุณ...คุณนารา...รู้ได้ยังไง ว่ารสิตาฆ่า...ฆ่าตัวตาย”

“ก็เพราะฉันไปงานศพของเธอมานะสิ”

“คุณไปงานศพของรสิตา!” ทินภัทรถามเสียงหลง

“ใช่! ฉันไปงานศพของคุณรสิตา และรู้จากชาวบ้านว่าคุณรสิตากินยาฆ่าตัวตายพร้อมกับลูกในท้อง” นาราจ้องมองคนตรงหน้าด้วยความชิงชัง เค้นถามเสียงห้วน

“ทำไม...ทำไมคุณถึงทำร้ายผู้หญิงตัวเล็กๆ ที่น่าสงสารอย่างคุณรสิตาได้ลงคอ”

“ผมไม่ได้รักรสิตา เธอเสนอมา ผมก็สนองให้ ผมบอกให้เธอป้องกัน เธอรับปากกับผม แต่จริงๆ แล้วเธอไม่ได้ทำเช่นนั้น เธอต้องการใช้ลูกเป็นสิ่งผูกมัดผมไว้กับเธอ”

คนเห็นแก่ มองผู้หญิงเป็นแค่เพียงเครื่องบำเรอความใคร่ แก้ตัวเป็นพัลวัน และยกความผิดให้กับคนตายที่ไม่มีสิทธิ์พูด!

“เลวที่สุด! คุณบอกว่าไม่ได้รักเธอ แต่คุณก็ทำให้คุณรสิตาท้อง แล้วทิ้งเธอไป”

ยิ่งโต้เถียงกัน นาราก็ยิ่งเห็นธาตุแท้ของผู้ชายคนนี้ว่าเลวไม่มีที่ติ

“ผมรักคุณนะครับ คุณนารา”

เมื่อหมดหนทางแก้ตัว ทินภัทรก็เอ่ยคำบอกรัก อันเป็นดั่งขนมหวานที่อาบด้วยยาพิษ ซึ่งเขาเคยใช้กับรสิตา และกับผู้หญิงหลายๆ คน ให้ลุ่มหลงในถ้อยคำของเขาจนยอมทอดกายให้เชยชมอย่างง่ายดาย ก่อนเขาจะเขี่ยทิ้งเมื่อเขาเบื่อพวกเธอแล้ว

แต่! นาราไม่ใช่ผู้หญิงเหล่านั้น หญิงสาวก้าวถอยหนี ชี้นิ้วสั่งเสียงห้วน

“ถอยออกไป อย่าพูดคำว่ารักให้ฉันได้ยินอีก เพราะฉันสะอิดสะเอียนในตัวคุณ และอย่าเรียกฉันว่าที่รัก ฉันถอนหมั้นกับคุณแล้ว เราไม่มีอะไรเกี่ยวข้องต่อกัน ขอบอกให้รู้ด้วยว่า คุณพ่อของฉันกำลังจะถอดคุณออกจากละครเรื่องล่าสุดที่กำลังจะถ่ายทำในเร็วๆ นี้”

“ไม่น่ะครับ คุณจะให้คุณพ่อของคุณทำแบบนั้นไม่ได้”

ทินภัทรร้องเสียงหลง หากถูกออกจากละครเรื่องนี้ ซึ่งเป็นที่กล่าวขานกันว่าต้องดังเป็นพลุแตก ตั้งแต่ยังไม่ถ่ายทำ ชีวิตนักแสดงของเขาต้องจบเห่แน่ๆ

นารายิ้มเยาะ เค้นเสียงตอบด้วยความสะใจ “ทำไมจะไม่ได้ ในเมื่อฉันเป็นคนสั่ง! มีหรือที่คุณพ่อจะไม่ทำตามคำสั่งของฉัน”

“ทำไมคุณถึงทำกับผมแบบนี้ นารา คุณแกล้งผม แกล้งถอดผมออกจากละคร”

ทินภัทรหน้าถอดสีซีดกับอนาคตที่กำลังจะดับมืดลงด้วยน้ำมือของนารา

“จะบอกให้เอาบุญนะคะ ว่าฉันไม่ได้ถอดคุณออกแค่เพียงเรื่องเดียวเท่านั้น แต่ต่อไปนี้ ละครที่มีคุณพ่อของฉันเป็นผู้กำกับ จะไม่มีชื่อของคุณเป็นพระเอก อ้อ! อย่าว่าแต่เป็นพระเอกเลยค่ะ แค่เป็นตัวประกอบ ฉันก็จะไม่ให้คุณแสดงละครของคุณพ่อฉัน และเราจะฉีกสัญญาทุกฉบับที่เคยทำไว้กับคุณด้วย”

“ถ้าคุณยกเลิกสัญญา ผมจะฟ้องคุณกับคุณพ่อของคุณ” ทินภัทรขู่ฟ่อ แต่แล้วก็ต้องหน้าซีดอีกครากับคำเยาะหยันของนารา

“ก็เอาสิคะ ถ้าคุณคิดว่าคุณมีเงินมากพอที่จะจ้างทนายเพื่อมาสู้คดีกับฉัน” แน่นอนว่าทินภัทรไม่มีทางเงินจ้างทนายแน่ๆ

ทางด้านทินภัทรเองก็รู้ดีในข้อนี้ เงินที่เขามีแค่หยิบมือ มีหรือจะไปสู้เงินนับสิบๆ ล้านที่นารากับพ่อของเธอมีอยู่ในบัญชีธนาคาร

และเมื่อรู้ว่าตนเองไม่มีทางสู้นาราได้ จึงอ้อนวอนขอความเห็นใจจากหญิงสาว เพราะเขาไม่อยากฝันสลายก่อนจะได้ก้าวขึ้นแท่นเป็นพระเอกดัง

“คุณนารา ผมขอร้อง อย่าทำแบบนี้เลยครับ”

“ถ้าคุณยอมรับคุณรสิตา ยอมรับผิดชอบเธอตั้งแต่แรก ไม่ทำให้เธอเสียใจกระทั่งต้องฆ่าตัวตาย ฉันอาจจะเห็นใจ ให้คุณเล่นเป็นตัวรอง ให้คุณมีงานทำเพื่อเลี้ยงลูกเมีย แต่! ในเมื่อคุณผลักไสให้คุณรสิตาต้องฆ่าตัวตาย ฉันก็จะฆ่าคุณทางอ้อม ด้วยการฉีกสัญญา ปลดคุณออกจากละครทุกเรื่อง”

นาราไม่ให้ความสงสารกับผู้ชายที่ฆ่าลูกเมียตัวเอง หญิงสาวจ้องมองทินภัทรที่หน้าถอดสีซีดด้วยความสะใจ ก่อนจะเค้นเสียงสั่งห้วนจัด

“ไปให้พ้นหน้าฉันได้แล้ว ก่อนฉันจะเรียก รปภ.ให้จับคุณโยนออกไปจากที่นี่”

“คุณนารา...ผมรัก...”

“ออกไป!”

นาราตะคอกเสียงดังลั่น ชี้นิ้วไล่ทินภัทร คำบอกรักของอีกฝ่ายไม่ได้ทำให้เธอดีใจหรืออิ่มเอิบกำซ่านใจ มีแต่ความสะอิดสะเอียนชิงชังเกิดขึ้นเท่านั้น

ทินภัทรกัดฟันกรอด จำต้องล่าถอยเดินกลับไปยังรถยนต์ของตนเอง ก่อนจะขับออกไปอย่างรวดเร็ว โดยไม่ลืมฝากความแค้นไว้กับนาราด้วย ที่ปลดเขาออกจากละครทุกเรื่องที่พ่อของเธอเป็นผู้กำกับ

“นังนารา ฝากไว้ก่อนเถอะ กูจะไม่ปล่อยให้เรื่องนี้จบง่ายๆ แบบนี้แน่”

ไล่ทินภัทรไปแล้ว นาราก็ก้าวขึ้นไปนั่งซบหน้าอยู่กับพวงมาลัยรถยนต์ ปล่อยให้หยาดน้ำตาแห่งความเสียใจไหลรินเป็นทางยาว

ทว่า...เธอหาได้ร่ำไห้เสียใจเพราะต้องถอนหมั้นกับทินภัทรไม่! แต่เธอร่ำไห้เสียใจที่ตนเองไม่สามารถแก้ไขสถานการณ์ที่เกิดขึ้นได้ ไม่สามารถยื้อชีวิตของรสิตากับลูกในท้องได้ และนั่นคือสิ่งที่ทำให้เธอเสียใจและรู้สึกผิดอยู่ตลอดเวลา

นารานึกถึงวันที่รสิตามาหาเธอที่คอนโดแห่งนี้ รสิตาบอกให้รู้ว่าเธอเป็นเมียและกำลังมีลูกกับทินภัทร รสิตาขอร้องให้เธอถอนหมั้นและยกเลิกการแต่งงานกับพระเอกหนุ่มคนนี้ ซึ่งเธอไม่ลังเลที่จะทำตามคำขอร้องของรสิตา แต่...ถึงแม้รสิตาไม่ร้องขอ เธอก็จะถอนหมั้นกับทินภัทร หลังจากรู้ว่าเขามีรสิตาเป็นเมีย...

“คุณรสิตา...ฉันขอโทษ...ที่ไม่สามารถยื้อชีวิตของคุณไว้ได้”

มือเล็กยกขึ้นปาดน้ำตาที่หลั่งริน และนั่นทำให้คนที่ดักซุ่มแอบมองอยู่เป็นนานสองนาน ถึงกับกัดฟันกรอด กำมือเข้าหากันแน่น เค้นเสียงห้วนจัดถากถางด้วยความแค้น

“ฮึ! รักไอ้ชายชั่วคนนี้มาก ถึงกับเสียน้ำตาให้กับมันเลยหรือ นารา!”

นาราไม่รู้ตัวเลยว่า ขณะกำลังทะเลาะกับทินภัทรอย่างดุเดือดนั้น เธอถูกแอบมอง ถูกเฝ้าสังเกตการณ์จากชายคนหนึ่ง ซึ่งขับรถยนต์เข้ามาจอดใต้อาคารของคอนโดตั้งแต่ช่วงบ่าย เพื่อรอซุ่มดูเธอ และรอเวลาสำหรับลงมือทำตามแผนที่วางไว้

ภาวินดักซุ่มอยู่ไกลเกินกว่าจะได้ยินเสียงการสนทนาระหว่างชายชั่วกับหญิงเลว แต่กระนั้นเขาก็สามารถเห็นภาพเหตุการณ์ทุกอย่างได้ชัดเจนแจ่มแจ้ง ทั้งตอนนาราสะบัดมือตบหน้าทินภัทร และตอนที่หญิงสาวซบหน้าร้องไห้ ยกมือปาดน้ำตาตัวเอง ร่ำไห้เพราะความสงสารรสิตา ทว่า...ชายหนุ่มเข้าใจผิด คิดว่าหญิงสาวร่ำไห้ให้กับผู้ชายชั่วที่ฆ่าน้องสาวของเขา

“นารา! อีกไม่กี่นาที คุณต้องชดใช้ในสิ่งที่คุณทำไว้กับรสิตา”

น้ำเสียงที่เค้นออกมานั้นเย็นยะเยือก ดวงตาโชนไฟโทสะ ก่อนเจ้าตัวจะปรับให้เป็นปกติ ขณะก้าวลงจากรถยนต์คันใหญ่ ตรงไปยังรถยนต์ของนาราที่ยังคงจอดนิ่งอยู่

นารายังไม่มีอารมณ์ไปงานเลี้ยงในตอนนี้ จึงนั่งเงียบอยู่ภายในรถยนต์เกือบสิบนาที โดยไม่รู้เลยว่าภัยร้ายกำลังคืบคลานเข้ามาใกล้ถึงตัวแล้ว

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel