บทที่ 4 (1)
เสียงคลื่นทะเลที่เต้นไหวหยอกเอินเล่นลมกับลำเรือเดอะรอยัล อาดามัส ทำให้นันท์นลินซึ่งนอนแนบชิดกับเรือนกายอบอุ่นตลอดทั้งคืนเริ่มรู้สึกตัวเปิดเปลือกตาขึ้นอย่างช้าๆ หญิงสาวหันไปมองคนที่กำลังนอนหลับสบายหายใจสม่ำเสมออยู่ข้างๆ กาย มือหนาสีแทนเต็มไปด้วยเส้นขนวางพาดอยู่ตรงหน้าท้องเนียนราบของเธอ ริมฝีปากสีสดเม้มสนิทเป็นเส้นตรง ใบหน้าคมเข้มในยามหลับใหลดูหล่อเหลาไม่โหดร้ายเหมือนกันคนที่เธอพบเจอเมื่อคืน
หญิงสาวค่อยๆ ยกมือหนาออกแล้ววางลงข้างๆ ตัว ยันกายชันศอกแล้วก้มมองใบหน้าคมเข้มของกัปตันหนุ่มที่ยังหลับพริ้มสบายอารมณ์ ตอนนี้กัปตันดี ทีสต์ ดูราวกับเด็กหนุ่มที่กำลังนอนหลับฝันดี ไม่มีวี่แววของกัปตันจอมเถื่อนเจ้าแห่งท้องทะเลสีครามที่คอยพูดจาถากถางเย้ยหยันให้เธอเจ็บปวด หญิงสาวยิ้มบางๆ ยกมือไปแตะขนตาที่ยาวงอนสวยยิ่งกว่าขนตาผู้หญิง ทันทีที่เธอแตะบางเบาโดนขนตา เจ้าของนัยน์ตาสีทองก็เปิดตากว้างจ้องมองเขม็งจนทำให้เธอผงะตกใจหุบยิ้มแล้วรีบทิ้งตัวลงนอนหันหลังให้กัปตันหนุ่มทันที หัวใจดวงเล็กเต้นตึกตักรัวเร็วแทบทะลุออกมาเมื่อถูกกัปตันดี ทีสต์ จับได้ว่าแอบมองเขาอยู่
กัปตันบารอนลอบยิ้มกับท่าทางตกใจของหญิงสาวที่แสนเร่าร้อน เขารู้สึกตัวตื่นเต็มตาตั้งแต่เธอจับมือเขาวางไว้ข้างๆ ตัว แต่เพราะอยากรู้ว่าเธอจะทำยังไงต่อจึงแกล้งนอนรอนิ่งๆ แต่เมื่อหน้าอกอวบอิ่มละมุนมือกดทับโดนต้นแขนสีแทนก็ทำให้เขานิ่งเฉยอยู่ไม่ได้ เมื่อลืมตาขึ้นมาเจอรอยยิ้มบางๆ เปิดให้ใบหน้าหวานดูสว่างสดใสก็ทำให้เขาถึงกับนิ่งงันไปชั่วขณะ เขาขยับกายเล็กน้อยแล้วดึงร่างบางให้หันหน้ามามองสบตากัน นัยน์ตาคู่สวยดำขลับเผยแววตกใจให้เห็นเล็กน้อย ริมฝีปากแดงระเรื่อขบเม้มเข้าหากันแน่นทำให้เขาขัดใจอีกหน เขาทำเสียงจิ๊จ๊ะรำคาญในลำคอยกมือไปลูบไล้ตรงเรียวปากอวบอิ่มสีหวานพร้อมกับขึ้นทาบทับเกยร่างบางไว้
“ทำไมชอบเม้มปากนัก รู้ไหมว่ามันช้ำได้ง่าย”
บารอนกระซิบเสียงแหบพร่าชิดกับริมฝีปากหอมกรุ่น เขากดจุมพิตบางเบาราวกับขนนกจากนั้นจึงเพิ่มน้ำหนักกดจูบหนักหน่วงเร่าร้อนหอมหวาน
ริมฝีปากร้อนผะผ่าวที่กดจูบดุเดือดเร่าร้อนเอาแต่ใจทำให้นันท์นลินสั่นสะท้านทั่วกายจนต้องยอมเผยอเรียวปากออกกว้างปล่อยให้กัปตันหนุ่มรุกรานตักตวงความหวานได้ตามอำเภอใจ เธอครางงึมงำในลำคออย่างแผ่วเบา เธอต้องบอกให้กัปตันดี ทีสต์ รู้ว่าเธอไม่เคยมีประสบการณ์เรื่องรัก เธอกลัวเขาจะทำร้ายเธอ
“วันนี้คุณต้องทำตามผมสั่งทุกอย่าง คุณไม่มีสิทธิ์ร้องประท้วงอีกแล้ว”
บารอนกระซิบสั่งเสียงแหบแห้ง มือหนาเริ่มแกะกระดุมเสื้อเชิ้ตนับสิบเม็ดที่เป็นอุปสรรคสำคัญทำให้เขาหงุดหงิดจนอยากกระชากเสื้อออกจากเรือนร่างหอมละมุนด้วยความใจร้อน
“คุณดี ทีสต์ คะ เดี๋ยวก่อน”
หญิงสาวเอ่ยละล่ำละลักสอดมือเข้าไปดันอกกว้างแข็งแกร่งไว้ เธอขนลุกซู่ด้วยความเสียวซ่านเมื่อกัปตันดี ทีสต์ ยอมผละริมฝีปากออกแต่กลับเลาะเล็มขบเม้มแอ่งชีพจรตรงซอกคอหอมกรุ่นแทน
“ว่าไง ผมบอกแล้วไงว่าคุณไม่มีสิทธิ์ประท้วง”
“ไม่ใช่ค่ะ คือนลินจะบอกว่า...นลิน...”
เสียงที่จะเอ่ยบอกขาดหายไปในลำคอ ใบหน้างามก้มงุด นัยน์ตากลมโตจับจ้องแน่นิ่งที่หน้าอกกว้างปกคลุมไปด้วยไรขนอ่อนๆ น่าสัมผัสลูบไล้
กัปตันดี ทีสต์ หัวเราะฮึๆ ในลำคอ มือใหญ่เชยคางมนให้เงยหน้าขึ้นสบตากัน แค่จ้องมองลึกดำดิ่งลงไปในดวงตาคู่สวยเขาก็รู้ว่านันท์นลินกำลังต้องการบอกอะไร เขารับรู้ได้ตั้งแต่สัมผัสแตะต้องจุมพิตในครั้งแรก หญิงสาวใจกล้าบ้าบิ่นที่ประกาศขายตัวให้กับคนที่กล้าซื้อ...แต่เมื่อเอาเข้าจริงๆ ร่างบางระหงใต้เรือนร่างแข็งแกร่งของเขากลับสั่นสะท้านด้วยความหวาดกลัว เขาไล้นิ้วโป้งสัมผัสริมฝีปากอวบอิ่มสีหวานเอ่ยย้อนถามด้วยน้ำเสียงที่บ่งบอกถึงความพึงพอใจ
“เธอกำลังจะบอกอะไรนลิน จะบอกว่าคุณบริสุทธิ์อยู่ใช่มั้ย”
“ใช่...ค่ะ คือ...นลินกลัว...”
“กลัวอะไรนลิน คุณกลัวผมหรือว่ากลัวความปรารถนาของตัวเอง”
นันท์นลินแปลกใจอยู่ไม่น้อยที่กัปตันดี ทีสต์ สามารถอ่านใจของเธอได้ทะลุปรุโปร่งราวกับว่าเขาเข้าไปนั่งอยู่ในใจเธอ สิ่งที่กัปตันดี ทีสต์ พูดมาตรงกับใจเธอที่สุด ตอนนี้เธอกำลังกลัวความปรารถนาของตัวเอง เธอไม่อยากให้ริมฝีปากสีสดร้อนผ่าวผละออกแม้แต่วินาทีเดียว ไม่อยากให้มือใหญ่ร้อนรุ่มหยุดการลูบไล้ที่ชวนให้เธอวาบหวิวเจียนคลั่งด้วยรสสิเสน่หา
“ไม่ต้องกลัวหรอกนันท์นลิน รับรองได้ว่าผมจะสอนให้คุณได้พบกับประสบการณ์ที่แสนอ่อนหวานสวยงามที่น่าจดจำตราตรึงอยู่ในใจตลอดไป”
กัปตันบารอนเอ่ยปลอบออกไปแล้วก็ได้แต่ภาวนาขอให้ตนเองสามารถควบคุมความเร่าร้อนที่กำลังแผดเผากายจนเขาสั่นเทิ้ม ไม่บุ่มบ่ามผลีผลามจนทำให้ความตั้งใจที่จะมอบความสุขแสนหวานให้กับหญิงสาวในครั้งแรกล้มเหลวไป
นันท์นลินจ้องมองนัยน์ตาสีทองเขม็งเมื่อพานพบกับความจริงใจความหนักแน่นที่เผยออกมาเธอจึงได้แต่พยักหน้ารับอย่างยอมจำนน ก็ต่อเมื่อเป็นคนเลือกเปิดหน้ากระดาน เธอก็ต้องเล่นต่อให้จนจบเกมส์...
หญิงสาวทำใจกล้ายกมือบางที่สั่นเทาเล็กน้อยไปลูบไล้ริมฝีปากร้อนผ่าวเหมือนที่กัปตันดี ทีสต์ ทำกับตนเองเมื่อสักครู่พร้อมกับเอ่ยถามเสียงแผ่วเบา “แล้วจะเป็นประสบการณ์ที่ทำให้คุณดี ทีสต์ จดจำตลอดไปหรือเปล่าคะ”
“ไม่รู้สินลิน ผมไม่เคยจำใครได้ ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนอยู่ในความทรงจำของผม ทุกคนผ่านมาแล้วก็ผ่านไปราวกับสายลมในท้องทะเลที่พัดผ่านไม่มีวันหวนกลับคืนมา”
บารอนยักไหล่ไม่แยแสขณะที่เอ่ยตอบอย่างทะนงเย่อหยิ่งถือตัว รู้ทั้งรู้ว่าสิ่งที่ตนเองพูดไปตรงข้ามกับความเป็นจริงทั้งหมด นันท์นลินได้เข้ามาวิ่งวุ่นอยู่ในใจเขาตลอดช่วงเวลา หลับตาคราได้เขาก็เห็นแต่ใบหน้าหวานๆ เรือนร่างอรชรงดงามจนทำให้เขาหัวหมุนรวดร้าวไปทั้งแก่นกาย
นันท์นลินถึงกับน้ำตาตกใน เจ็บปวดยิ่งกว่าถูกฟาดด้วยแส้เส้นใหญ่ เธอหลุบตาลงมองหน้าอกกว้างกะพริบถี่ๆ เพื่อไล่น้ำตาให้ไหลย้อนกลับเข้าไปข้างในดังเดิม เธอคาดหวังว่าจะได้ยินอะไรเล่า? กัปตันดี ทีสต์ กัปตันเรือผู้ยิ่งใหญ่ เป็นคนไม่มีหัวใจ รักใครไม่เป็น แล้วเธอ...หญิงสาวที่ไร้ยางอายเสนอขายตัวให้กับผู้ชายคนอย่างกัปตันดี ทีสต์ หรือจะมาหลงรักเธอ...
“พอแล้วนลิน ไม่ต้องพูดอะไรอีกแล้ว ผมไม่มีอารมณ์จะพูด นอกจากทำอย่างอื่น”
บารอนรีบเอ่ยห้ามเสียงแข็งก้มลงปิดปากที่กำลังอ้าเผยอน้อยๆ เตรียมตั้งคำถามก่อกวนใจเขาอีกริมฝีปากที่กระแทกจูบดุดันเร่าร้อนในครั้งแรกเริ่มแปรเปลี่ยนเป็นนุ่มนวลหวานล้ำชวนหลงใหล มืออุ่นจนร้อนเลื่อนไปเกาะกุมลูบไล้ปทุมคู่งามผ่านเสื้อเชิ้ตสีสวย กระดุมเม็ดเล็กเป็นป้อมปราการป้องกันระหว่างมือร้อนกับเนื้อเนียนนุ่มจนทำให้เขาต้องสถบอยู่ในลำคออย่างหงุดหงิด เหงื่อ
เม็ดเล็กๆ ซึมทั่วไรผม มือหนาสั่นเทาขณะที่พยายามทำลายปราการชิ้นเดียวออกไปจากเรือนร่างหอมกรุ่น บารอนถึงกับสะดุดลมหายใจตนเองเมื่อเสื้อเชิ้ตถูกกระชากออกเปิดเปลือยให้เห็นร่างบางอรชรงดงามยิ่งกว่าภาพวาดใดๆ ในโลก แสงแดดสีทองที่ทอดเงาสาดส่องอาบเรือนร่างของสาวน้อยบนเตียงดูงดงามจนเขาตะลึงงันราวกับต้องมนต์คำสาป...
“ปีศาจร้ายสร้างเธอมาเพื่อทำลายฉันหรือไง...นันท์นลิน”
กัปตันบารอนกัดฟันกรอดๆ คำรามแนบชิดกับปทุมคู่งาม แค่เห็นเรือนร่างงดงาม ริมฝีปากเผยอน้อยๆ ก็ก่อให้เกิดความเร่าร้อนดุจเหล็กไหลถูกเผาไฟ เลือดทุกหยดเดือดแล่นพล่านรวมกันอยู่ที่แก่นกายกลางลำตัว
นันท์นลินสั่นเทิ้ม หอบหายใจรัวกระชั้นหลุดเสียงครางออกมาเบาๆ เมื่อปากร้อนผะผ่าวปัดจูบแผ่วเบาตรงยอดปทุมคู่งามก่อนจะกดจูบเคล้าคลึงปลุกเร้าลงมาอย่างหนักหน่วงจนทำให้สติเธอกระเจิดกระเจิงไม่อยู่กับเนื้อกับตัว
บารอนกัดฟันแน่นสูดลมหายใจเข้าปอดพยายามอดทนต่อการยั่วยวนเร่งเร้าโดยไม่รู้ตัวของนันท์นลิน มือบางที่ลูบไล้กรีดเล็บบนแผ่นอกกว้างพร้อมกับเสียงครางต่ำลึกทำให้เขาแทบหมดความอดทนต่อแรงปรารถนาที่เร่าร้อนยิ่งกว่าสิ่งใด
นันท์นลินบิดตัวภายใต้เรือนร่างกำยำหนักอึ้งที่ทาบทับอยู่ เธอไม่รู้ว่าตนเองกำลังต้องการอะไร รู้แค่ว่าไม่อยากรอแค่วินาทีเดียว อยากให้ความทรมานแสนหวานในครั้งนี้ถูกปลดปล่อยออกไปเร็วๆ เธอกระชากศีรษะที่ปกคลุมด้วยเส้นผมหนานุ่มให้ก้มลงมาประกบจูบอีกครั้ง พยายามเบียดกายเข้าหาเรือนร่างอบอุ่นกำยำราวกับว่าที่แนบชิดอยู่ในขณะนี้ยังไม่เพียงพอสำหรับเธอ
“ใจเย็น...นลิน...ใจเย็น”
เสียงกระซิบปลอบแหบพร่าสั่นกระเส่า บารอนไม่รู้ว่าเขาเอ่ยปลอบนันท์นลินหรือเอ่ยปลอบตัวเองกันแน่ เขาแทบขาดใจตายกับรสเสน่หาที่
ไร้เดียงสาไร้ประสบการณ์ที่นันท์นลินตอบสนองอย่างเอียงอายกล้าๆ กลัวๆ เรือนร่างอรชรหอมละมุนที่เริ่มดิ้นเร้าหนักขึ้นทำให้รู้ว่าหญิงสาวพร้อมพรักสำหรับเขาแล้ว
กัปตันบารอนกัดฟันกรอดค่อยๆ ลดแก่นกายเข้าไปในตัวหญิงสาว เขารู้ว่านันท์นลินยังใหม่กับสิ่งที่เขาเสนอให้ เหยื่อบางๆ แห่งความบริสุทธิ์เป็นปราการด่านสุดท้ายที่เขาต้องฝ่าฟันอย่างใจเย็นและอดทนรอคอย แต่ด้วยร่างกายของหนุ่มสาวที่ถูกหล่อหลอมมาเพื่อกันและกันเท่านั้น ทำให้นันท์นลินโอบกอดตอบรับเขาโดยไม่มีเงื่อนไข
บารอนซบหน้านิ่งอยู่กับซอกคอหอมกรุ่น หยุดการเคลื่อนไหวชั่วขณะเพื่อให้ร่างกายของหญิงสาวตอบรับคุ้นเคยกับสิ่งที่เขามอบให้ แต่ร่างบางที่กำลังดิ้นน้อยๆ อยู่ภายใต้เรือนร่างกำยำกำลังทำให้เขาเดือดพล่านขึ้นมาอีกหน ปากร้อนผ่าวเลาะเล็มไล่จูบตามสันคางมนเรื่อยมาจนกระทั่งพบกับริมฝีปากอวบอิ่มหวานฉ่ำ เรือนกายเบื้องล่างค่อยๆ ขยับหยอกเอินอย่างช้าๆ นำทางให้นันท์นลินคุ้ยเคยมากขึ้นกว่าเดิม
นันท์นลินหายใจหอบกระเส่ายกมือโอบกอดไปรอบคอรั้งให้กัปตันดี ทีสต์ กดจูบหนักหน่วงดูดดื่มมากกว่าเดิม เพลิงรักที่เร่าร้อนรุนแรงระคนสุขสมทำให้เธอแทบหลอมละลายไปกับเรือนร่างบึกบึนกำยำที่นำพาไปสู่ความวาบหวาบรัญจวนใจที่เธอไม่เคยพานพบมาก่อน
เมื่อบทเพลงรักที่ขับกล่อมนำพาโดยกัปตันหนุ่มผู้ช่ำชองใกล้ถึงจุดหมาย นันท์นลินถึงกับสั่นสะท้านรวดร้าวทั่วกายต้องการให้กัปตันดี ทีสต์ ปลดปล่อยเธอจากความเจ็บปวดทรมานแสนหวาน
“ได้โปรด...”
นันท์นลินร้องครางเสียงแหบพร่าสั่นกระเส่าในลำคอ ใบหน้างามส่ายหน้าไปมากับหมอนใบใหญ่ เหงื่อเม็ดเล็กๆ แตกพราวเต็มหน้าผากมน
“อะไรนลิน...คุณต้องการอะไร”
กัปตันบารอนผละริมฝีปากจากปทุมคู่งาม เงยหน้าขึ้นกระตุกยิ้มตรงมุมปากกับความไร้เดียงสาของหญิงสาวที่กำลังรวดร้าวกับเพลงรักที่ขับกล่อมบรรเลงร่วมกัน เขารู้ว่านันท์นลินทรมานต้องการได้รับการปลด
ปล่อยเดี๋ยวนี้
นันท์นลินกัดเม้มริมฝีปากมองสบตากับนัยน์ตาสีทองอย่างเว้าวอน รั้งคออีกฝ่ายให้ก้มลงมาแนบชิดกับริมฝีปากแดงระเรื่อของตนเองก่อนจะกระซิบตอบเสียงสั่นเทา
“ไม่รู้...นลินไม่รู้ ได้โปรด...อย่าทรมานนลิน”
“ได้โปรด...ดี ทีสต์ พูดสิ...นลิน พูดเหมือนที่ผมพูดเมื่อสักครู่”
บารอนกัดฟันแน่นระงับความเร่าร้อนที่กำลังแผดเผาเลือดทุกหยดในกายเขาให้มอดไหม้ ตอนนี้เขากำลังทรมานไม่ต่างจากนันท์นลิน แต่เขาต้องการได้ยินเสียงครางกระซิบเรียกชื่อเขาในขณะที่นำพาเธอไปแตะปุยเมฆขาวสะอาดสวยงาม
นันท์นลินมึนงงเคว้งคว้าง สมองถูกสั่งการด้วยบทรักดุเดือดเร่าร้อนจนคิดอะไรไม่ออก เธอผงกหัวขึ้นไปจุมพิตปากร้อนผ่าวด้วยตนเองพร้อมกับครางออกมาตามที่กัปตันดี ทีสต์ ต้องการ
“คุณดี ทีสต์ ได้โปรด...”
บารอนหัวเราะฮึๆ ในลำคอด้วยความพึงพอใจ เสียงร้องขอเว้าวอนแหบพร่าสั่นเทากระตุ้นความรู้สึกและทำให้เขาพอใจเป็นที่สุด ปากร้อนผะผ่าวกดจูบเร่าร้อนก่อนจะแปรเปลี่ยนมาเป็นหวานฉ่ำดูดดื่ม เขาหอบหายใจกระชั้นรัวเร็วแทบขาดใจเมื่อรวบรวมเรี่ยวแรงเฮือกสุดท้ายจับจูงนำพานันท์นลินไปบนเส้นทางที่แสนสวยงามสุขสมซาบซ่านรัญจวนใจ เรือนกายกำยำทรุดฮวบซบหน้ากับซอกคอระหงที่เปียกชื้นด้วยเหงื่อจากการโรมรันเพลงรักเมื่อสักครู่