บทที่1.ข่าวร้ายที่หัวใจเกือบสลาย 2/5
สาวใหญ่ขายไก่ทอดเป็นอาชีพหลัก หันมาถามพะแพงยิ้มๆ นางยกสองพี่น้องเป็นตัวอย่างเวลาที่สั่งสอนคนรอบตัวเพราะทั้งพะแพงกับพี่ชาย ทำตัวดีเป็นแบบอย่างให้เด็กๆ ในชุมชนได้เอาเป็นเยี่ยงอย่าง
“จ้ะป้า อีกไม่เกิน4 เดือน ช่วงนี้แพงฝึกงาน ยังไงตอนเย็นก็ฝากจองที่ให้แพงด้วยนะจ้ะ แพงอาจจะมาช้า”
หญิงสาวตอบ เธอร้องขอความช่วยเหลือ เพราะช่วงนี้เธอต้องฝึกงาน หากมาช้าทำเลขายของดีๆ ก็จะหมด
“ได้สิ!! มีหนูแพงอยู่ใกล้ๆ ป้าก็พลอยขายดีไปด้วย หนุ่มๆ มันเวียนมากันตลอด”
แม้ค้าด้านข้างทั้งซ้ายขวายิ้มรับ พะแพงเหมือนนางกวัก ไม่ว่าหล่อนจะอยู่ตรงไหน ลูกค้าก็จะแวะมาซื้อหา เนื่องจากหญิงสาวสวยลออตา มารยาทงดงาม มีรอยยิ้มพิมพ์ใจ ขนาดหน้ามันๆ เพราะเหงื่อไคล ผมกระเซอะกระเซิงเพราะมัวแต่ขายของ ออร่าของพะแพงก็ยังพุ่งเข้าตาหนุ่มๆ ไม่ว่าจะมีครอบครัวแล้ว หรือที่ยังโสด เข้าคิวมาซื้อของที่หญิงสาวขาย จนหมดเกลี้ยงทุกวัน
“แพงๆ ลุงคล้ายเป็นลม!! รีบไปดูซิ ตอนนี้เขาหามส่งโรงพยาบาลไปแล้วล่ะ”
ทัดเทพ รปภ. หนุ่มเพื่อนร่วมงานบิดา เขาวิ่งโร่มาแจ้งข่าวร้าย ข่าวร้ายที่ทำให้พะแพงถึงกับตัวชา
“ป้าจ๋า ฝากร้านหน่อยนะจ้ะ ขอแพงไปดูพ่อก่อน”
หญิงสาวเหงื่อตก...ลมหายใจสะดุด เกือบเป็นลมไปแล้วหากตั้งสติไม่ทัน
“ได้ๆ รีบไปเถอะ โธ่!! ตาคล้าย เป็นไงบ้างก็ไม่รู้”
พะแพงวิ่งสลับเดิน เธอโบกมือเรียกจักยานยนต์รับจ้างทันทีที่มองเห็น พร้อมทั้งแจ้งสถานที่ ก่อนจะกระโดดซ้อนท้ายอย่างเร็ว...ความเร็วรถยนต์ว่าเร็วสุดๆ แล้วเพราะสารถีหนุ่ม บิดคันเร่ง วิ่งซิกแซกซ้ายขวา หลังพะแพงร้องขอด้วยเสียงสั่นๆ ยังเร็วไม่เท่ากับหัวใจรุ่มร้อนของเธอเลย เวลานี้คงลอยอยู่ใกล้ๆ บิดา...
หญิงสาวควักสตางค์จ่ายค่าโดยสาร พร้อมทั้งวิ่งซอยเท้าถี่ๆ ตรงไปถามกับพนักงานที่ประชาสัมพันธ์ กำลังยื่นหน้าเข้าไปถาม พอดีกลับเสียงร้องเรียกดังๆ ด้านหลัง
“แพงๆ ทางนี้ พ่อแกอยู่ในห้องฉุกเฉิน”
หญิงสาวหมุนตัวขวับ เธอเดินกึ่งวิ่ง พร้อมกับร้องถามเสียงสั่นๆ
“พ่อแพงเป็นไงบ้างจ้ะลุงเชิด”
เชิดชาย เพื่อนร่วมงานรุ่นพี่ เป็นเจ้านายของคล้าย ส่ายศีรษะช้าๆ ก่อนตอบ
“ยังไม่รู้เลยแพงเอ๋ย ลุงก็เพิ่งมาถึง รถร่วม’ เขาพามาน่ะ”
ชายสูงวัยไม่สามารถให้คำตอบหญิงสาวได้ นอกจากรอนายแพทย์ออกมาจากห้องฉุกเฉินเท่านั้น
หญิงสาวถลาเข้าไปเกาะขอบประตู น้ำตาเอ่อซึม รู้สึกใจหายวูบๆ หากเวลานี้พะนายอยู่ด้วย เธอคงไม่หวั่นกลัวเท่าใด แต่เนื่องจากพะนายตามเจ้านายไปต่างจังหวัด หญิงสาวเลยรู้สึกเคว้งคว้าง...
“เออ...ญาตินายคล้าย แสงโต คนไหนครับ”
หมอหนุ่มใหญ่วัยกลางคนดันประตูห้องฉุกเฉินออกมา พร้อมกับร้องเรียกหาญาติผู้ป่วย...มีพยาบาลสาวสวยเดินถือแฟ้มตามมาด้วย
“แพงค่ะ แพงเอง แพงเป็นลูกสาว” หญิงสาวถลาเข้าไปหา เธอตอบเสียงสั่นๆ
“เชิญทางนี้ครับ...เรามีเรื่องต้องคุยกัน...”
น้ำเสียงของหมอทำให้พะแพงใจไม่ดีเลย แม้ท่านจะพูดเสียงราบเรียบ เพราะคงเห็นความเป็นความตายจนชิน แต่คนที่ไม่ชินคือพะแพงเอง
นายแพทย์วัยกลางคนทรุดนั่งบนเก้าอี้หลังโต๊ะทำงาน เขารับแฟ้มประวัติคนไข้จากมือนางพยาบาลมาเปิดดู ก่อนจะผ่อนลมหายใจยาวๆ เมื่อเงยหน้ามองญาติผู้ป่วย
“คนป่วยเป็นโรคไตครับ เท่าที่เราตรวจเจอ...คงต้องพักรักษาตัวจนกว่าจะมีอาการดีขึ้น ไม่ทราบว่ามีบัตรประกันสุขภาพหรือประกันสังคมหรือเปล่าครับ”
พะแพงใจหายวูบ!! บิดาเป็นโรคร้ายที่เธอคิดไม่ถึง ท่านผอมบางเพราะอดหลับอดนอน ไม่คิดว่าจะมีภัยร้ายซ่อนอยู่ในตัว
หญิงสาวสูดจมูกแรงๆ เธอกลั้นสะอื้นก่อนตอบ “มีประกันสังคมค่ะ...”
“ถ้าใช้ประกันสังคมก็จะได้รับการรักษาในระดับหนึ่ง ไม่ทราบว่ามีประกันชีวิตอย่างอื่นไหมครับ มันน่าจะได้รับยาดีๆ มากขึ้น มากกว่าประกันสังคมที่ช่วยได้แค่นิดเดียว” ท่านแนะนำตามความรู้ เป็นการชี้นำวิธีรักษาที่คนไม่เคยประสบไม่มีทางรู้