บท
ตั้งค่า

บทที่ 4 (1)

ชีคฟาซิซต์ ซัลฮาบินด์ อัลวาสต์ ลอบถอนหายใจยาวอย่างเบื่อหน่ายที่ต้องมาทนนั่งฟังหุ้นส่วนทางธุรกิจพล่ามถึงคุณงามความดียกยอพอปั้นตัวเองที่ทำให้กิจการในโรงแรมประสบผลกำไรเกินความคาดหมาย เขาอยากจะตอกหน้าเจ้าสัววิชัยให้หน้าหงายว่าผลกำไรที่เกิดขึ้นมหาศาลเป็นเพราะฝีมือการบริหารงานของทีมนักธุรกิจระดับหัวกะทิอย่าง

ยาฟัสส์ ฮะมา อาดิลก์ องครักษ์คนเก่งของเขาเสียมากกว่า ลำพังแค่ให้เจ้าสัววิชัยบริหารงานแต่เพียงผู้เดียวไม่มีทางทำให้โรงแรมเกิดผลกำไรงอกเงยขึ้นมาได้ ดีไม่ดีพาลจะพาธุรกิจเจ้งล้มครืนไม่เป็นท่า เขาไม่ได้ดูถูกฝีมือการบริหารงานของคนไทย เพราะมีนักธุรกิจชาวไทยหลายคนที่เขาร่วมงานด้วยและได้ประจักษ์ฝีมือให้เห็นว่าทำงานได้ดีมีประสิทธิภาพ แต่สำหรับเจ้าสัววิชัยไม่ได้เป็นเช่นนั้นเพราะชายหนุ่มใบหน้าอวบอูมคนนี้มักใหญ่ใฝ่สูงชอบทำอะไรที่เกินตัว การตัดสินใจแต่ละครั้งก็ชักช้าต้วมเตี้ยวราวกับเต่าคลานไม่มีผิดหรือบทจะตัดสินใจฉับไวก็ไม่มีการคิดตรึกตรองให้ถี่ถ้วนเสียก่อน

ชีคหนุ่มผู้หล่อเหลากุมหัวใจสาวๆ ไว้ทั้งอัสดารานส์ผุดลุกขึ้นยืนพร้อมกับสาวเท้ายาวๆ ออกจากห้องจัดเลี้ยงโดยไม่สนใจเจ้าสัวร่างอ้วนท้วนสมบูรณ์ที่วิ่งหน้าตาตื่นตามมาแบบติดๆ

‘เอ่อ...ท่านชีคจะเสด็จไปไหนมิทราบพะยะค่ะ’

เจ้าสัววิชัยวิ่งตามมาติดๆ พร้อมกับเอ่ยถามเสียงตะกุกตะกักรู้สึกหวาดกลัวชีคหนุ่มผู้ทรงอำนาจท่านนี้ยิ่งนัก

แต่ถ้าหากเขาไม่ประจบเอาใจ ท่านชีคก็จะไม่เห็นคุณงามความดีของเขา

การวิ่งตามเข้าไปประจบสอพลอเจ้าแห่งทะเลทรายสีทองของเสี่ยวิชัยทำได้ไม่เกินสิบเมตรเพราะองครักษ์รูปร่างสูงใหญ่ในชุดสูทสากล 4-5 คนได้กันตัวเขาออกห่างจากท่านชีคให้มากที่สุด

ชีคฟาซิซต์ส่งสัญญาณให้องครักษ์กันชายร่างอวบที่น่ารำคาญให้ออกห่างก่อนจะรีบเร่งฝีเท้าออกไปจากห้องจัดเลี้ยงเมื่อเดินออกมาถึงทางเดินเขาก็ได้พบกับองครักษ์เอกที่เดินยิ้มหน้าระรื่นมาแต่ไกล

‘ยาฟัสสต์ เจ้าหายหัวไปไหนมา’ ชีคหนุ่มเล่นงานคนที่เป็นทั้งเพื่อนเป็นทั้งองครักษ์ทันทีที่เห็นหน้า

‘ออกไปสูดอากาศข้างนอกมาพะยะค่ะ’

ยาฟัสส์เอ่ยตอบยิ้มๆ อย่างน้อมโน้ม ยังไม่อยากบอกท่านชีคว่าเขาหายไปไหนมาเสียนานสองนาน เขารู้ว่า

เจ้าเหนือหัวของตนทำงานหนักทั้งก่อนและหลังขึ้นรับตำแหน่งประมุขแห่งอัสดารานต์ต่อจากท่านชีคริยาชิดห์ ซัลฮาบินด์ อัลวาสต์ ผู้ที่เป็นท่านพ่อ ท่านชีคฟาซิซต์ ทำงานโดยไม่คิดที่จะพัก...เพียงเพราะต้องการให้ราษฎรชาวอัสดารานต์อยู่เย็นเป็นสุขได้รับความสะดวกสบายกันถ้วนหน้าทำให้ท่านชีคยอมตรากตรำทำงานจนลืมพัก เพราะฉะนั้นเขาจึงอยากหาหญิงสาวที่สะอาดบริสุทธิ์ผุดผ่องให้มาคอยปรนนิบัติทำให้ท่านชีคหายจากอาการเหน็ดเหนื่อยบ้าง

ชีคฟาซิซต์ถลึงตาใส่องครักษ์คนโปรดด้วยความโมโหเมื่อได้ยินคำตอบที่หลุดออกมา

‘ช่างทำหน้าที่ได้สมบูรณ์แบบเหลือเกินน่ะยาฟัสส์ ปล่อยให้เรานั่งฟังไอ้หมูตอนพล่ามอยู่เป็นชั่วโมงๆ ส่วนเจ้าก็ออกไปสูดอากาศบริสุทธิ์โดยไม่คิดจะชวนเราสักคำ’

ชีคหนุ่มรูปงามเอ่ยประชดประชันองครักษ์ที่เอาแต่อมยิ้มรับคำประชดก่อนจะเดินเข้าไปในลิฟท์ที่ ลาร์ไคบ์ บารีมฐ์ อิยาจ์ องครักษ์อีกคนได้กดรออยู่แล้ว

‘หามิได้พะยะค่ะ กระหม่อมออกไปแค่ครู่เดียวเอง’ ยาฟัสส์เอ่ยค้านเบาๆ ก่อนจะก้าวเท้าตามท่านชีคเข้าไปภายในลิฟท์

‘ครู่เดียวบ้าอะไร ไอ้หมูตอนคนนั้นมันพูดจนน้ำลายแตกฟองฟูฟ่อง’

ชีคฟาซิซต์สบถอย่างหัวเสียรู้สึกรำคาญและหงุดหงิดจนไม่อาจทนอยู่ที่ห้องจัดเลี้ยงรับรองได้อีก ถ้าหากให้เขาทนอีกแค่วินาทีเดียวมีหวังเขาได้ออกคำสั่งให้เอาเจ้าหมูตอนวิชัยไปขังที่คุกมืดภายในอัสดารานส์เป็นแน่

ชีคหนุ่มรีบก้าวออกจากลิฟท์อย่างรวดเร็วเมื่อลิฟท์วิ่งมาหยุดและเปิดออกกว้างหลังจากที่วิ่งมาถึงชั้นบนสุดของโรงแรม พอเข้ามาในห้องพักหรูหราเขาก็ทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้กำมะหยีเนื้อดีตัวเดียวกันที่หญิงสาวแสนงดงามทรุดตัวลงนั่งก่อนหน้านี้แค่ไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา

‘ขอบรั่นดีให้เราสักแก้วสิยาฟัสส์’

ซุ่มเสียงที่เอ่ยออกมาติดจะอ่อนล้าอย่างเห็นได้ชัด ศีรษะที่ปกคลุมไปด้วยเส้นผมอ่อนนุ่มสีดำสนิทเอนลงไปพิงเก้าอี้หนานุ่ม นัยน์ตาคมกริบดุจพญาอินทรีล้อมรอบด้วยขนตายาวงอนหลุบลงปิดสนิทอย่างต้องการพักสายตาเพียงชั่วประเดี๋ยวประด๋าว

‘เดี๋ยวกระหม่อมรินมาให้พะยะค่ะ’

ยาฟัสส์โค้งคำนับตอบรับท่านชีคก่อนจะสาวเท้าวยาวๆ ที่เคาร์เตอร์บาร์ เพราะไม่เห็นหญิงสาวแสนหวานที่ชื่อเหมือนเจ้าหญิงอยู่ภายในห้องนั่งเล่นกอปรกับเห็นว่าท่านชีคกำลังหลับตานิ่งไม่ได้สนใจใคร เขาจึงรีบกระซิบถามองครักษ์ที่เฝ้าอยู่หน้าห้องว่าเห็นหญิงสาวแสนอ่อนหวานหลบหนีออกไปในขณะที่เขาไม่อยู่หรือเปล่า

หานีฟด์องครักษ์กระซิบตอบว่าไม่มีใครออกไปจากห้องและคาดเดาว่าหญิงสาวคงจะหลับอยู่ภายในห้องนอน... คำตอบที่ได้รับทำให้ยาฟัสส์ยิ้มออกมาได้ เขารับบรั่นดีมาจากหานีฟด์แล้วสาวเท้าแผ่วเบาเข้าไปหาท่านชีคที่ทำท่าว่าจะหลับไปจริงๆ

‘บรั่นดี พะยะค่ะ’

ชีคหนุ่มยื่นมือออกไปรับแก้วบรั่นดีทั้งที่ยังหลับตาอยู่ น้ำสีอำพันในแก้วทรงสวยยังเกลือกกลิ้งอยู่เหมือนเดิมเพราะชีคฟาซิซต์รับแก้วเหล้าแล้วแต่ยังไม่ได้ยกขึ้นดื่มสักที

‘กระหม่อมคิดว่าพระองค์ควรจะพักบ้างน่ะพะยะค่ะ’

ทาสผู้รับใช้ที่จงรักภักดีเอ่ยเตือนชีคหนุ่มผู้โหมงานหนักพร้อมกับทรุดตัวลงนั่งแทบเท้าของชีค

‘เราก็กำลังพักอยู่นี่ไง’

ชีคฟาซิซต์เอ่ยตอบทั้งๆ ที่ยังหลับตาอยู่ เขารู้ความหมายของคำว่า ‘พัก’ ที่องครักษ์ผู้ซื่อสัตย์แนะนำดีว่าหมายถึงสิ่งใด แต่ด้วยหน้าที่ประมุขของประเทศทำให้เขามิอาจหยุดพักได้ตามใจนึกชอบ ยังมีราษฎรอีกหลายล้านคนที่กำลังรอความเมตตานำพาความเจริญรุ่งเรืองไปสู่พวกเขา ถึงแม้ว่าความเป็นอยู่ของชาวอัสดารานส์จะติดอยู่ในอันดับที่ว่าสุขสบายเกือบทุกครัวเรือน แต่เขาก็อยากให้ราษฎรอยู่สบายยิ่งกว่านี้อีก

องครักษ์หนุ่มหล่อเหลาส่ายหน้ากับความดื้อรั้นของท่านชีค ‘กระหม่อมไม่ได้หมายถึงแบบนี้ กระหม่อมกำลังพูดถึงการหยุดพักละทิ้งเรื่องงานชั่วขณะแล้วหาความสุขใส่พระองค์บ้าง’

‘เราก็มีความสุขดีนี่ยาฟัสส์ การได้เห็นราษฎรชาวอัสดารานส์อยู่ดีกินดีทุกครัวเรือนทำให้เรามีความสุขมากพออยู่แล้ว’

ชีคฟาซิซต์ลืมตาขึ้นพร้อมกับกระดกน้ำสีอำพันเข้าลำคอทีเดียวหมดแก้ว เขายิ้มบางๆ ให้คนที่เป็นทั้งเพื่อนและองครักษ์ที่ทำหน้ายังกับปูเลี่ยนเมื่อได้ยินคำตอบของเขา

‘กระหม่อมและชาวอัสดานส์ทุกคนรักและซาบซึ้งในน้ำพระทัยของท่านชีคและท่านชีคริยาชิดห์ แต่ถ้าหากทั้งสองพระองค์โหมงานหนักจนทำให้ไม่สบายขึ้นมาชาวอัสดารานส์ทุกคนคงจะไม่สบายใจเท่าใดนัก’

ยาฟัสส์เอ่ยค้านแทนราษฎรชาวอัสดารานส์ทุกคน ซุ่มเสียงที่เอ่ยออกมาเจือปนไปด้วยความเป็นห่วงแกมขอร้องไปในตัว

‘ตกลงเจ้าเป็นองครักษ์หรือว่าครูแก่สอนเลคเชอร์กันแน่’

ชีคฟาซิซต์เอ่ยแซวกลั้วหัวเราะก่อนจะยื่นแก้วเหล้าให้ลาร์ไคบ์ที่ยืนรอรับคำสั่งอยู่ห่างๆ

ยาฟัสส์ทำหน้าเมื่อยตุ้มเมื่อชีคหนุ่มไม่ยอมฟังสักนิด ทำให้เขาไม่มีโอกาสที่จะเอ่ยบอกเรื่องของสาวน้อยแสนหวานที่อาจจะกำลังหลับอยู่บนเตียงนอนของท่านชีค

‘กระหม่อมเป็นห่วงสุขภาพของพระองค์พะยะค่ะ อยากให้พระองค์พักที่เรียกว่าพักจริงๆ’

‘เฮ้อ...ขนาดมาเมืองไทยเรียกว่าห่างไกลจากเสียงบ่นของท่านพ่อเป็นพันๆ ไมล์ แต่เราก็ยังได้ยินเสียงบ่นราวกับพ่อแก่ของเจ้าแทน ถามจริงๆ เถอะยาฟัสส์...ก่อนจะเดินทางมาเมืองไทยท่านพ่อเรียกเจ้าไปสั่งอะไรบ้าง’

ชีคฟาซิซต์บ่นยืดยาวต่อว่าองครักษ์ส่วนตัวไม่จริงจังนัก แต่ถึงกระนั้นซุ่มเสียงที่เอ่ยถามไปเต็มไปด้วยกระแสแห่งความขอบอกขอบใจในความเป็นห่วงเป็นใยของทาสผู้ซื่อสัตย์ยอมสละได้แม้แต่ชีวิตของตนเอง

‘เอ่อ...ท่านชีคริยาชิดห์...ทรงบอกว่าให้กระหม่อมดูแลพระองค์ดีๆ ระวังเรื่องการลอบสังหารและดูแลให้พระองค์ได้พักผ่อนบ้าง’

ยาฟัสส์ตอบตามความเป็นจริงที่ท่านชีคริยาชิดห์ ซัลฮาบินด์ อัลวาสต์ เรียกเขาไปพบก่อนที่จะออกเดินทางมาเมืองไทย ท่านชีคกำชับให้ดูแลเรื่องความปลอดภัยเป็นพิเศษเพราะถึงแม้ว่าประเทศอัสดารานส์จะสงบสุขปราศจากการขัดแย้งของประชากรในประเทศ แต่ลึกๆ แล้วยังมีคลื่นใต้น้ำลูกใหญ่ที่รอการปะทุออกมาทุกเมื่อเชื่อวันและนี่เป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้ท่านชีคริยาชิดห์ทรงเป็นห่วงมาก

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel