บทที่ 3 (2)
จังหวะที่ทินภัทรแล่นเข้ามาทำร้ายรสิตา ทำให้โทรศัพท์มือถือตกลงกับพื้น และนั่นก็สามารถบันทึกภาพขณะที่หญิงสาวถูกทินภัทรเตะเข้ากลางลำตัว จนทรุดฮวบไปกองกับพื้น
ภาวินเห็นภาพดังกล่าวในวีดีโอคลิปถึงกับแผดเสียงสบถลั่น ใบหน้าถมึงทึงเต็มไปด้วยไฟแห่งความแค้น ที่ลุกโชนทั่วหัวสมองของเขา
“บัดซบ! มันเตะน้องหนู ไอ้สัตว์นรก หน้าตัวเมีย ทำร้ายผู้หญิงไม่มีทางสู้”
วิริยาร้องไห้จนแทบเป็นลมพับเมื่อเห็นลูกสาวถูกเตะ ถูกทุบตีอย่างไม่ยั้ง ท่านเลี้ยงลูกด้วยความทะนุถนอม ไม่เคยตีแม้แต่ครั้งเดียว แล้วสัตว์นรกนี้เป็นใครที่มาทำร้ายลูกสาวของเธอเช่นนั้น
“วิน...วิน...ต้องแก้แค้นให้แม่ แก้แค้นให้น้องหนู ทำให้พวกมัน ทั้งไอ้ทินภัทรและนังนารา คู่หมั้นของมัน ต้องเจ็บปวดเจียนตาย แก้แค้นให้น้องหนูนอนตายตาหลับนะวิน...”
ดวงตาคมกริบโชนไฟแค้น มือใหญ่กำเข้าหากันแน่น เค้นเสียงเย็นยะเยือกฝากสายลมไปถึงคนที่เป็นต้นเหตุให้น้องสาวของเขาต้องฆ่าตัวตาย
“แน่นอนครับ ไอ้ทินภัทรกับ ‘นารา’ คู่หมั้นของมัน จะไม่มีทางได้แต่งงาน เสวยสุขด้วยกัน หากผู้ชายที่ชื่อ ‘ภาวิน’ ยังมีชีวิตอยู่”
ในวันเผาศพของรสิตา วิริยาร้องไห้จนเป็นลมไม่มีแรงลุกขึ้นไปวางดอกไม้จันทน์ ไม่มีแรงต้อนรับแขกที่มาส่งดวงวิญญาณของลูกสาว คงมีแค่เพียงภาวินที่ทำหน้าที่ต้อนรับแขกดูแลงานศพกระทั่งเสร็จสิ้น เก็บเถ้ากระดูกของรสิตามาลอยอังคารในวันถัดไป
งานศพของรสิตาผ่านพ้นไปเกือบสองอาทิตย์แล้ว ทว่านางยังคงเต็มไปด้วยความโศกเศร้ากับการสูญเสียลูกสาวไปอย่างไม่มีวันกลับ
และในวันนี้ก็นั่งเหม่อลอยอยู่หน้าบ้าน ข้าวปลาไม่แตะต้อง ในมือมีภาพถ่ายของลูกสาวอยู่ด้วย หยาดน้ำตาคลอเบ้าตลอดเวลาที่ก้มลงมองภาพของลูกสาว
ภาวินเห็นมารดานั่งมองภาพของรสิตาแล้วร้องไห้ไม่หยุด ก็เต็มไปด้วยความเป็นห่วง ท่านไม่กินข้าว ไม่แตะต้องอาหาร หรือบางทีก็กินคำสองคำ ก็วางช้อนลง จนร่างกายผายผอมกว่าเดิมมาก ท่านกำลังตรอมใจกับการจากไปของลูกสาวเพียงคนเดียว
นอกจากจะสงสารมารดาแล้ว ภาวินก็ขบกรามด้วยความคลั่งแค้น ชายชั่ว หน้าตัวเมียที่ชื่อ ‘ทินภัทร’ และผู้หญิงร่านแย่งสามีของคนอื่นที่ชื่อ ‘นารา’ ต้องได้รับการชดใช้จากการกระทำของเขาและเธอ และตอนนี้ก็ถึงเวลาที่เขาจะเริ่มเปิดเกมการแก้แค้นแล้ว!
“คุณแม่ครับ วันนี้ผมจะเข้ากรุงเทพฯ ครับ”
วิริยาเงยหน้ามองลูกชาย เอ่ยถามรัวเร็วด้วยความหวังในสิ่งที่รอคอยอยู่ “วินจะไปลากตัวหญิงชั่วชายเลวสองคนนั้นมาลงโทษใช่ไหม”
“ใช่ครับ ผมจะทำตามที่ให้สัญญากับน้องหนูไว้ ใครก็ตามที่ทำให้น้องหนูต้องเจ็บปวดเสียใจ พวกมันต้องเจ็บปวดไม่แพ้กัน”
น้ำเสียงแข็งห้วนเต็มไปด้วยความเคียดแค้น เป็นที่ถูกใจของวิริยาอย่างยิ่ง นางต้องการให้ภาวินทำให้คนเหล่านี้เจ็บปวดเจียนตาย เพื่อตอบแทนความชั่วที่พวกมันได้ทำไว้
“วินจะทำยังไงกับพวกมัน”
“ผมมีแผนของผมอยู่แล้วครับ”
เอ่ยบอกไปแล้ว ภาวินก็ทรุดตัวลงนั่งย่องๆ อยู่ด้านหน้ามารดา เอื้อมมือใหญ่ไปกุมมือของมารดาบีบเบาๆ ส่งกำลังใจให้ท่าน ขณะเอ่ยขอร้องแกมบังคับมารดาด้วย
“ผมจะแก้แค้นให้น้องหนู พวกมันต้องได้รับการตอบแทนอย่างสาสม คุณแม่ต้องกินข้าว ต้องรักษาสุขภาพให้แข็งแรง คุณแม่ต้องอยู่ดูความหายนะของไอ้ทินภัทรกับคู่หมั้นของมันนะครับ”
“จ้ะ วิน แม่สัญญาว่าแม่จะอยู่ดูความหายนะของพวกมัน”
เพราะอยากเห็นความเจ็บปวดของคนชั่ว วิริยายอมทำตามที่ลูกชายบอกในทันที
ภาวินลอบยิ้มที่สามารถกล่อมมารดาได้ จากนั้นก็ตะโกนเรียกให้เด็กรับใช้ทำข้าวต้มร้อนๆ มาให้มารดารับประทาน
“ผมไปก่อนนะครับ จะไปรับเชลยให้กลับมาชดใช้กรรมที่พวกเขาได้ก่อไว้”
ภาวินสวมกอดมารดาไว้ชั่วขณะ ก่อนจะผละออก ก้าวลงจากบ้านตรงไปยังรถยนต์แบบสปอร์ตคันใหญ่ ที่จะใช้เป็นพาหนะพาเชลยสาวกลับมาลงโทษยังแดนกุมขังแห่งนี้
วิริยามองตามร่างใหญ่ล่ำสันของลูกชาย พร้อมกับร้องไห้ออกมาเบาๆ เมื่อนึกย้อนถึงสิ่งที่ตนเองเคยทำกับลูกชายคนนี้
ภาวินเป็นลูกที่เกิดกับสามีคนแรกซึ่งเป็นชาวอเมริกัน พอภาวินอายุสิบขวบนางก็หนีกลับมาอยู่ประเทศไทย ทิ้งภาวินไว้ที่อเมริกา กระทั่งนางพบรักใหม่กับพ่อของรสิตา
หลังจากกลับมาอยู่ประเทศไทยแล้ว นางไม่เคยไปเยี่ยมลูกชายแม้แต่ครั้งเดียว กระทั่งภาวินเติบโตเป็นผู้ใหญ่ และด้วยความคิดถึงมารดา อยากเห็นน้องสาวจึงเดินทางมาเยี่ยมนางที่ฟาร์มโดยไม่ได้บอกกล่าวล่วงหน้า
แทนที่จะดีใจเมื่อเห็นลูกชายมาเยี่ยม แต่นางกลับด่าทอต่อว่าภาวิน และห้ามไม่ให้อีกฝ่ายกลับมาที่ฟาร์มอีก
ภาวินทำตามคำสั่งทุกอย่าง พอกลับอเมริกาไปแล้ว เขาก็ไม่กลับมาที่ฟาร์มอีกเลย ทว่าภาวินหาได้ตัดขาดมารดากับน้องสาวเพราะความโกรธเคืองที่ถูกขับไล่ไสส่งไม่!
ภาวินสืบทอดกิจการทำฟาร์มเลี้ยงโคขุนที่ใหญ่และดีที่สุดในรัฐเท็กซัส เขาส่งเงินให้มารดาและน้องสาวได้ใช้กันอย่างสุขสบาย ไม่เคยขาด ไม่ว่ารสิตาอยากได้อะไร แค่เพียงโทรศัพท์ไปหาพี่ชาย ไม่เกินชั่วโมงภาวินก็โอนเงินให้น้องสาวในทันที
ภาวินทำดีกับผู้เป็นมารดาและน้องสาวทุกอย่าง แต่นางกลับไม่เคยรักลูกชายคนนี้เลย เรียกว่าเกลียดอดีตสามี พลอยเกลียดลูกชายไปด้วย แต่ไม่ว่าจะถูกมารดามอบความชิงชังให้มากเพียงใด ภาวินกลับทำตามที่นางต้องการโดยไม่มีโต้แย้ง
“วิน แม่ขอโทษ”
วิริยาพึมพำเสียงสั่นเครือ มองตามรถยนต์คันใหญ่ที่แล่นออกไปพ้นบริเวณหน้าบ้านแล้ว และเมื่อเด็กรับใช้ยกข้าวต้มร้อนๆ มาเสิร์ฟอีกครั้ง ก็นึกถึงคำพูดของลูกชาย
‘คุณแม่ต้องอยู่ดูความหายนะของไอ้ทินภัทรกับคู่หมั้นของมัน’
พอคำพูดของลูกชายสะท้อนเข้าในหัวสมอง วิริยาก็ตักข้าวต้มมากินจนหมดชาม
“ใช่! ฉันต้องอยู่ดูความหายนะ อยู่ดูความพินาศของไอ้ทินภัทรกับนังผู้หญิงที่พรากผัว พรากพ่อของลูกในท้องของน้องหนูไป”