บท
ตั้งค่า

บทที่ 3 (2)

นันท์นลินสั่นสะท้านทั่วกายไม่เข้าใจว่าทำไมร่างกายของเธอถึงได้ตื่นเต้นกระตือรือร้นตอบสนองจุมพิตเร่าร้อนที่กัปตันดี ทีสต์หยิบยื่นให้ มือบางที่ตั้งใจจะผลักร่างสูงแข็งแกร่งกลับยกขึ้นไปลูบไล้ทั่วแผ่นหลังกว้าง ริมฝีปากอวบอิ่มจูบตอบไม่ประสีประสาตามแรงดึงดูดเชิญชวนของอีกฝ่าย

เธอกำลังพ่ายแพ้ต่อแรงเสน่หาเร่าร้อนแผดเผาที่กัปตันดี ทีสต์ มอบให้ เธอต้องหยุดเขาก่อนที่เธอจะพ่ายแพ้ต่อความปรารถนาที่กำลังแล่นพล่านอยู่ทั่วกาย เธออาจแสดงออกด้วยท่าทางก๋ากั่นราวกับหญิงสาวที่กร้านโลก แต่ภายในลึกๆ เธอกำลังหวาดหวั่น กลัวไฟร้อนที่กำลังลามเลียทั่วกาย

“คุณดี ทีสต์ เดี๋ยว...เดี๋ยวก่อนค่ะ”

หญิงสาวละล่ำละลักพยายามเบี่ยงหน้าหนีริมฝีปากร้อนรุ่มที่กำลังกดจุมพิตเร่าร้อนจนทำให้สมองเธอมึนงงสับสนคิดอะไรไม่ออก

บารอนเหลือบสายตามองหญิงสาวครู่หนึ่ง เขาเห็นความสับสน หวาดหวั่นไม่แน่ใจในดวงตาคู่สวยที่กำลังมองมาอย่างหวาดกลัว

เขารู้ว่านันท์นลินยังไม่พร้อมกับสิ่งที่เขากำลังจะหยิบยื่นให้ แต่ให้ตายเถอะ!...ตอนนี้ไฟรักร้อนรุ่มที่ครอบงำร่างกายเขาอยู่แทบทำให้เขาทนไม่ไหวอยู่แล้ว

“ได้โปรด!...คุณดี ทีสต์ หยุดก่อน”

“ทำไม หรือว่าจะเปลี่ยนใจ”

บารอนเอ่ยถามเสียงแหบพร่าชิดกับริมฝีปากนุ่ม มือหนาอุ่นจนร้อนยังลูบไล้อยู่แถวๆ ปทุมคู่งามอวบอิ่มน่าหลงใหลชวนให้สัมผัส

“ไม่...คือ...นลิน...ขอเวลาก่อนได้มั้ยคะ”

หญิงสาวเอ่ยร้องขอเสียงตะกุกตะกัก พยายามยกมือปิดบังปทุมคู่งามจากนัยน์ตาสีทองที่จ้องมองจนทำให้เธอร้อนผ่าวไปทั้งตัว

บารอนหัวเราะเยาะหยันในลำคอ “เพิ่งเคยเห็นคุณตัว...ที่ขอถ่วงเวลาคนซื้อ”

นันท์นลินกัดริมฝีปากแน่นกับน้ำคำถากถางที่เปล่งออกมาให้เจ็บปวดกายทุกคราวไป เธอเบือนหน้าหนีนัยน์ตาสีทองที่กำลังจ้องมองมาก่อนจะเอ่ยร้องขอแผ่วเบา

“นลิน...ขอเวลาแค่วันนี้เท่านั้น หลังจากนั้นนลินจะทำตามที่คุณต้องการทุกอย่าง”

บารอนจ้องมองริมฝีปากอวบอิ่มที่เจ้าตัวชอบกัดเม้มขบแน่นทุกครั้งที่ต้องการข่มโทสะความหวาดหวั่น เธอไม่รู้หรือไงว่าการกระทำแบบนี้ทำให้ริมฝีปากหอมกรุ่นบอบช้ำได้ง่าย เขาทรุดตัวซบหน้านิ่งระหว่างปทุมอวบอิ่มคู่งาม กัดฟันกรอดๆ สูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ เพื่อระงับความต้องการ พยายามบังคับข่มร่างกายตัวเองให้สงบนิ่งจากนั้นก็พลิกตัวออกจากเรือนร่างหอมกรุ่มที่กอดทาบทับอยู่

“วันนี้วันเดียวเท่านั้นนลิน วันนี้วันเดียว...หลังจากนั้นเธอไม่มีสิทธิ์ต่อรองกับผมอีก”

กัปตันบารอนก้าวลงจากเตียงหยิบเสื้อเชิ้ตสีฟ้าอ่อนที่ตกอยู่แทบเท้าให้หญิงสาวอีกครั้ง จากนั้นก็เดินไปหยิบเสื้อผ้าในตู้มาสวมใส่อย่างกระแทกกระทั้น เขาหันไปมองหญิงสาวที่นั่งหน้าตื่น กัดเม้มเรียวปากอิ่มเอิบสีหวานเข้าหากันแน่นจนเขานึกขัดใจ นัยน์ตาสีทองละจากสิ่งสวยงามตรงหน้าที่เร้าอารมณ์ดิบเขาที่สุดก่อนจะสาวเท้ายาวๆ กระชากประตูเคบินให้เปิดออกกว้างแล้วกระแทกปิดจนบานประตูแทบหลุดออกมาได้

“บัดซบ!”

กัปตันบารอนยืนนิ่งอยู่หน้าห้องเคบินพร้อมกับสบถเสียงดัง ใบหน้าคมสีแทนถมึงทึงนัยน์ตาสีทองลุกโชนเป็นไฟ ความโกรธอัดแน่นทั่วอกขณะสาวเท้า

ยาวๆ ไปบนบันไดแคบ ให้ตายเถอะ!...เขาไม่เคยต้องการผู้หญิงคนไหนเหมือนกับต้องการนันท์นลิน...หญิงสาวที่ไร้ประสบการณ์เรื่องเพลงรัก เขาไม่เคยจดจำผู้หญิงที่ผ่านเข้ามาในชีวิตได้ ไม่มีใครทำให้เขาจดจำได้เท่ากับนันท์นลิน

ทุกคราที่หลับตาเขาเห็นแต่แววตากลมโตที่ตื่นตระหนกในขณะเดียวกันก็กระตือรอร้นที่จะเรียนรู้ในสิ่งที่เขาเชิญชวนชักนำ น้ำเสียงไพเราะดุจดังระฆังแก้วที่เล็ดลอดเสียงครางออกมาเบาๆ ทำให้เลือดในกายเขาแล่นพล่านร่ำๆ อยากให้เธอปลดปล่อยออกมาเต็มเสียงไม่ต้องกักเก็บไว้ เรือนร่างที่งดงามยิ่งกว่าภาพวาดนุ่มเนียนมือยิ่งกว่าผ้าไหมชั้นดี กลิ่นหอมละมุนละไมติดตราตรึงใจทำให้เขาลืมเธอไม่ลงจริงๆ

นันท์นลินสะดุ้งเฮือกตอนที่ประตูเคบินถูกกระแทกปิดพร้อมกับเสียงสบถดังของกัปตันบารอน เธอรีบหยิบเสื้อเชิ้ตสีฟ้ามาสวมอย่างรวดเร็ว เสื้อตัวนี้ดีกว่าชุดนอนที่เธอสวมติดกายมาอย่างน้อยแขนที่ยาวเฟื้อยจนต้องพับเข้าหา

กันหลายทบก็ยังให้ความอบอุ่นเธอได้ดีกว่าชุดนอนบางใส เสื้อเชิ้ตสีฟ้าที่มีกลิ่มหอมสะอาดของบุรุษเพศทำให้ร่างกายเธอสั่นสะท้านไหวสะดุ้งเล็กน้อยตอนที่สูดกลิ่นอาฟเตอร์เชพอ่อนๆ ที่ยังติดแนบแน่นอยู่กับตัวเสื้อ หญิงสาวเอนตัวลงนอนบนเตียงหนานุ่มอย่างอ่อนล้า น้ำตาอุ่นรื้นขอบตาเมื่อนึกถึงชะตากรรมของตนเอง เธอกดหน้าลงกับหมอนใบใหญ่สูดสะอื้นจนตัวสั่นโยน แรงกดดันจากรอบกายที่เผชิญมาตั้งแต่หัวค่ำกอปรกับความเหน็ดเหนื่อยอ่อนล้าทำให้เธอหลับไปพร้อมกับน้ำตานองใบหน้า

ลุกซ์ ต้นหนเรือแอบอมยิ้มเมื่อเห็นกัปตันบารอนเดินเข้ามาในห้องบังคับเรือด้วยใบหน้าถมึงทึง นัยน์ตาแดงก่ำลุกโชนด้วยไฟปรารถนาที่เจ้าตัวปิดไว้ไม่มิด เขาเชื่อว่าคนที่ทำให้กัปตันบารอนเดือดพล่านราวกับเสือดำคงจะเป็นใครไม่ได้นอกจากหญิงสาวแสนสวยที่อยู่ในห้องเคบิน

“ขอเหล้าแก้วหนึ่ง”

กัปตันบารอนสั่งลูกเรือเสียงห้วน เมื่อมาร์คยื่นสก๊อตวิสกี้ให้ครึ่งแก้วเขาก็สาดเข้าลำคออย่างรวดเดียวราวกับว่าต้องการให้ความร้อนผ่าวของเหล้าช่วยดับความร้อนรุ่มอันเกิดจากไฟรักที่กำลังแล่นพล่านอยู่ทั่วกาย

“อีกแล้วมั้ยครับกัปตัน”

มาร์คเอ่ยถามพร้อมกับรับแก้วมารินเหล้าให้อีกครั้ง คราวนี้เขารินวิสกี้มากกว่าเดิมแล้วยื่นให้กัปตันหนุ่ม เขาหันไปมองลุกซ์แล้วพากันทำหน้าสยองเมื่อเห็นกัปตันบารอนรับสก๊อตวิสกี้ไปดื่มรวดเดียวจนหมดแก้วอีกครั้ง

“มีอะไรให้พวกผมช่วยมั้ยครับกัปตัน”

ลุกซ์เอ่ยถามกลั้วหัวเราะ เขาเพิ่งเคยเห็นกัปตันหนุ่มเดือดเป็นไฟขาดการควบคุมเพราะผู้หญิงตัวเล็กๆ ก็คราวนี้นี่เอง

ปกติแล้วกัปตันบารอน ดี ทีสต์ นิ่งเฉย สงบนิ่งดุจดังน้ำทะเลไร้คลื่นในคืนเดือนมืด แม้ในขณะที่กำลังเผชิญหน้ากับโจรสลัดที่โหดเหี้ยมไร้ความปราณี กัปตันบารอนก็ไม่เคยสะทกสะท้าน

บารอนโบกมือปฏิเสธ เดินไปหยิบแผนที่เดินเรือมากางแผ่บนโต๊ะ เขามองแผนที่และใช้ความคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเงยหน้าขึ้นบอกเส้นทางการเดินเรือใหม่

“ลุกซ์ นายเปลี่ยนเส้นทางเดินเรือตามเส้นแดงที่เราเขียนไว้”

ลุกซ์เดินมามองเส้นทางที่ถูกกำหนดใหม่ครู่หนึ่งจากนั้นก็เอ่ยถามด้วยความแปลกใจ

“ทำไมครับกัปตัน เส้นทางที่เราจะไปมันอ้อมไกลตั้งหลายสิบไมล์ทะเลเลยน่ะครับ”

“เราอยากเดินเรือในลุ่มน้ำที่ปลอดภัยที่สุด เส้นทางเดิมเสี่ยงต่อการปะทะกับโจรสลัด ตอนนี้เรายังไม่พร้อมที่จะเสี่ยง...”

“แบบนี้ลูกเรือเดอะรอยัล อาดามัส ก็หมดสนุกสิครับ”

มาร์คแกล้งเอ่ยออกมาอย่างผิดหวัง หันไปส่งซิกให้กับลุกซ์อย่างรู้กัน กัปตันคงเป็นห่วงความปลอดภัยของสาวน้อยแสนสวยจนยอมละทิ้งความสนุกท้าทายที่พวกเขาทำเป็นประจำทุกครั้งที่ออกเดินเรือ

กัปตันบารอนถลึงตาใส่ลูกเรือแล้วเดินไปมองท้องทะเลที่ต้องแสงจากดวงดาวนับล้านๆ ดวง ท้องน้ำที่เต้นไหวระยิบระยับตามแรงคลื่นดูสวยงามราวกับมีอัญมณีล้ำค่าฝังอยู่ในท้องทะเล เขาถอนหายใจยาวเมื่อนึกถึงความจำเป็นที่ต้องเปลี่ยนเส้นทางการเดินเรือ เขาไม่อยากเสี่ยงปะทะกับเรือโจรสลัดลำใดทั้งนั้น ถ้าหากพวกมันเห็นนันท์นลิน...มันคงทิ้งสมบัติที่มีมูลค่ามหาศาลเพื่อช่วงชิงเอาเฉพาะตัวนันท์นลิน เขาละสายตาจากท้องทะเลอันงดงามหันมาเอ่ยย้ำกับต้นหนเรืออีกครั้ง

“ทำตามที่เราบอก เปลี่ยนเส้นทางเดินเรือแล้วก็ไม่ต้องพูดมากด้วย”

“ครับกัปตัน” ลุกซ์รับคำแล้วรีบทำตามคำสั่งทันที

กัปตันบารอนก้มมองเวลาบนนาฬิกาเรือนแพง ตอนนี้ตีสี่เกือบจะตีห้าแล้ว ซึ่งอีกไม่กี่นาทีก็ถึงเวรที่เขาต้องมาประจำการบนห้องบังคับเรือแทนลูกเรือคนอื่นๆ

“พวกนายลงไปนอนได้แล้ว เดี๋ยวเราอยู่เวรบนนี้เอง”

“ไม่ต้องก็ได้ครับ เดี๋ยวพวกผมอยู่เอง เชิญกัปตันลงไปที่เคบินเถอะ ต่อไปพวกผมรับเวรกลางคืนเอง กัปตันจะได้มีเวลาอยู่กับคุณนันท์นลิน”

ลุกซ์เอ่ยปฏิเสธยิ้มๆ พร้อมกับอาสารับหน้าที่แทนกัปตันไปในตัว เขารู้ว่าขณะนี้กัปตันหนุ่มไม่พร้อมทำหน้าที่การบังคับเรือ จิตใจของกัปตันกำลังมุ่งตรงแน่นิ่งอยู่ที่สาวน้อยแสนสวยคนเดียวเท่านั้น เมื่อตอนที่กัปตันประกาศชัดว่าสาวน้อยแสนหวานเป็นของตน ลูกเรือเดอะรอยัล อาดามัส ทุกคนต่างก็ยินดีและเห็นดีด้วย หญิงสาวที่กล้าท้าทาย บ้าดีเดือดและทำให้เลือดอุ่นๆ ในกายของเจ้าแห่งท้องทะเลสีครามเดือดพล่านราวกับทะเลคลั่งได้จึงจะเป็นคนที่เหมาะสมและคู่ควรกับกัปตันบารอน ดี ทีสต์

กัปตันบารอนนึกขอบใจในน้ำใจของต้นหนอยู่ไม่น้อย แต่สิ่งที่เขาแสดงออกคือการถลึงตาใส่ในความสู่รู้ของต้นหนและลูกเรือพร้อมกับเดินออกมาจากห้องบังคับเรือโดยมีเสียงหัวเราะเบาๆ ของลูกเรือดังไล่หลัง

มือหนาสีแทนค่อยๆ เปิดประตูเคบินอย่างแผ่วเบาด้วยกลัวคนที่กำลังหลับพริ้มบนเตียงกว้างจะสะดุ้งตื่น เขาเดินไปเปิดไปหัวเตียงนอนแล้วก็ต้องยืนนิ่งขึงเมื่อเห็นใบหน้างามที่ยังมีรอยน้ำตาเปรอะเปื้อนเต็มใบหน้างาม ไม่น่าเชื่อว่าน้ำตาของนันท์นลินจะมีอิทธิพลต่อเขามากถึงเพียงนี้ มือใหญ่อบอุ่นยื่นไปเช็ดน้ำตาให้อย่างแผ่วเบา ปากร้อนผ่าวก้มลงไปกดจูบที่ปากอวบอิ่มด้วยความเสน่หา

เขาผละกายลุกขึ้นไปหยิบชุดปฐมพยาบาลแล้วกลับมาทรุดตัวลงนั่งตรงปลายเท้าเล็กเปล่าเปลือย เขาทำเสียงฮึดฮัดในลำคอด้วยความไม่พอใจเมื่อแกะผ้าพันคอผืนเล็กสกปรกออก บาดแผลค่อนข้างกว้างแต่ไม่ลึกเท่าไหร่ หมั่นทำความสะอาดแผลแค่ไม่กี่วันก็หายสนิท เขาเหยาะแอลกอฮอล์ล้างแผลสองสามหยดบนสำลีค่อยๆ เช็ดทำความสะอาดรอบๆ แผล ทันทีที่แอลกอฮอล์แตะโดนบาดแผล หญิงสาวก็ชักเท้าออกร้องครางประท้วงในลำคอทั้งๆ ที่ยังหลับตาพริ้ม บารอนจุ๊ปากเอ่ยปลอบพร้อมกับลูบเท้าเนียนเล็กเบาๆ จนหญิงสาวเงียบเสียงครางและหยุดดิ้น เขาจึงทำความสะอาดต่อ

ผ่านไปยี่สิบนาทีกัปตันบารอนก็กระตุกยิ้มอย่างพอใจเมื่อทำความสะอาดบาดแผลให้หญิงสาวเรียบร้อยแล้ว เขาลูบไล้ไปตามท่อนขาเรียวงามที่เสื้อเชิ้ตตัวสั้นปิดไว้ไม่มิดเพื่อสำรวจว่ามีบาดแผลบริเวณอื่นด้วยหรือเปล่า จากที่เจตนาลูบไล้สำรวจหาบาดแผล

พอหญิงสาวพลิกตัวนอนตะแคงทำให้เสื้อเชิ้ตร่นขึ้นเผยให้เห็นปลีน่องเนียนขาวผ่องและสิ่งซ่อนเร้นของหญิงสาวทำให้เลือดอุ่นๆ ในกายเขาเริ่มร้อนฉ่าเดือดพล่านขึ้นมาอีกหน ถ้าไม่นึกถึงคำสัญญาที่ให้ไว้กับหญิงสาวก่อนหน้านี้ เขาคงได้ปลุกเธอมาร่วมรักด้วยกันทันที แต่สิ่งที่เขาทำได้คือการกัดฟันกรอดๆ ระงับความต้องการที่กำลังรอการปะทุดังภูเขาไฟลูกใหญ่รอเวลาระเบิดออกมา

เสื้อเชิ้ตพร้อมกับกางเกงถูกกระชากออกจากกายแล้วเตะทิ้งอย่างไม่แยแส เขาเอนกายลงนอนบนเตียงหนานุ่ม พยายามรักษาระดับความห่างไม่ให้สัมผัสโดนเนื้อเนียนละออ แต่ราวกับถูกกลั่นแกล้งทันทีที่เขาล้มตัวลงนอน ร่างบางหอมกรุ่นที่ยังหลับพริ้มกับพลิกกายมาทางด้านเขา แถมขาเนียนเรียวยาวยังยกขึ้นมากายเกยต้นขาเขาไว้ มือบางยกขึ้นมาวางแหมะบนหน้าอกกว้างที่ปกคลุมไปด้วนไรขนอ่อนๆ ใบหน้าหวานพลิกมาอยู่ตรงซอกคอเขาพอดี ลมหายใจอุ่นๆ หอมสะอาดเป่ารดซอกคอ หน้าอกอวบอิ่มแนบชิดกับต้นแขนแข็งแกร่งทำให้เขาหัวหมุนสะท้านไหวคิดอะไรไม่ออก

“บ้าชะมัด! ร่างกายเธอหล่อหลอมมาจากปีศาจหรือไง ถึงได้ตามทำร้ายผมไม่มีหยุดหย่อน”

กัปตันบารอนสถบเสียงดังด้วยความโมโห จับมือหญิงสาวไว้ทำท่าจะยกออกจากอกกว้างของตนเองก่อนจะเปลี่ยนใจปล่อยไว้ที่เดิม เขาผงกศีรษะมองใบหน้างามที่ยังหลับตาพริ้ม ริมฝีปากอวบอิ่มแย้มยิ้มน้อยๆ แม้ในขณะที่กำลังหลับอยู่ เขาอยากรู้ว่าเพราะเหตุใดเธอจึงปกปิดเรื่องที่ถูกขายให้เสี่ยพารุณ อยากรู้ว่าเธอกำลังฝันถึงเรื่องใด?...ถึงทำให้เธอยิ้มออกมาได้แม้ในขณะที่ยังหลับอยู่...อยากรู้ว่าในความฝันของเธอมีเขารวมอยู่ด้วยหรือเปล่า?...

บารอนถอนหายใจเฮือกใหญ่พยายามระงับความต้องการที่เดือดพล่านให้สงบลงจากนั้นก็ยื่นหน้าเข้าไปกดจูบหนักๆ ตรงริมฝีปากอวบยิ้มที่กำลังแย้มยิ้มน้อยๆ แขนแข็งแกร่งโอบกอดไปรอบเอวบางแล้วดึงมากอดกระชับแนบกาย ปากร้อนผ่าวกดจูบตรงกลางกระหม่อมพยายามข่มตาให้หลับแต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายนักเมื่อมีเรือนร่างหอมกรุ่นเร่าร้อนนอนแนบชิดกายเช่นนี้

นันท์นลินยิ้มน้อยๆ ขณะที่กำลังฝันถึงชีวิตที่แสนสุขสบายในวัยเยาว์ พ่อที่ใจดีเต็มไปด้วยความรักลูกยืนยิ้มอยู่หน้าบ้านคอยรับเธอกลับจากโรงเรียน ถึงแม้เธอจะขาดแม่ตั้งแต่เด็กๆ แต่เธอก็มีความสุขเมื่อได้รับความรักความอบอุ่นจากพ่อ จนกระทั่งผีพนันเข้าสิง...พ่อที่เคยใจดียิ้มแย้มแจ่มใสกลับเป็นคนโมโหง่าย หงุดหงิดอารมณ์เสียแทบจะตลอดเวลา

โลกที่เคยสดใสสวยงามมีอันต้องถล่มทลายลงเมื่อพ่อเข้ามาบอกว่าติดหนี้พนันนับล้านและคนที่จะปลดหนี้ให้พ่อได้ก็คือเธอ...

‘ไม่...นลินไม่ยอมทำตามที่พ่อต้องการเด็ดขาด’

‘แกต้องทำ เพราะนี้คือทางเดียวที่ทำให้ชีวิตของกูอยู่รอดปลอดภัยได้’

‘นลินไม่ทำ พ่ออย่ามาบังคับหนู’

‘ถ้าแกไม่ทำก็อย่ามาเรียกกูว่าพ่ออีก’

นั่นคือครั้งแรกที่ถูกบังคับให้ขายตัว หลังจากนั้นเธอกับพ่อก็ต้องหนีหัวซุกหัวซุนเพราะเธอเอาขวดเหล้าตีหัวไอ้เสี่ยพรชัยจนหัวแตกยับ เธอกับพ่อต้องย้ายที่อยู่เป็นว่าเล่น ไม่งั้นก็จะถูกเจ้าหนี้ของพ่อตามมาราวีถึงบ้าน

กัปตันบารอนกำลังเคลิ้มหลับก็มีอันต้องสะดุ้งตื่นเมื่อได้ยินเสียงสะอื้นร้องไห้จากคนที่นอนอยู่ข้างๆ เขาขมวดคิ้วก้มมองด้วยความแปลกใจ ในตอนแรกหญิงสาวยิ้มกว้างคล้ายๆ คนกำลังมีความสุข แต่อีกครู่เดียวเขาก็ได้ยินเสียงสะอื้นร้องไห้ออกมาเบาๆ โดยปราศจากน้ำตา

สิ่งใดกันที่ทำให้นันท์นลินเจ็บปวดเสียใจจนต้องร้องไห้ออกมาแม้ในขณะที่ยังหลับอยู่ บารอนโอบแขนไปรอบศีรษะกลมทุยปกคลุมด้วยเส้นผมยาวนุ่มสลวย เขาดึงหญิงสาวเข้ามากอดแนบกายพร้อมกับจุ๊เสียงเบาๆ จากนั้นก็ร้องเพลงรักกล่อมให้หญิงสาวในอ้อมแขนเข้าสู่นิทราอีกครั้ง

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel